ผู้เขียน หัวข้อ: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก  (อ่าน 89778 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #110 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 09:58:14 pm »



๗๗. หลักการให้การศึกษา

มีอุบาสกท่านหนึ่งเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้ของวัดแห่งหนึ่ง เห็นพระอาจารย์
ท่านหนึ่งกำลังสาละวนอยู่กับการตัดแต่งกิ่งที่มีใบดกหนา สักประเดี๋ยวก็ถอนต้น
ขึ้นมาทั้งราก แล้วก็นำไปปลูกยังกระถางอื่น เดี๋ยวก็พรวนดินใส่ปุ๋ย ดูแล้ววุ่นวาย
ไม่น้อย

อุบาสกนั้นจึงถามขึ้นว่า “ท่านอาจารย์ ทำไมถึงตัดใบดีๆทิ้ง แล้วที่เหี่ยวแห้งถึง
รดน้ำใส่ปุ๋ย แล้วบางต้นก็ดูดีๆอยู่ แต่ท่านก็ถอนขึ้นมาแล้วนำไปปลูกในอีกกระ
ถางหนึ่ง และที่ไม่มีพืชก็เห็นท่านใช้จอบพรวนดิน สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องทำหรือ?”

พระอาจารย์ตอบว่า “การดูแลต้นไม้ใบหญ้า ก็เหมือนกับการให้ความรู้แก่ศิษย์
ศิษย์ต้องการความรู้อย่างไร ต้นไม้ก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างนั้น”
“ต้นไม้ใบหญ้าจะนำมาเปรียบเทียบกับคนได้อย่างไร?” อุบาสกนั้นถาม

“การดูแลต้นไม้กับการให้ความรู้กับคนมีหลายที่ที่เหมือนกันคือ

ข้อหนึ่ง ต้นไม้ที่มองดูขึ้นอย่างหนาแน่นแต่ก็ขึ้นอย่างเบียดเสียด และมักมี
เถาวัลย์มาพันเกาะ จึงจำเป็นต้องตัดตกแต่งกิ่งให้น้อยลง เพื่อจะได้ไม่ต้อง
ถูกแย่งสารอาหาร เมื่อต้นนั้นออกดอกจะได้ดอกที่สวยงามและสมบูรณ์
ก็เหมือนกับการลิดรอนเอาความมุทะลุวู่วาม ความเคยชินที่ไม่ดีออกเสียบ้าง
ก็ทำให้เขาได้เดินมาสู่หนทางอันดีงาม

ข้อสองการย้ายต้นขึ้นไปปลูกในกระถางอื่น ก็เพื่อให้พืชได้แยกออกไปจากดิน
ที่ไม่อุดมสมบูรณ์ให้ได้รับดินดี ก็เหมือนกับการให้คนคนหนึ่งออกไปจากสิ่ง
แวดล้อมที่ไม่ดี ไปสู่สิ่งแวดล้อมใหม่ที่มีอาจารย์ดีและกัลยาณมิตรที่ดี เพื่อจะ
ได้เพิ่มพูนความรู้ให้ยิ่งๆขึ้นไป

ข้อสาม การดูแลต้นไม้ที่ใกล้จะเหี่ยวเฉาที่มองดูเหมือนใกล้ตายให้มากเป็นพิเศษ
เพราะ โดยเนื้อแท้ของมันยังมีโอกาสรอดอีกมากมาย และอย่าไปนึกว่าศิษย์ที่ไม่
ดี จะไม่มียาขนานใดมาเยียวยาได้ เลยปล่อยละเลยไปไม่เหลียวแล ต้องรู้ว่า
โดยเนื้อแท้ธรรมชาติดั้งเดิมของคนเราเป็นจิตที่บริสุทธิ์ เพียงแค่ขอมีจิตที่จะโอบ
อุ้มและดูแลให้ถูกวิธี ที่สุดก็จะกลับกลายเป็นคนดีได้

ข้อสี่ การที่ต้องคอยพรวนดิน เพราะในดินยังมีเมล็ดพันธุ์พืชที่คอยจะแตก
หน่อขึ้นมา ก็เหมือนกับศิษย์ที่ยากจนแต่มีใจคิดใฝ่ก้าวหน้า หากเรายื่นมือ
เข้าไปช่วยอีกแรง ก็จะทำให้เขามีโอกาสที่ก้าวเดินไปข้างหน้าได้”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2014, 09:51:56 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #111 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 10:47:42 pm »




๗๗. ๑ ความมีหน้ามีตาและชื่อเสียง

มีพระอาจารย์ท่านหนึ่ง เมื่อย่างเข้าสู่วัยชรา จึงคิดจะหาผู้สืบทอด
เป็นเจ้าอาวาสต่อไป วันหนึ่งพูดกับศิษย์สองคนซึ่งหมายตาไว้แล้วว่า
จะให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้สืบทอดต่อไป
ศิษย์คนหนึ่งชื่อว่าฮุ่ยหมิง อีกคนหนึ่งชื่อว่าเฉิงเหยียน

“พวกเจ้าสองคนหากใครมีความสามารถปีนจากหน้าผาของหลังวัด
ขึ้นไปข้างบนได้ คนนั้นจะได้เป็นเจ้าอาวาสต่อไป”

ศิษย์ทั้งสองจึงเดินไปที่หน้าผา หน้าผานั้นสูงชันและมีแง่งหิน
ขรุขระตลอดทั้งหน้าผา ฮุ่ยหมิงซึ่งมีร่างกายที่แข็งแรงกว่า มีความมั่นใจ
ในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม แต่ก็ปีนขึ้นไปได้ไม่นาน ก็ลื่นตกลงมา

เขาจึงเพิ่มความระมัดระวังในการปีนมากขึ้น แต่ที่สุดก็ลื่นไหลตกลงมาอีก
แต่ไม่ว่าจะตกลงมาจนบอบช้ำไปหมด แต่เขาก็ไม่ท้อแท้ แม้จะตกลงมาอีก
หลายครั้ง แต่ที่สุดเขาก็รวบรวมพลังที่มีอยู่ปีนขึ้นไป แต่เมื่อปีนได้ครึ่งทาง
ก็รู้สึกหมดแรง และบริเวณนั้นก็ไม่มีที่ที่จะให้หยุดพักได้ ที่สุดก็พลัดตกลงมาอีก
คราวนี้ตกลงมา ศีรษะกระแทกถูกก้อนหิน จนสลบแน่นิ่งไป



ฝ่ายเฉิงเหยียน ขณะที่เริ่มต้นก็เหมือนกับฮุ่ยหมิง พยายามใช้แรงอย่าง
มากมายในการปีน แต่ก็ต้องปีนแล้วลื่นไหลลงมาหลายครั้ง ครั้งหนึ่งขณะที่
ปีนอยู่กลางหน้าผาแล้วมองลงไปข้างล่าง แล้วก็ตัดสินใจลงมาที่ด้านล่าง
ปัดเสื้อผ้าที่เลอะดินทรายออก แล้วเดินไปที่ลำธาร แล้วเดินทวนกระแสน้ำขึ้นไป
ผ่านป่าเขา แล้วไม่ต้องเปลืองแรงแต่อย่างใด ก็ไปถึงยอดเขาได้

เมื่อเขาเดินมาหาพระอาจารย์ ทุกคนก็นึกว่าจะต้องถูกพระอาจารย์ต่อว่าอย่างแรง
ว่ารักตัวกลัวตาย ใจไม่กล้าแล้วยังอ่อนแอ แล้วก็ถูกขับไล่ออกจากสำนักไป
แต่พระอาจารย์กลับพูดว่าให้ เฉิงเหยียนดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสต่อไป

                       

ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา ไม่เข้าใจความหมายว่าเพราะอะไร
เฉิงเหยียนเลยอธิบายให้ศิษย์ร่วมสำนักฟังว่า หน้าผาที่อยู่หลังวัดไม่สามารถ
จะปีนขึ้นไปได้ แต่เมื่อมองจากกลางหน้าผา ก็จะเห็นทางเล็กๆที่จะเดินขึ้นไปได้
พระอาจารย์มักพูดบ่อยๆว่า “ผู้มีปัญญาจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพ
แวดล้อม ผู้รู้จะเดินเกมไปตามเหตุ” นี่เป็นการสอนให้พวกเรารู้จักยืดหยุ่นและ
เปลี่ยนแปลงได้ไปตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า

พระอาจารย์พยักหน้าด้วยความพอใจพูดว่า “หากเป็นผู้อยากได้หน้าอยากได้ชื่อ
ในจิตก็จะมีแต่ทางตันของหน้าผา ฟ้าไม่ได้วางกรงขังไว้
แต่จิตเราสร้างกรงขังไว้เอง ในกรงขังแห่งความอยากมีชื่อเสียง
แย่งชิงกันอย่างลำบากยากเย็น อย่างเบาก็แค่เกิดความทุกข์กังวล
อย่างหนักอาจจะต้องบาดเจ็บ และอย่างหนักอาจจะต้องร่วงหล่นลงจนร่างเละ”

หลังจากนั้นพระอาจารย์ก็ให้บาตรและจีวรแก่เฉิงเหยียน และพูดกับทุกคนว่า
“การปีนหน้าผา เป็นการทดสอบสภาพจิตของพวกเจ้า ไม่ให้หลง-วนเข้าไปอยู่ใน
ตาข่ายแห่งชื่อเสียงเกียรติยศ ในจิตที่ไม่กังวลสิ่งใด สามารถเดินไปตามครรลอง
ที่เป็นไปได้ คือคนที่ข้าปรารถนา"


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2013, 02:44:46 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #112 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 11:05:02 pm »


                 

๗๘. อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์

มีพระอาจารย์ท่านหนึ่ง สร้างวัดใกล้ๆกับสำนักของท่านนักพรตท่านหนึ่ง
นักพรตท่านนั้นไม่ต้องการให้เขตละแวกนั้นมีวัด เลยเสกเวทย์มนต์คาถา
ใช้เหล่าภูติผีปีศาจมารังควานภิกษุที่อยู่ในวัดอยู่เนืองๆ เพื่อให้ภิกษุเหล่านั้น
หวาดกลัวไม่กล้าที่จะอยู่ที่วัดนี้อีกต่อไป ไม่นานเหล่าพระและสามเณรล้วน
หวาดกลัวและย้ายหนีกันไปหมด เหลือแต่พระอาจารย์อยู่ที่วัดนี้เพียงผู้เดียว
ถึงสิบกว่าปี

ที่สุดเวทย์มนต์คาถาของนักพรตท่านนั้นถูกนำมาใช้จนหมดสิ้น พระอาจารย์
ก็ยังไม่ยอมย้ายไปไหน นักพรตรู้สึกหมดหนทางที่จะต่อกรด้วยแล้วจึงย้ายหนีไปเอง

หลังจากนั้นมีผู้ถามพระอาจารย์ว่า นักพรตมีวิชาคาถาอาคมแก่กล้า ท่านชนะเขา
ได้อย่างไร? พระอาจารย์ตอบว่า อาตมาไม่มีอะไรที่จะชนะพวกเขาได้ แต่ถ้าหาก
จะให้พูดจริงๆแล้ว มีเพียงคำเดียวว่า “ไม่มี” ซึ่งพวกเขาเปรียบเทียบไม่ได้”

“คำว่า “ไม่มี” จะไปชนะเขาได้อย่างไร?”



“พวกเขามีเวทย์มนต์คาถา ในขณะเดียวกันเวทมนต์เหล่านั้นมี จำกัด มีสิ้นสุด
มีประมาณ มีขอบเขต แต่ของอาตมา ไม่มีคาถา แต่ไม่มีจำกัด ไม่มีสิ้นสุด
ไม่มีประมาณ ไม่มีขอบเขต อาตมาไม่ต้องใช้ อะไร ย่อมจะต้องชนะ สิ่งที่ต้องใช้ อะไร”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2013, 03:04:44 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #113 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 11:47:22 pm »

         

๗๘. ๑ รู้จักตัวเอง

คนเรา มองเห็นโลก เห็นสรรพสิ่ง เห็นผู้อื่น แต่ไม่เห็นตนเอง
คนเรารู้จักแบ่งแยก รู้จักผู้อื่น รู้จักสิ่งต่างๆ แต่ไม่รู้จักตนเอง

คนเรามองเห็นความผิดพลาดของผู้อื่น เห็นปมด้อยของผู้อื่น
เห็นความโลภของผู้อื่น แต่ไม่เห็นความตระหนี่ของตนเอง
เห็นความคิดไม่ดีของผู้อื่น แต่ไม่เห็นความเขลาของตนเอง

คนเราสามารถรู้เรื่องราวของโลก ของประวัติศาสตร์ ของสังคม
รู้จักญาติพี่น้อง แต่ไม่รู้จักตนเอง

คนเราถ้ามองในกระจก จะเห็นหน้าตาของตนเอง เห็นความหล่อ
ความงามความอัปลักษณ์ แต่มองไม่เห็นในจิตของตนเอง

หากมีกระจกบานหนึ่ง สามารถเห็นจิตตนเองได้ ความโลภ โกรธ หลง
อิจฉาริษยา ความเห็นแก่ตัว ความคับแค้น คงจะมีหน้าตาอัปลักษณ์จนสุดทน

ในทางธรรม มักจะมีคำพูดที่กล่าวว่า “รู้จักโฉมหน้าดั้งเดิมของตนเอง”
แล้วใครล่ะจะรู้จักโฉมหน้าที่แท้จริงของตนเองจริงๆ

มีคนไม่น้อยที่คอยแต่จะจ้องมองส่วนได้ส่วนเสีย ความสำเร็จความผิดหวัง
ของผู้อื่น คอยต่อว่าผู้อื่นด้อยคุณธรรมด้อยการศึกษา

แต่ลืมใส่ใจในความคิดของตนเอง ความรับผิดชอบ การดำรงชีวิต
หากไม่รู้จักตนเองและดิ้นรนสับสนไปตลอดชีวิต ไม่ประสบความสำเร็จ
อะไรสักอย่าง ก็คงจะเป็นที่น่าเสียดายจริงๆ
สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดในโลกคือ ไม่สามารถรู้จักตนเอง คนที่ไม่รู้จักตนเอง
ก็ยากที่จะเข้าใจความจริง ยากที่จะได้รับรู้สิ่งดีๆ เป็นเหตุให้เกิดอุปสรรค
ที่จะเกิดปัญญาในทางธรรม

การปฏิบัติธรรมก็เป็นการเปิดจิตของตนเอง
เปิดหน้ากากของตนเองออก แยกแยะและวิเคราะห์ตนเองอย่าง
ตรงไปตรงมา เพื่อให้รู้จักตนเอง

การรู้จักตนเองเป็นบทเรียนบทใหญ่ที่สุดในชีวิต ไม่อาจที่จะละเลย
และนิ่งดูดายได้

ที่มา จากอินเตอร์เน็ต

         

ขอชี้แจงกับผู้อ่านและผู้ที่นำนิทานเซนไปลงเว็บอื่นว่า
นิทานเซนจะมีหมายเลขเรียงลำดับทุกเรื่อง
ที่ไม่ได้ลงหมายเลขไว้ (* . ๑ ,  . ๒ , ฯลฯ )
เป็นเรื่องที่แปลมาจากผู้อ่านในเว็บของนิกายเซน
ไม่ใช่นิทานเซนค่ะ
  (แสงดาว)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2014, 10:05:40 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #114 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 11:55:28 pm »



๗๙. ปล่อยวางลง ! แล้วเราจะฉุดช่วยเจ้า

ครั้งหนึ่งมีชายผู้หนึ่งมีธุระจำเป็นต้องออกไปทำกิจที่ต่างเมือง ระหว่างทาง
ต้องขึ้นเขาลงห้วยอยู่หลายครั้ง ได้รับความลำบากไม่น้อย วันหนึ่งขณะที่กำลัง
ผ่านหน้าผาที่สูงชันและคับแคบ ไม่ทันได้ระวังตัวก็ตกลงไปในเหว ขณะที่คิดว่า
ตัวเองต้องตายแน่นอนแล้ว บังเอิญมือไปคว้าเถาวัลย์แถวนั้นเอาไว้ได้ แม้ว่าจะยังไม่ตาย
 แต่ก็ต้องห้อยโตงเตงอยู่กลางเหวนั้น จะขึ้นก็ไม่ได้ หรือจะลงก็ไม่ได้อีก

ขณะที่ลังเลตัดสินใจไม่ถูกอยู่นั้น ก็ได้เห็นพระอมิตพุทธ ประทับยืนอยู่ที่เหวนั้น
ท่านมองมาที่ชายผู้นั้นอย่างเมตตาและปรานี ชายผู้นั้นจึงพูดขึ้นว่า

“ท่านอมิตพุทธผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาและปรานี โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด”
“ข้าจะช่วยท่านก็ได้ แต่ท่านจะต้องฟังคำที่ข้าพูด ถึงจะช่วยเจ้าขึ้นไปได้”
“มาถึงขั้นนี้แล้ว ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อฟังคำที่ท่านพูดได้อย่างไร? ไม่ว่าท่านจะ
พูดว่ากระไร ข้าพเจ้าก็จะฟังท่านทุกคำ”ชายคนนั้นกล่าว
“ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นเจ้าจงปล่อยมือของเจ้าที่จับเถาวัลย์เสีย”

ชายคนนั้นได้ฟังแล้วคิดในใจว่า “ถ้าเพียงแค่ปล่อยมือ ก็ต้องตกลงไปในเหว
ลึกนั้นแน่ แล้วเมื่อตกลงไปแล้วกระดูกคงจะแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี แล้วจะรักษา
ชีวิตให้รอดได้อย่างไร?”

ดังนั้นชายคนนั้นจึงจับเถาวัลย์ไม่ยอมปล่อย พระอมิตพุทธเห็นชายผู้นั้น
ยังยึดมั่นถือมั่น ไม่ยอมปล่อยวาง และยังหลงอยู่ในวังวนแห่งความไม่รู้
จึงได้แต่แยกจากไป

                 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2014, 06:49:13 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #115 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 12:02:38 am »




๘๐ เขียนตรงกับเขียนกลับหัว

มีสามเณรท่านหนึ่งถามพระอาจารย์ว่า ท่านเคยบอกว่า “การปฏิบัติธรรม
ต้องมีจิตที่จะฉุดช่วยผู้คน และถ้าหากเป็นคนชั่ว ที่ประพฤติชั่วจนผิดมนุษย์
ยังจะต้องฉุดช่วยเขาอีกหรือเปล่า?”

พระอาจารย์ไม่ตอบแต่หยิบกระดาษมาเขียนคำว่า “ข้า” แต่เขียนกลับหัวไป
อยู่ด้านล่าง แล้วถามศิษย์ว่า “นี่คือตัวอะไร?”
สามเณรตอบว่า “เป็นตัวหนังสือ”
“อ่านว่าอะไร?”พระอาจารย์ถาม
อ่านว่า “ข้า” สามเณรตอบ
“คำว่า “ข้า” เขียนกลับหัว ยังนับว่าเป็นตัวหนังสือหรือเปล่า?”
“ไม่นับ” สามเณรตอบ
“เมื่อไม่นับว่าเป็นตัวหนังสือ ทำไมเจ้าถึงบอกว่าเป็นคำว่า “ข้า”
“นับ นับ “สามเณรรีบเปลี่ยนคำ
“เมื่อนับว่าเป็นตัวหนังสือทำไมเจ้าถึงบอกว่าเขียนกลับหัว”

เมื่อสามเณรตอบไม่ได้ พระอาจารย์จึงพูดต่อว่า “เมื่อเขียนให้ถูกก็เป็นตัว
หนังสือ เขียนกลับหัวก็เป็นตัวหนังสือ และเจ้ายังบอกว่าเป็นคำว่า “ข้า”
แล้วยังบอกว่านั่นเป็นการเขียนกลับหัวกลับหาง เป็นเพราะในใจของเจ้า
รู้ว่าคำนั้นคือคำว่า “ข้า”

ด้วยเหตุผลเดียวกัน คนดีก็เป็นคน คนชั่วก็เป็นคน สิ่งสำคัญที่สุดคือ
เจ้าจะต้องเข้าใจถึงธรรมชาติของจิตเดิมแท้ เมื่อเวลาที่เจ้าพบกับคนชั่ว
เจ้าต้องเห็นจิตเดิมแท้ของเขาด้วย ทำให้เขาสามารถเข้าใจถึงจิตของเขา
ก็จะฉุดช่วยเขาได้ไม่ยาก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2013, 04:12:45 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #116 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 12:25:11 am »




๘๐. ๑ อวิชชาปรุงแต่งจนเกิดความกลัว

ชายหนุ่มคนหนึ่งคิดจะปลีกวิเวกที่ในป่า เมื่อถึงยามค่ำคืนที่เงียบสงัด
ก็คิดจะนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ขณะที่จะนั่งอยู่นั้น ได้ยินเสียงผิดปกติขึ้น
เสียงที่ได้ยินมาจากรอบทิศนั้นเหมือนเสียงผีและเสียงสุนัขจิ้งจอกเห่าหอน
เขารู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที แต่ก็ได้แต่อดทนข่มความกลัวไว้ สักครู่ก็ได้ยิน
เหมือนกับมีเสียงพูดพึมพำๆไม่ได้ศัพท์ เหมือนกับวิญญาณผีดิบจะมาเอาชีวิต
วินาทีนั้นเขารู้สึกทนไม่ไหวต่อไปแล้ว รีบท่องบทสวดในคัมภีร์จินกัง
สวดไปสวดไปจนถึงยามดึกเมื่อรู้สึกเพลียจึงคิดจะเข้านอน

พอถึงวันรุ่งขึ้นจึงได้รีบลงจากเขาไป ขณะที่เดินไปก็คิดในใจว่า
“ข้ามิใช่จะมาบำเพ็ญภาวนาหรือ? ทำไมความกลัวแค่นี้จะสยบลงไม่ได้
แล้วจะหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้อย่างไร?”

                 

ขณะที่ลังเลอยู่นั้น ก็ได้พบกับชายตัดฟืนคนหนึ่ง จึงถามขึ้นว่า
“เจ้าอาศัยอยู่ในป่านี้หรือ?”
“ข้าเกิดที่นี่ เมื่อโตขึ้นก็หาเลี้ยงชีพด้วยการตัดฟืน”
“แล้วเจ้าไม่กลัวหรอกหรือ?”
ชายตัดฟืนหัวเราะแล้วพูดว่า
“เหมือนกับคนที่อยู่ใกล้ทะเล ยังจะกลัวทะเลหรอกหรือ?”
ชายตัดฟืนพูดจบแล้วก็เดินจากไป



ชายหนุ่มนั้นเดินต่อไปพลางคิดไปพลาง คนตัดฟืนไม่กลัว เพราะเขาเกิดในป่า
แล้วก็ไม่เกี่ยวกับการบำเพ็ญภาวนา ขณะที่คิดเพลินอยู่นั้นไม่ทันระวังได้เดิน
ชนกับนายพรานร่างกำยำคนหนึ่ง ชายหนุ่มนั้นรีบขอโทษ แล้วถามขึ้นว่า
“ท่านมีอาชีพล่าสัตว์หรือ?”
“ข้าล่าสัตว์มายี่สิบสามสิบปีแล้ว”
“ท่านล่าสัตว์เวลาไหน?”
“ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเวลากลางคืน”
“เวลากลางคืนแล้วท่านไม่กลัวหรอกหรือ?” ชายหนุ่มถาม
“น่าขัน ถ้าหากปอดแหกอย่างนั้นแล้วจะเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ได้อย่างไร?”
พูดเสร็จแล้วนายพรานก็เดินจากไป

และชายหนุ่มนั้นก็หาข้ออ้างให้กับตนเองว่า “นายพรานนั้นเคยชินกับ
ล่าสัตว์ในเวลากลางคืน และไม่เกี่ยวกับการบำเพ็ญภาวนา ขณะที่จะ
เดินต่อไป ก็พบกับสตรีวัยกลางคนคนหนึ่ง เลยเข้าไปถามว่า
“ขอถามท่านพี่หน่อยว่า ทำไมถึงได้ขึ้นเขาตามลำพังแต่เพียงผู้เดียว”
“ข้าขึ้นเขาเพื่อมาส่งเสบียงและเสื้อผ้าให้กับสามี”
“ไม่ไกลจากที่นี่หรอกหรือ” ชายหนุ่มถาม
“ไกลมาก ต้องเดินอีกสองสามวันถึงจะถึง”
“แล้วกลางคืนท่านพักอยู่ที่ไหน?”
“ค่ำไหนก็นอนนั่น” หญิงนั้นตอบ
“ท่านไม่กลัวเสียงผีร้องกลางคืนหรอกหรือ?” ชายหนุ่มถาม
                     
“กลัวแต่คนที่จะมาปองร้ายเท่านั้น กลัวอะไรกับผีเร่ร่อน
ดูท่านก็แต่งตัวยังกับบัณฑิต หรือว่าท่านไม่รู้ว่า คนเราตายแล้วก็กลายเป็นผี
คนกับผีแม้จะแตกต่าง แต่เมื่อดั้งเดิมแล้วมีอะไรแตกต่างหรือ?
ในวัฏสงสารมีภพไหนที่ไม่ใช่คนวนเวียนอยู่ในนั้น
แล้วคนที่ประพฤติตนเป็นคนดี
ไหนเลยจะต้องกลัวว่าผีเร่ร่อนเหล่านั้นจะมาเอาชีวิต

โบราณท่านว่า “ผู้ที่มีคุณธรรมสูง แม้แต่ผียังเลื่อมใส”
ผีและเทพมีแต่จะคุ้มครองผู้ที่ประพฤติดี
มีหรือจะมาทำร้ายคนที่มีคุณธรรม”
หญิงนั้นพูดจบแล้วก็เดินจากไป

หลังจากฟังคำกล่าวของหญิงนั้น ชายหนุ่มนั้นได้คิด หยุดปรุงแต่งให้จิตกลัวอีก
เขาตัดสินใจบำเพ็ญภาวนาต่อที่กระท่อมกลางป่า

       

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2013, 04:48:19 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #117 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 12:27:13 am »




๘๐. ๒ มุ่งมั่นที่จะเดินต่อไป

ทางเดินแห่งชีวิต บางช่วงขรุขระ บางครั้งราบเรียบ
ยามล้มลุกคลุกคลาน ต้องลุกขึ้นมา
ยามสะดวกราบรื่น ต้องระวัง

ตลอดทางเดิน
บางครั้งเจอพายุ เจอฝนกระหน่ำ
บางครั้งเจอลมและคลื่นที่เรียบสงบ

ไม่ว่าจะเป็นสภาพที่เป็นไปธรรมชาติ หรือเป็นเพราะมนุษย์เป็นเหตุ
ให้รู้อยู่แก่ใจ เข้าใจด้วยตนเอง

เหตุต้นผลกรรมทั้งหมด คอยแต่จะฝึกฝนเรา
เมื่อรู้ว่าผิดแล้วต้องตั้งใจแก้ แก้แล้วเริ่มต้นใหม่

รู้ได้มาจากสิ่งที่เคยหลง อริยะมาจากปุถุชน
ผู้อื่นทำผิดเป็นเรื่องของผู้อื่น ตนเองทำผิดตนเองต้องรับผิดชอบ
ควรจะเข้าให้ถึงแก่นแท้ของเหตุและผล รู้สำนึกให้ทันท่วงที

ถ้าเป็นเช่นนั้น
กรรมที่ตามสนอง เมื่อชดใช้หมดแล้วทุกข์ก็ย่อมทุเลา
ผลกรรมเมื่อสำนึกผิดได้แล้ว ความสะอาดและสงบย่อมเกิดขึ้นได้เอง

ก็จะเป็นอย่างคำกล่าวที่ว่า
ทันทีที่วางมีด(ที่หลงผิด)ลง ก็จะกลายเป็นพุทธะทันที

             

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2013, 05:00:13 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #118 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 02:23:47 pm »



๘๐. ๓ หนอนสามตัว

ในพุ่มไม้ใกล้ริมคลองแห่งหนึ่ง มีหนอนอยู่สามตัว
พวกมันคลานมาจากที่ไกลๆแห่งหนึ่ง ตั้งใจจะข้ามคลองแห่งนี้ไป
อีกฝั่งหนึ่งที่มีดอกไม้บานสะพรั่งอยู่ทั่วบริเวณ

ตัวที่หนึ่งพูดว่า “พวกเราต้องหาสะพานให้เจอก่อน ถึงจะคลานข้ามสะพานไป”
ตัวทีสองพูดว่า “บริเวณนี้เป็นที่รกร้างนอกเมือง ที่ไหนจะมีสะพาน?
พวกเราสร้างเรือคนละลำ แล้วลอยข้ามคลองไปดีกว่า”
ตัวที่สามพูดว่า “พวกเราเดินทางไกลมาไม่น้อยแล้ว รู้สึกเหนื่อยเต็มทีแล้ว
ควรจะพักที่นี่สักสองวันก่อน”

หนอนอีกสองตัวประหลาดใจ พูดขึ้นว่า “พักก่อนหรือ? ตลกสิ้นดี
ไม่เห็นหรือว่าฝั่งนั้น มวลน้ำหวานและเกสรดอกไม้โดนผู้อื่นดูดหมดแล้ว
เราต่อสู้และผ่านอุปสรรคมาแล้วเท่าไหร่ เพียงเพื่อมานอนอยู่ตรงนี้หรือ?”

             

ขณะที่พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีตัวหนอนคลานขึ้นไปบนต้นไม้
เตรียมตัวจะหาใบไม้ใบหนึ่งมาทำเป็นเรือ
อีกตัวหนึ่งก็คลานไปที่ทางเดินริมคลอง เพื่อจะหาสะพานข้ามไปฝั่งนั้น

ตัวที่เหลือนอนอยู่ใต้ร่มไม้ไม่ได้ขยับไปไหน คิดในใจว่า
“ดื่มน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ย่อมจะมีความสุขแน่นอน
แต่ลมเย็นๆที่ฝั่งนี้ก็น่าจะอยู่ชื่นชมอีกสักพัก” คิดแล้วก็ก็คลานขึ้น
ไปบนต้นไม้ที่สูงที่สุด ให้ใบที่เหมาะๆแล้วนอนเล่นอยู่ตรงนั้น



เสียงน้ำในลำธารกระทบหินทำให้เกิดเสียงแว่วแผ่วมาดั่งเสียงดนตรี
ใบไม้โดนลมอ่อนๆแกว่งไกวไปมาดั่งเปลน้อยของทารก
หนอนตัวนั้นนอนหลับไปอย่างมีความสุข

ไม่รู้เวลาล่วงเลยไปแล้วเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าในความฝัน ตนเองฝันเห็น
อะไรบ้าง รู้แต่ว่า เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา เห็นตัวเองกลายเป็นผีเสื้อที่สวยงามตัวหนึ่ง



ปีกของมันสวยงามและบางเบา แค่กระพือปีกเบาๆ ก็บินข้ามไปฝั่งนั้นได้
ขณะนั้น ดอกไม้กำลังบานอย่างสวยงาม เกษรทุกดอกส่งกลิ่นและรสหอมหวาน
เวลานั้นมันคิดถึงเพื่อนอีกสองตัวขึ้นมา เลยบินวนหาจนรอบก็หาไม่เจอ
ที่แท้เพื่อนสองตัวนั้น ตัวหนึ่งถูกน้ำพัดพาหายไป อีกตัวหนึ่งเดินจนเหนื่อยตายไป

ในโลกนี้ ไม่มีพลังใดจะเกินไปกว่าพลังที่เป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ
ไม่มีสิ่งใดจะน่าหลงใหลเท่าเนื้อแท้ๆของธรรมชาติ
แต่ที่น่าเศร้าคือ
ความเป็นจริงเช่นนี้ ในสังคมแห่งการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับรู้ได้อย่างแท้จริง

           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2014, 10:31:10 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #119 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 02:33:34 pm »

           

๘๑. ออกมาจากใจ

ขณะที่พระอาจารย์สองท่านกำลังจะเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
พบหิมะขวางทางอยู่จึงไม่สามารถเดินข้ามไปได้ จึงได้พักแรมอยู่ข้างทางนั้น
พระอาจารย์ท่านแรกวันๆนั่งเล่นตามสบาย หรือไม่ก็นอนหลับไป
ส่วนพระอาจารย์ท่านที่สองก็เอาแต่นั่งสมาธิ

พระอาจารย์ท่านแรกตำหนิท่านที่สองว่าไม่สมควรวันๆเอาแต่นั่งสมาธิ
พระอาจารย์ท่านที่สองชี้ไปที่หน้าอกตัวเองแล้วพูดว่า

“ตรงนี้ของข้าพเจ้ายังไม่หนักแน่นมั่นคง คงไม่กล้าหลอกลวงตัวเองและ
หลอกลวงผู้อื่น ขอพูดตามความเป็นจริง ตั้งแต่บำเพ็ญภาวนามา จิตใจของ
ข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยสงบมาตลอด”

“ถ้าหากเรื่องที่พูดเป็นความจริง ท่านลองเล่าเรื่องการภาวนามาให้ฟังทั้งหมด
ถ้าหากที่ถูกทาง ข้าพเจ้าจะรับรองให้ ถ้าที่ผิดทางจะช่วยชี้แนะให้”

พระอาจารย์ท่านที่สองจึงเล่าเรื่องการภาวนาที่ผ่านมาทั้งหมดให้ฟัง หลังจากฟัง
จนจบแล้ว พระอาจารย์ท่านที่หนึ่งจึงพูดว่า
“ท่านไม่เคยได้ยินหรือว่า สิ่งที่เข้ามาทางประตูไม่ใช่สิ่งล้ำค่าของที่บ้าน”

พระอาจารย์ท่านที่สองถามว่า “ต่อไปข้าพเจ้าควรทำอย่างไร?”
“ถ้าหากท่านต้องการเผยแพร่พระธรรม ไม่ว่าการพูดหรือการกระทำต้อง
เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจ สามารถยืนหลักตั้งมั่นต้านทานสิ่งต่างๆได้

               

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2013, 05:09:42 pm โดย ฐิตา »