ผู้เขียน หัวข้อ: รวม เตือนภัย "ปัญหาพระภิกษุ" เอ๊ย ไม่ใช่ ต้องเป็น "พระภิกษุที่มีปัญหา"  (อ่าน 33987 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ทุกวันนี้ การไปทำบุญ  ตามวัดต่างๆ  ต้องพิจารณาให้ดีว่า วัดที่เราไปทำบุญ  เป็นวัดที่ดีหรือไม่ 

หากวัดไหนที่ไม่ดี  ก็อย่าไปทำบุญ 

เพื่อเป็นการไม่ส่งเสริมพระภิกษุที่ประพฤติผิดวินัยสงฆ์  ซึ่งพระภิกษุเหล่านี้ทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง

.

ผมจะทยอยนำลงให้ได้ทราบกัน


.

 รู้จักพระวินัย รู้จักพระ รู้จักอลัชชี
พุทธศาสนา ดำรงอยู่ได้ ด้วยพุทธบริษัททั้งสี่
-http://www.oknation.net/blog/maijea/2010/03/03/entry-1-


อาบัติ คืออะไร

อาบัติ คือกิริยาที่ล่วงละเมิดสิกขาบท และต้องได้รับโทษต่อตน กล่าวโดยชื่ออาบัติมี ๗ อย่าง คือ ๑ ปาราชิก ๒ สังฆาทิเสส ๓ ถุลลัจจัย ๔ ปาจิตตีย์ ๕ ปาฏิเทสนียะ ๖ ทุกกฏ ๗ ทุพภาสิต กล่าวโดยโทษมี ๓ สถานคือ

๑.อาบัติอย่างหนัก ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้นขาดจากความเป็นภิกษุ อันหมายถึงอาบัติปาราชิก

๒.อาบัติอย่างกลาง ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้นต้องอยู่กรรม โดยประพฤติวัตรอย่างหนึ่งเพื่อทรมานตน อันหมายถึงอาบัติสังฆาทิเสส

๓.อาบัติอย่างเบา ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้นต้องประจานตนต่อหน้าภิกษุด้วยกัน แล้วจึงจะพ้นโทษนั้นได้ อันได้แก่อาบัติถุลลัจจัย ปาจิตตีย์ ปาฏิเทสนียะ ทุกกฏ และทุพภาสิต โดยอาบัติ

ปาราชิก โทษประหารชีวิต ของพระภิกษุ

ภิกษุล่วงอาบัติปาราชิกเพียงข้อใดข้อหนึ่งแล้ว ย่อมไม่สามารถอยู่กับภิกษุทั้งหลายเหมือนก่อนได้อีก เป็นปาราชิกหาสังวาสมิได้ แม้จะอุปสมบทอีก ก็ไม่เป็นภิกษุโดยชอบด้วยพระวินัยตลอดชาติ อาบัติในสิกขาบทนี้ จึงเป็น อเตกิจฉา คือแก้ไขไม่ได้  เป็น อนวเสสา คือหาส่วนเหลือมิได้ เป็น มูลเฉท คือตัดรากเหง้า ภิกษุจะล่วงมิได้เลยเด็ดขาด

 

สิกขาบทที่ ๑ ภิกษุใด ถึงพร้อมซึ่งสิกขาและสาชีพของภิกษุทั้งหลาย แล้วไม่บอกคืนสิกขา ไม่ทำความเป็นผู้ทุรพลให้แจ้ง เสพเมถุนธรรม โดยที่สุดแม้ในสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้

สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุใด ถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้ เป็นส่วนแห่งโจรกรรม จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี ในเพราะถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้เห็นปานใด ภิกษุถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้เห็นปานนั้น แม้ภิกษุนี้ ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้

สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุใด จงใจพรากกายมนุษย์จากชีวิต หรือแสวงหาศัสตราอันจะปลิดชีวิต ให้แก่กายมนุษย์นั้น หรือพรรณนาคุณแห่งความตาย หรือชักชวนเพื่ออันตาย โดยหลายนัย แม้ภิกษุนี้ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้

สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุใด ไม่รู้เฉพาะ [คือไม่รู้จริง] กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้ามาในตน อันผู้ใดผู้หนึ่งถือเอาตามก็ตาม ไม่ถือเอาตามก็ตาม [คือเชื่อก็ตาม ไม่เชื่อก็ตาม ถูกซักถามก็ตาม ไม่ถูกซักถามก็ตาม] เป็นอันต้องอาบัติแล้ว แม้ภิกษุนี้ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้ เว้นไว้แต่สำคัญว่าได้บรรลุ



ถ้าพระภิกษุ ผิดในเรื่องของปราชิก  ไม่จำเป็นต้องไปสึก(พิธีการสึก)  เพราะขาดจากความเป็นพระภิกษุอัตโนมัติไปแล้ว

แต่หากผิดในเรื่องอื่นๆ  หากจะให้สึก ต้องให้พระภิกษุทำพิธีการสึกครับ



.

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
รวบพระกร่าง! เมาอาละวาทคาวัดแถมไม่ยอมสึก

รวบพระกร่าง! เมาอาละวาทคาวัดแถมไม่ยอมสึก

รวบพระกร่าง! เมาอาละวาทคาวัดแถมไม่ยอมสึก

-http://www.youtube.com/watch?v=-15ZdPRNefE-

-----------------------------------------------------------------------------------

สุดทน! พระเมาพร่ำบขส.ปทุมธานี

สุดทน! พระเมาพร่ำบขส.ปทุมธานี

สุดทน! พระเมาพร่ำบขส.ปทุมธานี

-http://www.youtube.com/watch?v=emFFj4GRLog-

-------------------------------------------------------------------------------

รวบพระหื่น! ลวง ด.ญ.วัย11ขวบ กระทำอนาจารในกุฏิ

รวบพระหื่น! ลวง ด.ญ.วัย11ขวบ กระทำอนาจารในกุฏิ

รวบพระหื่น! ลวง ด.ญ.วัย11ขวบ กระทำอนาจารในกุฏิ

-http://www.youtube.com/watch?v=nTSR8tn7wb8-

----------------------------------------------------------------------------

รวบ! พระเสพยาบ้า ในห้องน้ำป่าช้า คาจีวร

รวบ! พระเสพยาบ้า ในห้องน้ำป่าช้า คาจีวร

รวบ! พระเสพยาบ้า ในห้องน้ำป่าช้า คาจีวร

-http://www.youtube.com/watch?v=aCp_XuD_k_w-


.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
จับอดีตพระลวง ม.1 ข่มขืน
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    14 เมษายน 2557 19:09 น.

-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000041894-



ตำรวจจับอดีตพระลูกนวลจันทร์อายุ 40 ปี แชตหลอกเด็กหญิงชั้น ม.1 ไปอยู่กินภายในห้องเช่า จ.จันทบุรี เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี
       
       วันนี้ (14 เม.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ทิตวีร์ เอี่ยมสะอาด สว.กก.1 บก.ปคม. แถลงข่าวจับกุม นายทศพร สกุลอินทร์ อายุ 40 ปี อดีตพระลูกวัดแห่งหนึ่งย่านถนนรามอินทรา (วัดนวลจันทร์) อยู่บ้านเลขที่ 212/41 หมู่ 4 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. ในความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยา โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
       
       ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ปกครองของ ด.ญ.ส้ม (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พิจิตร ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม.ว่า ด.ญ.ส้มหายออกจากบ้านพักไปตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา สงสัยว่าจะหนีมาอาศัยอยู่กับนายทศพร หรือพระทศพร ที่วัดดังกล่าว เนื่องจากบุตรสาวติดต่อกับนายทศพรผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชันไลน์ในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำ
       
       พ.ต.ท.ชูศักดิ์กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้ง ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบยังวัดแห่งนี้ โดยพบข้อมูลจากพยานที่พบเห็น ด.ญ.ส้มมาอาศัยอยู่ที่กุฏิของพระทศพร ก่อนจะลาสิกขาแล้วทั้งสองก็หายตัวไป เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามจึงทราบว่านายทศพรได้พา ด.ญ.ส้มมาอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าใน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี จึงประสานตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 114 นำกำลังเข้าจับกุมและช่วยเหลือ ด.ญ.ส้มออกมาอย่างปลอดภัย
       
       สอบสวนนายทศพรรับสารภาพว่า ก่อนหน้าที่จะบวชพระได้รู้จักกับ ด.ญ.ส้ม ผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊ก และได้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ ติดต่อกันจนสนิทสนม ตนให้คำปรึกษาทั้งด้านการเรียนและการใช้ชีวิตในฐานะพี่สอนน้อง กระทั่งเมื่อบวชแล้วก็ยังติดต่อกัน จนทาง ด.ญ.ส้มได้เดินทางมาหา บอกว่ามีปัญหากับที่บ้านไม่อยากอยู่บ้าน ตนไม่ได้หลอกลวง แต่ยอมรับว่าช่วงที่อยู่ในกุฏิ 1 คืน ได้มีเพศสัมพันธ์กันเพราะอดใจไม่ไหว พอเช้ามาจึงลาสิกขาต่อเจ้าอาวาส ก่อนจะพากันไปนอนค้างบ้านเพื่อนย่านนวมินทร์ แล้วเดินทางต่อไปยัง จ.จันทบุรี โดยตั้งใจว่าจะตั้งถิ่นฐานที่นั่น ยืนยันว่าไม่ได้ล่อลวงแต่เป็นเพราะความรักของสองคน
       
       อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ส่งตัว ด.ญ.ส้มไปตรวจร่างกายและอยู่ใความดูแลของ รพ.ตํารวจ ก่อนส่งตัวให้พ่อแม่ ส่วนนายทศพรแจ้งข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลไปเพื่อการอนาจารและกระทําชําเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่สามีหรือภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม มีอัตราโทษจําคุกสูงสุด 20 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
การศึกษา และ การอบรม 

ไม่ได้ทำให้มีความรู้(สึก)ผิดชอบชั่วดีเลย


---------------------------------------------------------------------------


ข่าวพระแต่งหญิง ฉายานาตาลีร้อยหน้า พบเป็นพระวัดดังกลางกรุง








เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            ข่าวพระแต่งหญิง ฉายานาตาลีร้อยหน้า พบเป็นพระวัดดังกลางกรุง อักษรย่อ ม. ชื่อ พระมหานภัทร์สรณ์ แฉในเฟซบุ๊กพระแต๋ว มีข้อความไปเที่ยวผับ เที่ยวบาร์ ตบกะเทยรุ่นน้อง ลั่นเรียนจบก็สึกซิ จะอยู่ทำไม

            วันนี้ (17 เมษายน 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับ พระมหาวิทยาลัยสงฆ์ชื่อดังแต่งหญิงและโพสต์ภาพอวดในเฟซบุ๊ก จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากภาพดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงและกระทบต่อความศรัทธาในพระพุทธศาสนา

            ทั้งนี้ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ตนเห็นภาพและทราบเชื่อดังกล่าวแล้ว และล่าสุดตนก็ได้รับเบาะแสและข้อมูลจากสมาชิกเครือข่าย โดยพบว่า พระสงฆ์ดังกล่าว ชื่อว่า "พระมหานภัทร์สรณ์" ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า "นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากหนู" มีฉายาว่า "นาตาลีร้อยหน้า" เป็นพระวัดดังอักษรย่อ "ม." อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แต่ที่ยังไม่เปิดเผยชื่อวัด เพราะต้องการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง



            นอกจากภาพที่ พระมหานภัทร์สรณ์แต่งหญิงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กแล้ว เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีข้อความที่สนทนาค่อนข้างไม่เหมาะสม อาทิ

            วันนี้ไปตบกะเทยน้อยมารู้สึกเจ็บทั้งตัว ที่เจ็บที่สุด คือ นิ้ว แต่ก็ภาคภูมิใจ ที่ไปถิ่นเขาและเอาชนะกลับมาได้ ป.ล.ไม่ค่อยสบายขอตัวพักผ่อนก่อนนะ งดเที่ยว งดให้ผู้ชายเ..ด โฟกัสรักแฟนคลับทุกคนนะคะ

            กูเรียนจบ กูก็สึกสิจะอยู่ทำไม

            เวลาว่างของกะเทยส่วนกลาง กินเสร็จหากินผู้ชาย เล่นไพ่ ลาก่อนอยุธยา เจอกันในกรุงเทพฯ นะ

            เธอจะสวยแค่ไหนผู้ชายเขาไม่เลือกหรอก ผู้ชายสมัยนี้ชอบกะเทย แรง มีเงิน หุ่นดี ปากจัด กล้าแสดงออกว่าเมียกูแรงจริง สวยมากสวยน้อยเสียเงินเท่ากัน แต่โฟกัสเสียน้อย เพราะสวย แรง หุ่นดี แต่มึงอ่ะผีเลยต้องทุ่ม ป.ล. นภัทร์สรณ์ โฟกัส อำนาจเงินใหญ่ที่สุด สมัยนี้สวยแค่ไหนกูก็เห็นสี่ดากผู้ชายหมด

            โดยนายสงกรานต์ กล่าวว่า ข้อความเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้ศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเลย และจากข้อมูลที่ตนได้รับมา มีการระบุว่า พระรูปดังกล่าวเที่ยวผับ เที่ยวบาร์ ได้ผู้ชาย ซึ่งการเป็นพระหากมีการเสพเมถุนหรือเสพสังวาสแล้ว ก็ถือว่า ปาราชิก ไม่สามารถกลับมาบวชได้ใหม่ ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการเป็นพระสงฆ์แล้ว

            ส่วนในเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (17 เมษายน 2557) นายสงกรานต์ จะนำภาพลับเฉพาะ รวมถึงข้อมูลหลักฐานทั้งหมดของบุคคลดังกล่าว ไปร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ประสบโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

            ขณะที่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตนได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกัน แต่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่า บุคคลในเฟซบุ๊กเป็นพระจริงหรือไม่ และอยู่ในสังกัดใด เพื่อที่จะให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการตามความเหมาะสม ส่วนการบวชนั้นที่ผ่านมาก็คัดกรองคนบวชอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว โดยเฉพาะบุคคลที่มีพฤติกรรมที่สื่อไปในเพศที่ 3 อย่างชัดเจน ก็จะไม่ให้บวช แต่ยอมรับว่า ที่ผ่านมาเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์ ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีพฤติกรรมเบี่ยงเบนก่อนมาบวช แต่จะพบก็เมื่อได้รับการบวชไปแล้วระยะหนึ่ง
   
            นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่า หากพบว่าพระสงฆ์หรือสามเณรที่แสดงอาการและพฤติกรรมไม่มากนัก อาทิ การเดิน การพูด เป็นต้น เจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะปกครองพิจารณาแล้วว่า หากไม่เป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนา ก็ให้บวชต่อไปได้ ในส่วนที่พบว่ามีพระสงฆ์และสามเณรบางกลุ่มออกไปเที่ยวกลางคืนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง เจ้าคณะปกครองก็จะต้องจัดการ


เจอเบาะแส “นาตาลีร้อยหน้า” เป็นพระวัดกลางกรุง อักษรย่อ ม.
-http://www.youtube.com/watch?v=l7TRGeFbyn8-
เจอเบาะแส “นาตาลีร้อยหน้า” เป็นพระวัดกลางกรุง อักษรย่อ ม.
คลิป เจอเบาะแส “นาตาลีร้อยหน้า” เป็นพระวัดกลางกรุง อักษรย่อ ม. : เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official)


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
พระแต่งหญิง นาตาลีร้อยหน้า ยังไม่สึก พระครู มจร. เผยชอบเที่ยวกลางคืน

-http://hilight.kapook.com/view/100902-





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

            ข่าวพระแต่งหญิง ล่าสุด พระครูดูแลหอพัก มจร. แฉ นาตาลีร้อยหน้า ยังไม่ได้สึกจริง พบพฤติกรรมชอบเที่ยวกลางคืน มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย ยอมออกมาพูดเพราะอยากปกป้องพระพุทธศาสนา

            จากกรณีที่พบภาพพระแต่งหญิง ฉายานาตาลีร้อยหน้า ถ่ายภาพลงเฟซบุ๊ก "นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากนู๋" และถูกแฉว่ามีพฤติกรรมเที่ยวผับ เที่ยวบาร์ ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาชี้แจงว่า ได้สึกจากพระมา 2 ปีแล้ว และตนเองไม่เคยทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย ไม่เคยเที่ยวผับ เที่ยวบาร์ อย่างที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านั้น

            ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 พระครูสมุห์ธัชพงศ์ภณ กตปุญโญ ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่หอพักนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ให้ข้อมูลว่า บุคคลดังกล่าวยังไม่ได้สึกจากความเป็นพระแต่อย่างใด เพราะยังบวชเป็นพระอยู่ และยังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 คณะสังคมศาสตร์

            พระครูสมุห์ธัชพงศ์ภณ กตปุญโญ กล่าวต่อว่า พระรูปดังกล่าวลงทะเบียนเป็นนิสิตครั้งแรกในชื่อว่า พระมหาสมชาย และมาเปลี่ยนเป็น พระมหานภัทร์สรณ์ สังกัดวัดมกุฎกษัตริยาราม ซึ่งกำลังจะเข้ารับปริญญาในเร็ว ๆ นี้ ปัจจุบันยังคงพักอยู่ที่หอพักของ มจร.วังน้อย ห้อง เอ 205 พฤติกรรมที่ตนพบเห็นก็คือกลางวันจะเป็นพระ แต่กลางคืนจะมีรถมารับออกไปข้างนอก แล้วไปเปลี่ยนจีวรเป็นชุดอื่น และทราบด้วยว่า พระรูปดังกล่าวมีพฤติกรรมเที่ยวเตร่ และมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันด้วย

            ทั้งนี้ พระครูสมุห์ธัชพงศ์ภณ ยืนยันว่า ที่ออกมาพูดครั้งนี้ไม่ได้ต้องการทำลายชื่อเสียงมหาวิทยาลัย แต่เห็นข่าวแล้วรู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาให้ข้อเท็จจริง เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา ไม่ให้พระอลัชชีเข้ามาทำลายศาสนาอีก หากผิดก็ต้องว่าไปตามผิด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.dailynews.co.th/Content/education/231218/%E0%B9%81%E0%B8%89%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%
B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%
E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%99
%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0
%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0
%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%81-




เจ้าหน้าที่มจร.สุดทน แฉ นาตาลีร้อยหน้า ยังเป็นพระ อยู่หอพัก เรียนปี 4 คณะสังคมศาสตร์ สังกัดวัดดัง กลางวันแต่งพระ กลางคืนแต่งสาวออกตะเวนราตรี ยัน เพื่อปกป้องพุทธศาสนาไม่ได้ทำลายชื่อเสียงสถาบัน
วันศุกร์ 18 เมษายน 2557 เวลา 15:40 น.

วันนี้(18 เม.ย.) พระครูสมุห์ธัชพงศ์ภณ กตปุญโญ ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่หอพักนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.)  อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการที่เฟซบุ๊ก "นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากนู๋" ได้เปิดเผยชื่อเล่นว่า โฟกัส  พร้อมให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนว่า ปัจจุบันทำงานเป็นพริตตี้อยู่ที่ภูเก็ต  เคยบวชเป็นพระเมื่อปี 2551 ที่วัดชื่อดังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันได้สึกออกมาแล้วนั้น ตนได้เห็นข่าวเกี่ยวกับ นาตาลีร้อยหน้า แล้วรู้สึกไม่สบายใจ จึงอยากให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลของบุคคลดังกล่าว เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา เพราะพระอลัชชีเหล่านี้ทำลายศาสนามามากแล้ว โดยเจ้าของเฟซบุ๊ก"นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากนู๋" ที่อ้างว่า ได้สึกออกไปแล้วนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากปัจจุบัน บุคคลรูปนี้ยังบวชเป็น พระอยู่ และยังคงศึกษาที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 คณะสังคมศาสตร์ โดยลงทะเบียนเป็นนิสิตครั้งแรกใช้ชื่อว่า พระมหาสมชาย และตอนหลัง มาเปลี่ยนเป็น พระมหานภัทร์สรณ์” สังกัดวัดมกุฎกษัตริยาราม ซึ่งกำลังจะเข้ารับปริญญาในเร็วๆนี้

พระครูสมุห์ธัชพงศ์ภณ กล่าวต่อไปว่า มจร.เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่พระธรรมยุต มหานิกาย หรือลังกาวงศ์ สามารถมาศึกษาได้ ดังนั้น พระธรรมยุต ก็สามารถมาเรียนได้ ทั้งนี้ตนเป็นพระที่ต้องดูแลหอพักและรู้จักนักศึกษาทุกคน โดย นาตาลี ก็ยังอยู่ที่หอพักของมจร.วังน้อย ห้อง เอ205 พฤติกรรมของนาตาลี กลางวันเป็นพระ กลางคืนจะมีรถออกมารับออกไป โดยตอนออกไปยังใส่จีวรพระ พอออกข้างนอกก็จะเปลี่ยนเป็นชุดอื่น และยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ก็ยังอยู่ที่หอพักนี้ นอกจากนี้ ตนยังได้รับข้อมูลกลุ่มต่อต้านพระอลัชชีที่ได้มีการตั้งขึ้นมา เพื่อปกป้องสถาบัน ได้สืบทราบข้อมูลว่า พฤติกรรมของนาตาลี จะเน้นเที่ยว และกระโดดเสียบกัน โดยในวงการพระจะใช้เรียกกัน หมายถึง มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันด้วย

“ อาตมาเป็นพระตัวเล็ก แต่สิ่งที่ทำไป ทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา  ไม่ได้มีเจตนาต้องการให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของตัวบุคคล ที่กระทำไม่เหมาะสม ซึ่งหากผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด และไม่อยากให้มีการปกป้องพระอลัชชีเหล่านี้”ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่หอพักนิสิต กล่าว

-http://www.dailynews.co.th/Content/education/231218/%E0%B9%81%E0%B8%89%
E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0
%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%
B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B
8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%81-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2014, 07:47:55 am โดย sithiphong »
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
จับพระเก๊ตระเวนเรี่ยไรเงิน ย่านราม 2
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    4 พฤษภาคม 2557 18:06 น.

-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000049511-





จับพระปลอมแต่งกายคล้ายพระภิกษุสงฆ์ 4 คน ตระเวนเรี่ยไรเงินย่านตลาดราม 2 โดยอ้างหนังสือรับรองจากสำนักสงฆ์เขาใหญ่ จ.กาญจนบุรี จากการสอบปากคำรับสารภาพทางวัดไม่มีส่วนรู้เห็น และพยายามติดสินบนตำรวจ จึงถูกจับกุมแจ้ง 3 ข้อหา
       
       วันนี้ (4 พ.ค.) ที่ สน.อุดมสุข พ.ต.อ.สมพร กฤษณะพิพัฒน์ ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.สมปอง สำราญใจ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม สว.สส. ร่วมกันแถลงการจับกุมตัวนายสมปอง มะโนรัมย์ อายุ 48 ปี น.ส.แพงศรี มะยม อายุ 51 ปี นายสำเริง น้อยพันธุ์ดี อายุ 35 ปี นายกิตติชัย เครือศรี อายุ 23 ปี และเยาวชนอีก 2 ราย พร้อมของกลางตู้รับบริจาค ระบุสำนักสงฆ์เขาใหญ่ ภายในมีเงินสด 1,483 บาท บาตรพระ จำนวน 5 ใบ (ใช้ในการเรื่ยไร) จีวร 4 ชุด หนังสือรับรองจากสำนักสงฆ์เขาใหญ่ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี และเอกสารในการขอความร่วมมือจากสถานที่ต่างๆ โดยสามารถจับกุมได้ที่ตลาดราม 2 แขวงและเขตประเวศ กทม.
       
       พ.ต.อ.สมพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชายแต่งกายคล้ายพระภิกษุ 4 คน เดินเรี่ยไรเงินในตลาดราม 2 จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์ แต่ได้รับการว่าจ้างจาก นายสมปอง และ น.ส.แพงศรี มาเรี่ยไรเงินเพื่อแลกกับค่าจ้างวันละ 100 บาท ซึ่งภายหลังการจับกุมผู้ต้องหาได้ยื่นเงินให้ จำนวน 5,000 บาท เพื่อแลกกับการถูกจับกุม แต่ตำรวจทำทีรับเงินเพื่อถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานแจ้งข้อหาดำเนินคดี
       
       จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมอ้างว่า กล่องรับบริจาค พร้อมหนังสือรับรองตราประทับสำนักสงฆ์เขาใหญ่ จ.กาญจนบุรี ลงวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นของวัดจริง โดยจะแบ่งเปอร์เซ็นต์รายได้ที่มาจากการบริจาคแก่กรรมการวัด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า ทางวัดไม่มีส่วนรู้เห็น รวมถึงเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวที่ผู้ต้องหาได้กล่าวอ้าง เป็นโรคเบาหวาน พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
       
       เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 3 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันเรี่ยไรในถนน หรือทางสาธารณะด้วยการใช้เครื่องเปล่งเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.แต่งกาย หรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นพระภิกษุสามเณรโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อ และ 3.ร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์แก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ร้อง ป.ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรตหลอกทำเสน่ห์
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    16 พฤษภาคม 2557 16:39 น.

-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000054460-








ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร้องกองปราบฯ ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรต ย่านรามคำแหง หลอกผู้หญิงทำเสน่ห์
       
       วันนี้ (16 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสำนักทำไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ของอาจารย์พรต หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผู้หญิงกว่า 20 รายว่าได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล โดยนายสงกานต์ได้นำภาพถ่ายของ อาจารย์พรตขณะกำลังทำพิธีเสริมเสน่ห์ให้แก่หญิงสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมามอบไว้เป็นหลักฐาน
       
       นายสงกานต์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับข้อมูลว่าอาจารย์พรตเป็นหมอทำพิธีทางไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ โดยมีการจำหน่ายเครื่องรางของขลังต่างๆ ในหน้าเฟซบุ๊ก ชื่อ “ศูนย์พระเครื่อง พรปู่เจ้า” เช่น รูปปั้นแม่ (อี)เป๋อ ไอ้งั่ง น้ำมันพราย กระดูกผีตายโหง เป็นต้น ซึ่งราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,000-40,000 บาท ส่วนค่าทำพิธีมหาเสน่ห์นั้น ราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้รับข้อมูลจากสำนักข่าวต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ ว่าอาจารย์พรตได้ไปตั้งสำนักและรับทำพิธีดังกล่าวในต่างประเทศ พร้อมทั้งได้ส่งภาพขณะที่กำลังทำพิธีมาให้เป็นข้อมูล เนื่องจากในการทำพิธีนั้นมีการนำเครื่องรางที่เรียกกันว่าไอ้งั่งมาวางบนหน้าอกและอวัยวะเพศหญิง เพื่อทำพิธี ถือว่าเป็นการทำอนาจาร
       
       นายสงกานต์กล่าวต่อว่า สำนักของอาจารย์พรตมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยนั้นเปิดอยู่ย่านรามคำแหง อีกทั้งยังมีร้านที่ขายเครื่องรางตั้งอยู่ในห้างดังย่านลาดพร้าวอีกด้วย ทั้งนี้ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหายประมาณ 20 คน ทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล แสดงให้เห็นว่าอาจารย์พรตมีการหลอกลวงผู้ซื้อ อย่างไรก็ดี ทางผู้เสียหายจะเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินคดีต่ออาจารย์พรตในวันข้างหน้านี้
       
       ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า หลังจากนนี้จะนำหลักฐานที่ได้มาส่งไปให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นหากตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงประชาชน ส่วนหากมีข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมก็จะเพิ่มข้อหาต่อไป


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด

ระมัดระวังภัยในเรื่องเหล่านี้กันให้มากๆๆๆๆครับ

กลุ่มพระสงฆ์ที่ไม่ดี ที่ทำเรื่องพวกนี้ก็มี

ต้องใช้สติ พิจารณา

และอย่าเข้าไป  เพราะเสน่ห์ อยู่ที่เราเองครับ


---------------------------------------------------------------------

ร้อง ป.ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรตหลอกทำเสน่ห์
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    16 พฤษภาคม 2557 16:39 น.

-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000054460-








ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร้องกองปราบฯ ตรวจสอบสำนักอาจารย์พรต ย่านรามคำแหง หลอกผู้หญิงทำเสน่ห์
       
       วันนี้ (16 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสำนักทำไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ของอาจารย์พรต หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายผู้หญิงกว่า 20 รายว่าได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล โดยนายสงกานต์ได้นำภาพถ่ายของ อาจารย์พรตขณะกำลังทำพิธีเสริมเสน่ห์ให้แก่หญิงสาวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมามอบไว้เป็นหลักฐาน
       
       นายสงกานต์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับข้อมูลว่าอาจารย์พรตเป็นหมอทำพิธีทางไสยศาสตร์มหาเสน่ห์ โดยมีการจำหน่ายเครื่องรางของขลังต่างๆ ในหน้าเฟซบุ๊ก ชื่อ “ศูนย์พระเครื่อง พรปู่เจ้า” เช่น รูปปั้นแม่ (อี)เป๋อ ไอ้งั่ง น้ำมันพราย กระดูกผีตายโหง เป็นต้น ซึ่งราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,000-40,000 บาท ส่วนค่าทำพิธีมหาเสน่ห์นั้น ราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้รับข้อมูลจากสำนักข่าวต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ ว่าอาจารย์พรตได้ไปตั้งสำนักและรับทำพิธีดังกล่าวในต่างประเทศ พร้อมทั้งได้ส่งภาพขณะที่กำลังทำพิธีมาให้เป็นข้อมูล เนื่องจากในการทำพิธีนั้นมีการนำเครื่องรางที่เรียกกันว่าไอ้งั่งมาวางบนหน้าอกและอวัยวะเพศหญิง เพื่อทำพิธี ถือว่าเป็นการทำอนาจาร
       
       นายสงกานต์กล่าวต่อว่า สำนักของอาจารย์พรตมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยนั้นเปิดอยู่ย่านรามคำแหง อีกทั้งยังมีร้านที่ขายเครื่องรางตั้งอยู่ในห้างดังย่านลาดพร้าวอีกด้วย ทั้งนี้ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหายประมาณ 20 คน ทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ได้เข้าทำพิธีและได้ซื้อเครื่องรางไปใช้แล้วแต่ไม่ได้ผล แสดงให้เห็นว่าอาจารย์พรตมีการหลอกลวงผู้ซื้อ อย่างไรก็ดี ทางผู้เสียหายจะเข้ามาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินคดีต่ออาจารย์พรตในวันข้างหน้านี้
       
       ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า หลังจากนนี้จะนำหลักฐานที่ได้มาส่งไปให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นหากตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงประชาชน ส่วนหากมีข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมก็จะเพิ่มข้อหาต่อไป
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
พบพระสงฆ์รับแทงพนันบั้งไฟที่ จ.ศรีสะเกษ ชี้ผิดวินัย-กฎหมาย

-http://hilight.kapook.com/view/102154-





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            พบพระสงฆ์รับแทงพนันบั้งไฟที่งานประเพณีบุญบั้งไฟ จ.ศรีสะเกษ ชี้ผิดวินัย-กฎหมาย เตรียมจับสึกเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา

            วันที่ 16 พฤษภาคม 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการหมู่บ้านขมิ้นได้ร่วมกันจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2557 ที่กลางทุ่งนาบ้านขมิ้น ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยภายในบริเวณที่มีการจุดบั้งไฟ มีชาวบ้านและพระสงฆ์จำนวนประมาณ 1,000 คน พากันมาชมและเล่นพนันบั้งไฟกันอย่างคึกคัก

            อย่างไรก็ตาม พบว่ามีพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าสังกัดวัดใดได้ตั้งตัวเป็นเจ้ามือหรือที่เรียกว่า เซียนยั้ง รับแทงพนันจากชาวบ้านหรือที่เรียกว่า เซียนไล่ โดยไม่สนใจสายตาของประชาชนทั่วไปที่เฝ้ามองดูพระเล่นพนันบั้งไฟอย่างน่าสลดใจ ที่พระสงฆ์มีพฤติกรรมผิดศีล ทำผิดกฎหมายและพระธรรมวินัยอย่างชัดเจน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาปราบปรามจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายแต่อย่างใด

            ขณะที่ทางด้าน นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาศรีสะเกษ กล่าวว่า กรณีพระสงฆ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเล่นพนันบั้งไฟถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายและผิดพระธรรมวินัยอย่างชัดเจน หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ต้องสึกจากความเป็นพระทันทีเพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาอีกต่อไป ซึ่งตนได้นำเรื่องนี้ไปรายงานให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 2 นิกายได้รับทราบเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้กำลังดำเนินการวางมาตรการเข้มงวดเพื่อดำเนินการกับพระสงฆ์ที่เล่นพนันบั้งไฟอย่างเร่งด่วน



สุดอนาถ ! พระตำบลทุ่มศรีสะเกษ เป็นเจ้ามือรับแทงพนันบั้งไฟ
-http://www.youtube.com/watch?v=N0SfFLZvh9A-
คลิป สุดอนาถ ! พระตำบลทุ่มศรีสะเกษ เป็นเจ้ามือรับแทงพนันบั้งไฟ : เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official)


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด


ร้องสอบภาพหนุ่มโล้นแต่งกายคล้ายพระอึ๊บสาว


-http://www.dailynews.co.th/Content/regional/237943/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B6%E0%B9%8A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7-







อึ้ง! ภาพชายแต่งกายคล้ายพระแอบอึ๊บสาว พศ.เร่งหาข้อมูลใช่พระจริงหรือไม่ ขณะเครือข่ายต่อต้านบ่อนทำลายชาติ ศาสนาฯ เตรียมส่งภาพให้กองปราบตรวจ ตัดต่อหรือไม่
วันเสาร์ 17 พฤษภาคม 2557 เวลา 04:43 น.

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายโซเชียลมีเดีย ส่งข้อมูลภาพเกี่ยวกับบุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์กำลังมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวมาให้ทางเฟซบุ๊กเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ช่วยตรวจสอบว่า บุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์นั้น เป็นพระจริงหรือไม่ โดยลักษณะของภาพที่เครือข่ายได้ส่งมานั้น บุคคลที่แต่งกายคล้ายพระ เป็นชายหัวโล้น กำลังขึ้นนั่งคล่อมบนตัวของหญิงสาวที่เปลือยกาย และที่ตัวของชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์นั้น มีผ้าสีเหลืองคล้ายจีวรนุ่งอยู่ที่เอว พร้อมกับกอดจูบหญิงสาวลักษณะเหมือนกำลังมีเพศสัมพันธ์กัน โดยในภาพเองหญิงสาวมีสีหน้าเคลิบเคลิ้มจากการถูกกอดจูบดังกล่าว โดยไม่ได้มีพฤติกรรมที่ขัดขืนแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้หากเป็นพระสงฆ์จริง ถือว่าเป็นมารศาสนา  ต้องอาบัติปาราชิก จากการเสพเมถุน พ้นจากการเป็น ภิกษุสงฆ์นับตั้งแต่บัดนั้น

นายสงกานต์ กล่าวต่อไปว่า ตนจะต้องดำเนินการส่งภาพดังกล่าวให้กองปราบปรามตรวจสอบว่า เป็นภาพที่ตัดต่อหรือไม่ บุคคลที่อยู่ในภาพเป็นพระจริงหรือไม่ และสังกัดที่ใด รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานแค่ไหน โดยเบื้องต้น ตนจะประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมจากเครือข่ายที่ได้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเข้ามา พร้อมทั้งขอให้ผู้ที่มีเบาะแสเกี่ยวกับภาพดังกล่าว ส่งข้อมูลมาให้ตนได้ที่ ตู้ ปณ. 63 ราษฎร์บูรณะ 10140 ซึ่งตนจะนำข้อมูลทั้งหมดให้กองปราบปรามตรวจสอบ และส่งมอบข้อมูลให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ช่วยดำเนินการตรวจสอบข้อมูลภาพดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าว ตนจะเน้นตัวบุคคล และเป็นการป้องปรามการกระทำผิดที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา

ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ พศ.ได้รับข้อมูลร้องเรียนเรื่องของภาพบุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ มีลักษณะเหมือนมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวแล้ว และกำลังดำเนินการตรวจสอบว่า เป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ข้อมูล เนื่องจากภาพถ่ายไม่สามารถระบุได้ชัดว่า เกิดยังสถานที่ใด ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ข้อได้ข้อเท็จจริงที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบพระสงฆ์ หรือบุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขอให้ช่วยกันส่งข้อมูลมายัง พศ. เพื่อ พศ.จะได้แจ้งเจ้าคณะปกครองในการแจ้งเตือนหรือดำเนินการตามพระธรรมวินัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีการแชร์ผ่านเฟซบุ๊กหนึ่ง เกี่ยวกับภาพหญิงสาวหอมแก้มพระ โดยมีการเขียนไว้ในเฟซบุ๊กที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวว่า ช่วยกันแชร์  บุคคลในภาพเป็นผู้หญิงหอมแก้มพระ ซึ่งผิดต่อหลักพระพุทธศาสนา เราชาวพุทธอยากวิงวอนให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียช่วยตีแผ่ให้สังคมรับรู้เผื่อคดีความจะเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเฟซบุ๊กถึงภาพดังกล่าวในหลายทัศนะว่า เป็นพระจริงหรือไม่ ทำไมคิ้วและผมหนา บางรายระบุว่า เขาอาจจะไม่ใช่พระจริงอย่าตกเป็นเหยื่อเขาอยากดัง  ซึ่งในความเห็นหนึ่งระบุว่า พระรูปนี้บวชจริงจัดงานใหญ่ด้วยผู้หญิงที่หอมแก้มพระเคยเป็นเพื่อนในเฟซกับเรา เขายังถ่ายรูปตอนงานบวชมาให้ดูเลยพระรูปนี้ ยังไม่สึกอยู่ต่างจังหวัดแถวภาคอีสานด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ มีการนำภาพและคลิปพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ทั้งการลงมือเผยแพร่ด้วยตนเองหรือจากประชาชนที่พบเห็น มาเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น..

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)