ผู้เขียน หัวข้อ: รวบรวมเตือนภัย และการต่อต้าน แก๊ง เมาแล้วขับรถ  (อ่าน 25811 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
กาญจน์ภัสร์ ศิริประทุม หรือ วิเวียน สองสาวเล่าเรื่อง ถูกรถชนดับ คนขับสารภาพเสพยามาก่อนขับรถ


-http://hilight.kapook.com/view/113018-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02, สปริงนิวส์, ช่อง one

          กาญจน์ภัสร์ ศิริประทุม หรือ วิเวียน ครีเอทีฟ สองสาวเล่าเรื่อง ถูกรถชนหน้าตึกแกรมมี่เสียชีวิต ล่าสุดคนขับรถบรรทุกสารภาพเสพยาบ้ามาก่อนขับรถ สุดสลด ผู้ตายเพิ่งแต่งงานเมื่อ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ด้านญาติรับศพแล้ว เตรียมนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ขอนแก่น

          จากอุบัติเหตุรถบรรทุกฝ่าไฟแดงพุ่งชน นางสาวกาญจน์ภัสร์ ศิริประทุม หรือ วิเวียน อายุ 28 ปี ครีเอทีฟรายการสองสาวเล่าเรื่อง ในเครือแกรมมี่ ที่กำลังเดินข้ามทางม้าลายหน้าตึกแกรมมี่ บนถนนอโศกมนตรี ก่อนร่างจะถูกลากไปไกลกว่า 5 เมตร สร้างความตื่นตกใจให้กับประชาชนที่เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก กระทั่งในที่สุด นางสาวกาญจน์ภัสร์ ได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล

          ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557 รายการข่าวคืนนี้ ช่อง ONE ในเครือแกรมมี่ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอรายงานข่าวดังกล่าว โดยมีการสัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งระบุว่า รถบรรทุกวิ่งมาด้วยความเร็วมาก เสียงแรกที่ได้ยินคือเสียงปัง ซึ่งตอนแรกคิดว่าอาจจะชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ แต่ก็ได้ยินเสียงคนกรี๊ดกัน ก็รู้แล้วว่าต้องชนคนแน่ ๆ ซึ่งจากจุดที่ผู้ตายเดินลงมา จนถึงจุดที่รถหยุด ก็ประมาณ 10 เมตรได้ วินาทีนั้นก็เดินเข้าไปดูก็เห็นเป็นน้องผู้หญิงถูกชน แล้วเห็นเลือดไหลออกมา

          ทั้งนี้ รายการข่าวคืนนี้ ระบุว่า นางสาวกาญจน์ภัสร์ เพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่กลับมาเกิดเหตุสลดขึ้นขณะเดินข้ามทางม้าลายหน้าตึกแกรมมี่

          ขณะที่วันเดียวกัน เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02 กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้โพสต์เอกสารแบบรายงานเหตุอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญคดีดังกล่าว โดยมีการระบุว่า ผลการตรวจปัสสาวะของ นายสุริยา สุขบัว อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับรถบรรทุกทะเบียน บม 9367 สระบุรี พบว่ามีสารเสพติดประเภท 1 (แอมเฟตามีน) ซึ่งคนขับรถได้ยอมรับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาก่อนขับรถจริง

          เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเป็นผู้ขับขี่ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนคนเดินเท้า ถึงแก่ความตาย

          ต่อมาในช่วงบ่าย นางทองปัน โฮงคำอุด มารดา พร้อมด้วยนายณัฐวัฒน์ ภาอเนกพันธุ์กุล สามีของนางสาวกาญจน์ภัสร์ และเพื่อน ๆ ได้เดินทางมารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า จากั้นได้นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดประชาสามัคคี อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านเกิด

          ทั้งนี้ นายณัฐวัฒน์ ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกและร่ำไห้ตลอดเวลา กล่าวว่า ตนกับนางสาวกาณจน์ภัสร์ เพิ่งแต่งงานกันเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้วางแผนจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.ขอนแก่น ในวันที่ 26 ธันวาคม ครั้งนี้จึงจะพาภรรยากลับบ้าน ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด

          ด้าน นางอิสรีย์ ภาอเนกพันธุ์กุล แม่สามีของนางสาวกาณจน์ภัสร์ กล่าวว่า กรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าลูกสะใภ้ตนกำลังตั้งครรภ์นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ตนอยากฝากให้นายจ้างที่ให้ลูกจ้างขับรถ ตรวจสอบให้ดีว่าลูกจ้างติดยาเสพติดหรือไม่ เพราะถ้าปล่อยมาขับรถเช่นนี้จะเป็นอันตรายต่อผู้อื่นมาก











http://www.youtube.com/watch?v=0-8BKvgnNmk#t=10
-http://www.youtube.com/watch?v=0-8BKvgnNmk#t=10-
คลิป รถชนพนักงานสาวแกรมมี่ เสียชีวิตหน้าตึก GMM แม้จะข้ามถนนบนทางม้าลาย ตามสัญญาณไฟจราจร ก็ไม่ปลอดภัย โพสต์โดย ช่อง one สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม









คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เรื่องนี้ ผมว่า ต้องปรับทั้งเจ้าของรถ และ คนขับ 

ปรับให้หนัก  ,ห้ามคนขับรถ ขับรถเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี เพราะหากขับรถต่อไป อาจจะไม่ได้เกิดเหตุแค่นี้  อาจจะมีคนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บได้ 



---------------------------------------------------------------------------


สิบล้อไล่ฟัด! 3 คันซิ่งเบียดท้าทาย ถ.บางนา-ตราด

-http://news.sanook.com/1718363/-


นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนสายบางนา-ตราด รถบรรทุกสิบล้อ 3 คัน ขับปาดกันไปมา อย่างไม่เกรงใจผู้ร่วมใช้เส้นทาง สร้างความหวาดเสียวกับผู้ที่ผ่านมาเป็นเส้นทางดังกล่าว บ้างก็ระบุว่าเป็นกรณีที่รถบรรทุกสิบล้อหาเรื่องกันเอง

ตามรายงานระบุว่า เพจเฟซบุ๊กชื่อดังและเว็บไซต์ต่างๆ กำลังเผยแพร่คลิปวิดีโอความยาวไม่ถึงนาที ที่มีชื่อว่า "ใหญ่ฟัดใหญ่ บนถนนบางนา-ตราด" แสดงให้เห็นมุมภาพจากกล้องติดหน้ารถคันหนึ่ง ซึ่งกำลังขับมาตามถนน ก่อนจะเริ่มชะลอลง เนื่องจากข้างหน้ามีรถบรรทุกสิบล้อขับปาดช่องจราจรและขวางทาง ในลักษณะขับจี้ละปาดกันไปมา โดยที่มุมภาพระบุวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา

ภาพจากคลิปยังเผยให้เห็นว่า มีรถบรรทุกสิบล้อถึง 3 คัน ปรากฏอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว คันหนึ่งขับเบียดขวางทางอยู่ข้างหน้า ส่วนอีกคันดังกล่าวขับจี้ท้ายรถบรรทุกคอนเทนเนอร์เอาไว้ในลักษณะประกับหัวท้าย ก่อนที่รถบรรทุกคอนเทนเนอร์จะจนมุมและเข้าเกียร์ถอยหลังมาชน รถบรรทุกทั้ง 3 คัน จอดขวางเส้นทางจราจรอยู่ช่องขวาสุด สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ที่สัญจรไปมา

อย่างไรก็ตาม คลิปดังกล่าวยังถูกนำไปโพสต์แชร์ต่อบนแพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02" ด้วย โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าจะเห็นประจำตามถนนเส้นที่มีรถบรรทุกสัญจรไปมา บ้างก็แนะนำว่าให้ยึดใบอนุญาตรถบรรทุกทั้ง 3 คัน ที่สร้างความเดือดร้อน อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อผู้อื่นด้วย





http://www.youtube.com/watch?v=cxrLIGxtJWk#t=31
-http://www.youtube.com/watch?v=cxrLIGxtJWk#t=31-
ใหญ่ฟัดใหญ่ บนถนนบางนา-ตราด truck VS truck






คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ เมาแล้วขับ

กลับเป็นเรื่องที่ดี ที่ยังมีความรู้สึกที่รับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองกระทำไม่ดี


------------------------------------------------------------------------------------

 :46: :46: :46: :46: :46:

------------------------------------------------------------------------------------


หนุ่มรู้สึกผิดตั้งกระทู้ขอโทษ หลังจอดรถซ้อนคันทำคนเดือดร้อน

-http://hilight.kapook.com/view/113343-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1966825 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

            หนุ่มรู้สึกผิด สมัครพันทิปขอโทษ หลังไปจอดรถซ้อนคันไม่ปลดเกียร์ว่าง ทำคนเดือดร้อนต้องยกเลิกนัด

            เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมรายหนึ่ง ถึงกับต้องตั้งกระทู้ขอโทษยกใหญ่ หลังไปจอดรถซ้อนคันแล้วไม่ปลดเกียร์ว่าง จนทำให้เจ้าของรถที่เขาไปจอดซ้อนคันนั้นเคลื่อนรถไปไหนไม่ได้ จนต้องยกเลิกนัด กลายเป็นอุทาหรณ์ให้เจ้าของรถทั้งหลายรู้ว่าการจอดซ้อนคันโดยไม่ปลดเกียร์ว่างนั้นสร้างความเดือดร้อนแค่ไหน ขณะเดียวกันก็มีสมาชิกพันทิปหลายรายเข้ามาชื่นชมที่ทำผิดแล้วหาทางออกมาขอโทษเช่นนี้

            จากกระทู้ "ฝากถึงเจ้าของลายมือนี้ด้วยครับ" ของสมาชิกหมายเลข 1966825 ที่โพสต์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าของกระทู้ได้บอกเล่าผ่านภาพถ่ายว่า เขาได้ไปจอดรถซ้อนคันโดยไม่ปลดเกียร์ว่าง ทำให้ผู้หญิงเจ้าของรถที่เขาไปจอดซ้อนคันนั้น เขียนกระดาษโน้ตถึงเขาเพื่อบอกว่าเธอเดือดร้อนมากแค่ไหน โดยข้อความในกระดาษระบุว่า

            "ทีหลังจอดซ้อนคันต้องปลดเกียร์นะคะ ไม่งั้นจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนมาก ๆ รอเป็นชั่วโมง ๆ แล้ว รปภ. 3-4 คนต้องมาช่วยยกอีก นัดที่มีก็ต้องแคนเซิล เดือดร้อนมากค่ะ ! "

            หลังจากที่เจ้าของกระทู้รู้ตัวว่าเขาได้ทำให้ใครบางคนเดือดร้อนเพราะการจอดรถของเขาแล้ว ก็ได้สมัครสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เพื่อที่จะส่งคำขอโทษถึงเจ้าของรถที่ได้รับความเดือดร้อนว่า

            "ผมไม่สบายใจเลย ผมตั้งใจสมัครมาเพื่อกล่าวคำว่า "ขอโทษครับ" ผมไม่รู้จะไปบอกขอโทษคุณได้ที่ไหน ยังไงผมก็ขอพูดผ่านกระทู้นี้ละกันนะครับ ผมก็ไม่ทราบว่าคุณจะเห็นมันหรือเปล่า ผมขอโทษจริง ๆ ครับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปล. อย่าลืมใส่เกียร์ว่างทุกครั้งที่จอดซ้อนคันนะครับ ถ้าลืมอาจจะทำให้คนคนหนึ่งเดือดร้อนได้"

            แน่นอนว่าแม้เจ้าของกระทู้จะทำผิดจริงที่จอดรถซ้อนคันโดยไม่ยอมปลดเกียร์ว่าง แต่หลังจากที่เขาออกมาขอโทษผ่านกระทู้ พร้อมกับเตือนให้เหตุการณ์ที่เขาเจอเป็นบทเรียนให้กับคนขับรถรายอื่น ๆ แล้ว ก็ได้รับการชื่นชมจากหลายความคิดเห็น ขณะที่อีกหลายความเห็นก็บอกว่า เจ้าของกระทู้เจอแค่กระดาษโน้ตเตือนแบบนี้ถือว่าโชคดีมาก ๆ เพราะบางรายอาจเจอวิธีตักเตือนที่รุนแรงมากกว่านี้ เช่น กรีดรถ เจาะลมยาง เป็นต้น





คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
คลิปลุงโวยใส่ตำรวจด่านตรวจแอลกอฮอล์ บอก เอากับพี่มั้ย

-http://hilight.kapook.com/view/113431-

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  คุณ Social clip สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

           ชาวเน็ตแห่คลิปลุงโวยใส่ตำรวจด่านตรวจแอลกอฮอล์ บอก เอากับพี่มั้ย แต่สุดท้ายก็ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์โดยดี แถมยังพบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่ากฎหมายกำหนด

           วันที่ 29 ธันวาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คแห่แชร์คลิปลุงโวยใส่ตำรวจด่านตรวจแอลกอฮอล์ บอก เอากับพี่มั้ย กันอย่างกว้างขวาง โดยเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวคือ ภาพเหตุการณ์ที่ตำรวจจราจรจังหวัดพิษณุโลกกำลังปฏิบัติหน้าที่ และขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญผู้ขับขี่รถรายหนึ่งมาตรวจวัดหาปริมาณแอลกอฮอล์ ปรากฏว่า ชายวัยกลางคนดังกล่าวได้พูดจาส่งเสียงดังโวยวายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อะไรกันหนักกันหนา บ้านพี่อยู่แค่นี้ ตำรวจก็ให้เป่าหลายครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบบอกให้ชายคนดังกล่าวใจเย็น ๆ และขอให้นั่งรอก่อน

           แต่ชายคนดังกล่าวกลับพูดจาเสียงดังว่า "จะยังไงต่อก็ว่ากันมา" และใช้มือทุบที่โต๊ะของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดัง ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ ทำเอาพี่ ๆ ตำรวจต้องรีบเอาน้ำเย็นเข้าลูบด้วยการบอกให้ใจเย็น ๆ จนสุดท้ายชายคนดังกล่าวก็ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ปรากฏว่า ผลตรวจพบแอลกอฮอล์ 90 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญมาที่ สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมตั้งข้อหาเมาแล้วขับแล้ว ก่อนที่จะได้ประกันตัว



มนุษย์ลุง กร่าง ใส่ด่านเป่า แอลกอฮอล ตำรวจ โวย เอากับพี่มั๊ย..!?? @พิษณุโลก
-http://www.youtube.com/watch?v=_cgKltAiZ5s-
คลิป มนุษย์ลุง กร่าง ใส่ด่านเป่า แอลกอฮอล ตำรวจ โวย เอากับพี่มั๊ย..!?? @พิษณุโลก
โพสต์โดย คุณ Social clip สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-phitsanulokhotnews.com-
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
กฎหมายใหม่ ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ โดนโทษเท่ากับเมาแล้วขับ

-http://hilight.kapook.com/view/113498-


กฎหมายใหม่ ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ โดนโทษเท่ากับเมาแล้วขับ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02

            กฎหมายใหม่ ! ชี้ชัดฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ และสามารถดำเนินคดีฐานเมาแล้วขับได้เลย

            วันนี้ (31 ธันวาคม 2557) ที่เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02  ได้มีการเผยแพร่ ราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2557 ระบุว่า.. ถ้าผู้ขับไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ เท่ากับเมาแล้วขับและดำเนินคดีฐานเมาแล้วขับได้ ดังข้อความต่อไปนี้..

            โปรดทราบ..ไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์...เท่ากับเมาแล้วขับ

            พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่10) พ.ศ. 2557 เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 ได้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยมีการแก้ไข 2 ประเด็นสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 142 เกี่ยวกับกำหนดข้อสันนิษฐานในกรณีผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบว่าหย่อนความสามารถในการขับขี่โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่ง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมใหม่ จะให้อำนาจเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถ เมื่อเห็นว่ารถนั้นมีสภาพไม่ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ และในกรณีที่ผู้ขับขี่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าเสี่ยงเมาสุรา หรือขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับหรือขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่

            กฎหมายใหม่ระบุอำนาจเจ้าพนักงานจราจรว่า สามารถสั่งให้ผู้ขับขี่ขับรถเข้าช่องทางที่มีกรวยวางตั้งไว้ ให้ไขกระจกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ยื่นอุปกรณ์เข้าไปตรวจวัดแอลกอฮอล์เข้าไปในรถได้ หรือเรียกให้ผู้ขับขี่เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ รวมทั้งสั่งให้ลงจากรถเพื่อดูว่าร่างกายสามารถรักษาสมดุลของการเดินได้หรือไม่ หากผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบ ให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้นั้นเมาสุรา เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานขับรถขณะเมาสุราได้

            สำหรับบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืนตามกฎหมายใหม่ กรณีผู้ขับขี่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานในการทดสอบ เดิมระวางโทษปรับครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท กรณียินยอมให้ทดสอบแต่พบว่าเมาสุราขณะขับรถ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบขับขี่ แต่กฎหมายใหม่ได้ปรับเพิ่มความเข้มงวดในการเอาผิดทางกฎหมาย โดยกรณีไม่ยินยอมให้ทดสอบให้สันนิษฐานว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าเมาไว้ก่อนจะ มีบทลงโทษคือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้ถูกกล่าวหาไปสืบพยานหักล้างในศาลได้

            เหตุผลที่ต้องเพิ่มบทลงโทษ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ขับขี่มักปฏิเสธให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อีกทั้งการขับรถขณะเมาสุรามีโทษน้อยมาก จึงมักละเลยขับรถโดยประมาท ดังนั้นการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมจึงถือเป็นมาตรการป้องปรามและขอความร่วมมือ จากประชาชนเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ทางหนึ่ง




.



คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
อย่าให้คนผิดลอยนวล

แต่ที่แน่ๆ  กฎแห่งกรรม  ไม่ปล่อยแน่นอน

แต่ก่อนที่กฎแห่งกรรม จะทำงาน

ต้องให้กฎหมายบ้านเมือง ทำงานก่อน



-----------------------------------------------------------




“น้องการ์ตูน” อุบัติเหตุบนท้องถนน หรือความจริงที่ “นักซิ่ง” บิดเบือน!!? (มีคลิป)
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน    
   
13 พฤศจิกายน 2557 22:27 น.

-http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000131169-





กระบะเครื่องแรง เหยียบมิดไมล์เสียหลักเข้าชนครอบครัวหาเช้ากินค่ำ สิ้นเสียงสนั่น คุณแม่วิ่งออกมาดู ปรากฏภาพสามีนอนกระอักเลือดกอดลูกน้อยวัย 5 ขวบไว้แน่น ขณะนี้ ผู้เสียหายเสียเสาหลักของครอบครัวอย่างไม่อาจยื้อไว้ได้ เหลือเพียง “น้องการ์ตูน” นอนอาการร่อแร่อยู่ที่โรงพยาบาล
       
       ผ่านไป 2 เดือน ฝั่งผู้ก่อเหตุเริ่มบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ จึงออกมาร้องขอความเป็นธรรมจนกลายเป็นประเด็น ชาวเน็ตช่วยสืบกระทั่งพบข้อสงสัยหลายจุดในคดีนี้ว่า อาจไม่ใช่อุบัติเหตุจากการขับขี่ธรรมดา แต่คือความประมาทจากน้ำมือแก๊งซิ่งรถที่บิดเบือนความจริง!!?
       
       
       ไม่ใช่รถซิ่ง ไม่ได้ขับแข่ง แต่เครื่องแรงเกินพิกัด!!
       

       


(น้องการ์ตูน ในวันที่ยังไม่เกิดโชคร้าย)

        น้องการ์ตูนวัย 5 ขวบ จากที่เคยเป็นเด็กสดใส จ้ำม่ำ น่ารัก ตอนนี้ต้องนอนสมองเบลออยู่โรงพยาบาล โดยมีค่ารักษาตัวพุ่งสูงถึง 1.5 ล้านบาท จากอุบัติเหตุรถปิกอัพพุ่งชนร้าน “สเต็กลุงใหญ่” ย่านบางบอน จนเป็นเหตุให้คุณพ่อเสียชีวิตและเด็กน้อยสูญเสียสมองไป 25 เปอร์เซ็นต์ ผู้เป็นแม่ซึ่งต้องเผชิญชะตากรรมอันหนักหนานี้แต่เพียงผู้เดียวอย่าง “ศรัญญา ชำนิ” จึงทนต่อสภาวะที่จำต้องแบกรับต่อไปอีกไม่ไหว เพราะถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้นเกี่ยวกับค่าเสียหายในด้านต่างๆ แต่ทว่า กลับเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เธอต้องสูญเสียไป
       
        ที่สำคัญ เธอยังคงแคลงใจมาตลอดว่าคดีนี้อาจมีเงื่อนงำในหลายๆ จุด เนื่องจากรถปิกอัพที่ขับมาชนนั้น มีผู้ก่อเหตุนั่งมาด้วยกัน 2 คน คือ “น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม” กับชายวัย 19 หลังเกิดเหตุชนอึกทึกครึกโครม รถกระบะคันนั้นก็ตะแครงขวาอยู่บนท้องถนน ผู้ก่อเหตุอ้างว่าฝ่ายชายพาตัวออกมาจากรถได้ก่อน จากนั้นไปดึงผู้หญิงออกมา แต่สิ่งที่เห็นและชวนให้ครอบครัวเหยื่ออุบัติเหตุครั้งนี้สงสัยคือ น้ำผึ้งรีบตรงดิ่งมายังคุณแม่ผู้สูญเสียแล้วประกาศตัวว่า “ฉันขับเองๆ” ซึ่งดูผิดวิสัยไปจากปกติ คุณแม่ศรัญญาจึงต้องข้อสงสัยเอาไว้ว่า อาจมีการสับเปลี่ยนตัวคนขับเกิดขึ้น
       
       

       
        "คิดว่าทางตำรวจน่าจะช่วยสอบสวนได้หรือหากล้องได้ค่ะว่าจริงๆ แล้วใครขับ เพราะความเป็นจริงผู้หญิงไม่น่าขับรถได้แรงขนาดนี้ค่ะ ไมล์มันน่าจะอยู่ที่ 100 กว่า แต่ถ้าเขาขับจริงก็โอเค แต่ถามว่าเราอยากได้ความกระจ่างจากตรงนี้มากกว่า” นอกจากนี้ยังต้องการให้มีการตรวจสอบหลักฐานให้แน่ใจอีกครั้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากการแข่งรถหรือไม่ เพราะจากกล้องวงจรปิดที่เก็บภาพได้ จะเห็นว่ามีรถ 2 คันที่แข่งกันมาบนท้องถนนสาย เอกชัย-บางบอน แข่งกันมาตลอดทางตั้งแต่บริเวณโรงพักบางบอนจนมาถึงจุดเกิดเหตุ
       
        จากนั้นกล้องวงจรปิดอีกตัวที่จับภาพได้ จึงเผยให้เห็นภาพรถปิกอัพคันก่อเหตุ พุ่งชนร้านสเต๊กอย่างจัง จึงสงสัยว่าอาจเป็นรถที่อยู่ร่วมกระบวนการแข่งรถเดียวกันนี้ เนื่องจากลักษณะการขับมาเร็วและแรงมากเกินกว่าจะเป็นอุบัติเหตุธรรมดาทั่วไป คือนอกจากจะชนเข้ากับร้านสเต๊กของครอบครัวเข้าอย่างจัง ยังไถลไปไกลจนสร้างความเสียหายอีกกว่า 5 ห้อง แต่ทางผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่ได้สับเปลี่ยนคนขับ และไม่ได้ขับรถซิ่งแข่งใคร แต่ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเพราะขับรถไม่ค่อยคล่อง แต่วันนั้นอยากกลับบ้านเร็วจึงแซงรถ 2 คันนั้นที่กำลังแข่งกันอยู่ขึ้นไป จนเป็นเหตุให้เสียหลักและคุมรถไม่อยู่
       
       
   

        ที่น่าสนใจคือ หลักฐานบนโลกออนไลน์หลายๆ อย่างกลับขัดแย้งกับคำให้การของผู้ก่อเหตุของน้ำผึ้ง ตั้งแต่ที่บอกว่าน้องผู้ชายที่นั่งรถมาด้วยกันขับไม่เป็น และรถที่ทำให้เกิดเหตุก็ไม่ใช่รถแต่งเพื่อเอาไว้ซิ่ง แต่เป็นแค่รถเอาไว้ขนของขายเท่านั้น แต่ภาพที่ชาวเน็ตขุดมาได้ กลับเต็มไปด้วยภาพผู้ชายคนหนึ่งถ่ายรถปิกอัพป้ายทะเบียน "ฒฒ 7108" ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนเดียวกับที่ทำให้เกิดเหตุ โพสต์เกี่ยวกับการแต่งรถเครื่องแรงแบบจัดเต็ม ซ้ำยังมีภาพชายหนุ่มคนนั้นขับรถคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยตลอด โดยชาวเน็ตคาดการณ์กันไว้ว่าอาจเป็นชายคนเดียวกับที่นั่งมากับน้ำผึ้งในคืนวันเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม นี่คือปากคำของน้ำผึ้งที่บอกตำรวจเอาไว้ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้
       
        "หนูเป็นคนขับค่ะ รถคว่ำ หนูอยู่ข้างล่าง น้องชายหนูอยู่ข้างบน ไม่เป็นอะไรเลย แขนหนูก็ยังเป็นแผลอยู่ หนูไม่ได้โกหกจริงๆ ค่ะ... หนูไม่ได้ขับรถเก่งน่ะค่ะ เพิ่งหัดขับ กะจะแซงแต่มันเสียหลัก รถมันหนักน่ะค่ะและมันข้อสูง ก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลน้องมาตลอดเลย เซ็นรับผิดชอบเป็นเจ้าของไข้ รับภาระหนี้สินของโรงพยาบาล และร้านที่เขาเสียหายทุกร้าน รวมทั้งร้านสเต๊กก็จ่ายหมดแล้ว
       
        วันแรกที่มาคุย เรียกศูนย์มาดู ตีราคาไว้ 80,000 บาท ดูแต่ภายนอกนะคะยังไม่ได้ดูภายใน แต่พอครั้งต่อมา มาตกลงเรื่องร้าน หนูก็จ่ายหมดเลยแล้ว แต่มาทีหลัง เขามาบอกอีกว่าตกลงเรื่องรถว่าตกลงแล้วราคา 350,000 หนูเลยบอกหนูจ่ายไม่ไหว เพราะหนูไม่มีเงินขนาดนั้น หนูเอาเงินมาจ่ายให้น้องและจ่ายค่าเสียหายไปหมดแล้ว ไม่ได้มีเงินเป็นของตัวเองด้วยค่ะ ยืมญาติพี่น้องมาด้วย
        รถภายในเราก็แต่งให้มันสวยๆ ได้ แต่จริงๆ มันเป็นรถขายของน่ะค่ะ มันไม่ใช่รถแข่ง เราก็ขายของทุกวัน หนูก็ไม่รู้จักรถ 2 คันนั้นที่แข่งมาด้วยค่ะ ช่วงจังหวะที่แซงคือใกล้จะถึงบ้านแล้วก็เลยแซง จังหวะมันไม่น่าจะแซงหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ด้านขับรถมาก พอแซงแล้วไม่พ้นเลยเอารถไม่อยู่ ก็ยอมรับว่าขับเร็วแต่ไม่ได้ขับแข่งค่ะ
       
        เรื่องค่าเสียหายหนูชดใช้อยู่แล้ว แต่ต้องใจเย็นๆ เรื่องนี้ หนูก็เสียใจค่ะ ไม่ได้อยากให้เกิด เข้าใจค่ะว่าคนเป็นแม่เสียใจแค่ไหน ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ยกมือไหว้ขอโทษเลย วันนี้ก็ทำเป็นทางการเลยแล้วกัน (ยกมือไหว้ผู้เสียหาย) ก็ขอโทษด้วยค่ะ"
       
       

       ครอบครัวสูญเสีย ไม่มีคำว่า “เรียกร้องมากเกินไป”
       


        เมื่อมีปัญหาแคลงใจจนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์กันขนาดนี้ พล.ต.ต.ชัชวาลย์ วชิรปาณีกูล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 จึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้ จากการสอบปากคำกรณีสงสัยว่ามีการเปลี่ยนตัวผู้ขับขี่จริงหรือไม่ พยานยืนยันว่าฝ่ายชายปีนออกจากประตูรถก่อนเพื่อช่วยฝ่ายหญิงออกจากรถ จึงยืนยันได้ว่าน้ำผึ้งเป็นผู้ขับขี่รถจริง ไม่ใช่ชายวัย 19 อย่างที่คุณแม่สันนิษฐานเอาไว้ ส่วนเรื่องคดีจะสรุปสำนวนฟ้องภายในอาทิตย์นี้ โดยได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บไป
       
        ส่วนเรื่องอาการของน้องการ์ตูน คุณแม่บอกว่าล่าสุดน้องลืมตาได้แล้ว เมื่อคุณแม่ไปกระซิบข้างหูว่าคดีคืบหน้าไปมาก น้องก็น้ำตาซึมแสดงอาการรับรู้ ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ล่าสุดพุ่งสูงถึง 1.5 ล้านบาท ซึ่งทางผู้ก่อเหตุได้ช่วยชดเชยจ่ายไปเบื้องต้นให้ 175,000 บาท ส่วนต่างหลังจากนั้น คุณแม่เป็นผู้ดูแลเองทั้งหมด
       
        “คุณหมอให้คำตอบไม่ได้ว่าน้องจะฟื้นมั้ย จะเป็นเจ้าหญิงนิทราหรือเปล่า จะรับรู้ได้แค่ไหน บอกไม่ได้เลยทุกอย่าง คุณหมอบอกให้รอเวลาอย่างเดียวค่ะ ทางคุณแม่ก็หวังว่ายังไงน้องน่าจะกลับมาเหมือนเดิม ไม่มากก็ยังถือว่ารับรู้ได้ นั่งได้ ก็ยังดีกว่าไม่รับรู้อะไรเลย ตอนแรกคุณหมอกลัวเป็นเจ้าหญิงนิทราด้วยซ้ำค่ะ แต่ตอนหลังน้องลืมตาขึ้นมา พยายามกระตุ้นตัวเองให้รู้ว่าได้ยิน" เธอให้สัมภาษณ์ไปพลางกะพริบตาถี่ขณะเล่า
       
        ได้ทราบรายละเอียดเช่นนี้ เป็นใครก็อดเห็นใจไม่ได้ เช่นเดียวกับ นพดล สุวรรณกำจาย ผู้บริหาร บริษัท ไทยเซอร์เวย์เยอร์ แอนด์ ลอว์ จำกัด ซึ่งเป็นทนายและเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องประกันภัยรถยนต์ จึงขอแสดงความคิดเห็นเอาไว้เกี่ยวกับการร้องเรียนเรื่องค่าเสียหายที่ครอบครัวผู้สูญเสียควรได้รับ
       
        “ในกรณีความเสียหายแบบนี้ เรียกเงินชดเชยยังไงก็ “ไม่มีคำว่า มากเกินไป” เพราะเขาเสียหายเยอะเหลือเกิน อันนี้ก็น่าเห็นใจทางผู้หญิงเขานะ เขาเสียหายเต็มๆ เลย ไหนจะลูก ไหนจะสามี เขามีสิทธิเรียกเต็มที่ได้เลย ส่วนจะได้เท่าไหร่เป็นอีกเรื่องนึง คือถ้าผมเป็นทนายว่าความให้ ผมก็จะเรียกเต็มที่เหมือนกันครับ
       
        ส่วนจะเรียกได้แค่ไหน มันต้องมาดูที่องค์ประกอบอีก ต้องดูว่าสามีเขาเคยมีรายได้วันละเท่าไหร่ ถ้ายังมีชีวิตอยู่ เขาน่าจะสามารถทำรายได้ได้ถึงอายุเท่าไหร่ ต้องมานั่งคำนวณดู สมมติว่าอยู่ได้ถึงสัก 60 ปี ควรจะได้ค่าชดเชยเท่าไหร่ ต้องคิดเผื่อไว้ครับ เพราะทางผู้เสียหายต้องกินต้องอยู่ต่อไป และตอนนี้ลูกสาวก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ค่ารักษาพยาบาลก็ควรจะให้แพทย์ประเมินให้ก่อนว่าตกเดือนละเท่าไหร่ ของแบบนี้จะมาตัดสินกันลอยๆ ไม่ได้ครับ แนะนำให้ผู้เสียหายลองไปพึ่งสภาทนายความเลย
       
        กรณีแบบนี้ เราอย่าไปฟังคนคนเดียว หรือฟังผมคนเดียวก็ไม่ถูก เราควรคำนึงประโยชน์สูงสุดของเรา อย่าลืมว่าเราเป็นผู้ถูกละเมิดนะ ถ้าเป็นความเสียหายด้านทรัพย์สิน เราซ่อมได้ แต่ถ้าเป็นความเสียหายเกี่ยวกับชีวิตคน มันซ่อมไม่ได้นะ เกิดเป็นอะไรขึ้นมาภาระนี้ใหญ่หลวงเลยนะ มันไม่ใช่สิ่งที่เราเลือกเองนะ แต่ต้องอยู่กับสภาวะแบบนี้ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ อันนี้เรื่องใหญ่เลย
       
        แต่ผมแนะนำว่าเรายังมีทางออกอีก ค่อยๆ ดูทางออกก่อน อย่าเพิ่งไปหวังว่าคนที่ขับรถหรือแข่งรถซิ่งจะมารับผิดชอบ เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กครับ มันเรื่องใหญ่ ฟังแล้วก็น่าเห็นใจ เพราะเรื่องมันเกิดกับชาวบ้านทำมาหากินธรรมดา อนาคตของเด็กจะเป็นยังไงก็ไม่จบ ถ้าน้องต้องนอนโรงพยาบาลระยะยาวมันก็ยิ่งแย่
       
        ถ้าฝ่ายผู้เสียหายมีคนเสียชีวิต โดยพื้นฐาน จะต้องจ่ายขั้นต่ำ 300,000 บาท ส่วนจะเจรจาให้ได้ชดเชยในอัตราที่สูงกว่านี้ หรือให้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลน้องในระยะยาวได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนถ้ามีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ทางศาลเขาก็จะพิจารณาโทษของฝ่ายก่อเหตุว่า คุณมีความพยายามที่จะช่วยบำบัดปัดเป่าในเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร ถ้าเขาได้ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายอยู่บ้าง ศาลก็จะมองว่า เอ้อ...ก็ยังมีความดีอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่พยายามทำอะไรเลยศาลก็จะตัดสินโทษตามนั้น แต่เรื่องนี้ ถ้าให้ศาลดู ตั้งแต่ผมมีชีวิตทางด้านทนายมา ถ้ามีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุแข่งซิ่งรถมาชนนี่ ศาลท่านไม่เคยเว้นสักที”
       
       

       
(อ้างว่ารถไม่ได้แต่ง แต่หลักฐานออนไลน์กลับขัดแย้ง)



        ลองให้พิจารณาในมุมบทลงโทษบ้าง หากท้ายที่สุดแล้ว ผลการสืบสวนปรากฏออกมาว่าข้อสันนิษฐานเรื่องการสับเปลี่ยนคนขับและการซิ่งรถเป็นเรื่องจริง ความผิดที่เคยตัดสินเอาไว้ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
       
        “ความผิดระหว่างรถที่แข่งมาแล้วเกิดอุบัติเหตุ กับรถที่ขับแล้วพลาดโดยประมาท ต่างกันนะครับ ถ้าเกิดรถเอามาแข่งซิ่งในถนนหลวงเนี่ย มันค่อนข้างเป็นความผิดที่ศาลท่านดูแล้ว จะมองไปในลักษณะว่าค่อนข้างร้ายแรง ก่อให้เกิดอันตราย แต่ถ้าขับธรรมดาแล้วเกิดอุบัติเหตุ ศาลท่านก็จะพิจารณาไปตามนั้น อาจจะเกิดเพราะความไม่ชำนาญ ก็ต้องชั่งน้ำหนักและตัดสินตามนั้น แต่ถ้าเหตุเกิดเพราะซิ่งรถมา ผมเชื่อได้เลยว่าศาลท่านลงโทษหนักแน่ โดยเฉพาะกรณีที่มีคนตาย โทษตามกฎหมายขับขี่โดยประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำคุกไม่ต่ำกว่า 10 ปี แล้วถ้ายิ่งตั้งใจขับซิ่งขับแข่งมา โทษก็น่าจะยิ่งหนักขึ้นอีก”
       
        อีกประเด็นที่สังคมวิจารณ์อย่างหนักไม่น้อยกว่ากรณีอื่นคือ รถปิกอัพคันดังกล่าวไม่มี พ.ร.บ. ซึ่งถือว่าช่วยสะท้อนอะไรๆ ได้อีกหลายมุมเหมือนกัน
       
        “ผมเห็นว่ามีความสำคัญนะครับ เพราะว่าสมัยก่อนที่รถยังไม่มี พ.ร.บ. ภาระทั้งหลายจะไปตกอยู่กับรัฐ เพราะรัฐต้องรับผิดชอบด้านสาธารณสุข มีเรื่องประชาสงเคราะห์ซึ่งรัฐจะต้องเจียดเงินงบประมาณมาให้ตรงนี้ เวลาคนถูกรถชนมาก็ต้องมาเบิกตรงนี้ ทำให้รัฐต้องรับภาระ เลยทำให้เกิด พ.ร.บ.ตรงนี้เกิดขึ้นเพื่อให้คนที่ใช้รถได้ช่วยเหลือสังคมในงบประมาณตรงนี้
       
        เพราะฉะนั้น การมี พ.ร.บ.ย่อมเป็นผลดีกว่า มันเป็นการรองรับในชีวิตของคน จากสมัยก่อนจะมีคำพูดที่ว่า “หมาตัวนึงถูกชน ได้รับค่าเสียหายมากกว่าชีวิตคนคนนึงเสียอีก” เพราะตอนนั้นไม่มีใครดูแล แต่สมัยนี้มี พ.ร.บ. ก็ยังมีคนรองรับตรงนี้อยู่ ให้คนใช้รถได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม ไม่ใช่รัฐต้องรับภาระตรงนี้ฝ่ายเดียว ส่วนคนที่ไม่มี พ.ร.บ.หรือไม่ต่อภาษีนี่ ก็สามารถมองได้ว่าบุคคลนั้นไม่รับผิดชอบต่อสังคมได้เหมือนกัน”
       
       
       
       ความหวังสุดท้าย “กล้องวงจรปิด”
        ประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์อย่างหนักคือ “มีการสับเปลี่ยนคนขับจริงหรือไม่?” เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทนาย “นพดล” บอกว่าแท้จริงแล้วสามารถตรวจสอบได้ ดังต่อไปนี้
       
        “ประการที่หนึ่ง ตรวจสอบจากตัวผู้ขับขี่ได้ครับ ที่นั่งข้างหน้า เข็มขัดนิรภัยมันจะมี 2 ข้างใช่มั้ยครับ ถ้าเกิดเหตุแล้วใครจะอ้างว่าใครเป็นคนขับขี่ก็ตาม เราสามารถดูที่รอย Safety Belt ได้ เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุจะเกิดแรงกระชาก ทำให้เกิดร่องรอยบาดแผลหรือร่องรอยฟกช้ำขึ้นมา ให้มองเห็นพอจะชี้ได้ว่าสรุปแล้วใครคือผู้ขับขี่
       
        ประการที่สอง สามารถถามพยานบริเวณใกล้เคียง ข้างทางแถวนั้นว่าขณะเกิดเหตุมีใครเห็นมั้ยว่าใครขับขี่ เท่านี้ก็พอจะช่วยชี้ได้ และประการที่สาม ดูว่าร่อยรอยความเสียหายของรถกับความสัมพันธ์ของคนที่อยู่ในรถขณะนั้น มันสัมพันธ์กันแค่ไหน เพราะตำแหน่งที่นั่งอยู่กับคนที่นั่งข้าง จะมีร่องรอยลักษณะหัวโหม่งกระจกบ้างมั้ย ถ้ามีการโหม่ง คนที่โหม่งจะต้องมีบาดแผลบ้าง ก็พอจะจับได้ แต่ผมเชื่อว่าจากที่ดูในกล้อง น่าจะมีพยานที่พอจะมองเห็นได้ว่าใครเป็นคนขับ”
       
       

       
(ชาวเน็ตตามสืบ น่าจะเป็นคนเดียวกับชายวัย 19 ที่อ้างว่าขับรถไม่เป็น)

       
        นอกจากนี้ พ.ต.อ.วันชัย อยู่แสง รองผู้บังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังช่วยเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องกล้องวงจรปิดว่าสามารถขอดูจากทางกรุงเทพมหานครได้ โดยอาจต้องพิจารณาก่อนว่าจุดเกิดเหตุมีกล้องประเภทใดติดตั้งเอาไว้บ้าง
       
        “กล้องในส่วนนี้จะมีเฉพาะของกรุงเทพมหานครที่เขาติดตั้งไว้ให้ ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท โดยประเภทที่หนึ่งคือ กล้องที่ติดตั้งไว้ดูการจราจร มีอยู่ประมาณ150-160 ตัว กล้องพวกนี้จะอยู่ตามทางแยกใหญ่ๆ ในรอบในหรือถนนสายสำคัญต่างๆ ปากซอยจะไม่มี และกล้องประเภทที่สองคือ กล้องที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดูในเรื่องของการป้องกันอาชญากรรม ตามปากซอยต่างๆ ก็น่าจะมีกล้องพวกนี้จะอยู่ในความดูแลของทางกรุงเทพมหานครเหมือนกัน ก็ต้องดูว่าบริเวณนั้นมีกล้องอยู่หรือไม่ ถ้ามีต้องไปติดต่อที่สถานีตำรวจในท้องถิ่นที่เกิดเหตุ บางโรงพักทางกรุงเทพมหานครจะเชื่อมสัญญาณ CCTV ให้แล้ว แต่บางโรงพักยังไม่ได้เชื่อมให้
       
        เราอาจจะไปขอดูที่สำนักงานเขตได้ ถ้ามีการเชื่อมสัญญาณมาที่โรงพักแล้ว ส่วนใหญ่สำนักงานเขตมีเรียบร้อยแล้ว หรือถ้าไม่มีจริงๆ สะดวกที่สุดไปดูได้ที่ศูนย์ CCTV ของกรุงเทพมหานครแถวเสาชิงช้า เราสามารถขอย้อนกลับไปดูได้น่าจะประมาณ 15-30 วัน เราต้องดูว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นนานหรือยัง ถ้านานแล้วก็อาจจะถูกลบไปแล้ว
       
        ถ้าดูกล้องCCTV แล้วมีข้อเท็จจริงปรากฎก็นำไปให้พนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนจะมีพยานหลักฐานใหม่ที่สามารถดำเนินคดีกับคนที่ทำความผิดจริงได้ ในส่วนที่ขอดูกล้องวงจรปิดไม่ต้องใช้หลักฐาน อาจให้ทางกรุงเทพมหานครคัดสำเนาให้หรือเอาใบแจ้งความบันทึกประจำวันเพื่อไปขอคัดสำเนาไปทางพนักงานสอบสวน
       
        คนชนคนขับขี่จะมีความผิดในเรื่องของการขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสมีโทษจำคุก เกิดการสลับตัวจริงมีความผิดฐานให้ความเท็จต่อเจ้าพนักงานมีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา คนที่ให้ความเท็จก็รับโทษไปในขณะที่คนขับถูกดำเนินคดีในข้อหาขับรถประมาททำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตครับ”
       
        แม้ขณะนี้จะยังมีเรื่องค้างคาภายในใจ แต่คุณแม่ใบเลี้ยงเดี่ยวอย่าง “ศรัญญา” ก็พยายามทำใจแข็งและสู้ต่อไป เพื่อลูกน้อยวัย 5 ขวบที่พยายามต่อสู้กับตัวเองอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน แม้หนูน้อยจะยังมีไข้ตลอดเวลา บวกกับมีอาการชักเกร็งเพราะในสมองบวมน้ำ แต่หนูน้อยก็ยังสู้ต่อไป และแม้ไม่รู้ว่ากระบวนการยุติธรรมจะทดแทนสิ่งที่ครอบครัวนี้สูญเสียไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่คุณแม่ใจเด็ดรายนี้ก็ยังคงสู้กับชะตาชีวิตต่อไป ด้วยการเปิดร้านสเต๊กร้านใหม่โดยใช้ชื่อเดิม “สเต๊กลุงใหญ่” มาตั้งร้านแถวราษฎร์บูรณะ เพราะไม่อาจทนความเจ็บปวดตั้งร้านที่เดิมได้อีกต่อไป เนื่องจากภาพสามีกระอักเลือดกอดลูกในวันนั้นยังติดตามาจนถึงตอนนี้...
       

       
(คุณแม่ใจแกร่งยังคงสู้ต่อไป)


http://www.youtube.com/watch?v=IASn_N79hp8#t=12
-http://www.youtube.com/watch?v=IASn_N79hp8#t=12-
เรื่องเล่าเช้านี้ แม่น้องการ์ตูนติดใจ สงสัยมีการสลับตัวคนขับกระบะแต่งซิ่งชนสามีดับ (12 พ.ย.57)

       
       ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
       ขอบคุณภาพ: รายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" และ แฟนเพจ "The Dark Knights ll"

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด

ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

พวกนี้มันระยำเกินเยียวยา


------------------------------------------------------------------------------------

สลด! ดาบตำรวจยืนดักจับแก๊งซิ่ง เด็กแว้นจงใจพุ่งชนดับ

-http://news.sanook.com/1729057/-

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com




(11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.50 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.ต.ชูเกียรติ แก้วอาจ พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.อรัญประเทศ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเด็กแว้นรวมตัวกันแข่งรถตามถนนต่างๆ ในตลาดอรัญประเทศ ส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อน จึงสั่งการให้ชุดสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกสกัดจับ ขณะนำกำลังเข้าสกัดจับบนถนนสุวรรณศร สายอรัญ-ตลาดโรงเกลือ บริเวณทางเข้าสวนกาญจนาภิเษก ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 กว่าคน แข่งรถจักรยานยนต์กันมา

ดาบตำรวจวิชัย รักศิลป์ สายตรวจรถยนต์ กำลังเตรียมตัวที่จะออกเวรกลับบ้าน เมื่อได้รับการประสาน ก็ได้ไปดักรอกลุ่มแก๊งซิ่งแล้วใช้ไฟฉายโบก เพื่อให้กลุ่มวัยรุ่นจอด แต่กลุ่มวัยรุ่นกลับเร่งเครื่อง พุ่งเข้าชนนายดาบวิชัยเต็มแรง จนร่างกระเด็นไปกว่า 10 เมตร สลบแน่นิ่ง นายดายชาญชัย จันทร์ประโคน เพื่อนสายตรวจที่ไปด้วยกัน จึงวิ่งเข้าไปอุ้มร่างของนายดาบวิชัย ส่งโรงพยาบาลอรัญประเทศ

โดยหลังแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลอรัญประเทศ ได้ช่วยปั๊มหัวใจแล้วอาการไม่ดีขึ้น จึงรีบนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เนื่องจากอาการหนักมาก และเสียชีวิตในที่สุด

สำหรับวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ หลังจากชนนายดาบวิชัยแล้ว รถจักรยานยนต์ของคนร้ายได้เสียหลักล้มลง ตำรวจที่เหลือจึงได้กรูกันเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ทั้ง 2 คน ผู้ขับขี่ คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี บ้านพักอยู่ในค่ายทหารสุรสิงหนาท อรัญประเทศ ส่วนคนซ้อนท้ายชื่อนายบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ตำรวจได้นำตัวคนร้ายทั้ง 2 ส่งโรงพยาบาลอรัญประเทศเช่นเดียวกัน เนื่องจากรถล้มบาดเจ็บ

ขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด

ดูเอาครับ อยู่ๆก็โผล่มา คลิปที่ตำรวจต้องดู



http://www.youtube.com/watch?v=IsWq2a5NFDk
-http://www.youtube.com/watch?v=IsWq2a5NFDk-



.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
เรื่องนี้ เป็นเรื่องการขับรถที่ประมาทมาก เกือบถึงแก่ชีวิต



--------------------------------------------------------------


รอดได้ไงฟร๊ะ


http://www.youtube.com/watch?v=RzFJjRSEJuo#t=30
-http://www.youtube.com/watch?v=RzFJjRSEJuo#t=30-


.

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
โหดร้ายมาเกินไป



-----------------------------------------------------------------



ขสมก.ตามล่า กระเป๋ารถเมล์ 203 คลิปฉาวผลักเด็กตกรถ

-http://news.sanook.com/1733769/-

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(19 ม.ค.) กลายเป็นประเด็นดังในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เมื่อปรากฏคลิปภาพเด็กชายคนหนึ่ง อยู่ในสภาพตกใจและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ซึ่งเจ้าของคลิปวิดีโอระบุว่า เด็กชายคนดังกล่าวถูกพนักงานบนรถโดยสารประจำทางทำร้ายและผลักตกลงมาจากรถ เนื่องจากไม่มีค่าโดยสาร

เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง YouLike (คลิปเด็ด) ได้แชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "ต้น รัก" คลิปวิดีโอที่กำลังพูดคุยสอบถามเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งได้โพสต์อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "เข้าใจนะว่า ว่าน้องมันไม่มีตัง..หรือมี..หรือว่าน้องมันอาจจะขึ้นแล้วทำแบบนี้กะมึ-ประจำ..ไม่รู้หรอก...แต่มึ-ดูหัวมันด้วย...ไอ้สั-..หัวมันไม่ได้บากตามเทรนชัปปุยส์นะ..มันผ่าสมองมา...แค่น้องมันไม่มีเงินค่าตั๋ว..มึ-ตบแล้วผลักมันลงจากรถเลยหรอ...สั้นๆ นะ..เงินมึ-ตายมึ-เอาไปได้ไหม..."

ซึ่งภายหลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หลายคนต้องการทราบรายละเอียดของรถโดยสารประจำทางคันดังกล่าว เพื่อประสานงานดำเนินการกับพนักงานผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าว จากข้อมูลเท่าที่ทราบ พบเพียงว่าเป็นรถโดยสารสาย 203 คันสีส้ม

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทวิตเตอร์ของวิทยุ จส.100 ได้โพสต์ข้อความประกาศว่า "ขสมก. เรียกพนักงานเก็บค่าโดยสาร รถเมล์ร่วมสาย 203-35 เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง หลังมีคลิปทำร้ายเด็กชายและไล่ลงจากรถ เหตุไม่มีค่าโดยสาร วอนให้ผู้เสียหายติดต่อ ขสมก. ด้วย"


.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)