ผู้เขียน หัวข้อ: มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์  (อ่าน 3372 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
-http://www.rajaprajanugroh.org/intro.aspx-




พระราชทานกำเนิดมูลนิธิ เมื่อได้ช่วยเหลือประชาชนในระยะแรกแล้วยังเหลือเงินอีกสามล้านบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริว่า เงินสามล้านบาทนี้ควรตั้งเป็นทุนเพื่อหาดอกผลสำหรับสงเคราะห์เด็ก ซึ่งครอบครัวต้องประสบวาตภัยภาคใต้ และขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูประการหนึ่ง และสำหรับสงเคราะห์ช่วยเหลือราษฎร ผู้ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานเงินสามล้านบาทให้เป็นทุนประเดิมก่อตั้งมูลนิธิ และพระราชทานนามว่า “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อยู่ใน “พระบรมราชูปถัมภ์” กับทรงดำรงตำแหน่งพระบรมราชูปถัมภกแห่งมูลนิธินี้ด้วย ชื่อของมูลนิธินี้หมายความว่า “พระราชา” และ “ประชาชน” อนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน เป็นการแสดงน้ำพระทัยว่า เวลาทำงานควรจะให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมด้วย มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ก่อกำเนิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์ โดยได้ทรงมีพระราชดำริว่าภัยธรรมชาติหรือสาธารณภัยอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ ไม่มีผู้ใดจะคาดหมายได้ ดังที่ได้เกิดขึ้นที่แหลมตะลุมพุกจังหวัดนครศรีธรรมราช และอีกหลายจังหวัดภาคใต้ มูลนิธิฯ ได้ทุนดำเนินงานจากเงินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน เงินอุดหนุนจากรัฐบาล จากผู้ที่มีจิตศรัทธาบริจาค จากทรัพย์สินซึ่งมีผู้ยกให้ และจากดอกผลอันเกิดจากทรัพย์สินอันเป็นทุนของมูลนิธิฯ การใช้จ่ายเงินของมูลนิธิฯ อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับ ซึ่งมีการควบคุมตรวจสอบอย่างรอบคอบ การดำเนินงานยึดมั่นในพระบรมราโชบาย “...ให้ไปให้ความอบอุ่นไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยฉับพลัน ทำให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือ มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานต่อไป...”

“...การช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้นจะต้องช่วยในระยะสั้นหมายความว่า เป็นเวลาที่ฉุกเฉินต้องช่วยโดยเร็ว และต่อไปก็จะต้องช่วยให้ต่อเนื่อง...ส่วนเรื่องการช่วยเหลือในระยะยาวก็มีความจำเป็นเหมือนกัน... เป็นผลว่าเขาได้รับการดูแลเหลียวแลมาจนกระทั่งได้รับการศึกษาที่สามารถทำมาหากินได้โดยสุจริตและโดยมีประสิทธิภาพ เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ...”

คณะกรรมการบริหารได้มอบหมายหน้าที่ให้กรรมการช่วยปฏิบัติงานแบ่งออกเป็น ๖ ฝ่าย คือ ฝ่ายหาทุน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบรรเทาทุกข์ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ฝ่ายการศึกษาสงเคราะห์ และฝ่ายฝึกอบรม คณะกรรมการเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครต่างๆ ได้เสียสละเวลา กำลังกาย กำลังทรัพย์ ดำเนินตามพระบรมราโชบายตามเบื้องพระยุคลบาท ออกช่วยเหลือสงเคราะห์ประชาชน ผู้ทุกข์ยากเดือดร้อนทั่วราชอาณาจักร ยังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพสกนิกรทั้งใกล้ไกล ที่ได้ทรงห่วงใยเอื้ออาทรอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะสนิทแน่นอยู่ในดวงกมลของคนไทยต่อไป

วัตถุประสงค์ :

1. เพื่อให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ
2. เพื่อให้การสงเคราะห์ด้านการศึกษา
      2.1 ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีเยี่ยมในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และเด็กกำพร้า หรืออนาถา ที่ครอบครัวประสบสาธารณภัย
      2.2 บูรณะ ซ่อมแซม ปรับปรุง โรงเรียนราชประชานุเคราะห์
3. เพื่อให้มีการป้องกันสาธารณภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ
4. เพื่อให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือเป็นส่วนรวมแก่ประชาชนที่ได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนประการ อื่น ซึ่งคณะกรรมการบริหารพิจารณาเห็นสมควร และได้รับความเห็นชอบจากนายกมูลนิธิฯ

กิจกรรมมูลนิธิ :

1. มอบทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ต่อเนื่องแก่นักเรียนกำพร้าที่ครอบครับประสบธารณภัยต่าง ๆ
2. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการสร้างโรงเรียนที่ประสบสาธารณภัย และสร้างโรงเรียนให้สำหรับบุตรหลานที่ประสบภัยในจังหวัดต่าง ๆ
3. สงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัยกรณีต่าง ๆ ทั่วประเทศ มอบสิ่งของพระราชทานแก่ผู้ประสบสาธารณภัยตามแผนปฏิบัติงานร่วมกันที่ ตกลงไว้กับกรมประชาสงเคราะห์ ได้แก่ เครื่องครัว เครื่องนอน วัสดุซ่อมแซมบ้าน ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องใช้ ที่จำเป็นสำหรับครอบครัว ทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ และความเดือนร้อนประการอื่น

.

http://www.rajaprajanugroh.org/intro.aspx

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
-http://www.rajaprajanugroh.org/history.aspx-




เมื่อคืนวันที่ 25 ต่อกับวันที่ 26 ตุลาคม 2505 ได้เกิดพายุโซนร้อนชื่อ "แฮเรียต" พัดผ่านทางตอนใต้ของประเทศไทย ยังความเสียหายให้เกิดแก่จังหวัดภาคใต้ถึง 12 จังหวัด  ในคืนวันที่ 27 ตุลาคม 2505 เวลาประมาณ 19.00 น. นายปกรณ์ อังศุสิงห์ นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ ได้รับโทรศัพท์จาก คุณพูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการสำนักพระราชวัง ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง หัวหน้ากองมหาดเล็ก ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงผู้ประสบภัย และทรงติดต่อขอเครื่องบินจากกองทัพอากาศไว้แล้ว ขอให้รีบเดินทางไปช่วยเหลือโดยด่วน





มหาวาตภัยแหลมตะลุมพุก ในปีพ.ศ. 2505 และภาพเจ้าหน้าที่ขณะกำลังเดินทางให้ความช่วยเหลือ


ขณะนั้น กรมประชาสงเคราะห์ ได้เตรียมสิ่งของไว้พร้อมแล้ว จึงเดินทางไปในวันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 28 ตุลาคม 2505 นายปกรณ์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทย อาทิ หลวงอรรถวิภาคไพศาลย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และหลวงยุกตเสวีวิวัฒน์ อธิบดีกรมโยธาเทศบาล โดยมีนายประวิทย์ หาญณรงค์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย กรมประชาสงเคราะห์ เป็นเลขานุการคณะ ได้เดินทางไปพร้อมกับแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถองค์สภานายิกาได้มีกระแสรับสั่งให้ร่วมเดินทางไปกับกรมประชาสงเคราะห์เพื่อทำการสงเคราะห์และบรรเทาทุกข์ในครั้งนี้ด้วย คณะเดินทางไม่สามารถทราบได้ว่า จะไปถึงจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อย่างไร เพราะพายุแรงจัดและน้ำท่วมทางหลวง ทางรถไฟ โทรเลข โทรศัพท์ขาด ได้รับความเสียหาย จึงตัดสินใจบินไปลงที่จังหวัดสงขลาก่อน เพื่อสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ว่าจะเดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยเร็ว ที่สุด ตามพระราชประสงค์ได้ทางใด
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแจ้งให้ทราบว่าไม่มีทางอื่นนอกจากทางเครื่องบินจึงตัดสินใจให้บินไปดูเพราะนักบินเองก็ไม่แน่ใจว่าเครื่องบินจะลงที่สนามบินนครศรีธรรมราชได้หรือไม่ เนื่องจากไม่เคยลงสนามบินนี้ แต่ทราบว่าสนามบินสั้นมาก





นายขวัญแก้ว วัชโรทัย หัวหน้าสถานีวิทยุ อ.ส.ขณะนั้น รับสนองพระบรมราโชบายเชิญชวนให้บริจาคทรัพย์และสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยภาคใต้ ปี 2505



    เมื่อบินย้อนกลับมายังจังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งแรกผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ส่วนราชการมาต้อนรับมากแต่ปรากฏว่ายังไม่ได้รับอนุญาตจากกองทัพอากาศให้นำเครื่องลง ที่สนามบิน ทหารบก จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ เพราะสภาพอากาศในขณะนั้นยังไม่ค่อยดี และสภาพของสนามบินก็ยังสำรวจไม่ทั่ว จึงต้องบินกลับจังหวัดสงขลา แต่ด้วยเดชะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเมตตาแก่ประชาชน เมื่อ เบนหัวเครื่องบินกลับประมาณ 3 นาที ก็ได้รับอนุญาตให้บินลงได้

ต่อจากนั้น นายปกรณ์ อังศุสิงห์ และคณะ ได้เดินทางไปพบผู้ว่าราชการจังหวัด นครศรีธรรมราชและร่วมเดินทางกันไปยังแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง ปรากฎสภาพของแหลมตะลุมพุกน่าสังเวชมาก ไม่มีบ้านเรือนราษฎรเหลืออยู่เลย และยังมีศพลอยน้ำอยู่เกือบจะไม่มีที่พอฝังศพ หลุมหนึ่ง ๆ ฝังศพถึง 6-7 ศพ และฝังอยู่ที่ปลายแหลมนั้นชั่วคราวระยะหนึ่ง ต่อมาทางราชการและญาติมิตร ประชาชน จึงได้ขุดขึ้นมาทำพิธีทางศาสนา เข้าใจว่ามีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นทั้งสิ้นประมาณ 1,000 คน ส่วนผู้ที่รอดชีวิตได้อพยพไปอยู่ยังอำเภอปากพนัง และกลับภูมิลำเนาเดิม

สำหรับทางด้านกรุงเทพมหานครนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สถานีวิทยุ อส.พระราชวังดุสิตประกาศโฆษณาเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ และ สิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยทรงรับและพระราชทานสิ่งของด้วยพระองค์เอง ความช่วยเหลือได้ หลั่งไหลเข้าสู่สถานีวิทยุ อส. ชั่วระยะเวลา 1 เดือน มีผู้บริจาคทรัพย์ถึง 11 ล้านบาท และสิ่งของประมาณ ห้าล้านบาท

ส่วนผู้ที่ไม่สามารถบริจาคทรัพย์ และสิ่งของได้ก็บริจาคแรงงาน ที่น่าปลื้มใจก็คือ งานนี้ทำโดยอาสาสมัคร ซึ่งส่วนมากเป็นนิสิต นักศึกษา ลูกเสือและนักเรียน ได้ทำการจัดและขนส่งสิ่งของเหล่านั้นไปบรรเทาภัยแก่ประชาชน โดยมีนายเจริญ มโนพัฒนะ รองอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ รักษาการแทน อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานทานเงินและสิ่งของไปดำเนินการตามพระราชประสงค์ ตลอดเวลา

จังหวัดที่ได้รับความเสียหายมาก คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับ กรมประชาสงเคราะห์ได้แจกอาหาร เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค จัดซ่อมแซมบ้าน ที่พัก และสร้างที่พัก ชั่วคราว

ให้ผู้ประสบภัยอยู่อาศัยตลอดจนเครื่องมือประกอบอาชีพ ได้แก่ อวน และช่วยเหลือสิ่งสาธารณประโยชน์ คือ มอบเงินให้เป็นทุนประเดิมแก่วัดวาอาราม มัสยิด ศาลเจ้าและสถานสงเคราะห์เด็กที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรับบุตรหลานของผู้ประสบภัย ที่กำพร้าบิดามารดาหรือผู้ปกครองเสียชีวิต โดยอยู่ในความดูแลของกรมประชาสงเคราะห์

นอกจากนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเงินให้กระทรวงศึกษาธิการ สร้างโรงเรียนประชาบาลที่ถูกพายุพัดพัง รวม 12 โรงเรียน ใน 6 จังหวัดภาคใต้ และภายหลัง พระราชทานชื่อว่า "โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 1,2,3,4,5 ถึง 12" ตามลำดับ

http://www.rajaprajanugroh.org/history.aspx
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
.
-http://www.rajaprajanugroh.org/donation.aspx-

วิธีการร่วมโดยเสด็จพระราชกุศล สมทบทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์  ในพระบรมราชูปถัมภ์


การโอนเข้าบัญชี (ประเภทออมทรัพย์)

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อย สำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า)
ชื่อบัญชี มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ  เลขที่บัญชี  401-636319-9

ธนาคารทหารไทย สาขาย่อย สำนักพระราชวัง(สนามเสือป่า)
ชื่อบัญชี มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ   เลขที่บัญชี  046-2-44777-2

(กรุณาส่งสำเนาใบนำฝาก พร้อมทั้งแจ้งชื่อที่อยู่ สำหรับออกใบเสร็จรับเงิน
มาทางโทรสาร  จดหมาย หรือ E-Mail  ภายใน 15 วัน)

การส่งเช็คธนาคาร  ตั๋วแลกเงิน  หรือธนาณัติ
สั่งจ่าย ในนามมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ปณ.พลับพลาไชย 10100 หรือ ปณ. จิตรลดา 10303
แจ้งชื่อที่อยู่ของท่าน สำหรับออกใบเสร็จรับเงิน ส่งไปที่

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
ตู้ ปณ.22 พลับพลาไชย กรุงเทพมหานคร 10100

.

http://www.rajaprajanugroh.org/donation.aspx

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สำนักงานส่วนกลาง
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
-http://www.rajaprajanugroh.org/contact.aspx-



1034 ถนนกรุงเกษม แขวงคลองมหานาค
เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100

โทรศัพท์ : 0-2282-9596 0-2281-1902
โทรสาร : 0-2281-1423
E-Mail : rpk_bkk@rajk.org


-http://www.rajaprajanugroh.org/images/map.jpg-
-http://www.rajaprajanugroh.org/images/map.jpg-
แผนที่มูลนิธิฯ

-http://www.rajaprajanugroh.org/contact.aspx-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)