แบตไหลเป็นน้ำ? มาหาสาเหตุกัน

[แก้วจ๋าหน้าร้อน]

 
เชื่อ ว่าหลายๆคนน่าจะเคยได้อ่านวิธีการประหยัดแบตกันไปก็เยอะละ งานนี้ advanced ขึ้นอีกหน่อย จับปัญหาแบตไหลเป็นน้ำกันไปเลย โดยบทความนี้ Galaxy Note จะเป็นอุปกรณ์หลักที่พูดถึงและยกตัวอย่าง เนื่องจากว่าเมื่ออัพเดทเป็น Android 4.0 แล้วหลายๆคนมีอาการแบตสูบ เครื่องอุ่นอยู่เสมอ ไม่ได้ใช้งานอะไรไม่ถึงครึ่งวันแบตยังหมด ซึ่งจากการศึกษาแล้วมีหลากหลายสาเหตุมาก จึงอยากเอาวิธีการตรวจสอบและทางแก้เบื้องต้นมาแชร์ให้ได้อ่านกัน ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถประยุกต์ใช้งานกับอุปกรณ์รุ่นอื่นๆได้เช่นกันครับ
สำหรับ ใครต้องการข้ามขั้นตอนหาวิธีการแก้ไข Galaxy Note ตัวเองแบตหมดไวมากตั้งแต่อัพ ICS ก็ข้ามไปอ่านด้านท้ายๆก่อนเลยก็ได้เช่นกันครับ แต่ถ้าไม่มีเวลาอ่านบทความแสนยาวนี้ก็ลงแอพ 2 ตัวด้านล่างนี้ก่อน บ่ายๆเย็นๆค่อยมาทำจะได้เห็นผลกันด้วย
ก่อนอื่น เรามาเข้าใจเรื่องของแบตไหลเป็นน้ำกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง
1. ไหลจากการใช้งานปกติ - ข้อ นี้เรียกบ้านๆก็คือใช้งานมันเยอะอยู่แล้ว แบตมันหมดไวก็เป็นเรื่องธรรมดา โดยหน้าจอจะเป็นตัวกินไฟมากที่สุด ไม่ต้องกังวลไปถ้าอาการนี้เกิด เลิกเห่อเมื่อไหร่เดี๋ยวก็อยู่ได้นานเอง
วิธีการสังเกต เมื่อ เลิกเล่นแบบบ้าคลั่งแล้ว ทิ้งเครื่องไว้เฉยๆ หรือเปิดเครื่องทิ้งข้ามคืนดูว่าแบตลดลงมากกว่าชม.ละ 2-4% หรือไม่ ถ้ามากกว่านี้เตรียมตรวจสอบสันนิษฐานข้อ 2-3 ได้เลย
2. ไหลจากความผิดปกติของแอพ - เนื่อง จากใน Play Store ไม่มีการคัดกรองแอพทั้งหมด ทำให้มีโอกาสที่เราจะเจอแอพที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งแอพเหล่านี้จะทำให้เครื่องเราทำงานอยู่ตลอดเวลา กินแบตกระซวกแหลกลาญ มักจะเจอเวลาลงแอพใหม่ๆแปลกๆ หน้าตาดูไม่น่าพิศมัยนัก ซึ่งจะแสดงถึงความไม่เรียบร้อยของนักพัฒนาที่ทำมาไม่ดีและกินแบตเครื่องเรา
วิธีการสังเกต ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาเรื่องแบต แต่หลังจากลงแอพใดแอพหนึ่งแล้วมีอาการทันทีก็สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นข้อนี้
วิธีแก้ ลบแอพที่มีปัญหาทิ้งก็เรียบร้อย
3. ไหลจากความผิดปกติของซอฟท์แวร์เครื่อง(Rom&Kernel) - โดย มากจะเกิดหลังจากใช้งานไปสักพักใหญ่ๆ แล้ววันดีคืนดีก็ดันเป็น ซึ่งกรณีนี้เป็นความผิดพลาดของซอฟท์แวร์ที่หลายๆครั้งผู้ผลิตมือถือนั้นๆเอง ก็ไม่ทราบเช่นกันเพราะไม่มีโอกาสได้เทสต์จากการใช้งานจริงแบบที่เราๆใช้กัน
วิธีการสังเกต ถ้าวันดีคืนดีแบตมันสูบผิดปกติโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก็เป็นไปได้ว่าเครื่องเราอาจจะเจอปัญหานี้อยู่
วิธีแก้ ถ้าไม่หนักหนาก็จะมีคนมาโพสต์วิธีให้ตามบอร์ด แก้ได้โดยไม่ต้องรูทเครื่อง แต่ถ้าแย่หน่อยก็มักจะต้อง factory reset แต่แนะนำว่าให้ใช้วิธีด้านล่างนี้ตรวจสอบและรายงานให้ทางผู้ผลิตรับทราบ เพื่อออก update แก้ไขต่อไปครับ
โดยการตรวจสอบเราก็ต้องหาเครื่องมือมาช่วย

2 Apps หาสาเหตุของแบตหมดไว
1. CPU Spy - สำหรับติดตามการทำงานของ CPU ว่ามันได้นอนพักหรือ Sleep States หรือเปล่าหลังจากที่เราใช้งานมันเสร็จแล้ว มองอีกอย่างก็เหมือนเรา standby เครื่องคอมเอาไว้นั่นเอง ซึ่งจะเป็นการประหยัดแบตกว่า ถ้ามีการเรียกปลดล๊อคหน้าจอ สายเรียกเข้า หรือข้อความแจ้งเตือน CPU ก็พร้อมจะทำงานทันทีโดยอัตโนมัติ โดยปกติแล้ว Sleep/Unused CPU States มันจะขึ้นสูงที่สุดในแต่ละวันถ้าเราไม่ค่อยได้เล่น แต่ถ้าวันดีคืนดีมันดันไปขึ้นที่ความเร็วน้อยที่สุดแทบจะตลอดเวลา(ใน Note จะเป็น 200MHz) แสดงว่าน้องดรอยด์เราอาจจะมีความผิดปกติ มีแอพรันค้างเอาไว้หรือความผิดปกติอะไรซักอย่าง และให้ใช้แอพ BetterBatteryStats เพื่อตรวจสอบ เจ้า CPU Spy นี้สามารถโหลดได้ฟรีจาก Play Store จ้า
 
2. BetterBatteryStats - เมื่อเจอความผิดปกติจากแอพ CPU Spy แล้วก็หาตัวนี้มาใช้ต่อ เนื่องจากตัว track battery ที่มาพร้อมกับ OS ไม่ค่อยจะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะมันให้ข้อมูลได้หยาบมาก แทบจะไม่สามารถใช้อ้างอิงอะไรได้เลย จึงมีคนทำแอพนี้ขึ้นมาแตกรายละเอียดการใช้งานเต็มๆ โดยแอพนี้ถ้าโหลดจาก Play Store จะเสียเงินประมาณ 80 บาทแต่ว่าทางนักพัฒนาก็ได้มีปล่อยตัวฟรีแจกในบอร์ดนะครับ (XDA ดูคอมเม้นท์ที่ 1) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเก่าหน่อยพอใช้ได้ แต่ถ้าใช้แล้วแก้ปัญหาได้ก็อย่าลืมอุดหนุนเค้าหน่อยละกันครับ


วิธีใช้
เมื่อเข้าโปรแกรมไปแล้วจะมีเมนูหลักให้ดู 5 ตัว
 

• Other : แสดงเวลาที่เครื่องเราใช้งาน ไม่ได้ใช้งาน และหน้าจอติดนานแค่ไหน
• Partial Wakelocks : มีแอพหรือบริการใดๆในเครื่องที่ทำให้ CPU ไม่สามารถ Deep Sleep ได้หรือไม่
• Kernel Wakelock  : มีแอพหรือบริการใดๆในเครื่องที่ทำให้ CPU ไม่สามารถ Deep Sleep ได้หรือไม่
• Alarms : ดูการเรียกการทำงานจาก Sleep States
• Process : ดูการทำงานของ CPU เรียกผ่าน process ต่างๆ

รายละเอียดลึกๆของแต่ละอัน ขอให้เข้าไปอ่านใน Help > Getting Started เพิ่มเติมเองนะครับ ซึ่งตัวหลักที่ปกติผมจะตรวจสอบคือ Partial Wakelocks เพื่อดู apps ที่ทำให้ไม่สามารถเข้า Sleep States และอีกตัวคือ Kernel Wakelock ที่เกิดจาก SW ของเครื่องมีปัญหา โดยสังเกตจากแอพที่สถิติขึ้นสูงที่สุด ถ้าเกิดว่ามันมีชื่อตัวไหนขึ้นว่ามันทำงานแทบจะเทียบเท่ากับที่เราเปิด เครื่องเลย นั่นแหละตัวการเลย

เมื่อเราได้สาเหตุของปัญหาแล้วก็ให้เอา keywords ของส่วนที่กินไฟเยอะที่สุดไปถามอากู๋ ซึ่งมักจะมีคำตอบให้เราอ่านกันครับ

ทีนี้มาเข้าเรื่องของ Galaxy Note กันละ

สำหรับ Galaxy Note ใครที่ได้อัพเดทใช้ 4.0.3 แล้วประสบปัญหาแบตสูบ หมดไวเพียงไม่กี่ชม. แม้ตั้งทิ้งไว้ตลอดเวลา และเครื่องก็อุ่นอยู่ตลอด เท่าที่ทราบเป็นปัญหาของ Kernel ซึ่งมีปัญหากับเครือข่ายบ้านเรา ทำให้มีการทำงานของ CPU ตลอดเวลา  เปิด CPU Spy จะเห็นว่าไม่ยอม Deep Sleep เลยเข้า BetterBatteryStats จะเห็น Multipdp ขึ้นหราในหน้า Kernel Wakelock ซึ่งก็สามารถปิดฟังก์ชั่นนี้ด้วยการกด *#9900#* แล้วก็ disable Fast Dormancy ทิ้งซะก็จะช่วยบรรเทาอาการได้ แต่การแก้นี้ไม่ใช่หาย 100% อาจจะเจออีกเป็นครั้งคราว แต่แก้ได้ด้วยการปิดเปิดเครื่องแล้วครับ

กับอีกปัญหานึง คือ ใน Kernel Wakelock จะเห็น fuel_alerted โชว์ว่าใช้งานเยอะสุดซึ่งปัญหานี้ต้องการด้วยการปิดแบตออกสักพักแล้วค่อยใส่เข้าไปใหม่ ปิดเปิดเครื่องธรรมดาไม่หายจ้า
ถ้าใครมีปัญหาอะไรก็ลองเอามาโพสต์บอก พร้อมวิธีแก้กันหน่อยละกันครับ จะได้ช่วยๆกันดูแล้วรวมปัญหาส่งไปให้ทาง Samsung แก้ไขให้ต่อไปจ้า เห็นว่าสำหรับ Galaxy Note ปัญหาต่างๆจะแก้แล้วใน Android 4.0.4 ที่กำลังจะอัพเดทให้ครับ
เขียนมาซะยืดยาว...ใช้ Android มันก็งี้แหละ ต้องมีความเร้าใจ ปัญหาน้อยๆไม่ใช่เรา

คำศัพท์ที่น่ารู้จักเพิ่มเติม
Kernel : เปรียบเทียบกับ Windows แล้วมันก็คือ drivers ส่วนที่ทำให้ Software และ Hardware ของเครื่องคุยกันรู้เรื่อง ลองนึกภาพของ CPU, HDD, ตัวรับสัญญาน ที่มีผู้ผลิตคนละคนกันก็เหมือนกับมาจากต่างชาติต่างภาษา แล้วการที่ OS ซึ่งเป็นตัวกลาง ต้องการจะทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ได้ ก็ต้องมีชุดคำสั่งที่ตกลงร่วมกันก่อนว่าถ้าต้องการจะสั่ง CPU เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาจะต้องสั่งอย่างไร ถ้าเป็น Exynos, TI-OMAP, Snapdragon แต่จะค่ายก็จะมีชุดคำสั่งที่ต่างกัน ทำให้ต้องมานั่งสั่งสอนใหม่ตลอดเวลา ถ้าค่ายไหนมีการเลือกใช้ HW ที่ไม่หลากหลายก็จะทำให้ไม่ต้องมานั่งสั่งสอนใหม่หลายครั้งเวลาอัพเดท Firmware นั่นเอง
ถ้าแก้ปัญหาได้แล้วหรือติดอะไรก็มาบอก กันด้วยนะครับ มีประโยชน์ก็ฝากกด Like, +1, Tweet บอกเพื่อนๆให้อีกทาง เค้าจะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับปัญหาแบตไหลกันต่อไป


ขอบคุณแหล่งความรู้จาก Google
How to solve battery issues after ICS update in your Galaxy Note : Galaxy Note Owners Community
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fast Dormancy ที่เว็บ Computer World
  เครดิตภาพก็ตามที่เจ้าของแปะไว้บนรูปนะครับ

 

ขอบคุณที่มา คุณ Gimme
http://droidsans.com/how-to-find-battery-drain-causes

[แก้วจ๋าหน้าร้อน]

การสูบแบตของสมาร์ทโฟน Android แต่ละตัวจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย  ยิ่งจอใหญ่แบตยิ่งหมดเร็ว ทั้งนี้อยู่ที่การวางแผนการใช้ Android ของเราด้วย วันๆใช้ทำอะไรบ้าง  …ส่วนตัวทำงานอยู่บ้าน ไม่ค่อยห่วงเรื่องแบต หมดก็ชาร์ทใหม่ได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าต้องออกไปข้างนอก บางทีก็อยากให้แบตเหลือไว้นั่งชิวเล่น Facebook-Twitter

อันดับแรกคือ Widget อันไหนที่ดูแล้วเกินความจำเป็น ก็เอาออกซะ Widget ที่ใช้งานหนักๆมักจะเป็นพวกพยากรณ์อากาศ และฟีดข่าว  อีกอย่างคือ Wallpaper ควรใช้ภาพนิ่งธรรมดา ใช้ภาพเคลื่อนไหวแบตลกเร็วแน่นอน

Home ที่ใช้คืออะไร ใช้ที่มากับเครื่องหรือดาวโหลดมาจาก Market ถ้าใช้ Home ที่มากับเครื่องโดยมากจะมีความสเถียรในตัว แต่ถ้าดาวโหลดมาติดตั้งใหม่ ต้องคอยสังเกตเอาเองว่าการทำงานเครื่องหนักขึ้นหรือไม่

“3G Wifi บลูทูธ GPS” เหล่านี้คือตัวสูบแบตชั้นเยี่ยม 3G/Wifi แนะนำให้ปิดตอนนอนหรือตอนที่ไม่ได้ใช้งาน  ส่วนบูทูธกับ GPS ควรปิดทุกครั้งหลังจากใช้เสร็จ  และอีกอย่างคือ ความสว่าง บางจะหว่ะไม่ควรเปิดสว่างเกินไป เช่น ถ้าอยู่ในที่ที่มีแสงน้อย ก็ไม่ต้องใช้ความสว่างมาก ใน Widget ควบคุมพลังงานจะมีให้ปรับอยู่ 3 ระดับ  หรือจะปรับเองก็เข้ามาตั้งค่าความสว่างหน้าจอ

เสียง เรียกเข้าดังเกินไปหรือไม่ ระบบสั่นมีความจำเป็นไหว และหลายเครื่องจะตั้งให้มีการสั่นเวลากดปุ่มเมนู ถ้าไม่ชอบก็เข้าไปตั้งค่าเสียง

หลังจากที่เล่นแอพเสร็จ แอพบางตัวจะยังทำงานอยู่ ให้ใช้ Task Manager ปิดการทำาน จะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องได้

สรุป
แนวทางที่ผมนำเสนออาจสวนทางกับการใช้สมาร์ทโฟนของใครหลายคนอยู่ โดยเฉพาะคนที่ชอบแต่หน้าโฮม …ถ้าชอบก็ทำมันต่อไป อย่าให้เรื่องแบตมาทำให้ความสนุกของการใช้ Android ลดน้อยลง  แต่ยังพอมีทางเลือกสำหรับคนชอบแต่งหน้าโฮม คือให้ใช้อย่างน้อย 2 โฮม โฮมแรกให้จัดหนักตามสไตล์การใช้งาน  อีกโฮมหนึ่งก็จัดให้ดูเรียบง่าย พร้อมสำหรับการประหยักแบต เช่น เมื่อต้องเดินทางไปข้างนอก การทำให้เครื่องสูบแบตไปตลอดทางไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ถ้าจะได้ไปเที่ยวถ่ายรูปบ่อยๆ แนะนำใหซื้อแบตมาไว้อีกก้อนเลย จะได้หมดห่วงและถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ แต่ควรจะซื้อแบตแท้มาใช้คือแบตที่มาจากผู้จำหน่าย  …การซื้อของจีนแดงมาใส่จะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เครื่องพัง


ขอบคุณที่มา  คุณ makky

http://makky.in.th/1057/

[แก้วจ๋าหน้าร้อน]

5 วิธีประหยัดพลังงานให้กับ แอนดรอยด์ แท็บเล็ต และ สมาร์ทโฟน ปัจจุบันกระแสความแรงของการใช้ Smart Phone และ Tablet มาแรงมากๆ ครับ ทิปแอนด์ทริกฉบับนี้ เราเลยนำความรู้ในการประหยัดแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตมาให้คุณได้รับรู้เพื่อจะได้ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมช่วยยืดอายุการใช้แบตเตอรี่ของเครื่องได้มากขึ้นอีกด้วย หมดปัญหาเรื่องแบตหมด หรือเสื่อมไวครับ เรามาดูรายละเอียดพร้อมปฏิบัติไปพร้อมกันก็ได้นะครับ
1. ปลดโหมดการเชื่อมต่อข้อมูลตลอดเวลา (Always-On Mobile Data)
วิธีการนี้นอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานได้แล้ว ยังเป็นการปิดการใช้ชั่วโมงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยครับ สำหรับผู้ที่สมัครแพ็คเก็จกับผู้ให้บริการแบบตามปริมาณข้อมูลที่ใช้งาน ถ้าคุณไม่ปิดคุณสมบัตินี้ เมื่อคุณเปิดเครื่องระบบจะทำการเชื่อมต่อตลอดเวลาแบบอัตโนมัติ ทำให้เปลืองค่าใช้จ่าย แถมยังใช้พลังงานในการเชื่อมต่อข้อมูลอีกด้วยครับ
 
 
 
  2. ให้เปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Power saving mode)
 
  ในโหมดนี้จะเป็นโหมดหลักของการประพยัดพลังงานอย่างแท้จริงครับ เนื่องจากจะปิดระบบการเชื่อมต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ
 

• ปิดการเชื่อมต่อ Wi-Fi
   การปิด Wi-Fi ในขณะที่ยังไม่ต้องการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะช่วยประหยัดพลังงาน เนื่องจากระบบจะไม่ใช้พลังงานในการค้นหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi แต่ถ้าต้องการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แล้วบริเวณนั้นสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi และเครือข่ายมือถือ ขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายมือถือครับ
• ปิดการเชื่อมต่อบลูทูธ
   ในการปิดโหมดการใช้บลูทูธ ขณะที่ยังไม่ได้ใช้งานหูฟังบลูทูธ หรือโหมดในรถยนต์ สามารถช่วยประหยัดพลังงาน และยืดอายุการแบตเตอรี่ได้ครับ
• ปิดระบบ GPS
   การปิดโหมด GPS ก็เช่นเดียวกันครับ ซึ่งโหมดนี้เป็นโหมดที่กินไฟมากทีเดียวครับ ถ้าไม่จำเป็นควรจะปิดไว้นะครับ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้แบตเตอรี่ของคุณอีกด้วยครับ แต่ถ้าต้องการเปิดการใช้งานการระบุตำแหน่ง ควรจะใช้โหมด "ตำแหน่งและระบบป้องกัน" ดีกว่านะครับจะได้ประหยัดพลังงานได้ด้วยครับ
• ปิดการซิงค์ข้อมูล
   ข้อมูลที่ว่านี้ก็คือแอพพลิเคชั่นต่างๆ นั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดระบบอีเมล์ผ่าน Gmail, ปฏิทิน, Twitter ระบบจะทำการซิงค์ โดยอัตโนมัติผ่านเครือข่ายไร้สายในช่วงเวลาที่กำหนด ถ้าเราซิงค์ข้อมูลเมื่อต้องการเองจะดีกว่าครับ
• ความสว่าง
   การลดความสว่างของหน้าจอ สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากเหมือนกันนะครับ แต่คุณต้องปรับให้พอเหมาะ ไม่สว่างจร้าเกินไป หรือมืดเกินไปนะครับ หรือคุณสามารถเลือกโหมดความสว่างอัตโนมัติก็ได้นะครับ ระบบจะปรับให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมที่ใช้งานอยู่ในขณะนั้น

3. ใช้ระบบ Wallpaper แบบธรรมดาแทนการใช้ Live Wallpaper
การใช้วอลเปเปอร์ที่มีภาพเคลื่อนไหวไปมาผ่านระบบ Live Wallpaper ที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มีไว้ให้ใช้งานนั้น เป็นระบบที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อย่างมาหศาลนะครับ ถ้าคุณเปลี่ยนมาใช้วอลเปเปอร์ที่เป็นรูปคุณ หรือกับคนที่คุณรักที่เป็นภาพนิ่งจะดีกว่านะครับ นอกจากจะช่วยคุณประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยสานฝันความรักอันหวานชื่นให้ยืนยงตลอดไปอีกด้วยนะครับ...ขอบอก
 
 
 
  4. ยกเลิกการใช้ Widget ที่ไม่ได้ใช้งานออกไป
Widget คือแอพพลิเคชั่นเล็กๆ ทางฝั่งไคลเอ็นต์ซึ่งติดตั้งอยู่บนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต โดยใช้เทคโนโลยีเว็บที่อาศัย TouchWiz UI ในการเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ของสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต โดยปกติแล้ว Widget ได้รับการออกแบบมาให้จัดการงานง่ายๆ เช่น จัดเตรียมอินเทอร์เฟซให้กับเว็บไซต์สำหรับการค้นหาเว็บ และอื่นๆ ซึ่งโดยปกติ Widget เหล่านี้ ในบางแอพฯจะทำการเชื่อมต่ออิเนเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา เพื่ออัพเดตข้อมูล และเวอร์ชั่นของแอพฯ นั้น นั่นหมายความว่าถ้ายังมี Widget ที่ไม่จำเป็นไว้บนหน้า Home ก็จะทำให้ใช้พลังงานไปในการเชื่อมต่ออย่างที่กล่าวไปครับ
 
  5. ตั้งเวลาปิดหน้าจออัตโนมัติ
หลายคนบอกตรงจุดนี้ไม่สำคัญ แต่ผมขอบอกเลยนะครับว่าเป็นส่วนที่สำคัญมาก เนื่องจากการตั้งเวลาปิดหน้าจออัตโนมัติที่ไม่เหมาะสมนั้น อาทิ ตั้งเวลาไว้น้อยเกินไปวางไว้ไม่ได้ใช้งานแป๊ปเดียวก็ปิดหน้าจอไป เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาใหม่จะเป็นการใช้พลังงานในการเปิด ถ้าบ่อยๆ จะเป็นการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองมากเกินไปครับ ในทางกลับกันการตั้งเวลาให้มากเกินความจำเป็น ก็จะเป็นการใช้พลังงานที่สูญเสียไปโดยใช่เหตุ เพราะฉะนั้นควรตั้งเวลาที่เหมาะสม อาทิ 5-10 นาที จะเป็นการดีครับ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดก็คือ ถ้าไม่ได้ใช้งานก็ควรจะปิดเครื่องจะดีกว่านะครับ
 
 
 



ขอบคุณที่มา
 
http://www.synnex.co.th/community/Knowhow/SavePowerAndroid-090412/default.aspx
   
 

[กระตุกหางแมว]

ไม่ค่อยจะเห่อเลยหนอเพื่อนผม 55+
ขอบคุณครับ 

[แก้วจ๋าหน้าร้อน]

10 วิธีประหยัดแบตมือถือ Smartphone


ขอบคุณที่มาครับ 
http://www.galaxylovers.com/infographic-save-smartphone-battery/

[แก้วจ๋าหน้าร้อน]

ไม่ค่อยจะเห่อเลยหนอเพื่อนผม 55+
ขอบคุณครับ 

เพื่อนรีบถอยมาสักเครื่องเป็นเพื่อนผมสิครับ 555+ ผมเหง๊าเหงา