ผู้เขียน หัวข้อ: "ยักคิ้วกระพริบตา" ฮานะ เอามาฝากจาก อกาลิโกดอทคอม ขะ  (อ่าน 25610 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ท่านสังฆปรินายก บอกว่า ปัญญาสุดๆ ไม่ต่างกันนี่ ทั้งพระพุทธเจ้าและสามัญสัตว์ ไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากจิตหนึ่งเท่านั้น ปัญญา อย่างตรัสรู้ ปัญญาแห่งความรู้แจ้ง ก็มีบริบูรณ์ สุดๆอย่างเท่าเทียมกัน เอ่ ? แล้วทำไม หลวงพี่ยังเห็น ยังว่าแตกต่างกัน เอ่ ? แล้ว หลวงพี่เข้าใจ เข้าใจ เป็น เซนแบบใด กันนี่หรือว่า ว่าง แบบปัจตังแท้ๆ ไม่ได้ว่างแบบสากล ไม่เหมือนท่านสังฆปรินายกเห็นเลย ? หนู งง ไปหมดแล้ว ค่ะ ว่างแบบปัจจตัง(น้องมารน้อย)

ก็หลวงพี่  ...ว่างแบบปัจจัตตังแท้ๆไงค่ะ... ว่างเฉพาะตน ...ว่างแบบตน... แต่ไม่ว่างจากตนซะที...หลวงพี่ ก็ได้แต่จินตนาการความว่างเท่านั้นเอง...ก็เลยไม่ใช่ว่างแบบสากลค่ะ

                                      apocalypse

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ฮานะ ค่อยมา โพสต์ต่อ ขะ บอร์ด อืด มาก มาก
                       Hana

............................

อ่อ กระทู้ของเจ้าแม่เซนธรรมเอก ที่ไม่มีอะไรผุด ไม่มีอะไรดับ
                                 miracle of love
 

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

สวัสดีจ๊ะคุณน้องมารน้อยและสหายธรรมทุกท่าน ตามที่น้องมารน้อยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ
ว่างแบบปัจจัตตังของหลวงพ่อว่าเป็นแบบไหน ?นั้น
จริงๆ คำตอบมันเป็นปริศนาธรรมอยู่ในในตอนสุดท้ายที่ผมไม่กล้า เล่า
แบบว่ากลัวครับ กลัว
แต่ดู ดู จากที่สนทนากันมาหลายครั้งแล้ว
เวปนี้รู้สึกจะสงบเรียบร้อยถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีอยู่คงพราะเป็นคอเซนด้วยกันทั้งนั้น
ไหน ๆ ก็เพราะเหตุที่น้องมารน้อยถามมา
จึงขอตอบไปตามเหตุ แต่ผมขอบอก
คำตอบมันสวนกระแสแบบสุด ๆมันอาจจะสุดที่ผู้ยังไม่เข้าถึง เซน จะรับไว้ได้
กลัวจะถูกถล่มด้วย ก้อนหินก้อนกรวด ขวดเหล้าขวดเบียร์อะอะไรประมาณนั้น
ถ้าเป็นอย่างนั้นคงต้องให้น้องมารน้อยเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียวแล้วกันนะครับ

เรื่องมันมีอยู่ว่าหลังจากสนทนากับหลวงพ่อมาจนพอสมควรแก่การกราบลาแล้วผมจึงบอกหลวงพ่อว่า
หลวงพ่อครับมาสนทนาธรรมกับหลวงพ่อแล้วทำให้เกิดปัญญาจริง ๆ เลยนะครับ
หลวงพ่อตอบว่าไงรู้ไหม ?ครับ
ท่านตอบว่า ปํญญาบ้าบออะไรกันอีกโยม ขยะน่ะ ขยะทั้งนั้นถังอยู่ข้างประตูวัดนั่นไงอย่าลืมเอาไอ้ปัญญาที่ว่าทิ้งไว้ที่ถังขยะด้วยนะโยมอยู่

เป็นไงครับ ? ใคร ๆ เข้าปฏิบัติเพื่อจะให้เกิดปัญญากันทั้งนั้น
แต่หลวงพ่อกับเห็นเป็นขยะที่ต้องเอาไปทิ้งเอากับหลวงพ่อท่านซิ
ผมนี่ งงสุด ๆ กับหลวงพ่อจริงๆ

(เม็ดทราย)

.................

ส่วนหลวงพ่อท่าน นามว่าอะไร จำพรรษาอยู่ที่ไหนวัดอะไรนี่
ต้องขอสงวนเป็นความลับเพื่อความความปลอดภัยของหลวงพ่อครับ
กลัวท่านถูกจับสึกจากผู้ที่ยังไม่เข้าใจในธรรมที่ท่านแสดงด้วยข้อหามิจฉาทิฏฐิครับ

(เม็ดทราย)


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

แหม เหมือนหนูเลย
พวกจ้องปองร้าย เยอะแยะ เหมือนกัน ต้องหลบๆซ่อนๆบางทีก็ไปอาศัยอยู่กับพรานป่า สอนให้รู้จักการล่าสัตว์สอนให้รู้จักเลี้ยงสัตว์ สอนให้รู้จักทำกับข้าว เพราะหนูไม่ชอบกินผักแบบท่านสังฆปรินายก
หนูกลัวค่ะกลัวต้องกินแต่ผักอิๆ

แล้วหลวงพ่อยังกลัวถูกสึกด้วยหรือค่ะงั้นสึกเองไม๋ไม่ต้องรอคนจับสึกก็ได้ค่ะ
หรือติดในจีวร อย่างนี้ตาย(มรณะภาพ)ไป ติดในจีวร จะเป็นตัวเล็นนะค่ะหนูเคยได้ยินในพระไตรปิฎกด้วยแหละ พี่เม็ดทราย เคยได้ยินไม๋คะ

ถ้าคอเซนแล้ว ต่อให้กระทบรุนแรงแค่ใหนการกระทบก็เบาบาง ลงบางลง
เวลาโยนหินไปในน้ำโยนแรง คลื่นก็แรง
เวลาโยนหินไปในอากาศ โยนแรงๆ เร็วกว่าเสียง กลับดังสนั่น
แต่โยนหินเข้าไปในจิตหนึ่งจ๋อยหายจ๋อยทั้งหินหายทั้งเสียง หายทั้งคลื่น

กลุ่ม คอเซน จะอาศัยการกระทบ เพื่อเข้าถึงประสบการณ์ ไม่หลีกเลี่ยงประสบการณ์จึงเรียกว่ามีปัญญา
คนเขลา หลีกเลี่ยงประสบการณ์แต่ก็มีปัญญา เหมือนกัน

ที่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เป็นออโตเมติกของกลุ่มคอเซน เค้าน่ะค่ะ

แต่ปัญญาทั้งหมด เอาไปทิ้งขยะ ก็หาถังขยะ มารองรับไม่พอ
แต่ปัญญา กลับรองรับได้ทั้งถังขยะ และโลกธาตุทั้งหมด

มันไม่ได้ขึ้นกับหนังสือ หรือบัญญัติใดๆ และปัญญา ก็ไขว่คว้าไม่ได้จะหาถังหาภาชนะต่างๆมารองรับก็ ไม่สามารถหาได้พอ ปํญญาของคนนั้นจึงเป็นตามภาชนะ ถังหรือกาละมัง

ปัญญาของหลวงพ่อของพี่ ใส่ได้ใน ถังขยะก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ทิ้งไปได้ก็ดีดีกว่าเก็บไว้สาธุๆๆ

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ขนาดเอาสูตรที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เองออกมานำเสนอเพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้เกิดขึ้นกับทุกๆฝ่ายที่ปรารถนาทางหลุดพ้นไม่ได้มีเจตนาคะคานให้เสียรูปกระบวนแต่อย่างใด ปานนั้น"ก็โดนจนเลือดสาด"มันส์ดี คุณพูดอย่างกับว่าพระองค์ก็ไม่ถึงคง คงไม่เข้าใจคำว่า"ธรรมชาติแห่งความไม่หวนกลับไปบัญญัติ"
*เซน....เล่นลิ้น....พึ่งกระจ่างในวันนี้เอง

*พระพุทธองค์ก็เจออุปสรรคในการเผยแพร่ธรรมเมื่อเจอเหล่ามิจฉาทิฐิที่โต้ตอบธรรมเพียงมุ่งหวังจะ"ลบชื่อ"พระพุทธองค์ออกจากชมพูทวีปในยุคนั้นตถาคตทำได้แค่เพียง"นิ่งเฉย"เสีย
*การที่เราพูดถึงเนื้อหาแห่ง"วิมุตติ"ล้วนๆโดยไม่กล่าวถึง"หนทาง"
ดำเนินมาสู่จุดวิมุตติ ก็เปล่าประโยชน์ ไม่เช่นนั้นเปิดพระไตรปิฎกออกมาก็จะพบเพียงกระดาษเปล่าๆ เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะกล่าวธรรม

*"มรรค"คือ"ลีลาแห่งธรรม"เท่านั้นมรรคเมื่อเราเข้าไปศึกษาแล้วเข้าใจแล้วในกระบวน"โครงสร้าง"ทั้งหมดของธรรมตัดความลังเลสงสัยได้แล้วในเรื่องอะไรคือทุกข์
อะไรคือเหตุให้เกิดทุกข์ และวิธีดับทุกข์ เราก็วางเรื่องที่เราศึกษาซะปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามทางของมันภายใต้กฎธรรมชาติตรงนี้แหละจะเกิดการขยับเขยื้อนเป็นลีลาแห่งธรรมพระพุทธองค์ตรัสเรียกว่า"ระบบคลายกำหนัด"แต่มิใช่ให้เข้าไปแบกในเรื่องนี้อีก ที่บางท่านบอกว่าระบบ"automatic system"นั่นแหละตัวเดียวกันพออสูรแก่สุชัมบดีเปรียบเทียบระบบคลายกำหนัดว่า
มันเป็น"การปฏิบัติธรรมโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย"บ้าง เท่านั้นแหละ โดนซะน่วม

*ม่าม๊า บอกไว้นานแล้วไม่ให้สนทนาธรรมกับคนแปลกหน้า เว้นไว้แต่เขาคนนั้นเป็นพหูสูตร เป็นบัณฑิต
*เอาไว้วันหน้า จะนำเสนอธรรมเป็น series ไล่เรียงตั้งแต่มืดยันสว่างในรูปแบบการนำเสนอสไตล์สุชัมบดีเผื่อมีแฟนคลับกับเขาบ้างในบอร์ดอกาลิโกนี่แหละ ช่วงนี้ไม่ว่าง"ฟักทอง"ขายไม่ค่อยออก
*tawatingsaheaven@thaimail.com....อีเมล์ผมเอง เผื่อ"โดน"สามารถโพส์ส่วนตัวได้
*ไม่มีอะไรในกอไผ่ นอกจาก"หน่อไม้"

(สุชัมบดี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ขนาดเอาสูตรที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เองออกมานำเสนอเพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้เกิดขึ้นกับทุกๆฝ่ายที่ปรารถนาทางหลุดพ้นไม่ได้มีเจตนาคะคานให้เสียรูปกระบวนแต่อย่างใด ปานนั้น"ก็โดนจนเลือดสาด"มันส์ดี คุณพูดอย่างกับว่าพระองค์ก็ไม่ถึงคงคงไม่เข้าใจคำว่า"ธรรมชาติแห่งความไม่หวนกลับไปบัญญัติ"
*เซน....เล่นลิ้น....พึ่งกระจ่างในวันนี้เอง
.............

เล่นลิ้นๆๆ
อะไร ๆ ก็เล่นลิ้นเอ่ ......ส่งสัญญาณแปลกๆ
ว๊าวพูดอะไร น่าอายชมัด พี่สุชัมบดี

ใครจะมีลิ้นเซนไม่เคยมีลิ้นหรอกค่ะชาวโลกต่างเข้าใจผิดๆ
ปากหุบเงียบ ลิ้นหายไป ตั้งแต่ยังไม่เกิดด้วยซ้ำนะคะ

และหนูก็ไม่มีอะไรเลย ไม่มีกอไผ่ ไม่มีหน่อไม้ ไม่มีข้าวเหนียว ไม่มีปลาร้า ไม่มีพหูสูตรอิๆ
มีแต่น้ำลายไหล เพราะ หิว ค่ะ

สำหรับ ใจที่ไม่ใช่หนู
ที่มีต่อพี่ๆทุกคน ไม่ได้ป่วน ไม่ได้แย้ง ไม่ได้ขัดใครเลย สักครั้งเดียว
เป็นความเข้าใจผิดนะค่ะที่จะเห็นว่าเช่นนั้น เพราะว่า ว่ามันไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เป็นของกันและกัน

มาถึงตอนนี้ หลายๆท่านก็จะพอเข้าใจเซน ได้มากขึ้น
แต่หนู ไม่ใช่เซน ไม่ไช่ดูจิต ไม่ได้อยู่บนมรรคาใดๆอยู่แต่บ้าน
ป๊ะคือท่านวิมลเกียรติม๊ะ คือ ท่านปารมิตาอาจารย์คือท่านสังฆปรินายก
อจ.ที่ปรึกษาคือพระองค์เจ้ากฤษณะ
หลังจากเปิดเทอมแล้ว คงไม่ได้มาโพสต์บ่อยๆนะค่ะขออนุญาตล่วงหน้า นะค๊ะ ๆ

การนำเสนอ คุณสุชัมบดี จะเสนอแบบใหน ก็เป็นธรรมชาติของคุณสุชัมบดี
เช่นกันพระพุทธองค์ จะนำเสนอ เช่นไร ก็เป็นธรรมชาติ ของพระพุทธองค์
คณาจารย์ ก็เสนอ แบบธรรมชาติของคณาจารย์
สังฆปรินายกก็เสนอสอนแบบธรรมชาติของสังฆปรินายก
นี่คือธรรมชาติของผู้อยู่ยังในธรรมชาติ

พระพุทธองค์ เข้าใจธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง จากการตรัสรู้
เพราะกระบวนการคลายกำหนัดของพุทธองค์ จากอดีต จนถึง เมื่อตรัสรู้
เป็นไปอย่างเนิบนาบใช้กระบวนการนี้ มากกว่า สี่อสงไขยแสนกัปป์

ตรัสสอนกระบวนการนี้ วิธีตางๆตั้งแต่ต้นกระบวนการ จนบำเพ็ญมากหลาย
จนกระทั่งสุดท้ายจึงตรัสรู้จากนั้นก็เข้าสู่ศูนยตนิพพาน

พระอรหันต์ เห็นกระบวนการทั้งหมดในคำสอนจึงตรัสรู้อรหันต์ผล
ในวันที่ฟังธรรม จากนั้นก็เข้าศูนยตนิพพานเช่นกัน

พระสังฆปรินายก เห็นกระบวนการทั้งหมด จึงย่นย่อ กระบวนการทั้งหมด
เหลือในวันสุดท้ายแล้วเข้าศูนยตนิพพานเช่นกัน แต่ต่างกันที่
ปล่อยสังขารที่ยังไม่ตายล่องลอยไปตามกระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติ

ดังนั้น เฉพาะสังฆปรินายกเท่านั้นที่รับมอบพระจีวรอัฐบริขารจากพระพุทธองค์
เพราะกระบวนการย่อยสลายย่นย่อที่สุด
ใช้จิตเดิมแท้ ย่นย่อทำลายทุกสิ่งทุกอย่างด้วยจิตเดิมแท้เอง

ดีๆๆ ค่ะ จะนำเสนอตามสไตล์ตนเองหรือตามสไตล์ใครๆไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน
จะเป็นกระบวนการอ้อยอิ่ง หรือกระบวนการย่นย่อที่สุดคือ อันเดียวกัน

กระบวนการอ้อยอิ่ง กระบวนการออโตเมติกกระบวนการย่อยสลายทางธรรมชาติ

เป็นเหมือนเกมส์ เกมส์เดียวกันมี LEVEL เท่ากัน
จะเริ่มเล่น ฝ่าด่านค่อยเป้นค่อยไปตั้งแต่ หนึ่ง จนมาถึงตอนจบสู้กับบอสส์ ก็จบ
แต่สำหรับเซนใครจะเล่นมาเท่าไร จะกี่ เลเวลข้ามไป เจอกับบอสส์ เลย ก็จบ

นี่คือข้อแตกต่าง ของพระอรหันต์และพระสังฆปรินายก

พระพุทธองค์ ทรงเล็งเห็นว่า พระอรหันต์ทั้งหมด จะถึงแก่การบรรลุ
ด้วยเงื่อนใขสุดท้ายคือต้องเจอพระพุทธองค์ จึงเสด็จไป และ เงื่อนใขสุดท้าย
คือคำสอนที่ที่ทำให้ตรัสรู้ ไม่เหมือนกันสักองค์

แต่สำหรับท่านสังฆปรินายก พระพุทธองค์เพียงบอกว่าพบไข่มุกแล้วท่านสังฆปรินายก
ก็เลยเจอเช่นกัน แต่เงื่อนใขก็คือพระพุทธองค์ต้องเป็นคนบอก

เช่นเดียวกัน
คุณสุชัมบดีหรือใครๆจะนำเสนอเช่นไรลูกศิษย์ลูกหาหรือแฟนคลับ ก็บรรลุได้เช่นกัน
แม้แต่ต่างศาสนา ก้อไม่ต่างกัน อยู่ที่เงื่อนใขสุดท้ายค่ะ

และเงื่อนใขสุดท้ายของพระพุทธองค์ ก่อนตรัสรู้ คือต้นโพธิ์
จะไปนั่งต้นอื่นก้ไม่ได้

นี่คือธรรมชาติของกระบวนการทุกกระบวนการไม่ได้ต่างกันเลย
เห็นธรรมชาติ รู้ธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ รู้จริงว่าเป็นธรรมชาติ จึงรู้แจ้งในธรรมชาติ
เมื่อธรรมชาติของการรู้แจ้งแห่งธรรมชาติปรากฎขึ้น
ผลึก ทั้งหลายทั้งปวง ก็ไม่ได้เกิดขึ้น มีแต่อันตระธาน หายไปนะค่ะ นะค่ะ
สาธุๆๆๆ ทุกท่าน

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ธรรมชาติแห่งการถ่ายทอดจึงถ่ายทอด ตามธรรมชาตินั้นๆ
สักว่าถ่ายทอด
แต่จะมีใครล่ะ ที่ถ่ายทอด ในเมื่อมีแต่จิตมีแต่ธรรมชาติของกาย มีแต่ธรรมชาติของจิต
และจิตก็คือธรรมชาติ
และการถ่ายทอดจะเป็นการถ่ายทอดได้อย่างไร
ในเมื่อธรรมชาติทั้งหลายเป็นเช่นนั้นเอง

ธรรมชาติของเนิบนาบ
ธรรมชาติของย่นย่อ
ธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง

จะละไปก่อนก็ไม่ได้ต้องปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ
บังคับบัญชาอะไรไม่ได้แม้แต่อย่างเดียวจริงๆน๊ะ
เหมือนยักคิ้ว กระพริบตา

ไม่งอนนะจ๊ะ เจ้าของกระทู้
กลับมายักคิ้วกระพริบตาอีกแล้ว

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

โห ๆๆๆ
ไม่มาวันเดียวเล่นกันไปหลายหน้าเลย ขอรับ

ธรรมชาติ ออโตเมติก ของร่างกาย เป็น ส่วนเล็กน้อยซะเหลือเกิน
ธรรมชาติของ จิต ก็เป็นของเล็กน้อยเสียเหลือเกิน
ธรมชาติของกลุ่ม ก็เป้นสิ่งเล็กน้อยเสียเหลือเกิน
ธรรมชาติของธรรมชาติ ก็เป็นสิ่งเล็กน้อยซะเหลือเกิน
ธรรมชาติของจิตเดิมแท้เข้าใจอย่างไม่มีอะไรห่อหุ้มและพัน
มรรคาทั้งหลายที่ดำเนินไป เป็นธรรมชาติทั้งหมด ไม่สามารถบังคับบัญชาได้แม้แต่นิดเดียว

ธรรมชาติ ของการสนทนา การติดต่อสื่อสาร
ธรรมขาติ ของการกระทำดี ทำชั่ว
ธรรมชาติ ของการบังคับ การปลดปล่อย
ธรรมชาติของเหตุ ธรรมชาติของผล
ธรรมชาติแห่งของคู่ทั้งหลายทั้งปวง

ธรรมชาติส่วนตน ธรรมชาติส่วนรวม
ธรรมชาติเขา ธรรมชาติเรา
ธรรมชาติของการปฎิบัติ การไม่ปฎิบัติ
ธรรมชาติของการบรรลุ และไม่บรรลุ
ธรรมชาติอื่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไม่ว่าจะกล่าวถึง หรือคำนึงถึงอะไร
ธรรมชาติของความคิด และการดับไปของความคิด

ทั้งหมดสักว่าเป็นธรมชาติ บังคับบัญชาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
มีแต่จิตหนึ่งเท่านั้นขอรับ

(ขาจรจัด)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

แต่ปัญญาทั้งหมด เอาไปทิ้งขยะ ก็หาถังขยะ มารองรับไม่พอ
แต่ปัญญา กลับรองรับได้ทั้งถังขยะ และโลกธาตุทั้งหมด

มันไม่ได้ขึ้นกับหนังสือ หรือบัญญัติใดๆ และปัญญา ก็ไขว่คว้าไม่ได้จะหาถังหาภาชนะต่างๆมารองรับก็ ไม่สามารถหาได้พอ ปํญญาของคนนั้นจึงเป็นตามภาชนะ ถังหรือกาละมัง

ปัญญาของหลวงพ่อของพี่ ใส่ได้ใน ถังขยะก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ทิ้งไปได้ก็ดีดีกว่าเก็บไว้สาธุๆๆ

(น้องมารน้อย)


------------------

ปัญญาที่อยู่ในกาละมังชามไห ยังเป็นปัญญาจากความคิดปรุงแต่งนะคะ
เมื่อทิ้งไปเสียก็จะพบกับปัญญาแห่งการรู้แจ้งเพราะพ้นแล้วจากความคิดปรุงแต่งจ๊ะ

ปัญญานี้ก็คือจิตหนึ่งนั่นเองจ๊ะ

เมื่อเห็นเป็นจิตหนึ่งแล้วมันหุบปากเงียบ เพราะพ้นไปจากสมมุติ และบัญญัติจ๊ะ
อนุโมทนาสาธุค่ะน้องมารน้อย คุณสุชัมดี คุณขาจรจัด คุณเม็ดทราย และทุกท่านค่ะ

(หนูไม่มี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
จิตหนึ่ง เป็นกาละมังใส่ปัญญา
ปัญญา เต็มกาละมังจิตหนึ่ง
แบกไม่ใหว เหมือนกันขอรับฮ่าๆ

(ขาจรจัด)

....................


ณ เวทีมวยอกาลิโกราชดำเนิน
แอนตาซิลเขาจ่ายให้ เข็มละ 500
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
*ขาจรจัดน้อย เกียรติบ้านช่อง แตก 5 เข็ม รับไป 2500 บาท
*เม็ดทราย ศิษย์วัดดอน แตก 7 เข็ม รับไป 3500 บาท
*สุชัมบดี ลูกเจ้าแม่ไทรทอง
แตก 10 เข็ม รับไป 5000 บาท
*น้องมารน้อย ลูกเจ้าพ่อกฤษณะ
(สายเทพส่งเข้าประกวดนี่เอง.........
ถึงว่า) แตก 100 เข็ม
รับไปเลย 50000 บาท (ฮา.....)

***สรุป...ธรรมคือ ธรรมชาติ
ไร้ตัวไร้ตน บริสุทธิ์ในตัวมันเอง
*ในอดีตสายเทพฮินดู เป็นคู่ปรับพระพุทธองค์มาตลอดเทพพวกนี้ยังไม่ได้ถูกพยากรณ์เลยด้วยซ้ำกระแสข่าวเรื่องพระพุทธองค์แย่งดอกบัวศรีอริยเมตไตรยชิงมาตรัสรู้ก็พวกเทพมิจฉาทิฐิพวกนี้แหละที่ปล่อยข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงพระพุทธองค์ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธองค์และศรีอริยเมตไตรยเคยเกื้อหนุนกันมาตลอด เพราะพวกนี้เป็นพวก"อกหัก"หวังจะมาเป็นพุทธะในกัปป์นี้แต่บารมีไม่ถึงเรื่องใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในแต่ละกัปป์มันเป็นเรื่อง"ตถตาแห่งกรรมวิสัย"ต่างหาก
*แผลแตกเข็มนี้ ท่านสุชัมบดีจะจ่ายให้.

(สุชัมบดี)