ผู้เขียน หัวข้อ: ภาพจีนโบราณ#10 : พระเซนสำรวมใจ…อำนาจแห่งธรรมคือที่สุด  (อ่าน 1273 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด
ในสมัยห้าราชวงศ์(ค.ศ.907-960) เป็นยุคที่แผ่นดินจีนระส่ำระสายอย่างหนัก เกิดความแตกแยกรุนแรง ผู้มีอำนาจต่างตั้งตนเป็นใหญ่สร้างกลุ่มของตัวเองขึ้นมา ศิลปกรรมยุคนี้จึงไม่มีความโดดเด่นเท่าที่ควร ทว่าเมื่อถึงราชวงศ์ซ่ง ศิลปกรรมจีนกลับฟื้นคืนและรุ่งเรืองถึงขีดสุด โดยเฉพาะด้านจิตรกรรมนั้นถือได้ว่าเด่นล้ำกว่าสมัยถังอีกขั้นหนึ่ง ทั้งยังโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ของจีน โดยจิตรกรรมในยุคนี้มีการพัฒนารูปแบบงานศิลปกรรมขึ้นมาอย่างเมีเอกลักษณ์


ภาพ “เอ้อจู่เถียวซิน(二祖调心)” หรือ “พระเซนสำรวมใจ” วาดโดย “สือเค่อ(石恪)” สมัยปลายยุคห้าราชวงศ์ต่อราชวงศ์ซ่ง ขนาด 35.5×129 ซ.ม. ปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ภาพนี้วาดโดยจิตรกรนาม สือเค่อ(石恪) ชาวเมืองเฉิงตู ผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงรอยต่อของยุคห้าราชวงศ์กับราชวงศ์ซ่ง ถนัดในการวาดภาพนักบวช ภาพบุคคล

เอ้อจู่เถียวซิน ถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของจิตรกร สือเค่อ ได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายมหายาน ที่ในภาษาจีนเรียกว่า “ฉาน(禅)” หรือ “เซน” ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง โดยจิตรกรรมประเภทนี้จะมีความเป็นธรรมชาตินิยม คือเคารพในคุณสมบัติเดิมแท้ของสรรพสิ่ง อีกทั้งยังเน้นความสมถะ สันโดษ เรียบง่าย มักใช้วิธีการสร้างงานแบบเฉียบพลัน ฝีแปรงเร็ว รุนแรงและคมคาย

โดยในภาพจิตรกรใช้หมึกจางในการวาดศีรษะมือเท้า ขณะที่ใช้ฝีแปรงหนาหนัก ตวัดวาดเครื่องนุ่งห่มคลุมร่างกายอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดแสงเงาในเส้นหมึกทึบ นอกจากนี้จิตรกรยังวาดภาพเสือตัวใหญ่ที่กลายเป็นดั่งหมอนให้ภิกษุหนุนนอน ซึ่งเป็นการหยิบยกสัญลักษณ์มาใช้อย่างชาญฉลาดเพื่อสะท้อนว่าอำนาจของธรรมมะในตัวของบรรพชิตยังสูงส่งกว่าอำนาจที่น่าเกรงขามของพยัคฆ์ ซึ่ง สือเค่อ สร้างสรรค์รูปแบบการใช้ฝีแปรงได้อย่างมีเอกลักษณ์โดยจะเห็นว่าในส่วนที่หมึกเข้มยังคงมีช่องว่างของสายตา ขณะที่ในหมึกสีอ่อนจางก็ยังคงมองเห็นรายละเอียดเช่นกัน จนกลายเป็นความขัดแย้งที่กลมกลืนสะท้อนออกมาจากภาพ

ภิกษุ 2 รูปในภาพนี้คือ ฮุ่ยเข่อ(慧可) สังฆปรินายกองค์ที่2 แห่งแผ่นดินจีนผู้สืบทอดของปรมาจารย์ตั๊กม้อหรือพระโพธิธรรม ส่วนอีกรูปหนึ่งคือ เฟิงกัน(丰干) อาจารย์เซนผู้โด่งดัง

ทั้งนี้ เซน เป็นสาขาหนึ่งของพุทธศาสนา นิกายมหายาน ซึ่งยึดถือหลักปฏิบัติธรรมตามหลักของพระพุทธเจ้า ตามหลักของอริยสัจ 4 และ มรรค 8 มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย พัฒนาที่ประเทศจีน ก่อนที่จะถูกเผยแพร่มาสู่เกาหลีและเติบโตสูงสุดที่ประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื๊อและลัทธิเต๋าของจีนในช่วงระหว่างที่เผยแผ่มาสู่ญี่ปุ่น


ภาพปรมาจารย์ตั๊กม้อ ต๋าหมัวเมี่ยนปี้(达摩面壁) วาดโดย ซ่งซี่ว์(宋旭) จิตรกรสมัยราชวงศ์หมิง ขนาดภาพ 121.3 x 32.3 ซ.ม. โดยที่นำมาเป็นม้วนภาพส่วนท้าย ปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์หลี่ว์ซุ่น(Lushun Museum) เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน


ภาพปรมาจารย์ตั๊กม้อ ต๋าหมัวเมี่ยนปี้(达摩面壁) วาดโดย ซ่งซี่ว์(宋旭) จิตรกรสมัยราชวงศ์หมิง ขนาดภาพ 121.3 x 32.3 ซ.ม. โดยที่นำมาเป็นม้วนภาพส่วนท้าย ปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์หลี่ว์ซุ่น(Lushun Museum) เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน

จาก http://mblog.manager.co.th/porduangporn/2014/08/22/zeshike/
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...