ผู้เขียน หัวข้อ: 8 ตำรับใช้ข้าวเป็นยารักษาโรค  (อ่าน 1188 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด



[ 8 ตำรับใช้ข้าวเป็นยารักษาโรค ]

ประโยชน์ของข้าว อาหารหลักของชาวไทยมีมากมาย ซึ่งข้าวไม่ได้มีแค่คาร์โบไฮเดรต แต่ยังมีสารอื่นที่เป็นประโยชน์ อาทิ โปรตีน วิตามิน เส้นใยอาหาร และเกลือแร่ต่าง ๆ รวมแล้วมากกว่า 20 ชนิดโดย คุณประเสริฐ ภูมิสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องข้าวเป็นยารักษาโรค ชมรมการแพทย์พื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี ได้แนะนำองค์ความรู้ใหม่ที่ได้จากการนำข้าวมาเป็นยารักษาโรค ป่วยเมื่อไหร่ หยิบ 8 ตำรับยาง่าย ๆ จากข้าวนี้ลองใช้เพื่อการบำบัดอาการกันดู

1. น้ำซาวข้าว รักษาโรคพิษงูสวัด
ส่วนผสม น้ำซาวข้าว 1 ถ้วย ใบเสลดพังพอน 10 ใบ
วิธีทำ ล้างใบเสลดพังพอนให้สะอาด นำมาตำให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับน้ำซาวข้าวที่เตรียมไว้ เมื่อผสมยาจนเข้ากันแล้วจะมีลักษณะเป็นน้ำข้นเหนียวสีเขียว ทิ้งไว้ให้แห้งก็นำไปทาได้เรื่อย ๆ
สรรพคุณ ดูดพิษงูสวัด ถอนพิษจากสัตว์มีพิษ เช่น งู แมงมุม แมงป่อง ตะขาบ หรือแมงกัดต่อย นอกจากนี้ยังช่วยดูดพิษจากแผลอักเสบและพิษจากเห็ดได้อีกด้วย

2. ข้าวจี่ รักษาฝีหนอง
ส่วนผสม ข้าวสุด 1 ปั้น น้ำซาวข้าว 1 ถ้วย ใบลำโพง 10 ใบ
วิธีทำ ล้างใบลำโพงให้สะอาด นำมาตำให้ละเอียด จากนั้นนำข้าวสุกไปจี่ไฟให้ดำ นำมาตำพร้อมกับใส่ใบลำโพงที่เตรียมไว้ ผสมกับน้ำซาวข้าว เมื่อผสมยาจนเข้ากันแล้ว ทิ้งไว้ให้แห้งก็นำไปใช้ได้เลย
สรรพคุณ ใช้พอกบริเวณที่เป็นฝี ช่วยดูดพิษฝีหนอง นอกจากนี้ยังช่วยดูดพิษจากอีสุกอีใสได้อีกด้วย

3. น้ำซาวข้าวผสมขิงรักษาผด ผื่นแดง และอาการคัน
ส่วนผสม ขิงแก่สด 2 ถ้วย น้ำซาวข้าว 1 ถ้วย
วิธีทำ ล้างขิงให้สะอาด นำมาตำให้ละเอียดโดยไม่ต้องขูดเปลือกทิ้ง จากนั้นนำไปผสมกับน้ำซาวข้าวที่เตรียมไว้ เมื่อผสมยาจนเข้ากันแล้ว แล้วจะมีลักษณะเป็นน้ำข้นสีเหลือง ทิ้งไว้สักครู่ก็นำไปทาได้เรื่อย ๆ
สรรพคุณ ใช้ทาบริเวณที่เป็นผด ผื่นแดง ช่วยบรรเทาอาการคันได้ดี

4. น้ำข้าวตังก้นหม้อ แก้ปัญหาอาหารไม่ย่อย
ส่วนผสม ข้าวตังก้นหม้อ 1 ถ้วย น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ หุงข้าวแบบเช็ดน้ำ นำข้าวตรงก้นหม้อที่สุกจนเกือบไหม้ติดก้นหม้อไปต้มให้เดือดแล้วลดไฟลง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 3 นาที เติมน้ำมะนาวลงไป ได้เป็นน้ำข้าวตังเทน้ำข้าวตังที่ได้ใส่หม้อหรือเหยือกน้ำ รินดื่มได้ตลอดวัน
สรรพคุณ ใช้ดื่มแก้หิวกระหาย บำรุงกำลังและช่วยกระตุ้นน้ำย่อย แก้ปัญหาอาหารไม่ย่อยได้ดี

5. น้ำนมข้าว ช่วยฟื้นไข้ แก้อาการอ่อนเพลีย
ส่วนผสม รวงข้าวอ่อน 1 กำมือ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ล้างรวงข้าวอ่อนให้สะอาด นำมาทุบให้บุบแล้วตัดเป็นท่อนสั้น ๆ ประมาณ 1 นิ้ว ต้มรวงข้าวกับน้ำให้เดือดแล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 10 นาที ค่อย ๆ เติมน้ำผึ้งลงไป ต้มต่ออีกสักครู่ แล้วเทน้ำนมข้าวใส่เหยือกน้ำ รินดื่มได้ตลอดวัน
สรรพคุณ ดื่มแก้อ่อนเพลีย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งฟื้นไข้ ดื่มแล้วจะหายเร็ว หรือนำน้ำนมข้าวผสมกับนมวัว เป็นยาบำรุงกำลังได้เช่นกัน

6. น้ำรากข้าวเหนียว แก้ไอ ละลายเสมหะ
ส่วนผสม รากข้าวเหนียวแห้ง 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ล้างรากข้าวเหนียวให้สะอาด นำไปตากแดดให้แห้งตัดเป็นท่อนสั้น ๆ ประมาณ 1 นิ้ว ต้มรากข้าวเหนียวแห้งกับน้ำให้เดือด แล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 5 นาที ค่อย ๆ เติมน้ำผึ้งลงไป ต้มต่ออีกสักครู่ จะได้น้ำรากข้าวเหนียวที่มีรสชุ่มคอ จากนั้นเทน้ำรากข้าวเหนียวใส่เหยือกน้ำ รินดื่มเวลาที่มีเสมหะ
สรรพคุณ ดื่มแก้ไอ ละลายเสมหะ บรรเทาอาการเจ็บคอและช่วยกระตุ้นน้ำลาย นอกจากนี้ยังช่วยแก้เหงื่อออกมากได้อีกด้วย

7. น้ำข้าวกล้องกับใบฝรั่งรวมพลังแก้ท้องเสีย ท้องร่วง
ส่วนผสม ข้าวกล้อง 1 ถ้วย ใบฝรั่ง 7 ใบ เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำ 1 ลิตร
วิธีทำ ล้างรากข้าวเหนียวให้สะอาด นำมาต้มรวมกับข้าวกล้องพอน้ำเดือดให้ลดไฟลง เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำเหลือประมาณครึ่งหนึ่ง เติมเกลือลงไป กรองเอากากออก เก็บไว้แบ่งดื่ม เช้า กลางวัน เย็น จนกว่าจะหายท้องเสีย
สรรพคุณ ดื่มแก้ท้องเสีย ท้องร่วง นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ได้อีกด้วย

8. ข้าวดอกมะขาม ขับเลือดลม แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ส่วนผสม ข้าวดอกมะขาม 1 ถ้วย น้ำ 1 ลิตร
วิธีทำ นำข้าวดอกมะขามมาทั้งรวง (มีสีเหลืองนวลคล้ายดอกมะขามและมีลายในเมล็ดข้าว) ทุบให้บุบแล้วตัดเป็นท่อนสั้น ๆ ประมาณ 1 นิ้ว ต้มข้าวดอกมะขามกับน้ำให้เดือดเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 20 นาที กรองเอากากออกจากนั้นเทน้ำข้าวดอกมะขามใส่แก้ว ดื่มให้หมดในครั้งเดียว
สรรพคุณ ช่วยบำรุงเลือด ขับเลือดลมในผู้หญิงและแก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ
หมายเหตุ : 1 ถ้วย = 240 ซีซี, 1 ช้อนโต๊ะ = 15 ซีซี

อาหารคือยารักษาโรคที่ดีที่สุดของคนเรา คำกล่าวของ ฮิปโปเครติล (Hippocrates) บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่มีคนจำนวนมากให้สมญานามว่าเป็นบิดแห่งการแพทย์ มีแนวคิดทางการแพทย์ที่คนในยุคปัจจุบันมักเรียกว่า "ธรรมชาติบำบัด" อยากให้คุณลองเริ่มต้มกินอาหารให้เป็นยา จะได้มีสุขภาพดี ๆ ไว้เป็นเพื่อนคู่กายตลอดไป

คุณรู้หรือไม่! "ข้าวกล้องงอก" สุดยอดข้าวเพื่อสุขภาพ
ข้าวกล้องงอก ถือเป็นนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นข่าวกล้องที่ต้องผ่านกระบวนการงอกตามปกติ โดยการนำเมล็ดข้าวกล้องไปแช่น้ำทิ้งไว้จนเกิดการงอก เมื่อน้ำได้แทรกเข้าไปในเมล็ดข้าว จะกระตุ้นให้เอนไซม์ภายในเมล็ดข้าวทำงาน เมื่อเมล็ดข้าวเริ่มงอก สารอาหารที่ถูกเก็บไว้ในเมล็ดข้าวก็จะถูกย่อยสลายไปตามกระบวนการทางชีวเคมี จนเกิดเป็นสารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลเล็กลงและน้ำตาลรีดิวซ์ นอกจากนี้โปรตีนภายในเมล็ดข้าวก็จะถูกย่อยให้เกิดเป็นกรดอะมิโนและสารเปปไทด์

จากงานวิจัยยังพบว่าส่วนที่งอกออกมา เรียกว่า "คัพภะ" จะมีสาร GABA ซึ่งสารชนิดนี้คือ กรดอะมิโนบิวไทริก (Aminobutyricacid) ซึ่งข้ากล้องงอกจะได้ GABA มากกว่าข้าวกล้องตามปกติถึง 15 เท่า GABA ถือเป็นสารสื่อประสาทที่ปกติร่างกายมนุษย์ เราก็มีการสร้างขึ้นมาอยู่แล้ว แต่บางครั้งอาจจะไม่พอ ฉะนั้นถ้าเราทานข้าวที่มีสาร GABA อยู่ก็จะช่วยเสริมให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสมดุล ชะลอความเสื่อมของสมอง กระตุ้นต่อมที่ทำหน้าที่ผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกระซับและป้องกันริ้วรอยได้

เกร็ดความรู้
การทานเฉพาะถั่วต่าง ๆ หรือลูกเดือยเป็นอาหารหลักอย่างเดียว ไม่ทานข้าวเลย ถือเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะคนที่ต้องใช้แรงใช้สมองมากต้องทานข้าว ไม่เช่นนั้นร่างกายก็จะมีปัญหา อาหารไทยมีการเพิ่มเนื้อหรือผักจะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารไม่ทำงานหนัก ทำให้สุขภาพดีร่างกายปรับตัวได้ดี หากทุก ๆ เช้าเราไม่ทานข้าว ต่อไปร่างกายก็จะปรับตัวทำให้ไม่หิว ทว่าวันหนึ่งเรากลับมาทาน ร่างกายอาจจะไม่กลับมาทำงานตามปกติ จะเป็นผลเสียต่อร่างกายอย่างมหันต์

ที่มา ... สุขภาพดี
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
>>> F/B Kajitsai Sakuljittajarern ได้แชร์รูปภาพของ PJ Panjai