ผู้เขียน หัวข้อ: "ยักคิ้วกระพริบตา" ฮานะ เอามาฝากจาก อกาลิโกดอทคอม ขะ  (อ่าน 25471 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ช้าก่อนค่ะคุณหนูไม่มี
ช้าก่อนค่ะคุณขาจรจัดและ ทุกๆท่าน

ความเห็นทั้งหมดถูกปรับเข้าทางแล้ว
แต่

อย่าเพื่งด่วนสรุปนะค่ะ
สรุป เมื่อใดก็จะหลงไปกับจิตสรุปทันที
อาจดูละเอียด อ่อน กว่าจิตปรุงแต่งอย่างอื่น
แต่ความเป็นจริง ทั้งแข็งทั้งหิน ยิ่งกว่าภูผาใดๆ

จิตปรุงแต่งอันละเอียดจะเกิดขึ้น จากการสรุป มีรากฐานจากการเห็นถูกพอใจ ถูกทางมั่นใจ จึงฟันธง
เป็นความมั่นใจเป็นจิตปรุงแต่งที่ ที่อันตรายที่สุด จึงหาคนที่จะผ่านจุดนี้ไปได้ยาก

และความคิดปรุงแต่ง ที่ทำให้เกิดทุกข์ จะเห็นได้ขัดกว่า ความคิดปรุงแต่งที่ทำให้เกิดสุข
แต่ทั้งสองอย่างคือความคิดปรุงแต่งทั้งคู่
มีรากฐาน มาจากความพอใจ และ ไม่พอใจ
เซนเรียกว่า แรงดึงดูดให้ชอบ และแรงผลักดันให้ชัง

เมื่อความคิดปรุงแต่งทั้งสุข และทุกข์ เกิดขึ้น
เมื่อเห็นได้ เข้าใจ จึงไม่หลง การเกิด การดับ การเกิดใหม่

จิต จะเป็นอิสระจากแรงทั้งสอง ไม่ถูกดึงดูดให้ชอบไม่ถูกผลักดัน
เรียกว่าจิตเป็นอิสระ
แต่ยังไม่ใช่จิตหนึ่งค่ะ

ค้างใว้ก่อน ค่อยมาต่อนะค่ะ

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ค้างไปนาน มาต่ออีกนะค๊ะ

จิตที่เป็นอิสระจากแรงดึงดูด และผลักดัน ด้วยความรู้จักและ ไม่หลงในความคิดปรุงแต่ง
เรียกกันว่า เป้น ความปรีชาของจิตที่ ปกติ
เป็นความปกติธรรมดา ของจิต นั่นเอง
ความปรีชาของจิตเช่นนี้ จะมีสติ มีกำลังอย่างมาก ในตัวเอง

เพราะตัวตนอันทำให้เกิดความคิดปรุงแต่งเกิดดับต่อเนื่อง ถูกละต่อเนื่องไป ด้วยความปรีชาของจิตเอง
จิตจึง นิ่งเฉยอยู่ได้ ท่ามกลางแรง ทั้งสอง
จะไม่ถูกดึงดูดให้ชอบ ไม่ถูกผลักดันให้ชัง
เมื่อไม่หลง จึงเป็น สภาวะปกติ ของจิต เป็นความปรีชาของจิต ที่ อิสระจากแรงทั้งสอง
ความปรีชาอันปกตินี้ ที่แท้ก็ยังไมปกติถึงที่สุด ไม่บริบูรณ์ถึงที่สุด

แต่ยังมี แรงที่ละเอียดอ่อนที่สุด เห็นได้ยากกว่า เรียกว่าความพัวพัน
ความพัวพันนี้เอง ถูกหล่อหลอมละลายจนเป็นเนื้อเดียวกันกับจิต จนกลับกลายเป็นความมั่นใจ เป็นความรู้สึก ที่ยังรู้สึกสัมผัสได้ด้วยอายตนะ

จิตปกติ จึงมีความพัวพันอยู่แต่ในจิตเอง เป็นปกติที่พัวพันอยู่กับปกติ
ถึงแม้จะอิสระ เต็มที่ ปกติเต็มที่ แต่ไม่ถึงที่สุด
เพราะเป็นอิสระจิตในจิต ปกติจิตในจิต พัวพันอย่างแน่นแฟ้น ยังสัมผัสได้
จึงยังไม่บริบูรณ์

แต่เมื่อไร ทั้งอายตนะที่สัมผัส และความรู้สึกสัมผัสนี้ ไม่ก่อให้เกิดตัวตนใดๆ
ทั้งหมดจึงกลายเป็นความว่าง
ว่างทั้งอายตนะ ว่างทั้งความรู้สึก ว่างทั้งเขา เรา ว่างทั้งเกิดและดับ
จึงเข้าถึงสิ่งๆ นั้นโดยความไม่มีตัวตนและความพัวพัน ไม่มีแม้แต่บทสรุป แม้แต่ปรมาณูเดียว

ในความว่าง จึงไม่มีตัวตนแม้แต่ปรมาณูเดียว ค่ะ

ในหนึ่งปรมาณู มีคณาจารย์บางองค์กล่าวว่า มีเทวดาอยู่ได้ถึง 8 องค์

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

คุณ หนูไม่มี และคุณขาจรจัด ครับ

ผู้อยู่ในทางแห่งเซนมักถูกกล่าวหาเช่นนี้อยู่เสมอว่า
อะไร ๆ ก็ไม่มีเราไม่มีกรรมไม่มีนรกสวรรค์ก็ไม่มีชั่วยึดไม่ได้ดีก็ยึดไม่ได้
แล้วก็ตีความเอาเองด้วยความคิดของตนว่าเซนเป็นพวกไม่เคารพในคำสอนของพระพุทธองค์
เพราะปฏิเสธในพระปาฏิโมกข์ที่เป็นหัวใจในทางพระพุทธศาสนา
ที่ให้ละชั่วทำดีทำจิตใจให้บริสุทธิ์

บางครั้งถึงกับไปไกลขนาดบอกว่า ยังงั้น จะยิงกัน ฆ่ากันทำชั่วอย่างไรก็ได้ เพราะกรรมไม่มี เราไม่มี ก็ไม่ต้องมีใครไปรับกรรมซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นมุมมองของผู้ที่ยังไม่เข้าใจในเซนเพราะเซนเป็นเรื่องลึกซึ้งเกินกว่าที่จะมองด้วยมุมมองธรรมดา ๆ

ผู้ที่เข้าใจในเซน
แท้จริงแล้วเป็นผู้ที่เข้าใจโลก และเห็นว่าทุกชีวิตมีแต่ทุกข์
เหตุเพราะหลงติดอยู่ในความคิดปรุงแต่งจากจิตที่หลงผิด
จึงพยายามด้วยวิธีการต่าง ๆ อันเป็นกุศโลบายที่จะทำลายความหลงผิดนั้นออกไปจากจิตจากใจที่หลงผิดนั้น

ชาวเซนทั้งหลายมีหรือจะไปสร้างความทุกข์ให้กับชาวโลกเพิ่มขึ้นอีก
มีแต่จะช่วยชี้ทางให้กับเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ให้พ้นไปจากทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น
มีหรือผุ้ที่เข้าใจในเซน จะไปทำชั่วไปเบียดเบียนผู้อื่นให้ทุกข์เพิ่มขึ้น
ชาวเซนทั้งหลายมีแต่จะทำดีอย่างที่สุดเพื่อให้เพื่อนร่วมทุกข์เกิดความสุขแต่อย่างเดียว

และไม่หลงติดอยูในการทำดีนั้นด้วย
อันเป็นการปฏิบัติตามพระปาฏิโมกข์ของพระพุทธองค์
ที่ให้ละชั่วทำดีทำจิตใจให้บริสุทธ์ เป็นปกติอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องเราไม่มีกรรมไม่มี นรกสวรรค์ไม่มีอะไรนั้นต้องฟังและพิจราณาให้ดี ๆเมื่อเข้าถึงเซนแล้วก็จะรู้เองว่า
เซนเขาไม่ได้ปฏิเสธเรื่องเหล่านั้นเลย

เซนเขาไม่พูดไม่อธิบายมาก
เพราะเห็นว่ายิ่งพูด ยิ่งอธิบายยิ่งหลงติดไปในความคิดปรุงแต่ง ยิ่งออกจากทุกข์ได้ยาก
ที่พูดมานี่ก็รู้สึกมากเกินไปแล้วครับ คุณหนูไม่มี

ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกท่านครับ

(เม็ดทราย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

คุณ น้องมารน้อยครับ

เทวดา 8 พระองค์มาจาก
การยักคิ้วกระพริบตาใช่ไหม ? ครับ

ฝากกราบลาเทวดา 8 พระองค์ด้วยนะครับ

(เม็ดทราย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ขออภัยที่เข้าใจผิกค่ะพี่เม็ดทราย

ขอขอบพระคุณ และกราบอนุโมทนาสาธุกับ คุณน้องมารน้อย
กับธรรมทาน ที่ทำให้หนู อึ้ง ทึ่ง จริง ๆ

หนูเห็นเทวดา 8 องค์แล้ว ค่ะ
แต่ไม่ยักเห็นท่านยักคิ้วกระพริบตา เลยค่ะ

(หนูไม่มี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

อนุโมทนาในธรรมทานคุณน้องมารน้อยและ ทุกท่าน ขอรับ
อ่านแล้วอ่านอีกหลายตลบ กลับไปกลับมา
เรื่องเทวดา 8 พระองค์ในหนึ่งปรมาณู จำไม่ได้เหมือนกัน เคยอ่านผ่านๆรู้สึกว่าจะเป็นพระอาจารย์มั่น หรือหลวงปู่ดุลย์ เคยพูด ไม่แน่ใจสัญญาไม่ดีแล้วขอรับ

มันอึ้งเหมือนอย่างที่คุณหนูไม่มีพูดจริงๆขอรับ
ได้แต่ร้องโอโหทีเดียวแล้วพูดอะไรไม่ออก
มันเหมือนอาการต้องหุบปากเงียบ โดยไม่ต้องตั้งใจ ไม่ต้องบังคับ ให้มันหุบปากเงียบ
แต่ปากมันหุบของเขาเอง พูดอะไรไม่ออก โดนจริงๆทึ่งจริงๆ
เหมือนตะลึงในธรรม จนอ้าปากพูดอะไรไม่ออก ปากนี่หุบสนิทไปนานเลยขอรับ

ที่เซนว่า ถ้าเห็นแล้วคงต้องหุบปากเงียบผมว่าน่าจะเป้นอาการแบบนี้เองเริ่มเห้นแว๊ปๆแล้วขอรับ
ว่าที่หุบปากเงียบน่ะมันคนละแบบแตกต่างกับที่เคยเข้าใจอย่างมหาศาลเลยขอรับ
ตะลึงและทึ่งจน โพสต์อะไรไม่ออกเลยขอรับ

(ขาจรจัด)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

คุณเม็ดทรายขอรับ
ขออภัยเช่นกันขอรับ
ที่ผมว่าไม่ชัดเจน เรื่องนรกสวรรค์ เพราะอาจมีบางท่านเข้าใจเรื่องนี้ผิดไป ขอรับ
จะว่าไม่มีจริงจะพากันปฎิเสธ จะกลับไปเห็นขาดสูญ กันหมด
เพราะบางท่านยังไม่อาจเข้าใจเซน จะเข้าใจเซนผิดๆด้วยเหมือนที่คุณว่ามา ขอรับ

(ขาจรจัด)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

อนุโมทนาทุกท่านนะค๊ะ

คุณเม็ดทรายเจ้าค่ะ
หนู คงไปบอกเทวดาให้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ
หนูเป็นมาร ไม่ถูกกันเด๋ว โดนเทวดาอัด
คุณเม็ดทราย ไปลาเองนะค่ะ
เมล์ว ไป หรือ ผ่านไฮ 5 ก็ได้เจ้าค่ะ
อ้อ เทวดามาจากเทวะ บวก ธรรมดา เจ้าค่ะ

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

อนุโมทนาในธรรมทานคุณน้องมารน้อยและ ทุกท่าน ขอรับ
อ่านแล้วอ่านอีก หลายตลบ กลับไปกลับมา
เรื่องเทวดา 8 พระองค์ในหนึ่งปรมาณู จำไม่ได้เหมือนกัน เคยอ่านผ่านๆรู้สึกว่าจะเป็นพระอาจารย์มั่น หรือหลวงปู่ดุลย์ เคยพูด ไม่แน่ใจสัญญาไม่ดีแล้วขอรับ
มันอึ้งเหมือนอย่างที่คุณหนูไม่มีพูดจริงๆ ขอรับ
ได้แต่ร้องโอโหทีเดียว แล้วพูดอะไรไม่ออก
มันเหมือนอาการต้องหุบปากเงียบ โดยไม่ต้องตั้งใจ ไม่ต้องบังคับ ให้มันหุบปากเงียบ
แต่ปากมันหุบของเขาเอง พูดอะไรไม่ออก โดนจริงๆ ทึ่งจริงๆเหมือนตะลึงในธรรม จนอ้าปากพูดอะไรไม่ออก ปากนี่หุบสนิทไปนานเลยขอรับ
ที่เซนว่า ถ้าเห็นแล้วคงต้องหุบปากเงียบ ผมว่าน่าจะเป้นอาการแบบนี้เอง เริ่มเห้นแว๊ปๆแล้วขอรับ
ว่าที่หุบปากเงียบน่ะ มันคนละแบบ แตกต่างกับที่เคยเข้าใจอย่างมหาศาลเลยขอรับตะลึงและทึ่งจน โพสต์อะไรไม่ออกเลยขอรับ

(ขาจรจัด)

-------------------------------

โดนคาถานะจังงังหรือเปล่าเจ้าค่ะ
สงสัยโดนวิชามารจากหนูไปแล้วอิๆ

ใช่แล้ว หุบปากแบบเซน มันต่างกันกับหุบปากธรรมดาๆเป็นใหนๆ
บังคับบัญชาให้หุบไม่ได้ บังคับบัญชาให้เปิดไม่ได้
หุบทั้งปากทั้งใจ
จะรู้ด้วยใจเองแต่ไม่ต้องติดใจ

แบบแว๊บๆมันยังไม่สนิทค่ะ
แต่เริ่มมีประกายแว๊ปๆ เดี๋ยวเจอแก๊สก็ระเบิดเองตายสนิทอิๆ
ล้อเล่งน่า....
หุบสนิท

อนุโมทนาสาธุๆค่ะ

(น้องมารน้อย)


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

คุณเม็ดทรายเจ้าค่ะ
หนู คงไปบอกเทวดาให้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ
หนูเป็นมาร ไม่ถูกกันเด๋ว โดนเทวดาอัด
คุณเม็ดทราย ไปลาเองนะค่ะ
เมล์ว ไป หรือ ผ่านไฮ 5 ก็ได้เจ้าค่ะ
อ้อ เทวดามาจากเทวะ บวก ธรรมดา เจ้าค่ะ

(น้องมารน้อย)

..................................................................

หลงคิดต้องนาน
ที่แท้เทวดา มาจากคำพูดว่า
เทวะ + ธรรมดา
ตกลงเรื่องทั้งหมดนี่พูดเอาเองทั้งนั้นใช่ไหม จ้ะ ?

แล้วถ้าไม่พูดเลยจะมีอะไรเป็นอะไรไหมจ๊ะ ?

(ขาจร)