แล้ววันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งในทางพระพุทธศาสนาเป็นวัน ’ออกพรรษา“ ก็เวียนมาถึงอีกครั้งในวันที่ 12 ต.ค. นี้ โดยวันออกพรรษาหรือวัน “ปวารณาออกพรรษา” เป็นหนึ่งในวันสำคัญทางพุทธศาสนา เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาจำพรรษา 3 เดือนของพระสงฆ์เถรวาท เป็นวันที่พระสงฆ์ทำสังฆกรรมปวารณาออกพรรษา ซึ่งนี่เป็นข้อปฏิบัติตามพระวินัยสำหรับพระสงฆ์โดยเฉพาะ แต่ออกพรรษาก็เกี่ยวข้องกับชาวพุทธทั่วไปด้วย...
ทั้งนี้ วันออกพรรษา พุทธศาสนิกชนแต่อดีตกาลจะเข้าวัดบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ และถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน หรือแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยก็นิยมทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่ เรียกว่า “ตักบาตรเทโว” หรือ “ตักบาตรเทโวโรหนะ” เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติ กล่าวคือ ในวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงจากเทวโลกกลับจากการโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์
นอกจากนี้ ช่วงเวลาหลังวันออกพรรษา ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ชาวพุทธยังถือเป็นเวลากฐินกาล หรือ “ทอดกฐิน” ตามพระวินัยปิฎกเถรวาท ก็เป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนจะร่วมบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานกฐินประจำปี ณ วัดต่าง ๆ โดยถือว่าเป็นงานบำเพ็ญกุศลที่ได้บุญกุศลมากงานหนึ่ง
ทว่าปีนี้...ก็อย่างที่เห็นและเป็นอยู่ น้ำท่วมใหญ่ในหลายสิบจังหวัด วัดวาอารามจมอยู่ใต้น้ำมากมาย พระสงฆ์องค์เจ้าเดือดร้อนจำนวนมาก คนไทยก็ทุกข์สาหัสกันกลาดเกลื่อน ซึ่งสภาพการณ์เป็นเช่นนี้...สำหรับชาวพุทธที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วม ควรทำบุญออกพรรษาแบบไหนจึงเหมาะสม???
กับปุจฉาข้อนี้ ทาง พระเทพวิสุทธิกวี เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย บอกว่า...เทศกาลวันออกพรรษาสิ่งที่พุทธศาสนิกชนพึงกระทำคือการทำบุญ-ตักบาตรเทโว แต่ในปีนี้เป็นกรณีพิเศษ
“ประชาชน และพระสงฆ์ ต่างประสบความเดือดร้อนจากน้ำท่วม จึงอยากจะขอเชิญชวนให้อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำบุญตักบาตรด้วยข้าวสารอาหารแห้งเพื่อรักษาประเพณีทางศาสนาให้คงอยู่ และนำเครื่องอุปโภคบริโภคออกมาช่วยกันบริจาคให้ผู้เดือดร้อน
อยากให้ทุกคนช่วยกันซับน้ำตา สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นขณะนี้นั้นหนักหนาสาหัสมาก ไม่มีอะไรดีไปกว่าการแบ่งปันน้ำใจซึ่งกันและกัน คนไทยเราอยู่รอดกันมาได้เพราะความมีน้ำใจ ความเอื้ออารี ช่วยเหลือกัน ทุกคนคือคนไทย พี่น้องกัน ใครมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยทรัพย์ ใครมีของก็ช่วยบริจาคของ ใครมีแรงก็ช่วยแรง...“ …พระเทพวิสุทธิกวี แนะเรื่อง ’การทำบุญในยุคน้ำท่วมใหญ่“
ด้าน พระพิศาลธรรมพาที หรือ พระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว บอกว่า...ปีนี้น้ำท่วมมาก ประชาชนและวัดเป็นจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ทางวัดสวนแก้วก็จะมอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวเกษตรกรชาวสวนชาวไร่ที่เดือดร้อนเพราะน้ำท่วมครอบครัวละ 10,000 บาท จำนวน 30 ครอบครัว โดยมีเงื่อนไขให้ส่งคนในครอบครัว 1 คนมาช่วยทำงานให้วัด ปลูกกล้วยปลูกผักปลูกหญ้า 1 เดือน มีที่อยู่ที่กินให้เรียบร้อย ซึ่งได้ไอเดียมาจากบริษัทซึ่งหยุดทำงานเพราะน้ำท่วม จึงส่งพนักงานมาช่วยทำงานให้วัดโดยจ่ายเงินเดือนให้ปกติ
“ออกพรรษานี้ อาตมาขอความร่วมมือวัดทุกวัดที่ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมช่วยบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งเพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่วนวัดที่ถูกน้ำท่วมก็ขอฝากประชาชนช่วยกันดูแล”
หลังออกพรรษาก็ถึงเทศกาลทอดกฐิน ปีนี้วัดถูกน้ำท่วมจำนวนมาก การทอดกฐินและทอดผ้าป่าของญาติโยมจึงถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวัดมาก ซึ่งอยากให้สำรวจความต้องการของวัด ต้องคุยกับทางวัดว่าต้องการอะไรเป็นพิเศษเพื่อจัดหาของที่ถูกกับความต้องการ ความจำเป็น กฐินที่ท่านทั้งหลายทำไปนั้นจะได้เกิดเป็นมหากุศลจริง ๆ เพราะนำไปช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และบำรุงศาสนาได้อย่างแท้จริง
พระพยอมกล่าวอีกว่า...สิ่งสำคัญในตอนนี้คือ ข้าวสาร อาหารแห้ง เชื่อว่าพระหลาย ๆ วัดคงไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ไปอีกระยะหนึ่ง ที่สำคัญชาวบ้านในพื้นที่ก็ยากลำบาก ขาดเสบียงอาหารไม่ต่างกัน เพราะหายไปกับน้ำหมดแล้ว ดังนั้นกฐินในปีนี้ญาติโยมต้องนึกไปถึงปีหน้าเลย กฐินที่ท่านทำจะได้เกิดประโยชน์กับพระและวัดจริง ๆ เรียกว่าเป็นคุณจริง ๆ การจะได้บุญได้กุศลอย่างแท้จริง ไม่ใช่เอะอะทำอะไรก็บอกว่านี่เป็นมหาบุญ มหาทาน แต่ทำไปโดยไม่คิดใคร่ครวญ ไม่รอบคอบ อย่างนี้ประโยชน์ก็ไม่เกิด
“พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า คนให้ทานเก่งใช่ว่าต้องสรรเสริญ แต่ควรสรรเสริญคนที่ทำทานโดยคิดใคร่ครวญดีแล้วเพราะจะเกิดประโยชน์แก่ผู้รับมากกว่า ฉะนั้น การทำบุญ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ในปีนี้ก็ต้องสำรวจความจำเป็นของวัด มิฉะนั้นก็จะเป็นแค่พิธีกรรมเท่านั้น ไม่สามารถช่วยรักษาพระพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบไป...” ...พระพยอมกล่าว พร้อมทั้งระบุด้วยว่า...วัดกับชาวบ้านต้องร่วมแรงร่วมใจ แบ่งปัน พึ่งพาช่วยเหลือกันและกันยามเดือดร้อน ก็จะเกิดความสามัคคีปรองดอง ได้พึ่งพาอาศัยในการทำสิ่งดีงามกันต่อไป
นี่ก็เป็นวิสัชนา ’ทำบุญทำกุศลเทศกาลออกพรรษา“ ปีนี้
ในยุคที่หันไปทางไหนก็เจอ ’น้ำท่วม...น้ำท่วม...น้ำท่วม“.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=23&contentID=168945