ผู้เขียน หัวข้อ: โทษของการเป็นชู้  (อ่าน 1139 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ lek

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1724
  • พลังกัลยาณมิตร 687
    • ดูรายละเอียด
โทษของการเป็นชู้
« เมื่อ: มกราคม 13, 2014, 04:28:15 am »




โทษของการเป็นชู้


 ๑) ทุกข์ทางใจ

จิตที่เป็นปกติสุขไม่อาจคิดลงมือคบชู้ 
การจะคบชู้ได้ต้องใช้จิตที่เป็นทุกข์เท่านั้น 
เพราะรู้ ๆ กันทั้งโลก ทุก ชาติทุกภาษา 
ว่าเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องบาดใจ 
แม้แต่การแตะเนื้อต้องตัวคนมีเจ้าของด้วยความกำหนัด 
ก็นับว่าสมควรอดสูใจได้แล้ว 
เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าจะมากหรือน้อย
ก็เป็นการล่วงละเมิดสมบัติต้องห้ามของผู้อื่นอยู่ดี


ฝ่ายหญิงมีรูปเป็นทรัพย์ เมื่อยังเลี้ยงตัวเองไม่ได้
ก็ต้องถือว่าทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ปกครองเลี้ยงดู 
แต่เมื่อเติบใหญ่ขึ้นในสังคมประชาธิปไตยที่ชายหญิงต่างเลี้ยงดูตนเองได้ 
อันนำไปสู่การมีสิทธิเท่าเทียมกัน ชายหญิงต้องถือกรรมสิทธิ์ร่วม 
กล่าวคือ นับแต่การหมั้นหมายประกาศจองตัวกันและกันอย่างเป็นทางการ 
ให้นับว่า ทั้งสองมีกรรมสิทธิ์ในร่างกายของอีกฝ่ายเสมอกัน 
ห้ามฝ่ายใดละเมิดสัญญาด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น
ขณะเดียวกันถ้าคนอื่นมามีเพศสัมพันธ์ทั้งรู้ว่าหมั้นหมายแล้ว ก็นับว่าผิดศีลเช่นกัน


เนื้อหนังคนเราเปรียบเสมือนอาหารอันโอชะที่น่าแหนหวงสำหรับเจ้าของ 
ถ้าต้องลักกินขโมยกินเพียงเพื่อให้หายอยาก ใจเราจะเป็นสุขไปได้อย่างไร 
แม้เหมือนอิ่มหมีพีมัน ใจก็อดคิดไม่ได้ว่า เรากำลังใช้มือที่สกปรกหยิบอาหารใส่ปาก 
ทุกคำย่อมเจืออยู่ด้วยพิษหรือเชื้อโรคอันเป็นโทษ ให้ผลเป็นทุกข์ 
การสังเกตเข้ามาในตนเองจะทำให้เห็นทุกข์เป็นขณะ ๆ อย่างชัดเจน


ทุกข์เริ่มต้นตั้งแต่เมื่ออยากมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของ 
สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นขัดแย้งกับส่วนลึกที่ยังมีมโนธรรม 
และมโนธรรมจะส่งแรงต้านความอยากได้ในสิ่งที่ไม่ควรได้เสมอ


ทุกข์จะทวีตัวขึ้นเมื่อตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของ 
สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเหมือนใจเริ่มก้าวพ้นเขตสว่างเข้าสู่แนวสนธยา 
ถึงแม้รู้สึกว่ามืดลงทุกที แต่ความตื่นเพริดไปกับจินตนาการที่เร้าใจ 
ก็รุนหลังเราให้มุ่งหน้าไปเรื่อย เยี่ยงคนไม่กลัวความมืดในป่ารกชัฏ 
เพียงเพราะได้กลิ่นยวนใจของเหยื่อล่อจากที่นั่น


ทุกข์จะทวีตัวขึ้นอีก เมื่อพยายามมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของ 
สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นการฝืนใจ 
เค้นราคะขึ้นมาเอาชนะความกลัวถูกปฏิเสธ หรือกลัวถูกด่าทอ หรือกลัวถูกจับได้


ทุกข์จะทวีตัวขึ้นถึงขีดสุด เมื่อลงมือมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของสังเกตเข้ามาในตนเอง 
จะเห็นความหน้ามืด ดับสำนึกผิดชอบชั่วดีลง 
ราวกับทั้งชีวิตเหลือแต่การเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณไม่ต่างจากสัตว์โลกทั่วไป


ทุกข์จะไม่จบโดยง่ายแม้เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคนมีเจ้าของสำเร็จ 
สังเกตเข้ามาในตนเอง จะเห็นเป็นความรู้สึก ไม่ดี น่าดูถูก ผิดที่ผิดทาง 
หรือกระทั่งชวนให้ขยะแขยง และที่ สำคัญคือรู้สึกว่าต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ 
จะให้ใครรู้ไม่ได้ โดยเฉพาะผู้เป็นเจ้าของ


ถ้าคนมีเจ้าของไม่ค่อยมีเสน่ห์ทางเพศนัก สำนึกผิดชอบชั่วดีของเรามักจะกลับมาเร็ว 
และ รู้สึกแย่กับพฤติกรรมของตนเต็มที่ แต่ถ้าคนมีเจ้าของเป็นพวกมีเสน่ห์ทางเพศสูง 
สำนึกผิดชอบชั่วดีของเรา มักจะถูกกดไว้ 
ใจจะทะยานต่อตามแรงฉุดจากเสน่ห์ทางเพศของฝ่ายนั้น 
กระทั่งพุ่งลิ่วไปบนเส้นทางเห็นผิดเป็นชอบ สำคัญว่ากงจักรเป็นดอกบัวกว่า 
จะรู้สึกตัวว่าหลงเดินบนเส้นทางอันเน่าเหม็นและระทมทุกข์ 
ก็ตกอยู่ในเงามืดจนยากจะคลำหาเส้นทางใหม่เสียแล้ว


 ๒) การสั่งสมบาป

เมื่อทราบแล้วว่าความมืดเป็นเครื่องหมายของบาป 
เราก็สามารถสำรวจใจตนเองแล้วทราบได้ว่าการผิดประเวณีเป็นบาป 
เพราะไม่มีการผิดประเวณีครั้งใดที่ทำให้จิตของเราสว่างขึ้น มีแต่จะหม่นหมองลง 
กับทั้งไม่มีแก่ใจคิดอะไรในทางดี ในทางที่เจริญเอาเลย


แรงผลักดันให้ผิดประเวณีได้คือราคะ ราคะต้องชนะความยับยั้งชั่งใจทางเพศ 
จึงขับให้เราก่อบาปด้วยการผิดประเวณี 
ความยับยั้งชั่งใจ ทางเพศเป็นสิ่งที่มนุษย์มีกันโดยธรรมชาติ 
แม้แต่เด็ก เพิ่งรู้ความก็ทราบว่าไม่ควรให้คนแปลกหน้ามาจับต้องอวัยวะเพศของตน 
และตนก็ไม่ควรถือวิสาสะไปลูบคลำอวัยวะ เพศของใคร 
การกล้าทำถือเป็นความทะลึ่งผิดธรรมดา


ที่น่ากลัวก็คือบาปสามารถ สั่งสม ตัวได้ นั่นหมายความว่า ยิ่งผิดประเวณีมากขึ้นเท่าไร
ใจก็ยิ่งยับยั้งชั่งใจน้อยลงเท่านั้น มองไปทางไหนใครต่อใครกลายเป็นวัตถุทางเพศ
ที่น่าลิ้มลองไปหมด ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่ามีเจ้าของแล้วก็ไม่สน 
ไม่รู้สึกว่าเป็นกำแพงกีดขวางที่มีสาระสำคัญอันใดเลย


แม้แกล้งเอาไหล่ไปเฉียดแขนคนที่เรา เห็น ๆ อยู่ว่าเดินมากับคู่ครอง 
ไหล่ของเราก็ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องรับเชื้อโรค ทางวิญญาณแล้ว 
เมื่อเพาะเชื้อโรคแล้วลุกลามใหญ่โตจนครอบใจได้ทั้งดวง 
เราจะรู้สึกว่าตัวเราสกปรก แม้อาบน้ำชำระสะสางกายได้สะอาดสะอ้าน 
ก็เหมือนทั้งตัวเต็มไปด้วยยางเหนียวเหนอะหนะที่แกะไม่ออก 
บางคนถึงขั้นที่กลิ่นตัวเหม็นแปลก ๆ ฟอกถูด้วยสบู่หอม กลิ่นเหม็นก็ไม่หายเลยทีเดียว


ความคิดในทางผิดประเวณีจะลดความฉลาดในการหาคู่แท้ให้ตัวเอง 
หรือแม้เจอคู่แท้แล้วก็จะไม่ฉลาดในการรักษาไว้ 
บาปที่พอกพูนขึ้นจะทำให้เราสำคัญไปว่า 
ชีวิตจะมีสีสันต่อเมื่อได้ลิ้มรสเพศสัมพันธ์แปลกใหม่ไม่รู้จบ


ฉะนั้น เพียงไม่ตั้งใจไว้ก่อนว่าจะเว้นขาด จากการผิดประเวณี ก็นับว่ามีโทษแล้ว
เพราะเมื่อถูกเร้าใจให้เกิดราคะอย่างแรงกล้า 
ความยับยั้งชั่งใจทางเพศย่อมลดระดับแทบไม่เหลือ ยังผลให้สติพร่าเลือนลง 
เปิดช่องให้ราคะ เข้าครอบงำจนโง่เขลา หลงนึกว่าบาปแห่งการผิดประเวณี 
เป็นสิ่งสมควรทำยิ่งกว่าบุญแห่งการระงับราคะ ผิด ๆ 
ขอเพียงสบโอกาสเหมาะ แม้แต่ก่อคดีข่มขืนชำเราก็ยังเป็นไปได้


 ๓) ความเป็นอยู่ที่เลวร้าย

ไม่มีความรู้สึกอ่อนแออันใด 
ย่ำแย่ไปกว่าความรู้สึกอ่อนแออันเกิดจากการเป็นชู้ 
เพราะบาปข้ออื่นยังทำลงไปด้วยจิตใจแกร่งกล้ากันได้
เช่น เราอาจฆ่าสัตว์ตัดชีวิตด้วยพละกำลังเหนือกว่าคู่ต่อสู้ 
เราอาจขโมยของด้วยความมุ่งมั่นที่แรงกล้า 
เราอาจโกหกแบบคนดื้อด้านไม่ยอมแพ้ 
เราอาจกินเหล้าเพื่อกระตุ้นความฮึกเหิม 
แต่ถ้ายอมถอดเสื้อผ้าทิ้งความละอายบาปทางกามลงพื้น 
เราจะพบว่าความเปลี้ยเพลียหลังผิดประเวณี 
จะเกิดขึ้นพร้อมกับความหย่อนสำนึกยับยั้งใจ
ไม่ให้ไหลลงสู่ที่ต่ำ มีอาการมึนงง ปวกเปียก และเฉื่อยแฉะไร้แรง 
คล้ายกำลังใจจะทำอะไรดี ๆ หรือกำลังใจจะต่อต้านความคิดที่ชั่วร้าย
เหือดหายไปจากเราเสียเกือบหมด


เมื่อบาปจากการผิดประเวณีถูกสั่งสมมากแล้ว 
ผู้ผิดประเวณีย่อมเลื่อนฐานะเป็นหญิงร้ายหรือชายโฉด ดูเผิน ๆ เหมือน กร้านโลก 
ไม่หยี่หระกับความประพฤติผิดใด ๆ แต่ที่แท้บาปหนาจนความรู้สึกด้านชากว่าใคร ๆ ต่างหาก 
ความด้านชาของหญิงร้ายและชายโฉดเกิดจากการหมักหมมคราบสกปรก
ทั้งทางกายและ วิญญาณ จึงย่อมก่อให้ เกิดกระแสในตัวที่น่ารังเกียจ ชวนให้รู้สึกคลื่นเหียน
กับความสกปรกเน่าเหม็น เฉกเช่นหมูในเล้าที่จำ ต้องกินอยู่อย่างสกปรกเกือบตลอดเวลา


การผิดประเวณีแต่ละครั้งคือการไม่ให้เกียรติผู้อื่น ซึ่งก็มีผลสะท้อนให้นับถือตนเองน้อยลง 
พูดง่าย ๆ ว่าได้สมบัติทางเพศของ คนอื่นมา เพื่อเสียความนับถือตัวเองไป


จิตของหญิงร้ายและชายโฉดเปรียบเหมือนคนที่จุ่มศีรษะลงไปในเมือกลื่นจนชุ่มโชก 
ย่อมไม่ได้รู้สึกถึงความแห้งสบาย แม้จมูกได้กลิ่นหอมของสวนดอกไม้ 
แต่ใจลึก ๆ ก็เหมือนได้กลิ่นเหม็นของกามผิด ๆ อยู่เกือบตลอดเวลา


จิตที่ชุ่มด้วยเมือกสกปรกย่อมเหมาะกับภพใหม่ที่สกปรก ต่ำชั้น เต็มไปด้วยความน่ารังเกียจ 
น่าอึดอัดระอา และอาจถึงขั้นเน่าเฟะ ถ้ายังมีวาสนาพอจะเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ 
ก็ย่อมเป็นที่ชิงชังของผู้พบเห็น เหมือนใครเห็นก็พากันอยากเขี่ยทิ้งด้วยเท้า 
สภาพเช่นนั้นย่อม ยากที่จะผูกมิตร แต่ง่ายที่จะผูกเวร 
ดึงดูดคนและสัตว์ให้อยากเข้ามาด่า เข้ามา ว่า เข้ามาทำร้ายเป็นขบวน


ความผิดทางเพศย่อมนำไปสู่ความผิดปกติทางเพศ 
ถ้ามีวาสนาได้เป็นมนุษย์ก็อาจรังเกียจเพศของตน 
และอยากเป็นอีกเพศหนึ่งแทน 
หรือโตขึ้นอาจถูกดึงดูดเข้าสู่วิถีทางของการเบี่ยงเบนทางเพศได้ 
เป็นที่ทรมานใจของตนเองเนิ่นนาน


หากตายเยี่ยงชู้ผู้ยังไม่อิ่มไม่พอกับการผิดประเวณี 
แต่ยังพอมีบุญพยุงไม่ให้ร่วงหล่นถึงนรก 
ก็อาจไปเสวยภพของพวกรักความสกปรก
ระดับเดรัจฉานภูมิ เช่น หนอนในส้วม เป็นต้น


แต่หากตายเยี่ยงหญิงร้ายและชายโฉด
ผู้ล่อลวงใครต่อใครเข้ามาร่วมบาปแห่งการผิดประเวณี 
ไม่เห็นแก่หัวอกหัวใจเจ้าของบ้างเลย 
ก็จัดว่ามีความเหมาะกับสภาพความเป็นอยู่
อันเสียดแทงเจ็บแสบ ดังเช่นนรกภูมิสถานเดียว!


คัดลอกบางส่วนจาก...ผิดที่ไม่รู้ ดังตฤณ
dungtrin.com