ผู้เขียน หัวข้อ: อาทิตตปริยายสูตร & คำแปล  (อ่าน 1858 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

mind

  • บุคคลทั่วไป
อาทิตตปริยายสูตร & คำแปล
« เมื่อ: มีนาคม 26, 2012, 04:13:32 pm »


               

                     อาทิตตปริยายสูตร

เอวัมเม สุตัง, ข้าพเจ้า (คือพระอานนท์เถระ) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้,
เอกัง สะมะยัง ภะคะวา, คะยายัง วิหะระติ คะยาสีเส, สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า, เสด็จประทับอยู่ที่ตำบลคยาสีสะ ใกล้แม่น้ำคะยา,
สัทธิง ภิกขุ สะหัสเสนะ, พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ๑,๐๐๐ รูป(ผู้เคยเป็นชฎิลมาก่อน),
ตัตตระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ, ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเตือนพระภิกษุทั้งหลาย, ให้ตั้งใจสดับพุทธภาษิตนี้ว่า,

สัพพัง ภิกขะเว อาทิตตัง, ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย, สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน,
กิญจะ ภิกขะเว สังพัง อาทิตตัง, ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย, ก็อะไรเล่าชื่อว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของร้อน,

จักขุง ภิกขะเว อาทิตตัง, ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย, จักษุ (คือตา) เป็นของร้อน,
รูปา อาทิตตา, รูปทั้งหลายเป็นของร้อน,
จักขุวิญญาณัง อาทิตตัง, จักขุวิญญาณ คือ ความรู้อารมณ์ทางตาเป็นของร้อน,
จักขุสัมผัสโส อาทิตโต, จักขุสัมผัส คือ สัมผัสทางตาเป็นของร้อน,
ยัมปิทัง จักขุสัมผัสสะ ปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยจักขุสัมผัส, คือสัมผัสทางตา เป็นปัจจัย แม้อันใด,

สุขัง วา ทุกขัง วา อะทุกขะมะสุขังวา, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี,
ตัมปิ อาทิตตัง, แม้อันนั้นก็เป็นของร้อน, เกนะ อาทิตตัง, ร้อนเพราะอะไร,
อาทิตตัง ราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา, ร้อนเพราะไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ,
อาทิตตัง ชาติยา ชะรามะระเณนะ, ร้อนเพราะความเกิด ความแก่ และความตาย,
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ, ร้อนเพราะความโศก ความร่ำไรรำพัน,
ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ, ความคับแค้นใจทั้งหลาย,
                               อาทิตตันติ วะทามิ, เราจึงกล่าวว่านี้เป็นของร้อน

โสตัง อาทิตตัง, โสตะ คือหูเป็นของร้อน, สัททา อาทิตตา, เสียงทั้งหลายเป็นของร้อน,
โสตะวิญญาณัง อาทิตตัง, โสตวิญญาณ คือความรู้อารมณ์ทางหูเป็นของร้อน,
โสตะสัมผัสโส อาทิตโต, โสตสัมผัส คือสัมผัสทางหูเป็นของร้อน,
ยัมปิทัง โสตะสัมผัสสะ ปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยโสตสัมผัส, คือสัมผัสทางหู เป็นปัจจัย แม้อันใด,

สุขัง วา ทุกขัง วา อะทุกขะมะสุขังวา, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี,
ตัมปิ อาทิตตัง, แม้อันนั้นก็เป็นของร้อน, เกนะ อาทิตตัง, ร้อนเพราะอะไร,
อาทิตตัง ราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา, ร้อนเพราะไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ,
อาทิตตัง ชาติยา ชะรามะระเณนะ, ร้อนเพราะความเกิด ความแก่ และความตาย,
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ, ร้อนเพราะความโศก ความร่ำไรรำพัน,
ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ, ความคับแค้นใจทั้งหลาย,
                              อาทิตตันติ วะทามิ, เราจึงกล่าวว่านี้เป็นของร้อน

ฆานัง อาทิตตัง, ฆานะ คือจมูกเป็นของร้อน, คัณธา อาทิตตา, กลิ่นทั้งหลายเป็นของร้อน,
ฆานะวิญญาณัง อาทิตตัง, ฆานวิญญาณ คือ ความรู้อารมณ์ทางจมูกเป็นของร้อน,
ฆานะสัมผัสโส อาทิตโต, ฆานสัมผัส คือสัมผัสทางจมูกเป็นของร้อน,
ยัมปิทัง ฆานะสัมผัสสะ ปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยฆานสัมผัส, คือสัมผัสทางจมูกเป็นปัจจัย แม้อันใด,
สุขัง วา ทุกขัง วา อะทุกขะมะสุขังวา, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี,
ตัมปิ อาทิตตัง, แม้อันนั้นก็เป็นของร้อน, เกนะ อาทิตตัง, ร้อนเพราะอะไร,

อาทิตตัง ราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา, ร้อนเพราะไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ,
อาทิตตัง ชาติยา ชะรามะระเณนะ, ร้อนเพราะความเกิด ความแก่ และความตาย,
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ, ร้อนเพราะความโศก ความร่ำไรรำพัน,
ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ, ความคับแค้นใจทั้งหลาย,
                               อาทิตตันติ วะทามิ, เราจึงกล่าวว่านี้เป็นของร้อน

ชิวหา อาทิตตา, ชิวหา (คือลิ้น) เป็นของร้อน, ระสา อาทิตตา, รสทั้งหลายเป็นของร้อน,
ชิวหาวิญญาณัง อาทิตตัง, ชิวหาวิญญาณ คือความรู้สึกเสวยอารมณ์ทางลิ้นเป็นของร้อน,
ชิวหาสัมผัสโส อาทิตโต, ชิวหาสัมผัส คือสัมผัสทางลิ้นเป็นของร้อน,
ยัมปิทัง ชิวหาสัมผัสสะ ปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยชิวหาสัมผัส, คือสัมผัสทางลิ้นเป็นปัจจัย แม้อันใด,

สุขัง วา ทุกขัง วา อะทุกขะมะสุขังวา, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี,
ตัมปิ อาทิตตัง, แม้อันนั้นก็เป็นของร้อน, เกนะ อาทิตตัง, ร้อนเพราะอะไร,
อาทิตตัง ราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา, ร้อนเพราะไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ,
อาทิตตัง ชาติยา ชะรามะระเณนะ, ร้อนเพราะความเกิด ความแก่ และความตาย,
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ, ร้อนเพราะความโศก ความร่ำไรรำพัน,
ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ, ความคับแค้นใจทั้งหลาย,
                               อาทิตตันติ วะทามิ, เราจึงกล่าวว่านี้เป็นของร้อน

กาโย อาทิตโต, กายเป็นของร้อน, โผฏฐัพพา อาทิตตา, โผฏฐัพพะ (คือสิ่งที่ถูกต้องทางกาย) เป็นของร้อน,
กายะวิญญาณัง อาทิตตัง, กายวิญญาณ คือความรู้อารมณ์ทางกายเป็นของร้อน,
กายะสัมผัสโส อาทิตโต, กายสัมผัส คือสัมผัสทางกายเป็นของร้อน,
ยัมปิทัง กายะสัมผัสสะ ปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยกายสัมผัส, คือสัมผัสทางกายเป็นปัจจัย แม้อันใด,

สุขัง วา ทุกขัง วา อะทุกขะมะสุขังวา, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี,
ตัมปิ อาทิตตัง, แม้อันนั้นก็เป็นของร้อน, เกนะ อาทิตตัง, ร้อนเพราะอะไร,
อาทิตตัง ราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา, ร้อนเพราะไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ,
อาทิตตัง ชาติยา ชะรามะระเณนะ, ร้อนเพราะความเกิด ความแก่ และความตาย,
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ, ร้อนเพราะความโศก ความร่ำไรรำพัน,
ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ, ความคับแค้นใจทั้งหลาย,
                               อาทิตตันติ วะทามิ, เราจึงกล่าวว่านี้เป็นของร้อน

มะโน อาทิตโต, มนะ (คือใจ) เป็นของร้อน,
ธัมมา อาทิตตา, ธรรมทั้งหลาย (คืออารมณ์ที่เกิดแก่ใจ) เป็นของร้อน,
มะโนวิญญาณัง อาทิตตัง, มโนวิญญาณ คือความรู้อารมณ์ทางใจ เป็นของร้อน,
มะโนสัมผัสโส อาทิตโต, มโนสัมผัส คือสัมผัสทางใจเป็นของร้อน,
ยัมปิทัง มะโนสัมผัสสะ ปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยมโนสัมผัส, คือสัมผัสทางใจเป็นปัจจัย แม้อันใด,

สุขัง วา ทุกขัง วา อะทุกขะมะสุขังวา, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี,
ตัมปิ อาทิตตัง, แม้อันนั้นก็เป็นของร้อน, เกนะ อาทิตตัง, ร้อนเพราะอะไร,
อาทิตตัง ราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา, ร้อนเพราะไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ,
อาทิตตัง ชาติยา ชะรามะระเณนะ, ร้อนเพราะความเกิด ความแก่ และความตาย,
โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปายาเสหิ, ร้อนเพราะความโศก ความร่ำไรรำพัน,
ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ, ความคับแค้นใจทั้งหลาย,
                               อาทิตตันติ วะทามิ, เราจึงกล่าวว่านี้เป็นของร้อน

เอวัง ปัสสัง ภิกขะเว สุตตะวา อะริยะสาวะโก, ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย, อริยสาวกผู้ได้สดับมาแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้,
จักขุสสะมิงปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในจักษุคือตา,
รูเปสุปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในรูปทั้งหลาย,
จักขุวิญญาเณปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในจักขุวิญญาณ คือความรู้อารมณ์ทางตา,
จักขุสัมผัสเสปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในจักขุสัมผัส, คือสัมผัสทางตา,
ยัมปิทัง จักขุสัมผัสสะปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยจักขุสัมผัส, คือสัมผัสทางตาเป็นปัจจัย แม้อันใด,
สุขัง วา ทุกขัง วา อะทุกขะมะสุขังวา ตัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี,
ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา, คือความรู้สึกเสวยอารมณ์นั้น,

โสตัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในโสตะ (คือหู),
สัทเทสุปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในเสียงทั้งหลาย,
โสตะวิญญาเณปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในโสตวิญญาณ, คือความรู้อารมณ์หู,
โสตะสัมผัสเสปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในโสตสัมผัส, คือสัมผัสทางหู,
ยัมปิทัง โสตะสัมผัสสะปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยโสตสัมผัส, คือสัมผัสทางหูเป็นปัจจัย แม้อันใด,
สุขัง วา ทุกขัง วา, อะทุกขะมะสุขัง วา ตัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี
หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา, คือความรู้สึกเสวยอารมณ์นั้น,

ฆานัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในฆานะ (คือจมูก) ,
คันเธสุปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในกลิ่นทั้งหลาย,
ฆานะวิญญาเณปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในฆานะวิญญาณ, คือความรู้อารมณ์ทางจมูก,
ฆานะสัมผัสเสปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในฆานะสัมผัส, คือสัมผัสทางจมูก,
ยัมปิทัง ฆานะสัมผัสสะปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยฆานสัมผัส, คือสัมผัสทางจมูกเป็นปัจจัย แม้อันใด,
สุขัง วา ทุกขัง วา, อะทุกขะมะสุขัง วา ตัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี
หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา, คือความรู้สึกเสวยอารมณ์นั้น,

ชิวหายะปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในชิวหา (คือลิ้น),
ระเสสุปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในรสทั้งหลาย,
ชิวหาวิญญาเณปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในชิวหาวิญญาณ, คือความรู้อารมณ์ทางลิ้น,
ชิวหาสัมผัสเสปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในชิวหาสัมผัส, คือสัมผัสทางลิ้น,
ยัมปิทัง ชิวหาสัมผัสสะปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยชิวหาสัมผัส, คือสัมผัสทางลิ้นเป็นปัจจัย แม้อันใด,
สุขัง วา ทุกขัง วา, อะทุกขะมะสุขัง วา ตัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี
หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา, คือความรู้สึกเสวยอารมณ์นั้น,

กายัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในกาย,
โผฏฐัพเพสุปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในโผฏฐัพพะ, คือสิ่งที่ถูกต้องทางกายทั้งหลาย,
กายะวิญญาเณปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในกายวิญญาณ, คือความรู้อารมณ์ทางกาย,
กายะสัมผัสเสปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในกายสัมผัส, คือสัมผัสทางกาย,
ยัมปิทัง กายะสัมผัสสะปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยกายสัมผัส, คือสัมผัสทางกายเป็นปัจจัย แม้อันใด,
สุขัง วา ทุกขัง วา, อะทุกขะมะสุขัง วา ตัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี
หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา, คือความรู้สึกเสวยอารมณ์นั้น,

มะนัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในมนะ (คือใจ),
ธัมเมสุปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในธรรมทั้งหลาย,
มะโนวิญญาเณปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในมโนวิญญาณ, คือความรู้อารมณ์ทางใจ,
มะโนสัมผัสเสปิ นิพพินทะติ, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในมโนสัมผัส, คือสัมผัสทางใจ,
ยัมปิทัง มะโนสัมผัสสะปัจจะยา อุปปัชชะติ เวทะยิตัง, เวทนาคือ ความรู้สึกเสวยอารมณ์นี้,
เกิดขึ้นเพราะอาศัยมโนสัมผัส, คือสัมผัสทางใจเป็นปัจจัย แม้อันใด,
สุขัง วา ทุกขัง วา, อะทุกขะมะสุขัง วา ตัสสะมิงปิ นิพพินทะติ, เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี
หรือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุขก็ดี, ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา, คือความรู้สึกเสวยอารมณ์นั้น,

นิพพินทัง วิรัชชะติ, เมื่อเบื่อหน่ายย่อมสิ้นกำหนัด, วิราคา วิมุจจะติ, เพราะสิ้นกำหนัด จิตก็หลุดพ้น,
วิมุตตัสสะมิง วิมุตตะมิติ ญานัง โหติ, เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็รู้ว่าหลุดพ้นแล้ว,
ขีณา ชาติ วุสิตัง พรัหมะจะริยัง, อริยสาวกนั้น ย่อมทราบชัดว่า สิ้นชาติแล้ว, พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว,
กะตัง กะระณียัง นาปะรัง อิตถัตตายาติ ปะชานาตีติ, กิจที่ควรทำได้
ทำสำเร็จแล้ว, กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี,

อิทะมะโวจะ ภะคะวา, พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสธรรมปริยายอันนี้แล้ว,
อัตตะมะนา เต ภิกขู ภะคะวะโต ภาสิตัง อะภินันทุง, พระภิกษุเหล่านั้น, ก็มีใจยินดีเพลินในภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า,
อิมัสสะมิญจะ ปะนะ เวยยา กะระณัสสะมิง ภัญญะมาเน, ก็แลเมื่อไวยกรณ์ภาษิต, อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอยู่,
ตัสสะ ภิกขุสะหัสสัสสะ อนุปาทายะ, อาสะเวหิ จิตตานิ วิมุจจิงสูติ, จิตของพระภิกษุ ๑,๐๐๐ รูปนั้น,
ก็พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย, เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่นด้วยอุปาทาน, ดังนี้แล.

--------------------------------------------

คัดลอกและเรียบเรียงจาก หนังสือคู่มือพุทธบริษัท ฉบับสมบูรณ์
สำนักพิมพ์ธรรมสภา
หนังสือสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

 :07:  -www.bloggang.com/viewblog.php?id=visutthisiri&date=05-10-2009&group=2&gblog=3


อาทิตตปริยายสูตร
อาทิตตปริยายสูตร
ชื่อพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุประมาณ ๑ , ๐๐๐ รูป มีอุรุเวลกัสสป เป็นต้น
ซึ่งเคย เป็นชฎิลบูชาไฟมาก่อน
ว่าด้วยอายตนะทั้ง ๖ ที่ร้อนติดไฟลุกทั่ว ด้วยไฟราคะ ไฟโทสะ และไฟโมหะ
ตลอดจนร้อน ด้วยทุกข์ มีชาติ ชรา มรณะ เป็นต้น ทำให้ภิกษุเหล่านั้นบรรลุอรหัตตผล

(คัมภีร์มหาวรรค แห่งพระวินัยปิฎก และ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค พระสุตตันตปิฎก)
(ข้อมูลจาก : -www.palungjit.com/dict/406315)   :45:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2012, 07:46:51 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: อาทิตตปริยายสูตร & คำแปล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 26, 2012, 10:52:44 pm »
อนุโมทนาครับ :13:
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~