ผู้เขียน หัวข้อ: บนวิถีแห่ง Dialogue  (อ่าน 1928 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด
บนวิถีแห่ง Dialogue
« เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2010, 09:05:53 am »
บนวิถีแห่ง Dialogue



จาก On Dialogue โดย เดวิด โบห์ม ; แปลและเรียบเรียงโดย ณัฐฬส วังวิญญู
Dialogue (ไดอะลอค) เป็นคำที่เราใช้เรียกวิถีทางที่เรานำมาสำรวจตรวจสอบรากของปัญหาและวิกฤตการณ์ต่างๆที่เราประสบกันอยู่ในปัจจุบัน มันช่วยให้เราสืบค้นเข้าไปดูสิ่งที่ทำให้การสื่อสารที่แท้จริงระหว่างมนุษย์ไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาระหว่างศาสนา ระหว่างเผ่าพันธุ์ หรือระหว่างชาติ หรือระหว่างคนในหน่วยงานเดียวกัน ต้องประสบกับการแบ่งแยกเป็นส่วนย่อยๆ และถูกรบกวน





ในปัจจุบัน มนุษย์มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์กันมากมายหลากหลายหนทาง เราสามารถร้องเพลงร่วมกัน เต้นรำหรือเล่นด้วยกันอย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่พอต้องมาพูดคุยกัน โดยเฉพาะในเรื่องที่พวกเราให้ความสำคัญมากๆ เรามักไม่สามารถทำโดยไม่มีความขัดแย้ง หรือความแบ่งแยกเกิดขึ้นได้ บ่อยครั้งมันนำไปสู่ความรุนแรง ในมุมมองของเรา นี่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สะท้อนให้เห็นถึง ความบกพร่องในกระบวนการคิดร่วมกันของมนุษย์

เราเล่นกันได้ แต่พอต้องคุยกันเป็นการเป็นงาน ก็มักเป็นเรื่องเคร่งเครียด ขัดแย้ง จากเล่นเปลี่ยนเป็นเอาจริง

ในไดอะลอค กลุ่มคนสามารถร่วมกันสำรวจกรอบความคิดที่มีมาก่อนความคิด ความเชื่อและความรู้สึกที่ควบคุมการปฏิสัมพันธ์ของพวกเราอยู่ มันเป็นโอกาสของการมีส่วนร่วม ในกระบวน-การที่แสดงถึงความสำเร็จ และล้มเหลวของการสื่อสาร มันสามารถเผยให้เห็นถึงแบบแผนที่มักไม่ลงรอย จนทำให้กลุ่่มมักหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกันในบางประเด็น หรือไม่ก็ทำให้ผู้คนยืนยันในการปกป้องความคิดเห็นของตัวเองอย่างแข็งขันในเรื่องบางเรื่อง

ไดอะลอค เป็นวิถีแห่งการร่วมกันสังเกตถึงอิทธิพลของระบบคุณค่าและความเจตนาที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา ว่ามีผลต่อพฤติกรรมของพวกเราอย่างไร และเห็นว่าความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ไม่มีใครสังเกตเห็น อาจเกิดการปะทะและขัดแย้งกันได้

ไดอะลอค จึงเป็นเหมือนพื้นที่เปิดสำหรับการเรียนรู้ ผ่านบรรยากาศที่เป็นมิตร เพื่อความบรรสานและความสร้างสรรค์จะสามารถเกิดขึ้นได้

ด้วยธรรมชาติของการสนทนาแบบ ไดอะลอค มีลักษณะเป็นการสำรวจ ดังนั้น ความหมายและวิธีการ จะค่อยๆ คลี่เผยออกมา มันไม่มีกฎตายตัวว่าเราจะต้องดำเนินการพูดคุยอย่างไร เพราะหัวใจสำคัญของมัน คือ การเรียนรู้ ซึ่งไม่ใช่แค่การเอาข้อมูลหรือแนวคิดมาโน้มน้าวให้คนอื่น (ยิน) ยอมรับ ไม่ว่าเราจะใช้อำนาจเหนือกว่าทางใดก็ตาม ไดอะลอคไม่ใช่วิธีในการตรวจสอบ หรือวิพากษ์วิจารณ์ทฤษฎีหรือโปรแกรม แต่เป็นกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ระหว่างในหมู่มิตรมากกว่า

สิ่งที่ไดอะลอคสนใจ ไม่ใช่การพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คน หรือพยายามทำให้ผู้คนทำอะไรบางอย่าง ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

เพราะความพยายามอย่างว่า อาจทำให้กระบวนการพูดคุยเพื่อ เรียนรู้บิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเพราะความคิดที่ถูกสังเกตเห็น จะแสดงออกแตกต่างออกไปจากความคิดที่ไม่ได้รับการมองเห็น (การยอมรับมาก่อนการ เปลี่ยนแปลง)

ดังนั้น ไดอะลอคจึงเป็นโอกาสให้ความคิดและความรู้สึกได้แสดงออกมาอย่างอิสระและในมิติที่ลึกซึ้งก็ได้ หรือแบบทั่วไปก็ได้ ไม่ว่าเรื่องหรือเนื้อหาอะไรก็เกี่ยวข้องกัน ไม่มีอะไรถูกแยกออกไป นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในวัฒนธรรมของเรา

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่โบห์มได้บันทึกการประชุมพบปะกันไว้ว่า ตอนแรกหลายคนก็คาดหวังว่าช่วงสุดสัปดาห์นั้นจะเต็มไปด้วยการบรรยายในหัวข้อต่างๆ และการอภิปรายในรายละเอียดของเนื้อหา แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว มันมีบางอย่างที่สำคัญกว่านั้นได้เกิดขึ้น นั่นคือ เกิดกระบวนการ Dialogue ขึ้น โดยความหมายหรือความเข้าใจในกลุ่มเกิดการเลื่อนไหลอย่างอิสระเสรี

แม้ว่าตอนแรกๆ หลายคนแสดงจุดยืนทางความคิดของตัวเองอย่างแข็งขันและชัดเจนมาก และตั้งใจจะปกป้องจุดยืนเหล่านั้นด้วย แต่ต่อมาภายหลัง พวกเขากลับรู้สึกว่าการรักษามิตรภาพระหว่างกันนั้นสำคัญยิ่งกว่าการยึดในความคิดเห็นของตนเอง มิตรภาพที่ว่านี้มีลักษณะสบายๆ และให้เกียรติ ไม่ถึงกับต้องสนิทสนมกันมากอย่างที่คิด

แต่มันทำให้เกิด ‘จิตสำนึกร่วม’ บางอย่างขึ้นมาจากความเข้าใจร่วมที่ค่อยๆ สั่งสมในขณะที่การสนทนาดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้คนไม่ได้เป็นขั้วขัดแย้งต่อกันหรือมีปฏิกิริยาต่อกันเหมือนตอนต้น แต่กลับ ‘มีส่วนร่วม’ อยู่ในแอ่งธารแห่งความหมายร่วมที่เพิ่มพูนความเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ และมีการเปลี่ยนแปลงไปตามชีวิตของการสนทนา

เนื่องจากกลุ่มไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายอะไรไว้ ดังนั้น เป้าหมายร่วมก็เกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยกลุ่มเองก็เริ่มมีความสัมพันธ์ต่อกันเต็มที่ ไม่มีใครที่ถูกละเลย และไม่่มีเรื่องไหนที่ถูกตัดออกไป

การสนทนาแบบนี้เองที่สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับความสัมพันธ์ในกลุ่ม จากรูปแบบที่แบ่งฝักฝ่าย ปกป้องความเชื่อหรือจุดยืนของตัวเอง มาเป็นการมองเห็นและยอมรับมุมมองของกันและกันอย่างแท้จริงยิ่งขึ้น และก่อเกิดเป็นจิตสำนึกร่วมที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยศักยภาพ แห่งการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลง.


เขียนโดย Nanachidtang
 
ป้ายกำกับ: Bohm's Dialogue, David Bohm, ณัฐฬส วังวิญญู, บทความแปล
 
http://kwanpandin-article.blogspot.com/2010/07/dialogue.html
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: บนวิถีแห่ง Dialogue
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2010, 09:44:33 am »
 :13: ขอบคุณครับพี่มด  :13:
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~