ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร  (อ่าน 1268 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร
-http://hilight.kapook.com/view/77120-






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  รายการตีสิบ โพสต์โดย เว็บไซต์ socialvio.com

          เมื่อ 11 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2544) คดีฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการแพทย์อีกครั้ง จนกลายเป็นอีกหนึ่งคดีอาชญากรรมในตำนานที่ผู้คนจดจำได้ เมื่อผู้ที่ลงมือสังหาร พญ.ผัสพร คือ คู่ชีวิตของเธอที่ถูกยกให้เป็นสูตินรีแพทย์ฝีมือดีระดับเอเชีย...ผศ.นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

          คดีดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามลำดับชั้นมาเป็นเวลาหลายปี ตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ จนถึงศาลฎีกา ซึ่งทุกศาลก็เห็นพ้องพิพากษาให้ประหารชีวิต นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ฐานกระทำความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้ตายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และฐานฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากคดีฆ่าชำแหละศพ และอำพรางศพภรรยาของตัวเอง



ระหว่างที่กระบวนการต่าง ๆ ดำเนินไป นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ แทบไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลย กระทั่งถึงวันนี้ นพ.วิสุทธิ์ ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำบางขวางเป็นเวลา 9 ปีแล้ว และพร้อมที่จะเปิดใจถึงชีวิตภายใต้กำแพงสูงแห่งนี้ ในฐานะ "นักโทษชาย" ผ่านรายการตีสิบ เมื่อคืนวันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

          หลังจากถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำบางขวางมา 9 ปี วันนี้ นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ในวัย 60 ปี ได้รับพระราชทานอภัยโทษจนเหลือเพียงจำคุก ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเวลาต้องรับโทษอีก 17 ปี โดย นพ.วิสุทธิ์ เข้ามาในเรือนจำบางขวางเมื่อปี พ.ศ. 2546 ก่อนจะได้รับพระราชอภัยโทษครั้งแรกจากประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิตในปี พ.ศ. 2550 และในปีต่อ ๆ มา ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษในอีกหลายครั้ง


  เป็นเวลา 4 ปีเต็ม ๆ กว่าที่ นพ.วิสุทธิ์ จะปลดคำว่า "นักโทษประหารชีวิต" ออกจากตัวเองได้ ซึ่ง นพ.วิสุทธิ์ บอกว่า การเข้ามาอยู่ในคุกช่วงแรก ๆ เหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะเหมือนสูญเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะอิสรภาพที่ต้องถูกล่ามโซ่ตรวน และเข้ามาอยู่ในแดนประหาร ซึ่งมีกฎเกณฑ์เข้มงวดที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นต้องคอยลุ้นทุกวันว่าจะถึงตาเราหรือยังที่จะได้รับโทษ ทำให้ชีวิตในคุกปีแรกได้รับความทรมานที่สุด

          อดีตแพทย์สูตินรีเวชที่ปัจจุบันเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ยอมรับว่า ตัวเองรู้สึกเครียดมากในช่วงแรก ๆ กระทั่งวันที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษให้เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต เหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ และทำให้เขาได้ไตร่ตรองว่า ต้องใช้ชีวิตอย่างไรให้ดีที่สุด เพราะชีวิตที่ได้คืนมาคือสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าเดิม ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ชีวิตอย่างประมาท โดยปล่อยให้ความโลภ ความโกรธ ความหลงมาครอบงำ ทำให้ชีวิตไร้คุณค่า นพ.วิสุทธิ์ บอกว่า ปัจจุบัน เขากลายเป็นคนที่มีความโกรธน้อยลง และให้อภัยง่ายขึ้น



  ชีวิตในเรือนจำของ นพ.วิสุทธิ์ ไม่ต่างจากนักโทษชั้นเยี่ยมคนอื่นทั่วไป ไม่ได้มีสิทธิพิเศษ เว้นแต่การได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลผู้ต้องขังที่ป่วย แม้ว่าเขาจะถูกยึดใบประกอบโรคศิลป์ ไม่สามารถเป็นแพทย์ได้อีก แต่ผู้อำนวยการแพทย์ก็อนุญาตให้เขาทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะมีผู้ต้องขังจำนวนมากที่ป่วยและต้องการการดูแล ซึ่งส่วนหนึ่งก็ป่วยเป็นโรคเอดส์ และวัณโรค ที่แพร่เชื้อได้ง่ายในสภาพแวดล้อมเช่นนี้

          ขณะเดียวกัน นพ.วิสุทธิ์ ก็ได้ใช้ความรู้ทางวิชาชีพที่มีติดตัวมา เป็นคอลัมนิสต์ตอบปัญหาสุขภาพลงในหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ "ข่าวจิตต์เสรี" ซึ่งแจกภายในเรือนจำทั่วประเทศ ในนามปากกาว่า "หมอธรรมดา" พร้อมกับเขียนหนังสือ "กว่าจะฝ่าข้ามความตาย" เปิดใจหลังกำแพงเรือนจำ ที่ใช้เวลาเขียนถึง 2 ปี โดยมีเจตนาจะบอกให้คนภายนอกรู้ว่า อย่าเข้ามาในเรือนจำเลย ดังนั้น จงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทจะดีที่สุด


          เมื่อถามว่าเคยเตรียมใจไว้บ้างไหม หากวันหนึ่งได้เดินออกเรือนจำนี้ไปแล้วต้องไปเผชิญกับสายตาที่คนในสังคมมองมา หรืออาจจะเผชิญกับคำถามจากคดีที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ นพ.วิสุทธิ์ บอกว่า ก็ต้องเตรียมใจไว้ไม่ให้ผูกติดกับรัก โลภ โกรธ หลง มากนัก เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เราท้อแท้ที่จะทำประโยชน์ต่อไป ทั้งนี้ ก็มั่นใจในการเตรียมตัวที่จะช่วยให้เรามีจิตใจที่มั่นคง มองโลกในแง่ดี จากโครงการพัฒนาจิตใจภายในเรือนจำที่มีโปรแกรมเข้ามาให้ฝึกเรื่อย ๆ ซึ่งก็ทำให้เขาได้พัฒนาตัวตนด้านในขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

          "หากออกไปคงไม่สามารถกลับไปเป็นหมอได้เหมือนเดิม จะไปขอใบประกอบคงโรคศิลป์ไม่ได้ คงต้องไปทำสาระประโยชน์อีกแบบหนึ่ง แต่ก็ไม่ซีเรียสเรื่องนั้น เพราะก็จะใช้ชีวิตแบบคนเกษียณ ไปช่วยเหลืองานเท่าที่ช่วยเหลือได้" นพ.วิสุทธิ์ กล่าวในที่สุด

http://www.socialvio.com/play/1189/%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A/9%20%E0%B8%95.%E0%B8%84.55/
-http://www.socialvio.com/play/1189/%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A/9%20%E0%B8%95.%E0%B8%84.55/-
http://www.socialvio.com/play/1189/%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A/9%20%E0%B8%95.%E0%B8%84.55/
คลิป เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร 1/2 : เครดิต รายการตีสิบ
โพสต์โดย เว็บไซต์ socialvio.com 




-http://www.socialvio.com/play/1190/%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A/9%20%E0%B8%95.%E0%B8%84.55/-
http://www.socialvio.com/play/1190/%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A/9%20%E0%B8%95.%E0%B8%84.55/
คลิป เปิดชีวิตหลังลูกกรง ของ นพ.วิสุทธิ์ มือฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร 2/2 : เครดิต รายการตีสิบ
โพสต์โดย เว็บไซต์ socialvio.com


.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)