ผู้เขียน หัวข้อ: รวมก๋วยเตี๋ยว อาหารแบบเส้นๆ ที่ไม่ธรรมดา  (อ่าน 35138 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ร้านก๋วยเตี๋ยวชลบุรีขายเพียงชามละ 5 บาท ช่วยเหลือเด็ก ๆ
-http://hilight.kapook.com/view/91839-






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้า โพสต์โดย คุณ LAKORNHD ThaiTV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          ร้านก๋วยเตี๋ยวชลบุรีขายเพียงชามละ 5 บาท สวนกระแสของแพง บอกไม่ได้หวังกำไรมากมาย แต่อยากช่วยเหลือเด็ก ๆ

          เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2556 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งใน ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี สวนกระแสของแพงด้วยการขายก๋วยเตี๋ยวเพียงชามละ 5 บาท เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ให้สามารถเข้ามารับประทานได้

          เมื่อผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้พบว่า มีลูกค้าแน่นร้าน บางครั้งถึงขั้นเข้าคิวกันเลยทีเดียว โดยลูกค้าเรียกกันว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือมินิ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ได้มาลองชิมต่างก็ติดใจเนื่องจากรสชาติอร่อยและราคาถูก

          โดยเจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ตนไม่ได้อยากได้กำไรมากมาย คิดว่าราคานี้ทำให้เด็กทาน ผู้ใหญ่จะทานตนก็ทำ ส่วนกำไรก็ไม่ได้อยู่ที่ชามพวกนี้ แต่อยู่ที่ชามราคา 25-30 บาทซึ่งก็แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง ส่วนเรื่องแรงบันดาลใจคือสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตนเคยทานที่อนุสาวรีย์ชัยคิดว่ามันเป็นเงินน้อย แต่พอรวมกันมาก ๆ มันก็เยอะ และเป็นอาชีพที่ทำให้เราอยู่ได้

สวนกระแสของแพง! เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ขายเพียงถ้วยละ 5 บาท
-http://www.youtube.com/watch?v=scW9oGX1L8A-

สวนกระแสของแพง! เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ขายเพียงถ้วยละ 5 บาท
คลิป สวนกระแสของแพง! เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ขายเพียงถ้วยละ 5 บาท เครดิตรายการเรื่องเล่าเช้า โพสต์โดย LAKORNHD ThaiTV
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
คาวาลลี่ คิทเช่น แอนด์ บาร์

-http://travel.sanook.com/1391109/%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C-27-9-56/-



ได้เวลา Hang Out สิ้นเดือนกันแล้วค่ะ คืนนี้ขอหลบฝนมาร้านอาหารในตึกที่ไม่ทิ้งความเก๋เทรนดี้แบบฉบับ We Recommend ที่ร้าน Cavalli Kitchen & Bar บนชั้น 2 ของตึก Max Valu ในซอยทองหล่อ 18 ค่ะ



Cavalli เป็นภาษาอิตาเลี่ยนที่แปลว่า "ม้า" เนื่องจากหุ้นส่วนส่วนใหญ่เกิดปีม้า ทุกอย่างเลยดีไซน์ออกมาเป็นม้าทั้งหมด ตั้งแต่โลโก้ร้าน การตกแต่งภายในที่วาดลวดลายบนผนังเป็นรูปม้า พร้อมคลุมโทนสีน้ำตาลดำดูอบอุ่นและร่วมสมัย แต่งด้วยโคมไฟห้อยระย้า สร้างสีสันให้ร้านดูไม่ธรรมดา แถมมีส่วนห้องกระจกปิดปาร์ตี้ส่วนตัวได้ ส่วนใครจะมานั่งดริงค์ชิลล์ ๆ Outdoor ด้านนอกก็ได้เหมือนกันค่ะ



ขนาดร้านไม่ใหญ่มาก เมื่อได้ที่นั่งเหมาะเจาะแล้วก็มาสั่งอาหารกันดีกว่าค่ะ อาหารที่นี่เป็นสไตล์ตะวันตกที่ผสมผสานความเป็นไทย โดยใช้วัตถุดิบหลักจากต่างประเทศ ผสมกับผักของไทย เพื่อเพิ่มรสชาติให้เป็นแบบฉบับเฉพาะตัว โดยมีเมนูไม่เยอะมาก สลับเปลี่ยนกันไป เริ่มด้วย Cavalli Pizza (320 บาท) ใช้แผ่นแป้งบางกรุบกรอบ ประกบกับเครื่องพิซซ่า ทานกับเครื่องเคียง Grilled Eggplant (220 บาท) มะเขืออบชีสทานกับซอสมะเขือเทศรสกลมกล่อม Chicken Confit (350 บาท) เนื้อไก่ตุ๋นจนนิ่มแล้วเอาไปทอดให้หนังกรอบ เสิร์ฟกับตับบดและแยมหอมแดงทำเอง ได้ทั้งรสครีมมันตัดกับเปรี้ยวหวานค่ะ



เมนูพาสต้าก็มีทั้ง Pasta Dok Kajorn (270 บาท) พาสต้าผัดกับดอกขจรให้กลิ่นหอมแบบไทย ๆ และ Pasta Carbonara (290 บาท) พิเศษตรงเพิ่มไข่ออนเซ็น สุกแบบยางมะตูมกำลังดีโปะด้านบน Pork Tenderloin (420 บาท) หมูสันในอบในถุงสูญญากาศ 3 ชั่วโมง เสิร์ฟกับมะเขือ สตูว์กะหล่ำม่วงรสเปรี้ยวอมหวานเข้ากับเนื้อหมูค่ะ สุดท้ายกับ Sticky Rice Risotto (290 บาท) ริซอตโต้ทำจากข้าวเหนียวหนึบกว่าปกติ ผสมดอกคำฝอยให้สีเหลืองนวล ไม่เหมือนที่ไหนค่ะ



ส่วนเครื่องดื่มแนะนำเป็นค็อกเทลที่เป็นชื่อม้าทั้งหมด อย่าง Ninmungkorn (250 บาท) ได้รสเปรี้ยวหวานของราสเบอร์รี่ และ Sassy Mastang (280 บาท) หอมหวานรสมินท์และลิ้นจี่ หากสิ้นเดือนแบบนี้ยังไม่คิดไม่ออกว่าจะไปปาร์ตี้ที่ไหนดี แนะนำว่ามาร่วมใช้เวลาเฮฮากับแก๊งค์เพื่อนกันที่นี่ รับรองว่าจะเป็นค่ำคืนที่มีความสุขอีกคืนหนึ่งเลยค่ะ

คุยกับ "Cavalli Kitchen & Bar"

เชฟอู๋ จิตติกร รุณทิวา เชฟและหุ้นส่วนใหญ่ของร้าน เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่าเขาชอบทำอาหารเป็นทุนอยู่แล้ว เลยไปร่ำเรียนทำอาหารที่ินิวยอร์กอยู่ 2 ปี แล้ว กลับมาทำงานที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่โรงแรมสุโขทัยอยู่เกือบ 5 ปี ฝึกฝนประสบการณ์จนเชี่ยวชาญ จนในที่สุดก็ออกมาเปิดร้านของตัวเอง โดยใช้วิทยายุทธ์และความรู้ที่สั่งสมมา ทั้งเรื่องแหล่งวัตถุดิบชั้นดี กรรมวิธีการทำอาหารใหม่ ๆ นำมาปรับใช้กับที่ร้าน เพื่อให้กลายเป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่นี่เท่านั้นค่ะ

Nice to Know

เพียงบอกว่าอ่านรีวิวมาจาก BKKMENU.com รับส่วนลด 10% เฉพาะอาหาร ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2556 และที่ร้านยังมีโปรโมชั่นพิเศษอื่น ๆ ติดตามได้ที่ www.facebook.com/Cavallibkk

Recommended Dishes
- Cavalli Pizza
- Grilled Eggplant
- Chicken Confit
- Pasta Dok Kajorn
- Pasta Carbonara
- Pork Tenderloin
- Sticky Rice Risotto

ที่ตั้ง : ชั้น 2 ตึก Max Valu ซอยทองหล่อ 18 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทร. : 089-499-9534, 081-842-2034
เวลาเปิดบริการ : ทุกวันเวลา 17.00-01.00 น.
ราคาต่อท่านโดยประมาณ : 301-500 บาทต่อคน
สัญชาติอาหาร :นานาชาติ
ประเภทอาหาร : พาสต้า, A La Carte/ Set Menu, ค็อกเทล-ม็อกเทล
รูปแบบการให้บริการ : ร้านอาหารทั่วไป, เปิดเพลงเบาๆ, มีห้องส่วนตัว-จัดเลี้ยง
เหมาะสำหรับ : สังสรรค์ปาร์ตี้, นั่งชิลๆ, จัดเลี้ยงโอกาสพิเศษ
ที่จอดรถ : บนอาคาร
facebook Page : http://www.facebook.com/Cavallibkk

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด

โคราชห่อก๋วยเตี๋ยวหลอดเจยาวที่สุดในโลก
วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2556 เวลา 19:08 น.
-http://www.dailynews.co.th/thailand/238089-





J88m Korath 0

J88m Korath 0
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=wZ6AA75s8x8-

ฮือฮา!บรรยากาศเทศกาลถือศีลกินเจเมืองโคราช มีการประกอบเมนูก๋วยเตี๋ยวหลอดเจยาวที่สุดในโลก กับสถิติใหม่ 88 เมตร ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยว 100 กก. คนช่วยกันห่อกว่า 200 คน แจกจ่ายให้ประชาชนกินฟรี

วันที่ 5 ต.ค. บรรยากาศงานเทศกาลถือศีลกินเจ ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา นายประภาส รักษาทรัพย์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไป เดอะมอลล์นครราชสีมา พร้อมด้วยสมาคมคนไทยเชื้อสายจีน ชมรมถือศีลกินเจ หน่วยงานรัฐและเอกชนใน จ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรมอิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มเจ มีการจัดทำเมนูอาหารเจ 88 เมนูมหามงคล ไฮไลท์ของงานที่สุดก็คือ การประกอบเมนูก๋วยเตี๋ยวหลอดเจที่ยาวที่สุดในโลก กับสถิติใหม่ความยาว 88 เมตร โดยใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวน้ำหนักกว่า 100 กก. ผสมกับวัตถุดิบที่เป็นอาหารมงคลทั้งสิ้น เช่น พุทราจีน เม็ดแปะก๊วย เห็ดหอม เต้าหู้เหลือง แครอท และโปรตีนเกษตร มีบรรดาคนไทยเชื้อสายจีนจากสมาคม ชมรมต่าง ๆ หน่วยงานรัฐและเอกชน กว่า 200 คน มาร่วมห่อก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ ก่อนำแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้รับประทานฟรี ทั้งเด็กตาบอด คนชรา กลุ่มสตรีด้อยโอกาส มาร่วมรับประทานอาหารเจอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแสดงวัฒนธรรมจีน “กายกรรมธง” ที่สืบทอดมายาวนาน เป็นการแสดงที่ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย สิ่งอัปมงคลให้ออกห่างไกลจากชีวิต และนำสิ่งที่เป็นมงคล โชคลาภมาให้แก่ ทั้งนี้ เทศกาลถือศีลกินเจเมืองโคราช ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนและนักท่องเที่ยว คาดว่าน่าจะมีเม็ดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
One Dish A Day 4 : คนกินเส้น
-http://mblog.manager.co.th/varitlim/one-dish-a-day-004/-


ภาพหาบก๋วยเตี๋ยว (จาก www.tobacco.gov.cn)

พอว่ากันถึงเรื่อง “ก๋วยเตี๋ยว” ด้วยความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัว ผมจึงไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง “ก๋วยเตี๋ยว” มาแบ่งปันกันเพิ่มเติม

ก่อนอื่นสารภาพเลยว่า ผมเองเข้าใจผิดมาตลอดว่า “ก๋วยเตี๋ยว” นั้นแปลเป็นภาษาจีนว่า เมี่ยนเถียว (面条) แต่ความจริงก็คือ ก๋วยเตี๋ยวเป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว (เฉาโจว; 潮州) โดยภาษาจีนกลางนั้นออกเสียงว่า กั่วเถียว (粿条) [1]

กั่ว (粿; guǒ) ที่ในภาษาแต้จิ๋วอ่านออกเสียงว่า “ก๋วย หรือ ก๊วย” นั้นมีความหมายว่า สิ่งที่ทำมาจากข้าวเจ้า
เถียว (条; tiáo) หรือที่เราอ่านว่า “เตี๋ยว” นั้นแปลว่าเส้น

ดังนั้นเมื่อนำคำสองคำมารวมกันจึงมีความหมายว่า “เส้นที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า” ซึ่งมีความแตกต่างจาก “เมี่ยน” หรือ “เมี่ยนเถียว” ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับเส้นของอาหารอย่าง “บะหมี่” มากกว่า เพราะเมี่ยนนั้นใช้ส่วนประกอบที่ทำมาจากแป้งสาลีเป็นหลัก มิใช่แป้งข้าวเจ้า

ชาวจีนคิดค้นและนิยมอาหารประเภทเส้นมาเนิ่นนานหลายพันปี โดยเดิมทีเรียกว่า “ทังปิ่ง (汤饼)” หรือ “ก้อนแป้งที่ลวกให้สุกในน้ำแกง” โดยแต่ละยุคแต่ละสมัยก็มีการประดิษฐ์คิดค้นอาหารจากก้อนแป้งที่ลวกให้สุกในน้ำแกงขึ้นมาหลายรูปแบบ โดยใช้ชื่อแตกต่างกันไป ดังนั้นในประเทศจีนคำว่า “เมี่ยน” จึงไม่ได้หมายความถึงเฉพาะอาหารประเภทเส้นยาว แต่ยังมีอาหารประเภทเส้นอีกมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ เส้นบะหมี่ เส้นก๋วยจั๊บ เส้นกลม เส้นแบน ทั้งน้ำใส น้ำข้น น้ำขลุกขลิก หรือแห้ง ฯลฯ

สำหรับอาหารเส้นแปลกๆ ประเภท ที่ผมอยากจะยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้ทราบ ยกตัวอย่างเช่น คนจีนเขามีคำกล่าวอยู่ว่า “世界面食在中国,中国面食在山西” เรียบเรียงเป็นไทยแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ “หากชาวโลกกล่าวถึงก๋วยเตี๋ยวก็ต้องคิดถึงจีน และหากชาวจีนกล่าวถึงก๋วยเตี๋ยวก็ต้องนึกถึงซานซี”

คนจีนเขาถือว่าซานซีเป็นนครหลวงแห่งอาหารประเภทเส้น โดยซานซีมีอาหารประเภทเส้นขึ้นชื่อมากชนิดหนึ่งที่ไม่ได้ทำเป็นเส้นยาวเฟื้อย แต่เป็นอาหารเส้นซึ่งเฉือนมาจากก้อนแป้งที่เรียกว่า “เตาเซียวเมี่ยน (刀削面)” หรือที่ตัวผมเองเรียกเล่นๆ ว่า “เตี๋ยวมีดบิน”




เตาเซียวเมี่ยน (ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)


เตาเซียวเมี่ยนมีจุดเด่นอยู่ตรงที่วิธีการทำครับ ปกติหลายคนอาจเห็นวิธีการทำบะหมี่ของชาวจีนว่า เป็นแบบเอาก้อนแป้งมานวดไปนวดมา ม้วนแล้วดึงเป็นเส้นให้ยาวๆ นำมาทบกันไปทบกันมา แต่วิธีการทำของเตาเซียวเมี่ยนไม่เหมือนกัน เขาไม่เสียเวลายืดแป้งให้ยืดยาด เพราะเขาเอาก้อนแป้งที่นวดเสร็จ และเซ็ตตัวดีแล้วมา “เฉือน” ลงหม้อกันเห็นๆ ซึ่งถ้าหากพ่อครัวมีฝีมือหน่อย ความรวดเร็วของการใช้มีดก็จะทำให้คล้ายๆ แป้งบินลงไปในหม้อ และไอ้ความแปลกตรงวิธีการทำนี้เองที่บางคนก็เรียก เตาเซียวเมี่ยนเล่นๆ ว่า “เตาเซียวเมี่ยนบิน” ดังนั้นเส้นของเตาซียวเมี่ยนแต่ละเส้นก็จะมีความหนาบาง สั้นยาวไม่เท่ากัน วิธีการรับประทานเตาเซียวเมี่ยนมีทั้งแบบแห้ง และน้ำ แต่ส่วนตัวผมชอบแบบขลุกขลิก เพราะได้เนื้อสัมผัสของเส้นเต็มที่มากกว่า

ส่วนที่ปักกิ่งเขาก็มีสิ่งที่เรียกว่า “ก๋วยเตี๋ยวซอสดำผัด” หรือ “จ๋าเจี้ยงเมี่ยน (炸酱面)” ซึ่งช่วง 10 ปี หลังมานี้พอกระแสเกาหลีฟีเวอร์แผ่ซ่านไปทั่วโลก คนไทยเราบางส่วนกลับเข้าใจไปว่าอาหารจานนี้มีต้นฉบับมาจากประเทศเกาหลีที่เรียกว่า จาจังมยอน (จาจังเมียน) ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วก๋วยเตี๋ยวซอสดำผัดที่ว่านี้เป็นอาหารจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์หมิงต้นราชวงศ์ชิง หรือกว่า 300-400 ปีมาแล้ว
เหล่าเป่ยจิงจ๋าเจี้ยงเมี่ยน (ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)


เหล่าเป่ยจิงจ๋าเจี้ยงเมี่ยน (ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

วัฒนธรรม “ก๋วยเตี๋ยว” เกิดจากวิถีการดำรงชีวิตที่พึ่งพิงกับธรรมชาติของชาวจีนทางตอนใต้ซึ่งปลูกข้าวเจ้าเพื่อใช้บริโภคเป็นอาหารหลักในการดำรงชีพ ไม่ว่าจะเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว (มณฑลกวางตุ้ง), จีนหมิ่นหนาน, จีนแคะ, จีนฮกเกี้ยน ฯลฯ ซึ่งคนเหล่านี้ในช่วงหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมามีการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการย้ายถิ่นฐานมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแน่นอนว่าดินแดนสุวรรณภูมิ หรือ แหลมทองของเราก็เป็นจุดหมายสำคัญจุดหมายหนึ่งด้วย

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ชี้ให้เห็นว่าดินแดนที่เป็นที่ตั้งของประเทศไทยในปัจจุบันนี้ เป็นที่รู้จักของชาวจีนมาตั้งแต่สมัยฮั่นตะวันตกแล้ว หนังสือฮั่นซู บทตี้หลี่จื้อ ระบุว่าในสมัยฮ่องเต้ฮั่นอู่ตี้ เรือที่บรรทุกผ้าไหมอยู่เต็มลำที่ถูกส่งไปยังทำการทูตกับประเทศอินเดียได้ผ่านบริเวณซึ่งเป็นอ่าวไทยและผืนแผ่นดินที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบัน [2]

ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรที่พัฒนากลายมาเป็นประเทศไทยในปัจจุบันกับอาณาจักรจีนมีมาอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวอย่างคร่าวๆ ได้ดังนี้คือ อาณาจักรทวาราวดีมีการติดต่อกับราชวงศ์ถัง อาณาจักรละโว้มีการติดต่อกับราชวงศ์ซ่ง อาณาจักรสุโขทัยมีการติดต่อกับราชวงศ์หยวน อาณาจักรอยุธยามีการติดต่อกับราชวงศ์หมิงและชิง ส่วนอาณาจักรธนบุรีและรัตนโกสินทร์นั้นมีการติดต่อกับราชวงศ์ชิงและรัฐบาลจีนหลังการปฏิวัติล้มล้างระบอบกษัตริย์เมื่อปี พ.ศ.2454 (ค.ศ.1911)

จากการติดต่อสัมพันธ์ดังกล่าวนี้เอง ทำให้มีการสันนิษฐานกันว่า อาหารเส้นที่เรียกว่า “ก๋วยเตี๋ยว” มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรอยุธยา โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2175- 2231 ครองราชย์ พ.ศ. 2199-2231) ซึ่งถือเป็นยุคทองของอาณาจักรโดยมีการติดต่อการค้า การทูต และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศต่างๆ มากมาย โดยชาวจีนที่เข้ามาติดต่อกับคนไทยนั้นเป็นคนนำอาหารประเภทนี้เข้ามาเผยแพร่



ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึง ต้นศตวรรษที่ 20 ถือเป็นยุคเฟื่องฟูของการอพยพเข้ามาในประเทศไทยของชาวจีน มีสถิติระบุว่าในช่วง พ.ศ.2461-2474 (ค.ศ.1918-1931) มีชาวจีนอพยพเข้ามาในประเทศไทยมากถึง 5 แสนคน [3] ชาวจีนส่วนใหญ่เมื่อเข้ามาอยู่อาศัยในแผ่นดินไทย ด้วยความที่มีอุปนิสัยขยันขันแข็ง และมีหัวในการทำการค้า ประกอบกับได้รับการยกเว้นจากการถูกเกณฑ์แรงงาน และไม่ต้องผูกติดกับมูลนาย ทำให้ชาวจีนสามารถประกอบอาชีพได้อย่างอิสระ เช่น การเป็นแรงงานอิสระ กุลีลากรถ กรรมกรโรงสี รับราชการ เจ้าภาษีนายอากร พ่อค้า ด้วยอิสระในการประกอบอาชีพเหล่านี้ส่งผลให้ชาวจีนบางส่วนสามารถยกฐานะของตนขึ้นมาได้

แม้อาหารประเภทเส้นจะมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน และแรกเริ่มเดิมทีถือเป็นวัฒนธรรมการกินที่นำเข้ามาจากอาณาจักรอื่น แต่อาจกล่าวได้ว่า “ก๋วยเตี๋ยว” ที่พวกเรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ เกิดจากการแลกเปลี่ยน ผสมผสาน และหลอมรวมจนก๋วยเตี๋ยวหลายประเภทเช่น ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย, ขนมจีนน้ำเงี้ยว, ก๋วยเตี๋ยวเรือ ฯลฯ กลายเป็นอาหารประเภทเส้นที่หารับประทานที่ไหนไม่ได้ในโลก เป็นการสร้างสรรค์ใหม่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวัฒนธรรมไทยที่แม้แต่ประเทศต้นกำเนิดของก๋วยเตี๋ยวอย่างจีนก็ต้องยอมรับ



หมายเหตุ :
[1] นวรัตน์ ภักดีคำ, จีนใช้ไทยยืม, สำนักพิมพ์อมรินทร์ กรุงเทพมหานคร, หน้า 10-12
[2] 马树德2000,《中外文化交流史》,北京语言大学出版社,第172页。
[3] 史金纳1994,泰国华侨社会史的分析,《海洋问题资料意丛》,第一期,第20页。

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสดีเด็ด อร่อยเป๊ะสาขาบางขุนนนท์
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1UUTJNekEzT1E9PQ==&sectionid=-

คอลัมน์ อิ่มอร่อย



แวะเวียนไปชิมก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้าน "รสดีเด็ด" ที่รับรองรสชาติความอร่อยมาสู่ รุ่นลูก กับสาขาใหม่ในปีนี้ที่บางขุนนนท์

ความ อร่อยของก๋วยเตี๋ยวเริ่มกิจการเมื่อ ปี 2513 ที่ท่าพระจันทร์ โดยสองสามีภรรยา คุณพ่อเล็ก ภัทรพุทธากร และ คุณแม่เพ็ญใจ ใจทาน ผันตัวเองจากนักชิมตัวยงมาเริ่มทำร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ โดยพยายามคิดค้นสูตรเฉพาะไม่เหมือนใครขึ้นมา

ทั้งน้ำซุปที่เคี่ยว ด้วยกระดูกกว่าครึ่งค่อนวัน รวมถึงรสชาติของเนื้อเปื่อยนุ่มลิ้นที่ใช้วิธีต้มแบบดั้งเดิม พร้อมลูกชิ้นที่ทางร้านคัดเฉพาะเนื้อสดใหม่ๆ ไม่ผสมแป้ง โดยเฉพาะเครื่องปรุงรสอย่างพริกน้ำส้ม เพราะใช้พริกขี้หนูล้วนแท้เม็ดเล็กๆ บดจนได้รสชาติเผ็ด หอมฉุน ถือเป็นเอกลักษณ์คู่ร้านตลอดมากว่าครึ่งศตวรรษ

ปัจจุบัน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสดีเด็ดในความดูแลของรุ่นลูกยังคงเน้นความซื่อสัตย์ที่มี ต่อลูกค้า พร้อมด้วยคุณภาพจากรสชาติความอร่อยดั้งเดิม และพัฒนาขึ้นเพื่อให้ความอร่อยคงอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง

พร้อม เพิ่มเมนูทีเด็ดใช้เนื้อคัดพิเศษระดับพรีเมียมจากโคขุนโพนยางคำกำแพงแสน มีให้เลือกหลายส่วนไม่ว่าจะเป็น เซอร์ลอยน์ เนื้อปาเลอรอง (เนื้อใบพาย) สันไหล่ และใต้ซี่โครง

"เจ๊นุช"สโรชา จันทร์พรหม อายุ 41 ปี ลูกสาวคนโต จากพี่น้อง 3 คน เล่าถึงความเป็นมาของก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้าน รสดีเด็ด สาขาบางขุนนนท์ ว่าเปิดมาแล้วประมาณ 1 เดือน เน้นรสชาติของความเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อรวม คงรสชาติความเข้มข้นที่ได้จากชิ้นเนื้อชั้นดี เมื่อปรุงรสด้วยพริกน้ำส้มสูตรพิเศษที่คิดค้นขึ้นมาด้วยแล้ว จะทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้น ถูกใจนักชิมหลายคน เพราะหลายสาขาตั้งแต่ที่ผ่านมาก็ได้รับความนิยมจากนักชิมไม่น้อย และยังคงยืนยันว่า ร้านแห่งนี้จะสืบสานตำนานความอร่อยรุ่นพ่อรุ่นแม่ต่อไป

นอก จากเมนูทีเด็ดก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ทำเอานักชิมเนื้อติดใจกันเป็นแถบแล้ว ยังมีเมนู ข้าวหน้าไก่ สูตรรสดีเด็ด เป็นสูตรดั้งเดิมอายุมากว่า 40 ปี ที่จะมีน้ำราดหน้าไก่เข้มข้น แล้วใช้ส่วนสะโพกเนื้อแดง รสชาติกลมกล่อมไม่ซ้ำใคร รวมถึงข้าวสตูลิ้นหมู เข้มข้นไม่แพ้กัน สองเมนูนี้ราคาจานละ 40 บาท

ส่วนก๋วยเตี๋ยวเนื้อเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้นเนื้อ สด เนื้อเปื่อยถึงตับ หรือจะรวมลูกชิ้นด้วยก็ราคา 50 บาทแล้วแต่จะเลือก

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รวมหรือจะเลือกเพียงเนื้อน่องลายก็ราคาไม่เกิน 60 บาท ซึ่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อเซอร์ลอยน์ เนื้อใบพาย และเนื้อใต้ซี่โครง ก็เริ่มต้น 100-140 บาท แต่ทีเด็ดเรื่องเนื้อๆ แบบรสดีเด็ดยังไม่หมดเท่านี้ ยังมีชุดหม้อไฟเนื้อ ที่รวมลูกชิ้น เนื้อสด เนื้อเปื่อย ตับ เอ็นแก้ว ราคา 290 บาท และยังมีก๋วยเตี๋ยวหมู และชุดหม้อไฟหมูด้วยสำหรับคนชอบกินหมู เรียกได้ว่าคุ้มค่าจริงๆ

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านรสดีเด็ดเปิด แล้ว 7 สาขา ทั้งสาขาสะพานควาย สีลม ราช ดำริ ปิ่นเกล้า พระราม 4 ประตูน้ำ สำหรับสาขาบาง ขุนนนท์ ให้ใช้เส้นทางถนนจรัญสนิท วงศ์ เลี้ยวเข้ามาที่ถนนบางขุนนนท์ ให้สังเกตจะอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยบางขุนนนท์ 17 และธนาคารกรุงเทพ มีร้านเพียงห้องเดียวเท่านั้น

เปิดบริการ ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. ทุกวัน เจ้าของร้านกล่าวว่า ใครติดใจสาขาเดิมหรือสาขาอื่นๆ แล้ว ขอฝากร้าน รสดีเด็ด สาขาบางขุนนนท์ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
“168 ผัดไทกุ้งสด” เลิศรส หลากเมนูจานเด็ด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    13 ตุลาคม 2556 14:42 น.
-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000127037-




บรรยากาศภายในร้าน 168 ผัดไทกุ้งสด

       “168”... ไม่ใช่เลขเด็ดงวดต่อไป เพราะว่า “ผ่านมาแวะกิน” ยังไม่คิดจะผันตัวเองไปเป็นอาจารย์ใบ้หวย
       
       แต่ “168” ที่ว่านี้คือชื่อของร้านอาหารเจ้าเด็ด ที่มีชื่อเต็มๆ ว่า “168 ผัดไทกุ้งสด” เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตรงสุขุมวิท 101/1 ซึ่งเราได้ไปลองลิ้มรสมา แล้วขอบอกว่าที่นี่มีอาหารรสชาติเด็ดดวงให้ได้ลองลิ้มจนติดใจปาก จนต้องขอนำมาเสนอให้แฟนๆ นักกินได้ตามไปลองลิ้มรสชาติกันดู


ขนมกุยช่ายโบราณ

       เมื่อมาถึงร้านเปิดเมนูสั่งอาหาร ที่นี่มีอาหารหลากหลายให้เลือกชิม อย่างแรกที่อยากแนะนำให้สั่งมากินกันให้ได้ คือ ขนมกุยช่ายโบราณ (35 บาท / 5 ชิ้น) เป็นของกินเล่นที่อร่อยโดนใจปากมาก ทางร้านนำแผ่นแป้งก๋วยเตี๋ยวที่สั่งทำมาเป็นพิเศษแบบบางมาก นำมาห่อกับไส้ที่ปรุงด้วยหมูสับ กุ้งแห้งผัดรวมกับใบกุยช่าย แล้วนำไปนึ่ง เสิร์ฟมาร้อนๆ แบบเป็นคำ พร้อมกับน้ำจิ้ม ส่งชิ้นกุยช่ายเข้าปากเคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงความบางนุ่มของแป้งผสานกลมกลืนเข้ากับไส้กุยช่ายรสกลมกล่อมลิ้น


ผัดไทกุ้งสด

       จากนั้นมาชิมเมนูจานเด็ดตามชื่อร้าน ผัดไทกุ้งสด (ธรรมดา 40 บาท ใส่กุ้ง 60 บาท) ทางร้านเลือกใช้เส้นจันท์มาผัดกับซอสสูตรเด็ดที่ปรุงขึ้นมาโดยเฉพาะ ใส่เครื่องผัดไทแบบครบเครื่อง ใส่ไข่ และใส่กุ้งลงไปผัดด้วย ลิ้มรสผัดไทเส้นเหนียวนุ่มชุ่มน้ำซอสรสชาติเข้มข้นถูกปากดีแท้


ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูตุ๋น

       แล้วมาต่อที่ ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูตุ๋น (40 บาท พิเศษ 50 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูเด่นที่ไม่ควรพลาด มีเส้นให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ขาว บะหมี่ และมาม่า ทางร้านปรุงน้ำซุปตามสูตรเด็ดเฉพาะได้จากน้ำซุปกระดูกหมูผสมกับสมุนไพรไทยและจีนหลากชนิด และใส่เลือดด้วยถ้าสั่งเป็นน้ำตก น้ำซุปนั้นซดแล้วหอมกลิ่นสมุนไพรขึ้นจมูก รสเข้มข้นกลมกล่อมแบบไม่ต้องใส่เครื่องปรุงเพิ่มเลย ส่วนหมูตุ๋นทางร้านเลือกใช้หมูส่วนที่คัดมาเป็นพิเศษแบบไม่มีมัน นำมาหมักและตุ๋นกับน้ำซุปนาน 2-3 ชม. จนได้หมูตุ๋นที่เปื่อยนุ่มเคี้ยวนิ่ม และยังใส่ลูกชิ้นหมูเคี้ยวเด้งนุ่มปาก


ข้าวกะเพราหมูตุ๋น

       ส่งท้ายด้วยเมนู ข้าวกะเพราหมูตุ๋น (50 บาท เพิ่มไข่ดาว 8 บาท) ทางร้านนำหมูตุ๋นแบบเดียวกับที่ใส่ในก๋วยเตี๋ยว นำมาผัดใส่แต่ใบกะเพราแดง ใส่ลูกชิ้นหมู และผัดกับซอสสูตรพิเศษ เสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และไข่ดาว กินแล้วกะเพราหมูตุ๋นเนื้อนุ่มเคี้ยวหนึบปากได้รสชาติซอสจัดจ้านหอมกลิ่นใบกะเพรา


เครื่องดื่มสมุนไพร

       เหล่านี้คือเมนูเด็ดที่อยากนำเสนอให้ได้ลิ้มลองกันให้ได้ แต่ก็ยังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีกไม่น้อย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวผัดขี้เมา (40 บาท) ปอเปี๊ยะทอด (35 บาท) ข้าวกะเพราหมูสับ/ไก่สับ (40 บาท) ข้าวผัดหมูตุ๋น (50 บาท) ฯลฯ และเครื่องดื่มสมุนไพรอย่าง น้ำกระเจี๊ยบ, มะตูม, ตะไคร้, ชาดำเย็น (แก้วละ 15 บาท) เรียกว่าหากมาที่ร้าน “168 ผัดไทกุ้งสด” แล้วเป็นต้องได้รับความอิ่มอร่อยกลับบ้านไปอย่างแน่นอน
       
       ********************************************************************************

       “168 ผัดไทกุ้งสด” ตั้งอยู่ที่ 171 สุขุมวิท 101/1 บางจาก พระโขนง กทม. การเดินทางถ้ามาจากถ.สุขุมวิท วิ่งตรงมาที่สุขุมวิท 101/1 แล้วตรงเข้ามาจนถึงซอยวชิรธรรมสาธิต 9 จะเห็นร้าน 168 ผัดไทกุ้งสดอยู่ปากซอย ติดริมถนน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน (ยกเว้นอาทิตย์แรกของเดือนจะหยุด) เวลา 10.00-21.00 น. โทร. 08-0469-4169, 08-0469-4649
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สุดยอดร้านสุกี้ยากี้ Yummy ที่สุด
-http://travel.sanook.com/1391201/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89-yummy-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94/-

ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ถ้าได้ทานอาหารอร่อย ๆ มีน้ำซุปร้อนๆ อย่างสุกี้ยากี้ ก็คงสดชื่นและรู้สึกดีไม่น้อย วันนี้เรามีร้านสุกี้ยากี้ในย่านอาหารกรุงเทพ ที่ยืนยันว่าอร่อยติดดาวมาแนะนำให้ได้ลองเลือกทานกันค่ะ

โคคาสุกี้ สาขาไทมสแควร์

-http://www.trendzap.com/restaurants/14736-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C-

ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์น บรรยากาศสบายๆ พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูสุกี้ที่ทางโคคาเลือกสรรสำหรับลูกค้าคนพิเศษ เปิดบริการทุกวัน 10:00 - 21:00 น.




Zooki By Zood - เดอะคริสตัลพาร์ค



-http://www.trendzap.com/restaurants/14938-Zooki-By-Zood-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84-

ร้านสุกี้สูตรแต้จิ๋วสูตรโบราณ อร่อยฟินไปกับ หมูเด้งสาหร่ายกลมกล่อม พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด เปิดบริการทุกวันเวลา 11:30-21:00 น.





Neo Suki - เซ็นเตอร์วัน


-http://www.trendzap.com/restaurants/8804-Neo-Suki-%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99-

ร้านสุกี้สไตล์โฮมเมด ที่พิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบ และเครื่องปรุงเป็นพิเศษ ภายใต้สโลแกนที่ว่า " นีโอสุกี้ สุกี้นานาชาติ อร่อยถูกใจกับน้ำจิ้มหลากหลาย" เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11:00-22:00 น.






เรือนหยกสุกี้โบราณ สาขาราษฎร์บูรณะ



-http://www.trendzap.com/restaurants/15233-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B0-

ร้านสุกี้โบราณที่มีอาหารหลากหลาย น้ำจิ้มสุกี้เป็นสูตรผสมเต้าหู้ยี้ในแบบเฉพาะตัว เมนูเด็ดที่ต้องลิ้มลองคือปลาสวรรค์,ลูกชิ้นกุ้ง และลูกชิ้นสาหร่ายที่อร่อยมากๆ เปิดบริการทุกวัน 11:00 - 22:00 น.

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สุดยอดร้านสุกี้ยากี้ Yummy ที่สุด
-http://travel.sanook.com/1391201/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89-yummy-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94/-



Tiger Cave



-http://www.trendzap.com/restaurants/8734-Tiger-Cave-

ร้านสุกี้-ชาบู บุฟเฟ่ต์ ในบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง กับร้านเล็กๆ แต่คุณภาพเกินคุ้ม ไม่ใช่เพียงแค่การอิ่มท้อง แต่ยังรวมไปถึงความสุขที่รับรู้ได้ด้วยใจ เปิดบริการวันจันทร์ - วันอาทิตย์ 16:00-00:00 น.





O Yo Yo Suki & Shabu - ดิอเวนิวแจ้งวัฒนะ



-http://www.trendzap.com/restaurants/3382-O-Yo-Yo-Suki-Shabu-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B0-

เชิญคอสุกี้มาสัมผัสทั้งรสชาติและบรรยายกาศความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ พร้อมเนื้อนำเข้าเกรดพรีเมี่ยม และหมูดำคูโรบูตะ เลือกอร่อยแบบทานได้ไม่อั้นกับบุฟเฟ่ต์ หรือจะสั่งเป็นชุด ในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง เปิดบริการทุกวัน 11:00-22:00 น. ร้านอาหารเมนูอร่อยในกรุงเทพและปริมลฑล สำหรับมื้อพิเศษ ขอบอกว่ายังมีอีกเพียบ ติดตามได้ที่ www.trendzap.com
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
“เย็นตาโฟฮ่องเต้” เสน่ห์ความอร่อยแบบต้นตำรับ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    20 ตุลาคม 2556 18:35 น.
-http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9560000131479-


ที่นั่งชิมของอร่อย

       จะว่าไปแล้วเมืองไทยของเรา โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครนี้ เป็นแหล่งของกินริมทางที่ยอดเยี่ยมอีกแห่งหนึ่งของโลก เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะมีอาหารอร่อยๆ ให้กินกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะตามตลาดต่างๆ นั้น แค่เดินผ่านไปผ่านมาก็มักจะถูกกลิ่นหอมหวนของอาหารชักชวนให้แวะชิมอยู่เสมอๆ
       
       เหมือนอย่างที่ “ผ่านมาแวะกิน” ผ่านมาแถวถนนประชาราษฎร์สาย 1 แล้วก็เลยว่าจะแวะมาหาของสดที่ตลาดศรีเขมา นำกลับไปทำกินที่บ้านเสียหน่อย แต่ก็ยังถูกความหอมของน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวลอยมาเตะจมูก ทำให้เกิดท้องร้องขึ้นมาในทันที แบบนี้ก็ต้องแวะนั่งชิมกันเสียหน่อย


คุณอรทัย เจ้าของร้าน
       น้ำซุปหอมๆ นี้ลอยมาจากร้าน “เย็นตาโฟฮ่องเต้” ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านริมถนน แต่ความอร่อยนั้นไม่เป็นรองใคร การันตีด้วยระยะเวลาที่เปิดมายาวนานกว่า 17 ปี แล้ว โดยมีคุณอรทัย พิกุลกลิ่น หรือ เจ๊อ้วน เป็นเจ้าของร้าน
       
       ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เป็นสูตรต้นตำรับ 60 ปี มาจากสาขาศรีย่าน ซึ่งเคล็ดลับก็คือการเลือกวัตถุดิบคุณภาพ ความสดใหม่ และความพิถีพิถันในการปรุง อย่างเช่นพริกเผา พริกป่น หรือถั่วป่น ทางร้านก็จะคั่วเองสดๆ ใหม่ๆ


ลูกชิ้นหมูทอด
       ใครมาถึงร้านแบบหิวๆ แล้วไม่อยากรอนาน ก็ต้องสั่งออร์เดิฟมารองท้องเสียหน่อยกับเมนู ลูกชิ้นหมูทอด (40 บาท พิเศษ 50 บาท) เป็นลูกชิ้นที่ทางร้านทำเองโดยใช้เนื้อหมูบดมานวดกับแป้งปรุงรส จากนั้นนำไปทอดให้กรอบ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ด ชิมแล้วลูกชิ้นหมูกรอบๆ ด้านในนุ่มเล็กน้อย ได้รสชาติกลมกล่อม เพิ่มความจัดจ้านด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดเปรี้ยวเค็มเผ็ด
       
       หรือจะมาลองชิม ลูกรอก (40 บาท พิเศษ 50 บาท) เมนูนี้ทางร้านก็ทำเองเช่นกัน โดยใช้ไส้หมูนำมาทำความสะอาดหลายๆ รอบ ก่อนจะนำไข่ไก่ หมู และตับบดไปปรุงรส แล้วผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนจะนำไปกรอกใส่ไส้หมูที่เตรียมไว้ จากนั้นก็นำไปต้มกับน้ำใบเตยให้เปื่อยนุ่ม เสิร์ฟกับน้ำจิ้มเผ็ดๆ หวานๆ หรือจะกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ได้


ลูกรอก
       อร่อยกับออร์เดิฟกันแล้ว ก็มาที่เมนูหลักของมื้อนี้ เริ่มจาก ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่นี่เขามีเส้นให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก วุ้นเส้น บะหมี่ และเส้นหมี่ ใส่เครื่องทั้งลูกชิ้นปลา ฮือก้วย ลูกรอก ลูกชิ้นหมูทอด หมูยอ และเนื้อหมูหมัก น้ำซุปก็ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมูจนเปื่อย ปรุงเป็นต้มยำใส่พริกเผา มะนาว และถั่วลิสงป่น ลองชิมน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสชาติจัดจ้านมากๆ เข้ากันดีกับลูกชิ้นและเครื่องเคราอื่นๆ แต่ใครที่ไม่กินเผ็ดก็สามารถสั่งเป็นน้ำใสมากินแทนได้


ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ
       ตบท้ายด้วยของเด็ด ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่นอกจากจะใส่เครื่องอื่นๆ เหมือนกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำแล้ว ก็ยังใส่เกี๊ยวปลา หมึกกรอบ เลือดหมู และลูกชิ้นเต้าหู้ ใส่ซอสเย็นตาโฟที่ทางร้านทำเอง ผสมกับน้ำซุปกระดูกหมูหอมๆ ได้ออกมาเป็นเย็นตาโฟรสชาติกลมกล่อมชามนี้
       
       ต้องบอกว่ามื้อนี้มาตลาดศรีเขมา นอกจากจะได้ของสดกลับบ้านไปแล้ว ก็ยังได้อิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน “เย็นตาโฟฮ่องเต้” กันจนพุงกางกันเลยทีเดียว


ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       ร้าน “เย็นตาโฟฮ่องเต้” ตั้งขายอยู่บริเวณเชิงสะพานลอยคนข้าม ตลาดศรีเขมา เขตบางซื่อ กทม. การเดินทางหากมาจากแยกเกียกกาย ให้ตรงมาที่ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ตรงไปเรื่อยๆ ผ่านแยกบางโพมาสักพักจะเห็นตลาดศรีเขมาตั้งอยู่ทางขวามือ โดยร้านจะตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานลอยฝั่งเดียวกับตลาด ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ (จำนวน 200 ชามขึ้นไป) ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 16.00-23.00 น. โทร. 08-1403-4495

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ท่องบางลำภู ชิมก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่างในตำนาน

-http://club.sanook.com/11906/ท่องบางลำภู-ชิมก๋วยเตี๋-


<iframe width="550" height="315" src="http://video.sanook.com/embed/player/514353" frameborder="0" allowfullscreen ></iframe>
-<iframe width="550" height="315" src="http://video.sanook.com/embed/player/514353" frameborder="0" allowfullscreen ></iframe>-

http://video.sanook.com/player/514353/ชิมก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่างลือชื่อย่านบางลำภู
-http://video.sanook.com/player/514353/ชิมก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่างลือชื่อย่านบางลำภู-

http://video.sanook.com/





วันหยุดทั้งที สาวๆ ซิสเตอร์เดย์ ขอแนะนำร้านอร่อยลือเลื่องเป็นตำนานมาช้านาน อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แถวบางลำภูนี่เอง  หากลองมองซอกเล็กๆ ตรงข้ามสหกรณ์กรุงเทพ  ก็จะพบกับ “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่างบางลำภู (เจ้าเก่า)” ดูจากภายนอกอาจนึกว่าเป็นแค่ร้านเล็กๆ แต่พอเดินเข้าไปข้างใน มีโต๊ะเป็นสิบ แถมลูกค้าก็เยอะมาก หากไปถึงตอนเที่ยงเสี่ยงกับการไม่มีที่นั่งอย่างมาก

ก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่างร้านนี้ เป็นต้นตำรับดั้งเดิมมาตั้งแต่ พ.ศ. 2510 ความโดดเด่นไม่เหมือนกับก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่อื่นๆ คือ ที่นี่ไม่ใช่เป็ดต้ม แต่เป็นเป็ดย่าง ซึ่งทางร้านจะใช้เป็ดเชอร์รี่ และก็มีเครื่องเทศสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้านนำมาหมักใส่เข้าไปในตัวเป็ด โดยจะหมักไว้นานประมาณ 45 นาที แล้วจึงค่อยนำเป็ดไปย่างในเตาจนเป็ดสุกได้ที่ แล้วก็นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ในก๋วยเตี๋ยว เส้นบะหมี่ของที่นี่ก็แปลกไม่เหมือนใคร เป็นเส้นแบนๆ หรือที่เรียกว่าบะหมี่เป๊าะ ที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน  และมาร้านนี้ห้ามพลาด! เมนู ปาก ปีก ขา พะโล้ รสชาติออก เค็ม หวาน โรยหน้าด้วย ต้นหอม และกระเทียมเจียว สั่งมานั่งกินเล่นๆ ก็เพลินดีไม่น้อย

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)