กรงขังแห่งวิญญาณณ ผืนแผ่นดินที่ฉันยืนอยู่นี้
เคยมีคนอื่นยืนมาแล้วในกาลแห่งอดีต
ภายใต้กรงทองที่ฉาบไล้ด้วยสีชมพู
ซึ่งกีดกันฉันจากฟ้ากว้างและทะเลใหญ่
ไม่ให้โผบินไปได้อย่างอิสระเสรี
แต่ก็ปรนเปรอให้ที่พักอันอบอุ่นและปลอดภัย
ได้ป้องปกฉันจากเหยี่ยวร้ายและลมพายุ
จากเปลวแดด สายฝน ลมหนาว และความหิวโหย
ณ ผืนแผ่นดินที่ฉันยืนอยู่นี้
เคยมีคนอื่นยืนมาแล้วในกาลแห่งอดีต
และบัดนี้คงถึงเวลาแล้วซินะ
ที่เจ้านกน้อยปีกแข็งจะได้จากกรงทองสีชมพู
สู่โลกกว้างอย่างเสรี
จากความสะดวกสบายที่เคยได้รับ
จากที่พักอันอบอุ่นและปลอดภัย
เพื่อเผชิญกับมรสุมในฟ้ากว้างและทะเลใหญ่
เผชิญกับเหยี่ยวร้ายและเหยื่อล่อของนายพราน
ถ้าเจ้านกน้อย
ไม่ได้หลงใหลอยู่กับความปรนเปรอในกรงทอง
แต่เฝ้าลับจงอยปากแห่งปัญญา และกรงเล็บแห่งสติให้คมกล้า
เฝ้าทะนุบำรุงปีกแห่งความมั่นคงให้แข็งแกร่ง
เพื่อรอคอยวันที่จะได้โผบินสู่ห้วงเวหา
ถลาร่อนเหนือพื้นพสุธา
เจ้านกน้อยก็คงรอดจากมรสุมอย่างปลอดภัย
และรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่จะได้รับ
คืออิสรภาพแห่งจิตวิญญาณอันไม่สิ้นสุด
ฉันเฝ้าดูนกน้อยปีกแข็งบินไป
ด้วยดวงใจอันเต็มเปี่ยมด้วยความหวัง
ว่าคงมีสักวันหนึ่ง
ซึ่งฉันจะสามารถหลุดพ้นจากกรงทองสีชมพู
โผบินขึ้นสู่ห้วงเวหาอย่างเสรี
ถลาร่อนเหนือฟากฟ้าปฐพีได้ดังใจหวัง
แต่ถ้าฉันยังหลงอาลัยอยู่กับกรงขังแคบๆ
ไม่ว่ากรงนั้นจะสร้างจาก ใยไหม ไม้ผุ เหล็กกล้า หรือทองคำ
จิตวิญญาณฉันนั้นก็คงจะถูกกักขังตลอดไป
จากกัลยาณมิตร(ส 11):http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=truthoflife&month=02-01-2011&group=7&gblog=33:http://agaligohome.com/index.php?topic=4901.msg13557;topicseen#msg13557อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ