รายการบางอ้อ ชวนไขปริศนา ไข่ถอนคุณไสย-พลังเหล็กไหล-มักกะลีผล
-http://drama.kapook.com/view67878.html-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการบางอ้อ โพสต์โดย คุณ jessadad สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เรื่องไสยศาสตร์ ถือเป็นความเชื่อที่อยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน แต่บางครั้งสิ่งเหล่านั้นอาจพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้น รายการบางอ้อ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี จึงได้รวบรวมเรื่องราวความเชื่อ ที่ทำให้หลายคนต้องตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ มาตีแผ่ข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งประกอบด้วย 3 เรื่อง ดังนี้
เรื่องที่ 1 การใช้ไข่ไก่ถอนคุณไสย เพื่อให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ
มีตำหนักทรงหลายแห่งที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อหลอกลวงทรัพย์สินจากประชาชน โดยอ้างว่าสามารถใช้ไข่ไก่ถอนคุณไสยที่ทำให้เจ็บป่วย จนผู้คนจำนวนมากหลงเชื่อ และคิดว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งตำหนักทรงเหล่านี้เริ่มขยายตัวเป็นธุรกิจมากขึ้น เห็นได้จากการที่ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย โดยผู้ที่แวะเวียนมาอย่างน้อยต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 300 บาท หากรวมค่ารักษาด้วย คิดเป็นเงินประมาณ 3,000-5,000 บาท ซึ่งในแต่ละวันจะมีชาวบ้านมารักษาอาการเจ็บป่วยไม่ต่ำกว่า 20 คน ทำให้รายรับในแต่ละเดือนไม่น่าจะต่ำกว่า 100,000 บาท
สำหรับการรักษาโรค โดยนำไข่มาคลึงตามร่างกายเพื่อถอนคุณไสยนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยาก หากรู้เคล็ดลับในการทำให้ไข่อ่อนตัว หรือรู้วิธีการเจาะไข่ไก่ ก็สามารถใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไป ในไข่ได้อย่างง่ายดาย ด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สก็อตเทปใส เข็มฉีดยา คัตเตอร์ และสิ่งของ เช่น ตะปู เส้นผม สีผสมอาหาร เพื่อทำเลือดและน้ำหนองปลอม ส่วนขั้นตอนในการทำไข่ไก่ถอนคุณไสยมีดังนี้
1. นำสก็อตเทปใสติดตรงไข่ไก่ในบริเวณที่จะเจาะรู
2. นำหลอดเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ดูดสีที่ผสมไว้ แล้วฉีดเข้าไปในไข่ หรือนำสิ่งของยัดลงไป
3. ปิดรูที่เจาะไว้ด้วยน้ำตาเทียน แล้วเขียนลายอักขระทับลงไป เพียงเท่านี้ก็เสร็จแล้ว
บางอ้อแฉไสยศาสตร์ เสกตะปูเข้าไข่รักษาโรค-http://www.youtube.com/watch?v=9lSyYjrswuE-
บางอ้อแฉไสยศาสตร์ เสกตะปูเข้าไข่รักษาโรคคลิป บางอ้อแฉไสยศาสตร์ เสกตะปูเข้าไข่รักษาโรค : เครดิตรายการบางอ้อ
โพสต์โดย คุณ jessadad สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เรื่องที่ 2 การโชว์อานุภาพของเหล็กไหล ด้วยการจุ่มมือในน้ำกรด
ทางรายการเล่าว่า วัดแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น อ้างว่า มีเครื่องรางของขลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหล็กไหลอัคนีที่มีสรรพคุณคุ้มครอง แคล้วคลาด รวมถึงอานุภาพทำให้หนังเหนียว และหากใครอยากลอง ก็เพียงแค่ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วกำเหล็กไหลเอาไว้ในมือหนึ่งข้าง เพียงเท่านี้ก็สามารถจุ่มมือลงไปในน้ำกรดที่มีความรุนแรงขนาดทำให้ก้านไม้ขีดธรรมดาติดไฟได้ โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ
ถึงแม้ว่า เรื่องดังกล่าวจะดูน่าอัศจรรย์ แต่แท้จริงแล้วสามารถอธิบายได้ด้วย หลักทางวิทยาศาสตร์ ซึ่ง ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อสังเกตไว้ ดังนี้
1. หากสำนักไหนโชว์อิทธิฤทธิ์ด้วยการจุ่มมือลงไปในกรด ที่เมื่อนำไปเทราดพื้นปูนแล้วกลายเป็นฟองฟู่ โดยที่มือไม่เป็นอะไรเลย แสดงว่า น้ำกรดดังกล่าวคือกรดไฮโดรคลอริกชนิดเจือจาง
2. หากสำนักไหนโชว์จุ่มไม้ขีดไฟลงไปในน้ำกรด แล้วไม้ขีดเกิดติดไฟขึ้นมา แสดงว่า น้ำกรดดังกล่าวเป็นกรดซัลฟูริกเข้มข้น ซึ่งกรดชนิดนี้จะทำปฏิกิริยากับมือที่แห้งสนิทได้ยากกว่ากับผ้าหรือกระดาษ จึงเห็นได้ว่า เมื่อใช้มือจุ่มลงไปในน้ำกรด แล้วนำมาป้ายที่ผ้าชนิดต่าง ๆ จะทำให้ผ้ามีรอยไหม้สีดำและทะลุเป็นรู แต่ถ้ารีบล้างมือโดยเร็วก็จะไม่มีร่องรอยอะไรให้เห็นเลย
ทั้งนี้ ทางรายการได้ย้ำว่า ถึงจะรู้ในหลักการดังกล่าวแล้ว แต่น้ำกรดถือเป็นสารอันตราย ดังนั้นจึงไม่ควรนำมาทดลองด้วยตนเองอย่างเด็ดขาด
บางอ้อแฉไสยศาสตร์ หนังเหนียวจุ่มน้ำกรด-http://www.youtube.com/watch?v=GM_1hgvD1zk-
บางอ้อแฉไสยศาสตร์ หนังเหนียวจุ่มน้ำกรดคลิป บางอ้อแฉไสยศาสตร์ หนังเหนียวจุ่มน้ำกรด : เครดิตรายการบางอ้อ
โพสต์โดย คุณ jessadad สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เรื่องที่ 3 ความเชื่อเรื่อง มักกะลีผล ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
จากความเชื่อที่ว่า นารีผล หรือ มักกะลีผล เป็นผลไม้ในตำนาน มาจากดินแดนเร้นลับอย่างป่าหิมพานต์ ที่จะส่งผลให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง สมหวังในเรื่องความรัก และช่วยเรื่องหน้าที่การงาน จึงมีการนำมักกะลีผลมาทำเป็นเครื่องรางของขลัง หรือวัตถุมงคล เพื่อบูชาและจำหน่าย เป็นจำนวนมาก
แต่การตามหามักกะลีผลนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะมีวางขายอยู่ทั่วไป โดยแม่ค้ารายหนึ่ง เผยว่า จำหน่ายมักกะลีผลในราคา คู่ละ 800 บาท ซึ่งตนเองรับมักกะลีผลดังกล่าวมาจากต่างจังหวัดอีกทอดหนึ่ง หรือบางรายอ้างว่า มีการนำเข้ามาจากประเทศลาว และจากคำบอกเล่าต่าง ๆ เหล่านั้น ทำให้มักกะลีผล กลายเป็นวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม จนมีวางขายเป็นจำนวนมากในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.เจษฎา ได้วิเคราะห์ไว้ว่า มักรีผลที่วางขายอยู่ทั่วไป ตรงกลางเนื้อในจะมีแกนและแบ่งเป็นห้อง ๆ เหมือนพืชในกลุ่มบวบ ซึ่งเนื้อของบวบประกอบด้วยเส้นใยจำนวนมากจึงทำให้มีความคงทนแข็งแรง ทั้งนี้ เมื่อดูจากลักษณะภายนอกของมักกะลีผล คาดว่า น่าจะมีการทำแม่พิมพ์ขึ้นมา แล้วนำมาประกบกับผลบวบ ดูได้จากการที่มักรีผลมีแนวสันตามลำตัวชัดเจน
หลังจากมีการใช้แม่พิมพ์ทำให้ผลบวบเจริญเติบโตตามรูปทรงที่ต้องการแล้ว จากนั้นจะมีการนำไปตากแห้ง หรืออบแห้ง ก่อนแกะสลักและลงสีอีกนิดหน่อยเพื่อเพิ่มความขลัง ซึ่งการใช้แม่พิมพ์ปรับเปลี่ยนรูปทรงของผลไม้หรือพืชนั้น ก็เป็นกรณีเดียวกับที่ในต่างประเทศ มีการทำแตงโมเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ทางรายการได้สรุปไว้ว่า บางเรื่องอาจจะใช้หลักทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้ แต่บางเรื่องก็ยากเกินกว่าจะหาข้อพิสูจน์ ซึ่งสาเหตุที่รายการบางอ้อรวบรวมเรื่องศาสตร์ลวงโลกมาเปิดเผยในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งผู้ชมจะได้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และทำให้รู้เท่าทันพวกมิจฉาชีพนั่นเอง
บางอ้อแฉไสยศาสตร์ มักรีผล นารีผล หรือผลบวบ-http://www.youtube.com/watch?v=pzq3Eh01sTM-
บางอ้อแฉไสยศาสตร์ มักรีผล นารีผล หรือผลบวบคลิป บางอ้อแฉไสยศาสตร์ มักกะลีผลนารีผล หรือผลบวบ : เครดิตรายการบางอ้อ
โพสต์โดย คุณ jessadad สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
http://drama.kapook.com/view67878.html.