หลังฉันเสร็จแล้ว
หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้ถามพระอาคันตุกะที่มาขอจำวัดชั่วคราว ว่า หลวงตา บวชมากี่พรรษาแล้ว ?
หลวงตาตอบว่า ครั้งนี้เพิ่งสามพรรษาครับ
อ้าว ! แล้วครั้งก่อนเล่า กี่พรรษา ?
ห้าพรรษาครับ หลวงตาตอบ
แล้วก่อนหน้านั้นเล่า ทำอะไร? หลวงพ่อถาม
ก่อนหน้าก็ทุกข์สุขตามภาษาโลก ๆ ซิครับ หลวงพ่อ
วัดที่หลวงตาจำพรรษาที่แล้วมีพระกี่รูป ?
มีผมกับหลวงพ่อเจ้าอาวาสแค่สองรูปครับ
วัดที่อยู่เป็นยังไงบ้าง ?
ดีครับ ดีมาก ๆ เลยครับ หลวงพ่อท่านไม่เหมือนพระทั่วไป ถึงท่านจะอายุเกือบ 60 กว่า พรรษากว่า 30 แล้ว ท่านไม่ถือตัวถือตนเลย เป็นกันเองมาก เรียบ ๆ ง่าย ๆ อยู่แล้วสบายใจดี แต่ห้ามผิดพระธรรมวินัยนะครับ ท่านไม่ยอมจริง ๆ
พระที่พรรษามาก ๆ ขนาดนี้ ไม่ถือตัวถือตนนี่หายากนะ หลวงตา
ครับ ผมเคยถามท่านว่า หลวงพ่อ หลวงพ่ออายุขนาดนี้ พรรษาขนาดนี้ ทำไมหลวงพ่อไม่ถือตัวถือตนเลย ?
ท่านตอบว่า ผมไม่มีตัวตนที่จะถือครับ ถือบาตรถือกรดถือย่าม ถ้ามันหนักเราก็วาง มันง่าย แต่ไอ้ตัวตนที่มองไม่เห็นนี่ ถ้าไปถือเข้าแล้วมันวางยากจริง ๆ นะหลวงตา แบกกันจนตายนั่นแหละ
แล้วท่านหันมาถามหลวงตาว่า หลวงตาไม่ลองหาตัวตนของหลวงตาดูหน่อยหรือ ? ว่ามันอยู่ที่ไหน ? จะได้ไม้ไปหลงแบกให้มันหนักเปล่า ๆ
หลวงตาตอบท่านไปว่า ให้ไปหลงแบกของไม่มีนี่ มันฉลาดจริง ๆ เลยนะครับหลวงพ่อ
ท่านหัวเราะชอบอกชอบใจใหญ่