ผู้เขียน หัวข้อ: เทคนิคง่าย ๆ ในการน้อมรับคำวิจารณ์โดยไม่ให้รู้สึกโกรธ  (อ่าน 1190 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เทคนิคง่าย ๆ ในการน้อมรับคำวิจารณ์โดยไม่ให้รู้สึกโกรธ

-http://men.kapook.com/view43675.html-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          การใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบัน ชีวิตของทุก ๆ คนย่อมหนีไม่พ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้างอย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องของอาชีพการงานและวิถีการดำเนินชีวิตของตัวเอง ซึ่งแน่นอนล่ะว่าหากยอมรับคำวิจารณ์เหล่านั้นได้ ก็อาจส่งผลดีในด้านการพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ดีขึ้น ทว่าบ่อยครั้งที่ถ้อยคำวิพากษ์วิจารณ์ กลับทำลายความรู้สึกและริดรอนความเชื่อมั่นของผู้ฟังไปอย่างง่ายดาย ดังนั้น เราจึงได้นำเทคนิคเตรียมรับมือในการฟังคำวิจารณ์มาแนะนำให้ได้ทราบกัน

ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง

          นิสัยโดยธรรมชาติของคนเรา ส่วนใหญ่แล้วเมื่อได้ยินคำวิจารณ์ในเชิงลบมา มักเกิดอารมณ์โมโหขึ้นมาทันที เพราะคุณเชื่อว่าตัวเองไม่ได้เป็นอย่างที่พูด อีกทั้งยังอาจตอบโต้ผู้วิจารณ์กลับไปด้วยถ้อยคำที่รุนแรง โดยขาดความยั้งคิดก่อน ทางที่ดีคุณลองพยายามตั้งสติและใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งเดือดดาลจนเกินไป แล้วลองพิจารณาสิ่งที่ผู้วิจารณ์พูดให้ดีเสียก่อน จากนั้นคุณจะเริ่มเข้าใจความหมาย รวมทั้งจุดประสงค์ที่แท้จริงของคำพูดเหล่านั้น เพราะบางครั้งผู้วิจารณ์อาจต้องการติเพื่อก่อประโยชน์มากกว่า ไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัวแต่อย่างใด

หัดคิดบวกบ้าง

          คุณไม่จำเป็นต้องแสดงปฎิกิริยาในเชิงลบออกมาทุกครั้งที่ได้ยินคำวิจารณ์จากคนรอบข้าง อันที่จริงแล้วคุณต้องขอบคุณคนเหล่านั้นด้วยซ้ำ ที่ทำให้ได้มองเห็นความผิดพลาดของตัวเองในมุมที่คุณไม่อาจมองเห็นได้ และลองคิดในอีกด้านหนึ่ง นักวิจารณ์ที่อยู่รอบตัวทั้งหลาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือแม้แต่เจ้านายของคุณ อาจต้องการเห็นคุณเปลี่ยนตัวเองให้ดีกว่าเดิมยังไงล่ะ อย่าได้คิดไปก่อนว่าพวกเขามองคุณในแง่ร้ายเสมอไป

พยายามพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม

          คำติติงต่าง ๆ ที่ได้รับมานั้น นอกจากจะช่วยให้คุณมองเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองแล้ว ยังเป็นแรงผลักดันที่ช่วยให้คุณนำไปปรับปรุง แก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ จากนั้นคุณก็จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น จนในที่สุดคุณก็กลายเป็นคนที่มีศักยภาพมากกว่าเดิม อย่างไรก็ดี อย่าใส่ใจกับคำวิจารณ์ที่ฟังดูไร้เหตุผล และใช้ถ้อยคำหยาบคายกับคุณให้มากนัก เพราะในบางครั้งผู้วิจารณ์อาจพูดไปด้วยความรู้สึกส่วนตัว ไม่ใช่ความจริงที่ปรากฏแต่อย่างใด

เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากคำวิพากษ์วิจารณ์

          หลายครั้งที่ทุกคำวิจารณ์ที่ได้ยินมา ถึงแม้ว่ามันจะฟังแล้วทำให้คุณรู้สึกเจ็บจี๊ด เสียดแทงสักแค่ไหน แต่คำพูดเหล่านั้นก็เปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติมในชีวิต เนื่องจากคำวิจารณ์จะช่วยให้คุณหันมาวิเคราะห์ถึงการกระทำของตัวเอง รวมทั้งมองหาข้อผิดพลาด และทำให้คุณมีโอกาสที่จะแก้ไขมัน จนท้ายที่สุดสิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับการวิจารณ์มา จะกลายเป็นบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับคุณเอง

อย่าเจ้าคิดเจ้าแค้นกับผู้วิจารณ์

          โอเคล่ะ มันก็เข้าใจได้อยู่หรอกว่าคำวิพากษ์วิจารณ์อันดุเด็ดเผ็ดร้อน บางทีก็ทำให้เกิดบันดาลโทสะ และสร้างความเคียดแค้นให้กับคุณได้อยู่เหมือนกัน แต่การยึดติดอยู่กับความรู้สึกโมโหนั้น กลับทำให้คุณดูมีนิสัยเด็ก ๆ ที่ไม่สามารถปล่อยวางหรือละทิ้งความรู้สึกแย่ ๆ ออกไปได้ หากไม่ได้ตอกหน้าผู้วิจารณ์กลับไป ทางที่ดีควรปฏิบัติตัวอย่างเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะมากพอที่จะน้อมรับคำวิจารณ์ด้วยความเต็มใจ แล้วเมื่อไหร่ที่ต้องเจอกับคำวิจารณ์ที่ไร้เหตุผล คุณจงหัวเราะกับมันได้เต็มที่ โดยไม่มีรู้สึกโกรธเคืองกับคำพูดเหล่านั้นแต่อย่างใด

          เห็นไหมครับว่า หากเราพยายามปรับทัศนะคติ จูนความคิด และทำความเข้าใจกับคำวิจารณ์ได้ ถ้อยคำเหล่านั้นก็กลายเป็นแค่เรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่งที่คนเราต้องเผชิญหน้ากันอยู่ในทุกวัน เพราะไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง โดยไม่เคยทำเรื่องผิดพลาดมาก่อนหรอกนะ อยู่ที่ว่าเราจะยอมรับคำวิจารณ์ และนำมาพัฒนาตัวเองได้มากแค่ไหนต่างหาก


.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)