ผู้เขียน หัวข้อ: หลอดเลือดโป่งในสมองแตกมาเร็วแพทย์ช่วยได้  (อ่าน 1249 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด

หลอดเลือดโป่งในสมองแตกมาเร็วแพทย์ช่วยได้ - มองคุณภาพชีวิต

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2555 เวลา 00:03 น.

-http://www.dailynews.co.th/article/1490/137107-



หลอดเลือดโป่งพองในสมอง หมายถึงหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมอง โดยทั่วไปขนาดของเส้นเลือดในสมองก็เป็นปกติดีอยู่ ๆ มาวันใดวันหนึ่งเกิดค่อย ๆ โป่งพองขึ้น ใหญ่ขึ้น จนสุดท้ายแตกออกมา เป็นเรื่องฉุกเฉิน ซึ่งมีหลายเหตุการณ์ที่เป็นคล้ายแบบนี้ในชีวิตเรา อยู่ ๆ ดูเหมือนยังปกติดีอยู่  มากลับกลายมีอาการกะทันหันโดยคาดไม่ถึง ผู้ที่พบเห็นจะต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
 
ขอยกตัวอย่างโรคที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันสัก 2 เรื่อง เช่น นิ่วในถุงน้ำดี เป็นมานานปีก็ไม่มีอาการอะไร วันดีคืนดีก้อนนิ่วกลิ้งไปอุดท่อน้ำดี จะปวดมากถึงกับดิ้นไปดิ้นมาทีเดียว ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อแก้ไขต่อไป อีกโรคหนึ่งที่พบบ่อยเช่นกัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่เรียกว่า Stroke แบบไทย ๆ เรียกว่าเป็นลมไป ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด มีอัมพาตครึ่งซีกเกิดขึ้น เกิดจากหลอดเลือดในสมองตีบ แตกหรือถูกอุดตัน เป็นเรื่องฉุกเฉินเช่นกัน

หลอดเลือดในสมองโป่งพอง อาจเป็นผลมาแต่กำเนิด ที่ผนังหลอดเลือดบางขึ้นมา ตอนอายุยังน้อยก็ไม่มีอาการแสดงให้เห็น พออายุมากขึ้นราว 40-50 ปี เกิดมีความดันโลหิตสูงขึ้น หรือหลอดเลือดแข็งและมีตะกรันไปขวางเลือดเดินไม่สะดวก แรงดันสูงขึ้นทำให้ผนังหลอดเลือดที่บางนั้นโป่งพองขึ้นมา นานเข้าก็แตก เลือดไหลออกมาในสมอง ไปกดศูนย์ประสาทต่าง ๆ ทำให้มีอาการของร่างกายที่ศูนย์นั้นควบคุมอยู่

อาการที่พบ หากยังไม่แตกจะยังไม่มีอาการ ถ้ามีเพียงเลือดไหลซึมออกมา อาการเด่นชัดคือเรื่องปวดศีรษะ จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากก้อนแตก เลือดไหลซึมออกมามากขึ้น อาการก็จะเพิ่มมาก ตั้งแต่ปวดศีรษะ อาเจียน ลักษณะอาเจียนจะไม่เหมือนอาเจียนทั่วไป จะพุ่งออกไปไกล มีคอแข็ง ตาพร่าตามัว หนังตาตก ชัก สับสนไม่ค่อยรู้สึกตัว จนไม่รู้สึกตัวไปเลย

การวินิจฉัยโรค จากอาการดังกล่าว การทำเอกซเรย์แบบ MRI จะช่วยได้มาก

การรักษา แบบไม่ผ่าตัด (coiling) ได้แก่ ใช้สายสวนเข้าทางเส้นเลือดแดงที่ขาหนีบ ใส่เข้าไปจนถึงตำแหน่งหลอดเลือดโป่งพอง (Coiling) แล้วใส่ลวดที่เป็นแพลทินัมเข้าในก้อน จะทำให้เลือดที่ไหลออกมาในก้อนแข็งตัว อีกแบบหนึ่งคือผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ เข้าไปแก้ไขหลอดเลือดโป่งพองโดยหนีบรัดที่ขั้วหรือตัดออก

ในอดีตโรคนี้มักจะเสียชีวิตก่อนมารับการรักษา เนื่องจากใช้เวลาเดินทางมานาน เลือดออกในสมองมากจนไม่รู้สึกตัวและเสียชีวิต ปัจจุบันญาติมีความรู้เรื่องสุขภาพดีขึ้น รีบนำส่งโรงพยาบาลเร็วขึ้น ทำให้ทันต่อการรักษา มีโอกาสอยู่รอดเพิ่มขึ้นด้วย

คนไข้ นิตยา อายุ 49 ปี อยู่ ๆ ก็ปวดศีรษะทันที อาเจียนพุ่งออกมา และมีอาการเรื่องท้องเดินร่วมด้วย อยู่ รพ.เอกชน เรื่องท้องเดินหายแต่ปวดศีรษะไม่หาย ย้ายไปโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง จนแพทย์ตรวจพบว่าหลอดเลือดในสมองโป่งพองแตก จึงรีบส่งมา รพ.ราชวิถี ทันที

นพ.วิวัฒน์ จรัญเรืองธีรกุล ศัลยแพทย์ประสาท รพ.ราชวิถี กรมการแพทย์ ได้ลองให้การรักษาโดยใส่ขดลวดทางเส้นเลือดแดงที่บริเวณขาหนีบก่อน ดูแล้วไม่เหมาะจึงเปิดผ่าตัดที่ศีรษะ พบเป็นก้อนหลอดเลือดแดงโป่งพองประมาณครึ่ง ซม. ที่บริเวณฐานของสมอง เลือดยังซึมไหลอยู่ จึงได้ตัดออกเรียบร้อย หลังผ่าตัด 3 วัน คนไข้พูดคุยรู้เรื่องดี อาการปวดหัวที่ปวดมากนั้นหายไป อีกไม่กี่วันก็ได้กลับบ้าน ชีวิตเหมือนเกิดใหม่ ด้วยโรงพยาบาลที่ตรวจพบรีบส่งต่อเร็ว แพทย์ผู้รักษาก็เก่งและได้รีบให้การรักษาเร็วด้วย

นพ.วุฒิกิจ ธนะภูมิ ศัลยแพทย์ประสาท อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ ผู้มีประสบการณ์เรื่องนี้มามาก เล่าให้ฟังถึงความผิดปกติของผนังหลอดเลือดแดงในสมอง ว่าอาจเกิดจากความบกพร่องไม่แข็งแรงมาแต่กำเนิด เมื่ออายุมากขึ้นเริ่มบางมากขึ้น และจากแรงดันที่สูงขึ้นจากโรคความดันโลหิตสูงทำให้เกิดอาการโป่งแตกขึ้นมา การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ โรคความดันสูง หลอดเลือดตีบตันจากตะกอนไขมัน ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคนี้เพิ่มขึ้น แต่ก่อนคนไข้มาโรงพยาบาลช้า เครื่องมือวินิจฉัยโรคไม่ทันสมัย ทำให้การอยู่รอดไม่มากเหมือนปัจจุบัน

หลอดเลือดสมองโป่งพองแตก จะมีอาการปวดศีรษะ อาเจียน และค่อยเพิ่มมากขึ้น มากขึ้นจนถึงไม่รู้สึกตัว ปัจจุบันคนมีความรู้ขึ้น มาโรงพยาบาลเร็ว แพทย์มีประสบการณ์มากขึ้น และรีบรักษาทันที ทำให้โอกาสอยู่รอดมากขึ้นไปด้วย.

นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)