การแก้ปัญหาทางใจตามหลักพระพุทธศาสนา..สิทธิ์ในการเลือกที่จะอภัยหรือไม่.. เป็นของทุกคน....แล้วอย่าลืมว่า..ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่ได้เลือก..นะ..การไม่ให้อภัยกันนั้น
มีผลร้ายข้ามภพข้ามชาติ บางคนเราไม่รู้จักกันมาก่อน แต่พอเห็นหน้าก็รู้สึกไม่ชอบทันทีเลย จะพูด จะคุย จะทำอะไร ดูจะเกะกะลูกตาของเราไปหมด แม้แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเราก็เช่นกัน
นั่นเป็นเพราะอดีตเราไม่ยอมให้อภัยกัน สิ่งที่มนุษย์เรารักมากที่สุด คือ สามี ภรรยา ลูก แต่ทำไมบางทีเมื่อแต่งงานกันแล้ว สามีสามารถฆ่าภรรยาได้ หรือภรรยาก็สามารถฆ่าสามีทิ้งได้อย่างง่ายดาย นั่นเป็นเพราะอะไร ไม่มีสิ่งใดที่จะอธิบายได้ดีเท่ากับบอกว่า
นั่นคือผลกรรม ที่เกิดจากการไม่ยอมให้อภัยกันในอดีตชาติ และส่งผลมาถึงภพนี้ จึงต้องมาแก้แค้นชำระโทษกัน
การให้อภัย เปรียบเหมือนการอาบน้ำชำระร่างกาย ข้อนี้เปรียบเสมือนเมื่อเราไม่ให้อภัยใคร ใจเรายิ่งดิ่งอยู่กับคนนั้นและตัวเขาก็จะ
ถูกผูกไว้กับความรู้สึกของเรา เหมือนความสกปรกของร่างกายที่ตามเราไปตลอดเวลา เพราะไม่ยอมชำระล้างให้สะอาด
ท่านทั้งหลายอาจลืมคิดไปว่า ลูกหลานที่เกิดมาแล้วผลาญทรัพย์ทำลายชื่อเสียง ทำให้พ่อแม่ต้องเดือดร้อนนอนทุกข์นั้น แท้จริงก็คือศัตรูในชาติที่แล้ว ที่เรามิได้อโหสิกรรมให้เขา เราไม่ได้ยกโทษให้เขา คือเราไม่ได้แก้ปมที่เคยผูกไว้ให้หลุดออกไป กรรมระหว่างเรากับเขาจึงติดตามกันมาเผล็ดผลถึงวันนี้
บางที คนที่เขาโกรธเรา หากเราโกรธตอบ ก็จะเป็นการตอบรับกระแสกัน เหมือนเราโทรศัพท์ถึงกัน ถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดโทรศัพท์รับ ฝ่ายที่โทรถึงก็หมดสิทธิ์จะคุยกับเราเพราะ
กระแสไม่ถึงกัน การตอบรับซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นความดี เป็นความรัก ความอบอุ่นก็ดีไป แต่ถ้าเป็นความเกลียด ความโกรธ สิ่งที่จะตามมาคือการรับรู้และเก็บอารมณ์ทั้งโกรธและเกลียดนั้นไว้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อรู้แล้วก็ควรสละอารมณ์นั้นด้วยตัวเองก่อน เพื่อป้องกันจิตเรามิให้เป็นทุกข์ เพราะคนนั้นเป็นเหตุ เราอาจคิดเสมือนหนึ่งเขาไม่ได้มีอยู่ในโลกนี้เลยก็ได้
การให้อภัยเขาคือคิดถึงเขาในฐานะเพื่อนร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ไม่สมควรจะไปยึดเป็นรักเป็นชัง
ก็เมื่อ
แม้แต่รัก ท่านยัง
สอนให้เราละทิ้งเพื่อมิให้ยึดติด
แล้วทำไมเรายังจะมอง
เห็นโกรธ เป็นสิ่งที่จะต้องยึดมั่นอยู่ได้
การที่เราเห็นสิ่งผิดปกติในชีวิตเราบางครั้ง เช่น มีแต่เรื่องให้เกิดทุกข์ มีแต่คนทำให้ใจขุ่นมัว มีลูกไม่ดี มีหลานไม่สมประสงค์ ทำให้เราต้องเก็บมาคิดเสมอ
ขอให้เราถือว่า นี่คือเศษเสี้ยวแห่งผลกรรมที่ติดอยู่ในความคิดตั้งแต่อดีตชาติ ซึ่งบัดนี้เผล็ดผลงอกงามออกมาอยู่ใกล้ตัวเราที่สุด
วิธีแก้คือ ต้องอภัยให้แก่ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่วินาทีนี้ทันที เพื่อภพชาติต่อไปเราจะได้ไม่ต้องรับรู้ความทุกข์ของใครต่อใครอีก
พึงทราบว่า คนที่ทำให้เราทุกข์ใจที่สุด คือคนที่เรารักที่สุด คือผู้อยู่ใกล้เราที่สุด
ทุกครั้งที่เราเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาด เกิดขึ้นกับชีวิตใคร หรือแม้แต่เกิดกับเราเอง และเราเองไม่สามารถจะวิเคราะห์ได้ด้วยปัญญาธรรมดา ขอให้ลอง
มองผ่านกฎเกณฑ์แห่งกรรมดูบ้าง ก็จะช่วยให้จิตใจของเราโปร่งเบาขึ้นมาได้
การคิดถึงกฎแห่งกรรม หาใช่การคิดแบบทอดธุระ หรือโยนบาปโดยไม่คิดจะแก้ปัญหาไม่ การคิดเรื่องกฎแห่งกรรมเป็นหลักการสำคัญข้อหนึ่ง ใน
การแก้ปัญหาทางใจตามหลักพระพุทธศาสนา หลักกรรมเป็นกฎเกณฑ์ที่ให้ผลได้แยบยลทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ท่านปิยโสภณ
>>> F/B ธาร ทอง ได้แชร์ รูปภาพ ของ Achara Klinsuwan