"อยากรู้เรื่องยาคูลท์...ถามสาวยาคูลท์สิคะ" ถ้อยคำคุ้นเคยที่ได้ยินจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนานจวบถึงวันนี้ ยาคูลท์ที่บรรจุอยู่ในขวดทรงกะทัดรัดสะดุดตาได้ผ่านวันเวลาอยู่คู่กับคนไทยมายาวนานถึง 40 ปี
นอกเหนือจากนี้ภาพสาวยาคูลท์บนจักรยานพร้อมด้วยรอยยิ้มหวาน ๆ หยิบยื่นยาคูลท์ส่งให้ เสน่ห์วันวานภาพนี้ได้ย้อนมาบอกเล่าทวนความทรงจำขึ้นอีกครั้งในวัน ฉลองครบรอบ 40 ปี บริษัทยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา
จากก้าวแรกบนเส้นทางยาวไกลจวบจนถึงวันนี้และต่อเนื่องไป ก็ด้วยปณิธานความมุ่งมั่นที่อยากให้คนไทยมีสุขภาพดีตามความประสงค์ของ นายห้างแสง
เหตระกูล และ ประพันธ์ เหตระกูล ผู้ก่อตั้งบริษัทยาคูลท์ (ประเทศไทย)
ในนิยามความเป็นยาคูลท์ นมเปรี้ยวมีชีวิตที่อยู่เคียงคู่กับคนไทย กนกพรรณ เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ ยาคูลท์ (ประเทศไทย) บอกเล่าวันวานและก้าวย่างจากนี้ไปว่า ในปี 2514 บริษัทยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยความเชื่อมั่นของคุณประพันธ์
เหตระกูล ที่จะช่วยให้คนไทยได้ดื่มยาคูลท์และมีสุขภาพลำไส้ที่ดีขึ้น อยากให้คนไทยมีสุขภาพดี หลังจากที่พิสูจน์มาด้วยประสบการณ์ของตนเอง นับแต่มีประสบการณ์ในสมัยเป็นนักเรียนทุน ศึกษาที่มหาวิทยาลัยโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนั้นไม่ค่อยแข็งแรง มักมีปัญหาด้านลำไส้
“คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าแม่บ้านที่ดูแลบ้านพักนำยาคูลท์มาให้ดื่ม จากนั้นรู้สึกว่าสุขภาพของลำไส้ดีขึ้นจึงประทับใจ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อีก จึงสัญญากับตัวเองว่าจะนำสินค้าตัวนี้กลับมายังประเทศไทย
ช่วงแรกที่เริ่มทำการตลาดโดยลงพื้นที่แนะนำยาคูลท์แก่ลูกค้าด้วยตนเอง แต่สิ่งที่ได้เจอคือโดนเขวี้ยงยาคูลท์ใส่ศีรษะ เพราะหาว่าเป็นของบูดของเสีย ของไม่ดี นมอะไรเปรี้ยวแบบนี้ ไม่เคยดื่มมาก่อน จากประสบการณ์เหล่านั้นได้นำมาปรับปรุงรสชาติให้เหมาะกับคนไทยและใช้การประชาสัมพันธ์ให้คนซื้อขวดต่อขวด โดยส่งสาวยาคูลท์ 200 คน บริการให้ลูกค้า กระทั่งเป็นที่รู้จักของคนไทย ซึ่งก็เป็นความบากบั่นจากวันนั้นจนมีวันนี้ วันที่ยาคูลท์ได้รับการยอมรับว่าเป็นนมเปรี้ยวที่ดีต่อสุขภาพ”
จากวันแรกถึงวันนี้ หัวใจสำคัญที่ยึดมั่นเสมอไม่เคยเปลี่ยนคือ ยาคูลท์ทุกขวดจะต้องส่งถึงมือสมาชิกอย่างมีคุณภาพ เพราะถือเป็นการหยิบยื่นสุขภาพที่ดีให้แก่สมาชิกจึงควบคุมตั้งแต่กระบวนการผลิต การบรรจุ การเก็บรักษาและการจัดส่ง ซึ่งสาวยาคูลท์ทุกคนจะดูแลยาคูลท์ทุกขวดเป็นอย่างดีให้อยู่ในความเย็นที่เหมาะสมจนส่งถึงมือสมาชิกทุกราย
“ทุกวันนี้ยาคูลท์ยังคงเน้นการส่งยาคูลท์จากมือถึงมือด้วยสาวยาคูลท์ ที่ผ่านมาในปี 2552 เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการจึงสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาบนพื้นที่ 200 กว่าไร่ เพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการในอนาคตอย่างทั่วถึงขึ้น”
ตลอด 40 ปี สาวยาคูลท์ยังคงเป็นนางเอกเสมอ จากสโลแกน “อยากรู้เรื่องยาคูลท์ ถามสาวยาคูลท์สิคะ” คุณประพันธ์ได้คิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ เพราะต้องการให้สาวยาคูลท์ออกไปแนะนำสินค้าได้อย่างถูกต้องซึ่งก็ต้องรู้จริง ๆ ว่าจุลินทรีย์ในยาคูลท์คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
สาวยาคูลท์ทุกคนต้องผ่านการอบรมเป็นเวลา 1 เดือนเต็มและทดสอบว่าจะผ่านหรือไม่ หากไม่รู้ว่าในขวดยาคูลท์มีอะไรก็เท่ากับว่าไม่ผ่าน เรียกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้สาวยาคูลท์เข้าถึงลูกค้า พูดคุยแนะนำเพื่อให้สมาชิกมั่นใจเข้าใจว่าดื่มอะไรเข้าไปในร่างกายและแม้จะผ่านเลยมา 4 ทศวรรษสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงอยู่
นอกจากนี้ ชุดยูนิฟอร์มสีครีมสะอาดตาที่มาพร้อมพาหนะคู่ใจกับ Shipper ใบใหญ่ (ถังใส่ยาคูลท์ข้างหลังรถจักรยานหรือจักรยานยนต์) และ Carry Bag ใบเก่ง (กระเป๋าสี่เหลี่ยมบรรจุยาคูลท์) ที่เต็มไปด้วยยาคูลท์ขวดเล็ก ๆ เรียงรายอยู่ในน้ำแข็งเย็นเจี๊ยบ ภาพนี้ไม่ว่าใครที่ได้เห็นย่อมทราบได้ทันทีว่าคือ สาวยาคูลท์ ที่อุทิศทุกหยดหยาดเหงื่อตระเวนไปแต่ละบ้าน แต่ละอาคาร ฝ่าแดด ลมฝนเพื่อส่งยาคูลท์ขวดเล็ก ๆ แก่สมาชิก ซึ่งไม่เพียงเป็นภาพที่จดจำกันเท่านั้น ภาพเหล่านี้เป็นความงดงามที่ไม่เคยลืมเลือน เพราะสาวยาคูลท์ทุกคนคือเส้นเลือดของยาคูลท์ หากไม่มีสาวยาคูลท์ก็คงไม่มีความสำเร็จอย่างที่เห็นในวันนี้
“ยาคูลท์ประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะสาวยาคูลท์ทุกคน ในทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด สาวยาคูลท์คือผู้มีพระคุณของบริษัท”
ทุกย่างก้าวในวันนี้และวันข้างหน้าเราจึงยังคงยึดมั่นในปณิธาน “ความมุ่งมั่นที่อยากให้คนไทยมีสุขภาพดี” ส่งสิ่งที่ดีถึงมือสมาชิก...40 ปี แห่งตำนาน บนถนนสายนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คุณค่าและความดีในตัวยาคูลท์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทุกคนยอมรับ ซึ่งเราพร้อมหยิบยื่นถึงสมาชิกจากมือถึงมือ จากใจถึงใจ ความจริงใจสิ่งนี้คือสูตรลับความสำเร็จของเรา.
ยาคูลท์ในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2514 ยาคูลท์เข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นในประเทศไทยยังไม่มีใครรู้จักคำว่า “นมเปรี้ยว” ดังนั้น เพื่อเป็นการแนะนำสินค้า คุณประพันธ์ ได้เดินแจกยาคูลท์ให้กับลูกค้าด้วยตัวเอง แต่ก็มีคนไม่รับหรือไม่ดื่ม หลายคนโยนทิ้งหลังเปิดชิมไปเพียงนิดเดียว บางรายปาใส่ศีรษะด้วยความโกรธ เพราะคิดกันไปว่าเอานมที่เสียแล้วมาแจกให้ดื่มฟรี ระยะเวลา 4 ปีแรก ยาคูลท์ฝ่าฟันความยากลำบากมาด้วยตัวเอง จวบจนทุกวันนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ด้วยคุณภาพของสินค้า ทำให้ยาคูลท์ยืนหยัดอยู่ได้ในประเทศไทย
ไม่เพียงเท่านั้น ท่านเชื่อหรือไม่ว่า ยาคูลท์ขวดเล็ก ๆ ขวดนี้ ไม่ได้มีดีต่อสุขภาพและคนดื่มอย่างเดียว แต่มีดีต่อการช่วยดูแลรักษาโลกใบนี้ให้แข็งแรงด้วยเช่นกัน นับแต่กระบวนการผลิตจาก โรงงานซึ่งได้รับรางวัลในเรื่องมาตรฐานวิธีการผลิตอาหารในระดับดีมากจากกระทรวงสาธารณสุข และถือได้ว่าเป็นโรงงานที่รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ไร้มลพิษทางเสียง ฝุ่น ควัน และที่น่าภาคภูมิใจคือแม้แต่น้ำที่ผ่านการใช้งานในกระบวนการผลิตมาแล้ว ยังเป็นน้ำที่สะอาดมากจนสามารถเลี้ยงปลาคาร์ปได้ ทั้ง ๆ ที่ปลาคาร์ปญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นปลาที่เลี้ยงยากชนิดหนึ่งที่
ต้องดูแลเอาใจใส่อย่างมาก
ขวดยาคูลท์ทำมาจากพลาสติก Polystyrene ซึ่งเป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติไม่เป็นพิษต่อสภาพแวดล้อม และสามารถใช้บรรจุอาหารได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค และวัสดุปิดฝาขวดคือ Aluminum Foil ที่ได้รับการยอมรับแล้วว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) ยังรณรงค์ให้ผู้บริโภคดื่มยาคูลท์ด้วยการเปิดฝาขวดและดื่มจากขวดยาคูลท์โดยตรง เพื่อลดปริมาณการใช้หลอดอีกด้วย.
สร้างสุขสาวยาคูลท์ สร้างสุขให้สังคม เรื่องเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยได้รับรู้ แต่เมื่อรวมกันหลาย ๆ เรื่องราวกลับเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่คิดไม่ถึง...หากจะบอกว่า บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) ปิดทองหลังพระให้สังคมไทยคงไม่ผิด เพราะสิ่งที่บริษัทเอาใจใส่ดูแลสาวยาคูลท์เป็นอย่างดี นอกจากจะทำให้สาวยาคูลท์มีความสุขแล้วยังมีส่วนสำคัญทำให้ครอบครัวสาวยาคูลท์ประสบความสำเร็จ
สาวยาคูลท์ส่วนใหญ่สามารถส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย และหลาย ๆ คน สามารถส่งลูกเรียนต่างประเทศได้ หรือเรียนจบปริญญาโท ปริญญาเอก หลายครอบครัวลูก ๆ สาวยาคูลท์มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่น่าชื่นใจ เช่น ผู้จัดการธนาคาร, วิศวกร ...มีความมั่นคงในชีวิต เป็นการสร้างรากฐานให้ครอบครัวมีความสุขอย่างพอเพียง เมื่อหลายร้อยหลายพันครอบครัวมีความสุข สังคมรอบข้างย่อมต้องเปี่ยมไปด้วยความสุขเช่นกัน ดูแลกันด้วยใจสังคมไทยก็ยิ้มได้
ด้วยการดูแลเอาใจใส่กันอย่างดี สาวยาคูลท์จึงอยู่เคียงคู่บริษัทกันมายาวนาน บางคนอยู่มานานถึง 38-39 ปี อยู่กันจนครบอายุในวัยเกษียณ และร้อยทั้งร้อยไม่มีสาวยาคูลท์คนไหนอยากให้ถึงวันนั้น เพราะยังไม่อยากเลิกเป็นสาวยาคูลท์ รักที่จะส่งยาคูลท์ รักที่จะพบปะกับสมาชิก ส่งยิ้มทักทายลูกค้า แต่ที่บริษัทกำหนดให้มีการเกษียณอายุของสาวยาคูลท์ ทำไปก็เพราะรักและเป็นห่วงในสวัสดิภาพของสาวยาคูลท์ ไม่อยากให้เป็นอันตราย ด้วยความรักความเอาใจใส่แบบนี้ ทำให้ยาคูลท์ประเทศไทยไม่ใช่เพียงธุรกิจครอบครัว แต่กลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่ร่วมกันทำธุรกิจด้วยหัวใจ ที่จะอยู่เคียงข้างคนไทยให้มีสุขภาพดีไปตราบนานแสนนาน.
ทีมวาไรตี้
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=486&contentID=146767โฆษณา 40 ปียาคูลท์ ประเทศไทย