ผู้เขียน หัวข้อ: "ยักคิ้วกระพริบตา" ฮานะ เอามาฝากจาก อกาลิโกดอทคอม ขะ  (อ่าน 25474 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

สายเทพ=....สายเสมอ
พวกที่ชอบเอาหลัก"อวตาร"มานำเสนอ ชอบยกหางตัวเองว่าเก่งกว่าผู้อื่น เป็นได้แค่"เทวปุตตมาร
*พระพุทธองค์ได้ประกาศธรรมไว้ดีแล้ว ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และบั้นปลาย และดีเลิศทั้งอรรถะ พยัญชนะ
*ไม่เห็นเกี่ยวกับ กฤษณะเทพ ตรงใหน หรือว่ายังติด ตัวตน บุคคลเรา เขา

(สุชัมบดี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

*ในอดีตสายเทพฮินดู เป็นคู่ปรับพระพุทธองค์มาตลอดเทพพวกนี้ยังไม่ได้ถูกพยากรณ์เลยด้วยซ้ำกระแสข่าวเรื่องพระพุทธองค์แย่งดอกบัวศรีอริยเมตไตรยชิงมาตรัสรู้ก็พวกเทพมิจฉาทิฐิพวกนี้แหละที่ปล่อยข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงพระพุทธองค์ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธองค์และศรีอริยเมตไตรยเคยเกื้อหนุนกันมาตลอด เพราะพวกนี้เป็นพวก"อกหัก"หวังจะมาเป็นพุทธะในกัปป์นี้แต่บารมีไม่ถึงเรื่องใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในแต่ละกัปป์มันเป็นเรื่อง"ตถตาแห่งกรรมวิสัย"ต่างหาก
*แผลแตกเข็มนี้ ท่านสุชัมบดีจะจ่ายให้.

(สุชัมบดี)

.....................................................................................


โถ พี่สุชัมบดี

ถึงจะยกแม่น้ำทั้งห้ามาพูดก็น๊อค ตั้งแต่ไม่ขึ้นเวทีเพราะลมปากตัวเองซะแล้ว
พระพุทธองค์ ก็ตรัสอยู่ " ใครกระทำกรรมอันใด ก็ได้ผลนั้น"

*******นั่นแหละ กรรมของพระพุทธองค์ *********

"""""ตถตา แห่ง กรรมวิสัย """""""""
ปากพูดได้แต่ความเข้าใจไม่พอก็เป็นอย่างพี่สุชัมบดีแหละ

ใหว้ครูสวย รูปมวยดี แต่ไม่เป็นมวยเลยนะค๊ะๆๆ
จึงมีแต่ตัวตนมีแต่ความคิดของตนเองจะ หาความบริสุทธิ์ ได้ยังไง

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

พวกที่ชอบเอาหลัก"อวตาร"มานำเสนอ ชอบยกหางตัวเองว่าเก่งกว่าผู้อื่น เป็นได้แค่"เทวปุตตมาร
*พระพุทธองค์ได้ประกาศธรรมไว้ดีแล้ว ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และบั้นปลาย และดีเลิศทั้งอรรถะ พยัญชนะ
*ไม่เห็นเกี่ยวกับ กฤษณะเทพ ตรงใหน หรือว่ายังติด ตัวตน บุคคลเรา เขา

(สุชัมบดี)

...

นี่ก็อีก

ติดพระพุทธเจ้าติดกฤษณะเทพไม่ได้ต่างกัน
ถ้ายังติด ตัวตน บุคคล เรา เขา

ปากก็ยังเก่งเหมือนเดิม นะค๊ะ ๆๆ

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

คุณสุชัมบดีนี่สุดยอดจริงๆขอรับ
นำเสนอ แต่มุขฮาๆ
เข้ามาห้องเซนทำเอาคอเซนได้ฮากันเป็นแถวๆๆๆ

(ขาจรจัด)

-----------


ก็ใหนว่าคุณมี"กฤษณะเทพ"เป็น
อาจารย์ที่ปรึกษางัย ยกย่องเทพเป็น consult ไว้คอยปรึกษาธรรมอย่างนี้ก็แย่สิคุณ
*ผมเองไม่ได้ติดพระพุทธองค์เหมือนพระวักกะลิ แต่ผมรู้คุณของพระพุทธองค์ที่ท่านประกาศธรรมไว้ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องอาศัยเทพองค์ใหน
*หากไม่มีพระพุทธองค์ก็ไม่มีน้องมารน้อยที่คิดว่าตนเองเลิศหรูทางธรรมไม่มีใครเทียบถึง "เดินตามตูด"พระพุทธองค์ทั้งนั้น
*จะปรมัตถ์ก็ไม่ว่า แต่อย่าดูถูกพ่อตัวเอง ลูกเนรคุณ

*คำว่า"ป๊ะ"กับ"ม๊ะ"ที่คุณใช้เป็นของศาสนาอิสลามใช้เรียกแทนคำว่าพ่อและแม่ คุณเป็นอิสลามหรือเปล่า
*เกร็ดความรู้เรื่องกรรมวิสัยในยุคนี้......จริงๆศาสนาดั้งเดิมในช่วงกลียุคนี้คือศาสนาเทพที่ยกฐานะตนเองว่าสามารถช่วยคนพ้นทุกข์ได้ ไล่มาจากศิวะ กฤษณะเทพ
พวกนี้พึ่งมาแจ้งเกิดได้ในทางมิจฉาทิฐิเมื่ออายุมนุษย์สั้นลงมาถึง 2500 ปีจาก"ปกติ"อายุมนุษย์ถึงแสนปีหรือมากกว่านั้นพระพุทธองค์ตรัสไว้เองใน"จักรวรรดิสูตร"
ว่าเมื่ออายุมนุษย์ตกต่ำสั้นลงถึง 2500 ปีมนุษย์จะเริ่มเห็นสัทธรรมเป็นอสัทธรรม และจะเริ่มเห็นอสัทธรรมเป็นสัทธรรมพวกเทพพวกนี้เริ่มเสียรังวัดเมื่อพระพุทธองค์มาตรัสรู้เอากฎธรรมชาติออกมาประกาศเป็นพระพุทธศาสนา

*เมื่อตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้ว
สายเทพเดินเกมเปิดตัวอีกครั้งโดยเฉพาะในยุคกึ่งพุทธกาลนี้จะเปิดตัวกันในนาม "พระยาธรรมมิกราช"ว่าจะมาเป็นจักรพรรดิ์กันในยุคนี้โดยอ้างเมตไตโยอวตารมาเกิด
*หากคุณหูตาไว ลองไปอ่านหนังสือทางฝั่งอิสลามดู เขายกย่องอัลเลาะห์ว่าคือศรีอริยะอัลเลาะห์ ชื่อหนังสือคือ" 7 spirit"
*พระพุทธองค์ไม่เคยตรัสว่ายุคนี้จะมีจักรพรรดิ์ชื่อพระยาธรรมมิกราช มีแต่ในกาลข้างหน้าจะมีในยุคศาสนาพระศรีอาริย์ชื่อว่า
"สังขจักรพรรดิ"

*โปรดติดตามโดยฉับพลันเรื่องกลโกงของพวกเทพฝ่ายมิจฉาทิฐิ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอ "นิพพานของคุณน้องมารน้อยกระเพื่อมเสียก่อน" เห็นกระเพื่อมได้ทุกช้อท.

(สุชัมบดี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

อ่ะๆยินดีตอบคำถามน้องใหม่ เฟรชชี่ๆๆๆนะค๊ะๆๆ

ก็ใหนว่าคุณมี"กฤษณะเทพ"เป็น
อาจารย์ที่ปรึกษางัย ยกย่องเทพเป็น consult ไว้คอยปรึกษาธรรมอย่างนี้ก็แย่สิคุณ

////พระองค์เจ้ากฤษณะ หาได้เป็นเพียงกฤษณะเทพเท่านั้นนะค่ะ ๆๆ
เป็นเทพเลี้ยงวัวเป็นคนขับรถม้าเป็นอะไรหลายต่อหลายอย่างตามที่คุณสุชัมบดีหรือคนอื่นๆเห็น

แต่ถ้าเห็นเป็น " ปรมาตมัน " อย่างปรมัตถ์ได้
ก็คงไม่มีปัญญหา ลังเลสงสัย นะค๊ะๆ นะค๊ะ

*ผมเองไม่ได้ติดพระพุทธองค์เหมือนพระวักกะลิ แต่ผมรู้คุณของพระพุทธองค์ที่ท่านประกาศธรรมไว้ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องอาศัยเทพองค์ใหน
*หากไม่มีพระพุทธองค์ก็ไม่มีน้องมารน้อยที่คิดว่าตนเองเลิศหรูทางธรรมไม่มีใครเทียบถึง "เดินตามตูด"พระพุทธองค์ทั้งนั้น
*จะปรมัตถ์ก็ไม่ว่า แต่อย่าดูถูกพ่อตัวเอง ลูกเนรคุณ

/////ความจ้องจับผิด ความดูถูก ดูผิด จะออกมาจากใหนล่ะจ๊ะถ้าไม่ออกมาจากจิตที่ปรุงแต่งของตนเอง ของพี่เองนะค๊ะๆ
ธรรมะที่แสนเลิศหรู เหมือนเรือไตตานิค เกาะไว้ก็พาจมอยู่ในสังสาร
ธรรมะคือจิตหนึ่ง แล้วจะไปหาธรรมะที่เลิศหรูได้จากใหนอีก ค่ะ

*คำว่า"ป๊ะ"กับ"ม๊ะ"ที่คุณใช้เป็นของศาสนาอิสลามใช้เรียกแทนคำว่าพ่อและแม่ คุณเป็นอิสลามหรือเปล่า

//////อ้อเรียกป่ะป๊ะ กะหม่าม๊ะเลยต้องเป็นอิสลาม
เรียก Papa Mama คงจะเป็นคริส
เรียก พระบิดา พระมารดา คงต้องสูงศักดิ์
เรียกพ่อ เรียก แม่ คงต้องเป็นคนไทย
เรียกไม่ได้ ก็คงเป็น ใบ้อิๆ

ช่างสำคัญมั่นหมาย ซะเหลือเกินนะเพค่ะ เสด็จพี่
เลยวางตัวตนไม่ได้เจ้าค่ะ เสด็จพี่

จักรวรรติสูตรมาที่หลัง พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์มีมาก่อนที่จะประกาศพระศาสนา นะค๊ะๆๆ
พระพุทธองค์เองยังบอกธรรมชาติทั้งหลายมีแต่เดิมมา ตถาคตไม่ได้ค้นพบแต่ทรงเข้าใจธรรมชาติ แล้วจึงละวางธรรมชาติ นะค๊ะ นะค๊ะ ๆ

*เกร็ดความรู้เรื่องกรรมวิสัยในยุคนี้......จริงๆศาสนาดั้งเดิมในช่วงกลียุคนี้คือศาสนาเทพที่ยกฐานะตนเองว่าสามารถช่วยคนพ้นทุกข์ได้ ไล่มาจากศิวะ กฤษณเทพ
พวกนี้พึ่งมาแจ้งเกิดได้ในทางมิจฉาทิฐิเมื่ออายุมนุษย์สั้นลงมาถึง 2500 ปีจาก"ปกติ"อายุมนุษย์ถึงแสนปีหรือมากกว่านั้นพระพุทธองค์ตรัสไว้เองใน"จักรวรรดิสูตร"

///// โถก็กลับมาไล่เรียง อายุอาอานาม ของ มนุษย์ชาติเรื่องของผู้อื่นๆช่างส่งจิตออกไปไกลตัวดีแท้นะค๊ะๆๆ
ยังไม่รู้อีกหรือค๊ะว่าเป็นมาจาก" ตถาตา ของกรรมวิสัย " พูดได้แต่ไม่เข้าใจ ก็เป็นแบบนี้อีกแหละ นะค๊ะๆๆ

*เมื่อตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้ว
สายเทพเดินเกมเปิดตัวอีกครั้งโดยเฉพาะในยุคกึ่งพุทธกาลนี้จะเปิดตัวกันในนาม "พระยาธรรมมิกราช"ว่าจะมาเป็นจักรพรรดิ์กันในยุคนี้โดยอ้างเมตไตโยอวตารมาเกิด

/////ถ้าเข้าใจ " ตถตาของกรรมวิสัย "
จะไปสงสัยอะไร หรือจะไปสำคัญอะไร กับสายเทพสายมาร หรือ พระยาธรรมมามิกราชอีกหรือค่ะ
โอนี่เป็นเครื่องแสดงว่า เข้าใจแต่ปากไม่ได้เข้าถึงใจ จริงๆ นะค๊ะ ๆๆ

*หากคุณหูตาไว ลองไปอ่านหนังสือทางฝั่งอิสลามดู เขายกย่องอัลเลาะห์ว่าคือศรีอริยะอัลเลาะห์ ชื่อหนังสือคือ" 7 spirit

////แหมแนะนำให้แสวงหา หนังสือ อิสลามมาอ่าน
หนังสือทั้งหลายน่ะ เค้าหลั่งใหลออกมาจากจิต เลยกลายเป้นหนั้งสือเข้าใจใหม ค๊ะ

*พระพุทธองค์ไม่เคยตรัสว่ายุคนี้จะมีจักรพรรดิ์ชื่อพระยาธรรมมิกราช มีแต่ในกาลข้างหน้าจะมีในยุคศาสนาพระศรีอาริย์ชื่อว่า
"สังขจักรพรรดิ"

/////พระพุทธองค์ตรัส ออกมาอย่างออโตเมติกก็ตรัสอย่างนั้นแหละตรัสอย่างอื่นก็ไม่ได้ นะค๊ะๆ

*โปรดติดตามโดยฉับพลันเรื่องกลโกงของพวกเทพฝ่ายมิจฉาทิฐิ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอ "นิพพานของคุณน้องมารน้อยกระเพื่อมเสียก่อน" เห็นกระเพื่อมได้ทุกช้อท.

//// หนูจะติดตามความ ฮาสุดขีดฮาไม่ยั้งของพี่สุชัมบดี นะค๊ะ ๆๆอุ๊ยนะเพค๊ะ เสด็จพี่

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ความบันเทิงสาระในธรรมด้วยลีลาแห่งเซน ได้ผ่านไป ช๊ดตหนึ่งแล้ว
ความสามารถ และลีลา โดนไม่เบาเป็นที่ถูกอกถูกใจคอเซนทั้งหลาย

คุณสุชัมบดี ร่ายกระบวนท่า
ทำเอาฮา ได้ทั้งทั้งที่มุขแป๋ก......แป๋กได้ไม่แพ้หม่ำโชว์
คุณสุชัมบดีนี่สุดยอด จริงๆ ขอรับ

รักใครชอบใคร ขอเสียงโหวตหน่อยนะขอรับ
ขอเสียงโหวตหน่อยนะขอรับ

ส่วนคุณน้องมารน้อยก็ไม่เบายังยันมุข แบบเซนได้ สั้นๆ แต่เร้าใจมุขแป๋กกลับยิ่ง แป๋ก
ขอเสียง โหวตเหมือนกัน

คอเซน คาเฟ่จะพบมุขเด็ดๆของคุณสุชัมบดีต้องรอประมาณตีสามนะขอรับ
ส่วนคุณน้องมารน้อยมาไม่ค่อยเป้นเวลา อดใจสักนิด กับ สาว สก๊อย ผู้นี้

ฟักทองจะกลายเป็นรถม้า ได้แค่เที่ยงคืน
หลังจากนั้นถึงจะคลายมุขฮาออกมา ขอรับ

ตอนนี้ พบกับ สิ่งที่น่าสนใจในกระทู้อื่นๆฆ่าเวลาไปก่อนนะขอรับ

(ขาจรจัด)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

คุณโฆษกไม่สบายไข้ขึ้น หรือเปล่าค่ะ
ยั้งมือ หน่อย
ไว้ไมตรี
นะค๊ะ ๆๆ

(น้องมารน้อย)

----------------

ขอรับคุณน้องมารน้อย
ขอโทษทุกๆท่าน ขอรับ เพลิดเพลินไปหน่อยทั้งมันส์ทั้งฮาขอรับ
ขออนุญาต วิเคราะห์นิดหน่อย นะขอรับ

ทั้งหมดของคุณสุชัม คือตถตาของกระบวนการคือปล่อยตัวไปตามกระบวนการคลายกำหนัด โดยเห็นกระบวนการแล้วจึงปล่อยวางปล่อยกระบวนการให้เป็นไปตามธรรมชาติ
แต่แท้จริง กระบวนการคลายกำหนัดนี้ยังไม่ถึงจุดย่อยสลาย ที่แท้จริงดังนั้น ตัวเองก็ยังไม่ได้ย่อยสลายไปเพราะยังไม่ถึงจุดย่อยสลายของกระบวนการนั้น อย่างแท้จริง
จึงเพียงเห็นตถตา ของกระบวนการ
เมื่อยังไม่ถึงจุดย่อยสลายก็ไม่ได้เห็นกระบวนการเป็นตถตา

มายาของกระบวนการคลายกำหนัดจึงยัง ไม่ย่อยสลายเพียงแต่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก
และเมื่อยังไม่เห็นถึงจิตหนึ่ง จึงไม่มีคำพูดใดๆที่แสดงความหมายของจิตหนึ่งเลย แม้แต่ประโยคเดียว
เหตุผลฟังแล้วก็ดีแต่ ยังไม่เข้าถึงความเป็นเซนขอรับ

(ขาจรจัด)

------------------------

เป็นเช่นนั้นค่ะ

(น้องมารน้อย)
#67 / น.5

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

พระพุทธองค์ก็ตรัสรู้ธรรมสูงสุดแต่ท่านก็กล่าวธรรมได้ทุกระดับ
ทำไมไม่ลองไปจับผิดพระพุทธองค์ดูบ้าง
*สมมุติว่า"พระพุทธองค์ตรัสว่า
...พวกสัญชัยเป็นมิจฉาทิฐิ เพราะเห็นว่าโลกนี้ขาดสูญ....

*พวกคุณก็คงไปตำหนิพระพุทธองค์อีกว่า ตถาคตยังไม่ถึงจิตหนึ่งเพราะพูดแต่เรื่องอัตตา ว่ามีเขามีเรา เขาเป็นมิจฉาทิฐิ
*ไม่มีอะไรกับอะไรในตัวมันเองอยู่แล้ว
*จิตหนึ่งแบบ"ศรีธนัญชัย"
*ลอง test ทีไร จิตหนึ่ง"กระเพื่อม"ทุกเที่ยว ผมว่า"จิตมืด"มากกว่า

(สุชัมบดี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

พระพุทธองค์ก็ตรัสรู้ธรรมสูงสุดแต่ท่านก็กล่าวธรรมได้ทุกระดับ
ทำไมไม่ลองไปจับผิดพระพุทธองค์ดูบ้าง

///// อ้าว พระพุทธองค์บอกว่า ตถาคตไม่ได้ลุอะไรเลย ไม่มีอะไรต้องลุถึง

*สมมุติว่า"พระพุทธองค์ตรัสว่า
...พวกสัญชัยเป็นมิจฉาทิฐิ เพราะเห็นว่าโลกนี้ขาดสูญ....
*พวกคุณก็คงไปตำหนิพระพุทธองค์อีกว่า ตถาคตยังไม่ถึงจิตหนึ่งเพราะพูดแต่เรื่องอัตตา ว่ามีเขามีเรา เขาเป็นมิจฉาทิฐิ
*ไม่มีอะไรกับอะไรในตัวมันเองอยู่แล้ว

///// ยังจะสมมุติเป็นอะไรอีกล่ะค๊ะ แล้วเมื่อไรจะเป็นปรมัตถ์สักที

*จิตหนึ่งแบบ"ศรีธนัญชัย"

//// อ้าวมีจิตหนึ่งแบบใหนอีกล่ะค๊ะ

*ลอง test ทีไร จิตหนึ่ง"กระเพื่อม"ทุกเที่ยว ผมว่า"จิตมืด"มากกว่า

///// จิตหนึ่งแบบกะเพื่อมมีด้วยเหรอค่ะ
//// แบบมืด ก็มีด้วยเหรอค่ะ

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ธรรมชาติแห่งสมมุติ ในปรมัตถ์

ธรรมชาติแห่งสมมุติ ทั้งหลายก่อเกิดมาด้วย ความสมบูรณ์พร้อม บริสุทธิ์และยุติธรรมเสมอสำหรับทุกคน ไม่มีธรรมชาติใดที่ด้อยไม่มีธรรมชาติใดที่เลิศ เป็นความสมบูรณ์บริบูรณ์ที่สุดหมดจดทุกอนูอยู่แล้ว ไม่มีทั้งสวยงาม ไม่มีทั้งทรุดโทรม

ทุกคนได้รับความบริสุทธ์และยุติธรรม สมบูรณ์พร้อมที่สุดอยู่แล้ว

คุณสุชัมบดี และทุกๆคน รวมทั้งสรรพสัตว์ทั้งหมด สิ่งมีชีวิตทั้งหมดหาได้มีข้อด้อยใดๆ ในทุกๆชีวิต ทุกๆลมหายใจและทุกๆขณะจิตไม่มีสิ่งใดที่ด้อย หรือสิ่งใดเลอเลิศเลยแม้แต่น้อยแต่เพียบพร้อมบริสุทธิ์และยุติธรรม อย่างที่สุดแล้ว

จงละ ทิ้งความคิดและความรู้สึกสมมุติเก่าๆที่ครอบงำออกไปเสียเถอะ นี่คือ ปรมัตถ์ล้วนๆ
จงเอาใส่เข้าไปแทนที่ความคิดปรุงแต่งเดิมๆ ที่ทำให้จมอยู่กับห้วงทุกข์มานานแสนนาน

ถ้าเห็นและเข้าใจธรรมชาติแห่งสมมุตินี้ ตามปรมัตถ์นี้ได้จริง จะเพิกถอนอย่างถึงโคน จนแทบจะไม่เหลืออะไรเลยอย่างรวดเร็ว

ทั้งธรรมชาติแห่งสมมุติ ทั้งหลายทั้งปวง ธรรมชาติของกาย ธรรมชาติของจิต ล้วนบริสุทธิ์หมดจดทั้งหมด ไร้ตำหนิโดยสิ้นเชิง

แต่เพราะความสำคัญมั่นหมายปรุงแต่งต่างหาก ที่ทำให้ธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์สมบูรณ์พร้อมต้องเสียรูปไป
ธรรมชาติใดๆก็ดี ในสมมุติทั้งหลาย บริสุทธิ์หมดจด ไม่ต่างกับธรรมชาติแห่งพุทธะเลย

โลกธาตูทั้งหลายทั้งปวง พุทธเกษตรทั่วทุกโลกธาตุ ต่างบริสุทธ์ผุดผ่อง ไม่ต่างกันเลยแม้แต่โลกธาตุเดียว
ความบริสุทธิ์ผุดผ่องหมดจดนี้ เป็นเช่นเดียวกันกับพุทธะ ไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย
พุทธะจึงไม่มีรอยด่างพร้อยของสมมุติใดๆ แม้แต่นิดเดียว บริสุทธ์เช่นเดียวกันจนไม่อาจแยกความแตกต่างใด้เลยแม้แต่น้อย

**นี่ไม่ได้บรรยายถึงพุทธะ แต่บรรยายถึงธรรมชาติแห่งสมมุติทั่วๆไป อย่างปรมัตถ์
จากการเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของทุกสิ่งทั้งปวง ในสมมุติ ไม่ต่างกับพุทธะ เท่านั้นเอง

เมื่อเพิกถอนทุกสิ่งได้ ก็จะเห้น และสัมผัสได้เอง ว่า โลกธาตุและธรรมชาติแห่งสมมุตินั้นงดงามและบริสุทธิ์ไม่ต่างกันกับธรรมชาติแห่งพุทธะตามที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายได้เคยบรรยายธรรมชาติแห่งพุทธะให้ฟัง ****

...

“ โลกิยะ โลกุตตระ ชื่อว่าเป็นธรรมคู่ เนื้อแท้โลกิยะธรรมเป็นสุญญตาเป็นอันเดียวกับโลกุตระ ฉะนั้นจึงไม่มีการเข้าสู่โลกิยะฤาการออกไปจากโลกิยะไม่มีความไหลเอ่อล้นฤาความฟุ้งซ่าน จึงชื่อว่าเข้าสู่อไทฺวตธรรมทวาร “

ถ้าคอเซนที่แท้จริงจะรู้จักพระคาถาบทนี้

ความเป็นเนื้อเดียวกันของสมมุติ และปรมัตถ์
ความเป็นเนื้อเดียวของ โลกียะ และ โลกุตระ
ที่ไม่เคยมีแม้แต่โพสต์เดียวในห้องเซน ที่จะอธิบายได้เช่นนี้
สาธุๆๆ ขอรับ

(ขาจรจัด)