ฉาว! นิตยสารปลุกใจเสือป่า ย่ำยีจาบจ้วง พระพุทธศาสนา

[sithiphong]

ฉาว! นิตยสารปลุกใจเสือป่า ย่ำยีจาบจ้วง พระพุทธศาสนา



-http://www.dailynews.co.th/Content/regional/226102/%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7!+%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2+%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%87+%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2-

ยำยีพระพุทธศาสนาอีกแล้ว นิตยสารปลุกใจเสือป่าชื่อดังตีพิมพ์ภาพนางแบบเปลือยกาย เล้าโลมพระพุทธรูป สร้างความไม่พอใจแก่พุทธศาสนิกชนทั่วโลก
วันพฤหัสบดี 27 มีนาคม 2557 เวลา 18:00 น.

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. องค์กรโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 57 ทางอค์กรได้รับแจ้งจาก ได้รับแจ้งจากพุทธศาสนิกชน ว่า พบการกระทำที่จาบจ้วงต่อพุทธศาสนา อีกครั้ง เมื่อนิตยสารปลุกใจเสือป่าชื่อดัง  ได้ลงภาพนางแบบสาวสวย ในอิริยาบถ เปลือยกายถ่ายภาพคู่กับพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ในท่าทางที่สื่อความอนาจาร โดยได้ส่งภาพลิ้งค์จากเฟซบุ๊ค ในข้อความว่า“Asean Penthouse Model Coco Velvet tempts Buddha with her hot and wet naked oriental body before she wades into her tranquil water of the exotic tropical waterfalls pool!”  ซึ่งจะเป็นภาพ “นางแบบนิตยสารคนดังกล่าวโพสต์ท่ถ่ายรูป ในลักษณะยั่วยวน โดยพระพุทธรูปขนาดใหญ่เป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก ซึ่งการกระทำดังกล่าว ได้แสดงการลบหลู่ ต่อพระพุทธเจ้าโดยเจตนา ทั้งรูปภาพและคำพูดที่โจ่งแจ้ง โดยคำนึงถึงจิตใจของพุทธศาสนิกชนที่มีกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก การกระทำดังกล่าว แสดงถึงความตกต่ำในศีลธรรมของมนุษย์ เพราะพระพุทธรูป ถือเป็นสิ่งที่ใช้เป็นเครื่องรำลึกถึงพระคุณของพระองค์

ทางองค์กรฯ จึงทำจดหมายประท้วงไปยังนิตยสารดังกล่าว ทั้งในและนอกประเทศ  และได้ส่งสำเนาไปยังกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงไอซีที และ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยดำเนินการหยุดยั้ง และต้องการให้เพนท์เฮ้าส์ แสดงความรับผิดชอบ ขอโทษชาวพุทธ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด ปัจจุบันเป็นที่ น่าเศร้าว่า การลบหลู่พระพุทธรูปและสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา ได้ลุกลามไปทั่วโลกราวกับโรคระบาด แม้จะมีหน่วยงานร้องเรียน ประท้วง และให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวในหลักการประพฤติต่อพระพุทธรูป แต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเมื่อมีการทำเรื่องประท้วง ก็จะถูกตีกลับมาที่ประเทศไทย เพราะต้นแบบแห่งความเสื่อมเสีย ไม่ใช่ใครอื่น แต่มาจากพ่อค้าในประเทศ ที่ผู้ผลิตและจำหน่ายพระพุทธรูป เป็นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเสียเอง  ตราบใดที่หน่วยงานรัฐ ไม่แสดงความกระตือรือล้นในการแก้ไขหรือออกกฏหมาย พร้อมให้มีบทลงโทษต่อผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและ ผู้ละเมิดในการนำพระพุทธรูป ไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ การละเมิดเช่นนี้ก็จะต้องมีต่อเนื่อง จนยากจะหยุดยั้ง เพราะประเทศที่ประกาศตนเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา ได้เป็นต้นแบบที่ทำผิดเสียเอง  เป็นคำกล่าวของ ประธานองค์กรโนอิ้ง บุดด้า อัจฉราวดี วงศ์สกล อย่างไรก็ดี องค์กรฯ ได้พยายามทำงานการหยุดยั้งอย่างไม่ลดละ โดยพยายามแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือสร้างความเข้มแข็งให้พระพุทธศาสนา โดยการให้ความรู้หลักประพฤติ ปกป้อง และยับยั้งการลบหลู่ใดๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก.