พระธรรมโฆษาจารย์กุมารชีพ 鳩摩羅什
鸠 摩 罗 什 大 师 画 传
แปลและเรียบเรียงโดยวรรณพร เรืองรองปัญญา
一千五百年前,在中国北方的割据政权中,先后有两个国君为了一位西域高僧而发动战争。最后,这位高僧被秦国君姚兴恭迎至长安。他,就是享誉西域和中土的佛教学者、著名的佛经翻译家鸠摩罗什(梵文kumarajiva,公元344--413)
กว่า หนึ่งพันห้าร้อยปีล่วงมาแล้ว ณ เขตแบ่งแยกอำนาจการปกครองทางเหนือของประเทศจีน มีกษัตริย์ 2 พระองค์ได้ทำศึกสงครามกันเพื่อช่วงชิงพระสงฆ์รูปหนึ่ง(จากประจิมประเทศ) ซึ่งมีสติปัญญาเฉียบแหลม ในที่สุดพระสงฆ์รูปนี้ได้ถูกนิมนต์ไปนครฉางอานโดยกษัตริย์เอี๋ยวซิงแห่ง ราชวงศ์ฉิน พระสงฆ์รูปนี้คือ กุมารชีพ ผู้เชี่ยวชาญพุทธศาสนาและนักแปลคัมภีร์มีชื่อ ซึ่งได้รับการยกย่องทั้งจากประจิมประเทศและประเทศจีน พระสงฆ์รูปนั้นคือ กุมารชีวะ ปี พ.ศ.334-413
鸠摩罗什的父亲鸠摩罗炎是相门之子,他家世代为相,系天竺过婆罗门族人。然而。出身于相门的鸠摩罗炎却对政治不感兴趣,立志出家修行,为此。罗炎的父亲 决定提早把相位传给自己的儿子。罗炎知道这一决定后,在一个寂静的夜晚离家出走,到寺里受了具足戒,成为一名庄严的比丘。
กุมารชีพ เป็นบุตรชายของกุมารายนะ ตระกูลของกุมารายนะเป็นอัครมหาเสนาบดีมาหลายชั่วคน ท่านกำเนิดในวรรณะพราหมณ์อันสูงศักดิ์แห่งชมพูทวีป แต่กลับไม่สนใจทางด้านการเมือง ตั้งใจปฏิญาณจะออกบวชบำเพ็ญธรรม ด้วยเหตุนี้บิดาของกุมารายนะจึงรีบตัดสินใจจะยกตำแหน่งอัครเมสาบดีให้แก่ บุตรชายเมื่อกุมารายนะทราบเรื่องการตัดสินใจของบิดา ดังนั้นในคืนอันสงบเงียบกุมารายนะ จึงได้หนีจากบ้านไปที่วัดแห่งหนึ่งเพื่ออุปสมบท เป็นพระภิกษุที่เคร่งในธรรมวินัย
罗炎出家后,唯恐父亲仍要逼他继承相位,便千里迢迢,远走佛教盛行的龟兹。一路上,他翻山越岭,跨过湍急的河流,穿越塔克拉玛干沙漠,走过野兽出没的森林。白天摘野果充饥,夜里在山洞过夜。他忘却了困难,感到像逃出笼子的鸟儿那样舒畅愉快。
ถึงแม้กุมารายนะได้ออกบวชแล้ว ก้ยังวิตกว่าบิดาจะบังคับให้กลับไปสืบทอดตำแหน่งจึงได้ตัดสินใจออกจาริกไป ยังแคว้นกุฉา ซึ่งเป็นเมืองที่นับถือพุทธศาสนาอย่างแพร่หลายระหว่างทางท่านได้ฝ่าฟัน อุปสรรคนานัปการ ปีนภูเขาอันสุงชัน ข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ฝ่านทะเลทรายตากลามากัน และป่าดงพงไพรที่มีสัตว์ร้ายชุกชุม กลางวันประทังความหิวด้วยผลไม้ป่า ค่ำคืนนอนพักรมตามถ้ำ แต่ท่านก็ไม่รู้สึกถึงความยากลำบากทั้งมวลที่ได้รับ กลับรู้สึกเหมือนนกน้อยที่หลุดพ้นจากรง มีทั้งความสุขและอิสระ
龟兹国位于中国西北,既现在的新疆塔里木盆地的北侧的库车县一带。年轻的龟兹国王白纯听说罗炎舍弃荣华富贵出家,十分仰慕,亲自出城,把形容憔悴而气质高贵优雅的罗炎迎进王宫。
แคว้น กุฉา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ปัจจุบันคืออำเภอคู่เชอ ซึ่งอยู่ด้านเหนือของถ้ำหลี่มู่เผิน แห่งมณฑลซินเจียง กษัตริย์ของแคว้นกุฉาซึ่งมีพระชนม์มายุเยาว์วัยพระนามว่า ไป่ฉุน ทรงทราบข่าวเกี่ยวกับการสละยศถาบรรดาศักดิ์เพื่อออกบวชของกุมารายนะ ทรงมีศรัทธาปสาทะในตัวกุมารายนะมาก จึงได้เสด็จออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง และนิมนต์กุมารายนะซึ่งมีสีหน้าอิดโรยจากการเดินทาง แต่ก็ยังคงบุคลิกที่สง่างาม ให้เข้าไปในวังด้วยกัน
罗炎在王宫受到了热情的款待,到了第三天,国王便宣布请罗炎担任国师的决定。罗炎无法推托,只得留在宫中。再说国王的妹妹公主耆婆已年届二十,生得聪明美丽,才智出众,慕名求婚者很多,却没有一位能让她看中的。她每天除了在花园里散步,便是在闺房安安静静的看书读经。
กุมารายนะได้รับการรับรองอย่างอบอุ่นจากกษัตริย์ไป่ฉุน หลังจากนั้น 3 วัน กษัตริย์ไป่ฉุนทรงตัดสินพระทัยประกาศแต่งตั้งให้กุมารายนะรับตำแหน่งเป็นพระ ราชครู กุมารายนะไม่สามารถอ้างเหตุผลปฏิเสธได้จึงต้องพำนักอยู่ในวัง กล่าวถึงพระขนิษฐาของกษัตริย์ไป่ฉุน พระนามว่าองค์หญิงฉีผอ ทรงมีพระชนมายุ 20 พรรษา พระสิริโฉมงดงามสติปัญญาหลักแหลมเหนือผู้ใด มีผู้ใฝ่ผันจะสู่ขอมากมาย แต่ไม่มีใครสักคนที่องค์หญิงฉีผอถูกตาต้องใจเลย ทุกๆวันองค์หญิงฉีผอ นอกจากเดินเล่นอยู่ในอุทยานแล้วก็ใช้เวลาอยู่ในห้องส่วนพระองค์อ่านหนังสือ ศึกษาธรรมะ
从天竺国来了贵宾的事,耆婆也有所闻,这天,她从闺房出来,在宫中碰见王兄正陪着一位陌生的男子走来。她刚想回避,被国王叫住了。国王为公主和罗炎做了介绍,罗炎恭敬的合掌致礼,公主看到这位温文尔雅的比丘,禁不住怦然心动,害羞地跑开去。องค์ หญิงฉีผอ พอจะทราบเรื่องราวเกี่ยวกับแขกผู้ทรงเกียรติที่มาเยือนจากชมพูทวีป วันหนึ่งขณะที่เสด็จออกจากห้องประทับ ก็เผชิญกับพระเชษฐาซึ่งเสด็จเคียงข้างมากับชายแปลหน้าผู้หนึ่ง ขณะที่คิดจะเดินเลี่ยง พระเชษฐาก็สั่งให้หยุดและแนะนำให้รู้จักกับกุมารายนะ กุมารายนะพนมมือแสดงความเคารพ เมื่อองค์หญิงได้ทอดพระเนตรเห็นพระภิกษุผู้มีบุคลิกงามสง่าสำรวม พระหทัยก็รู้สึกหวั่นไหวทันทีและรีบเดินจากไปอย่างเอียงอาย
国王把这一切都看在眼里。他正想让罗炎长久留在龟兹国,便准备亲自撮合这门亲事。过了几天,他让人把罗炎和公主都请来一手拉着一个,兴致勃勃的说:“你们真是天造地设的一对呀!”罗炎一时不知所措。尽管他深知国王的旨意是不能违抗的,但还是试图推托。
กษัตริย์ ไปฉุนทรงทอดพระเนตรเห็นและเข้าพระทัยทุกอย่าง พระองค์เองก็มีพระประสงค์จะให้กุมารายนะพำนักอยู่แคว้นกุฉาตลอดไป ดังนั้นจึงทรงวางแผนเตรียมการสู่ขอและจัดพิธีสยุมพรให้ด้วยพระองค์เอง หลายวันต่อมากษัตริย์ไป่ฉุนจึงรับสั่งให้พระขนิษฐาและกุมารายนะเข้าเฝ้า เมื่อทั้งสองมาถึงพระองค์ทรงกุมมือคนทั้งสองไว รับสั่งด้วยความพอพระทัยว่า “ท่านทั้งสองเสมือนคู่ที่ฟ้าดินสรรค์สร้างมาจริงๆ” ทันใดนั้น กุมารายนะรู้ตัวดีแต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร แม้จะเข้าใจดีว่าพระบัญชานั้นไม่อาจขัดขืนได้ แต่ก็ลองพยายามบ่ายเบี่ยง
罗炎向国王陈述自己的意见,可是不等他说完,国王的不高兴地说:“出家后难道不可以还俗吗?娶了妻子就不能再读经吗?”在国王的坚持下,罗炎只好答应这门婚事。他先依照佛教律仪,在当地高僧的见证下,舍戒还俗,脱下僧衣,穿上华丽的贵族服装。
กุ มารายนะพยายามอธิบายความคิดเห็นของตน แต่กษัตริย์ไป่ฉุนไม่รอให้กุมารายนะพูดจบ พระองค์ทรงกริ้วและรับสั่งว่า “ออกบวชแล้วก็ลาสิกขาบทได้มิใช่หรือ แต่งงานแล้วไม่สามารถศึกษาธรรมต่อไปได้หรือไร” ภายใต้การยืนกรานของกษัตริย์ไป่ฉุน กุมารายนะจำต้องตอบรับเรื่องพิธีสยุมพรและปฏิบัติตามพุทธพิธี ภายใต้การรู้เห็นเป็นพยานของพระเถระผู้ใหญ่ ละการถือศีลนุ่งจีวรและเปลี่ยนมาสวมใส่อาภรณ์อันสวยงามของผู้สูงศักดิ์
婚礼隆重的举行。国王和王后亲自把盏,祝福新人福慧双修,恩爱长久。大臣们举杯祝贺,脸上充满了笑容。公主美丽的容貌,含情的双眸,聪慧的谈吐和贤静的举止,使罗炎在现实面前不得不改变初衷。
พิธีสยุมพรจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ กษัตริย์และพระราชินีทรงเลี้ยงรับรองแขกและข้าราชบริพารด้วยพระองค์เอง ทรงอวยพรให้คู่ข่าวสาวมีความสุขรักกันชั่วนิรันดรืให้ทะนุถนอมและศึกษา บำเพ็ญธรรมพร้อมๆกันไป ข้าราชบริพารก็พร้อมใจถวายพระพรด้วยรอยยิ้มกันถ้วนหน้า ความงดงามแช่มช้อยและสายดาสดใสหวานซึ้งขององค์หญิงประกอบกับการสนทนาที่ เฉลียวฉลาด กิริยาท่าทางสงบเสงี่ยม ทำให้กุมารายนะยอมจำนนต่อความจริงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า และเปลี่ยนแปลงความตั้งใจโดยสิ้นเชิง
婚后不久,公主便怀孕了,罗炎看到公主腹部有一个美丽的红色圆形胎记,非常高兴,因为这是日后必生大智慧之子的征兆。公主怀孕后变得更加聪明。有一天, 他突然用流利的天竺语与罗炎谈起话来,这使她自己和罗炎都十分惊讶。从此,他们夫妻经常在一起讨论佛经,使公主对佛教教义有了深刻的了解,这天,宫女在与 公主谈北面山上的雀梨大寺和寺内的高僧。
หลังพิธีสยุมพรไม่นาน องค์หญิงก็ทรงพระครรภ์ กุมารายนะเห็นพระครรภ์มีสัณฐานกลมแดงงดงาม มีความปิติยินดีขึ้นมาว่าทารกในครรภ์ต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมล้นด้วย ปัญญามาถือกำเนิดแน่ หลังจากทรงพระครรภ์ องค์หญิงก็มีความเฉลียวฉลาดยิ่งขึ้น อยู่มาวันหนึ่งนางใช้ภาษาภารตะสนทนากันพระสวามีอย่างคล่องแคล่ว เหตุการณ์เช่นนี้ยิ่งทำให้สองสามีภรรยารู้สึกตื่นเต้นอัศจรรย์ใจ ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองท่านก็ได้แลกเปลี่ยนสนทนาธรรมซึ่งกันและกัน ทำให้องค์หญิงเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพุทธธรรมมากขึ้น วันหนึ่งนางกำนัลกำลังสนทนากับองค์หญิงถึงพระเถระผู้ใหญ่ในวัดเชวี่ยหลี่ ซึ่งตั้งอยู่ขนเขาทางทิศเหนือของแคว้นกุฉา
公主早就想去寺庙礼佛,于是就征得丈夫同意,邀请了几位王族妇女和大臣的夫人们,准备了几车物品,又请了几位德行高尚的比丘尼,坐上马车,在一个阳光明媚的日子里,向雀梨寺出发。僧人们按礼节接待了她们,安排她们在寺庙右边的女宾馆挂单。
องค์หญิงฉีผอมีพระประสงค์จะไปสักการบูชาพระอยู่แล้ว เมื่อได้รับการเห็นชอบจากพระสวามี ก็ทรงชักชวนภริยาข้าราชการผู้ใหญ่อีกหลายท่านจัดเตรียมข้าวของหลายคันรถ พร้อมทั้งนิมนต์ภิกษุณีที่มีวัตรปฏิบัติดตามและจิตใจบริสุทธิ์หลายรูป ขึ้นรถม้ามุ่งหน้าสู่วัดเชวี่ยหลี่ท่ามกลางแสงแดดสดใส องค์หญิงได้รับการต้อนรับตามธรรมเนียมจากวัดและจัดให้พำนักอยู่ห้องรับรอง อุบาสิกาที่อยู่ทางขวาของวัด
公主和同去的妇女们天天在寺内礼佛听法。有的妇女理解不了经义,公主就为她们讲解。一天,一位从天竺来的高僧用天竺语讲经,公主听的入了神。高僧讲毕。公主用流利的天竺语提问,这使大家都非常惊讶。
ทุกๆ วันองค์หญิงพร้อมผู้ติดตามจะไปสักการบูชาพระ และฟังเทศน์ศึกษาธรรม มีสตรีบางท่านไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคัมภีร์ องค์หญิงก็ทรงอธิบายให้ฟัง วันหนึ่งมีพระเถระผู้ใหญ่จากชมพูทวีปใช้ภาษาภารตะแสดงธรรม องค์หญิงทรงฟังอย่างเพลิดเพลินสนพระทัย เมื่อพระเถระเทศน์จบพระนางได้ใช้ภาษาภารตะหยิบยกปัญหาขึ้นถามอย่างคล่อง แคล่ว ทำให้ทุกคนที่ไปด้วยมีความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
寺里的一位叫达摩瞿沙的法师对大家说:“这一定是怀有大智慧之子的缘故。”他见大家不理解,又接着说:“舍利弗是佛陀座下智慧第一的大弟子,据说她母亲 怀孕时,变得智慧过人,连婆罗门中最负盛名的雄辩家梵志都辩不过他。舍利弗降生以后,他母亲又恢复到从前的样子了。”大家听了这番话,都为公主感到高兴。
ใน วัดแห่งนี้มีธรรมมาจารย์ท่านหนึ่งนามว่า “ธรรมโฆษะ” ได้อธิบายกับทุกคนว่า “เหตุที่องค์หญิงมีความสามารถพิเศษนี้ ในครรภ์ของพระนางคงมีทารกที่มีปัญญาหลักแหลมยิ่งใหญ่เป็นแน่” ท่านเห็นทุกคนยังไม่เข้าใจจึงอธิบายต่อว่า “พระสารีบุตรเป็นอัครสาวกที่มีปัญญาเป็นเลิศขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่ากันว่าขณะที่มารดาของพระสารีบุตรตั้งครรภ์ มารดาของท่าได้กลายเป็นคนที่มีสติปัญญาเหนือผู้อื่น แม้กระทั่งพราหมณ์นักโต้วาทะอันลือชื่อแห่งตระกูลพราหมณ์ก็ยังโต้สู้ไม่ได้ แต่หลังจากที่พระสารีบุตรถือกำเนิดแล้ว มารดาก็กลับกลายเป็นคนธรรมดาเช่นเดิม” เมื่อทุกคนได้ทราบความจริงแล้วต่างก็แสดงความยินดีกับองค์หญิง
从雀梨寺回宫后,出家的念头在公主的心里一点点滋长着。经过十月怀胎,孩子出生了,是一个健康的男婴。罗炎惊喜万分,给儿子取名鸠摩罗什,他感到很幸福,经常同妻子坐在摇篮边,看着自己的儿子。这孩子耳大面阔,鼻子高挺,相貌不凡。
เมื่อ กลับจากวัดเชวี่ยหลี จิตที่มุ่งมั่นจะออกบวชค่อยๆทวีขึ้นทีละน้อย เมื่อครบกำหนดสิบเดือนของการตั้งครรภ์ ก็ได้ให้กำเนิดทารกเพศชายที่มีพลานามันสมบูรณ์แข็งแรง กุมารายนะตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่งตั้งชื่อให้พระโอรสว่า “กุมารชีพ” ท่านรู้สึกว่าชีวิตมีความสุขมาก และมักจะนั้นอยู่ข้างอู่กับพระชายามองดูพระโอรสอย่างภูมิใจ พระโอรสทรงมีรูปหน้ากว้างใหญ่ หูยาว จมูกโด่ง หน้างามอย่างพิเศษทีเดียว
องค์หญิงออกพรรชา罗什出生以后,公主更加虔诚地信奉佛教。有一天,她向丈夫提出 要去出家。罗炎对她说:“你要出家我不反对,但是孩子还在吃奶,你忍心弃他不顾吗?”公主听了丈夫一番合乎情理的话,暂时打消了出家的念头。
หลัง จากให้กำเนิดพระโอรสกุมารชีพแล้ว องค์หญิงก็ยิ่งศรัทธาเสื่อมใสพุทธศาสนามากขึ้น อยู่มาวันหนึ่ง นางได้ตรัสกับพระสวามีเรื่องขอออกบวช ท่านบอกกับนางว่า “องค์หญิงจะออกบวช ข้าพเจ้าไม่คัดค้าน แต่ลูกน้อยยังต้องการน้ำนมมารดา ท่านจะทอดทิ้งทารกอย่างไม่ปราณีหรือ” องค์หญิงฟังคำพูดของพระสวามีซึ่งเปี่ยมด้วยเหตุผล จึงระงับเรื่องการออกบวชไปชั่วขณะ
后来,公主又生了一个儿子,取名弗沙提婆。公主尽心抚养两个儿子,把出家的念头搁置一边,可是弗沙提婆经常生病,给公主带来很大烦恼。且喜罗什像小树苗 一样茁壮成长着。一天,公主带着罗什在花园散步,随口教了他一首儿歌,谁知只教了一遍,他就会背了。又教了他另一首,刚教完,罗什就有腔有调的唱了起来。 公主又惊又喜。 ต่อมาภายหลังองค์หญิงให้กำเนิดพระโอรสอีกองค์พระนามว่า “ปุษยเทวะ” พระนางทรงทุ่มเททั้งกายใจเพื่อเลี้ยงดูพระโอรสทั้งสอง เรื่องออกบวชนั้นจึงเก็บไว้ก่อน ทว่าพระโอรสองที่ 2 ปุษยเทวะ เป็นเด็กค่อนข้างขี้โรคอ่อนแอ นำความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ใจให้องค์หญิงเป็นอย่างมาก โชคดีที่กุมารชีพน้อย เปรียบเสมือนต้นกล้าเติบใหญ่ขึ้นทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งองค์หญิงพากุมารชีพเดินเล่นอยู่ในอุทยาน พลางก็สอนกุมารชีพร้องเพลงเดินเพลงหนึ่งคิดไม่ถึงเลยว่าสอนรัองเพียงเที่ยว เดียว กุมารชีพก็สามารถท่องออกมาได้ นางสอนร้องอีกเพลงพอสอนจบ กุมารชีพก็ร้องตามได้ถูกต้องทันทีทั้งสำเนียงและท่วงทำนอง องค์หญิงทั้งตื่นเต้นและดีใจ
没过多久,体弱多病的弗沙提婆夭折了。公主非常伤心,她在骤然间经历了生的痛苦,死的悲哀。她想:我与弗沙提婆的因缘何其短暂啊!在生死、聚散面前,人的力量是那么的渺小!世上的一切,荣华、富贵、欢乐、权力,是那么不可靠!出家的念头再次在她的心头复萌。 ต่อมาไม่นาน ร่างกายที่อ่อนแอขี้โรคของปุษยเทวะ ทำให้เป็นเด็กอายุสั้นเสียชีวิตแต่เยาว์วัย องค์หญิงสุดโทมนัส พระนางได้ลิ้มรสความปวดร้าวยามที่มีชีวิตอนสุดโศกเศร้า เมื่อมีการตายจาก ฉุกคิดได้ว่า เพราะเหตุใดข้ากับบุตรชายปุษยะเทวะจึงมีบุญวาสนาต่อกันสั้นนั้น ภายใต้วัฏจักรการเกิด การพบปะและการพรากจาก ศักยภาพของมนุษย์ช่างน้อยนิดเหลือเกิน สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกไม่ว่าความรุ่งโรจน์ ร่ำรวย สุขสบาย อำนาจล้วนไม่อาจยึดถือได้เลย เรื่องการออกบวชที่คิดอยู่เสมอนั้นก็ผุดขี้นอีกครั้ง
四月的一天,阳光明媚,郁闷已久的公主带着几个宫女走出深宫,去郊外散心。白云漂浮,绿草青青,大自然的景色使公主的心情逐渐放松,她不知不觉地朝绿野深处走去。突然,一具白骨出现在眼前,公主刚舒展的心情一下子收紧,沉入到生与死的思考之中。闷闷不乐的回到王宫。 วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ องค์หญิงซึ่งตกอยู่ในห้วงทุกข์มานาน ได้เสด็จออกจากวังพร้อมนางกำนัล ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ชานเมือง แลเห็นเมฆขาวเลื่อนลอยบนท้องฟ้า ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม ทิวทัศน์ธรรมชาติทำให้องค์หญิงผ่อนคลายความทุกข์ลงได้บ้าง นางเดินต่อไปยังทุ่งหญ้าเขียวขจีเบื้องหน้า ทอดพระเนตรเห็นกระดูกคนตายทิ้งกองอยู่ ทันใดนั้น พระทัยที่เพิ่งจะเบิกบานกลับห่อเหี่ยวลงทันที เข้าสู่ห้วงคิดคำนึงเกี่ยวกับการเกิดการตายของมนุษย์ องค์หญิงจึงเสด็จกลังวังอย่างไม่เบิกบานพระทัย
公主无法忘记在郊外所看到的一切,于是决定出家。她坚决地对丈夫说:“罗炎,我决定出家做比丘尼,请你不要阻拦我。”罗炎再一次用爱心打动她,然而公主 决心已定。为了表示自己的决心,她拒绝进食,带了第六天,已是奄奄一息了。罗炎不能眼看爱妻死去,只得答应公主出家。他命令宫女端来食物,亲自一匙一匙的 给公主喂下去。 องค์หญิงไม่สามารถลือเรื่องทุกอย่างที่ทรงเห็นจากชานเมืองได้ ดังนั้นจึงตั้งพระทัยแน่วแน่ว่าจะออกบวช ทรงตรัสกับพระสวามีอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ท่านกุมารายนะ ข้าพเจ้าตั้งใจจะบวชเป็นภิกษุณีแน่แล้ว ขอท่านอย่าได้คัดค้านอีก” กุมารายนะปลอบประโลมนางด้วยความรักอีกหมายจะให้นางกลับใจ แต่องค์หญิงได้ตัดสินพระทัยในครั้งนี้ พอถึงวันที่หกพระวรกายก็อิดโรยเหมือนจะสิ้นพระชนม์อยู่รอมร่อ กุมารายนะทนเห็นภรรยารักตายต่อหน้าต่อตาไม่ได้ จึงจำใจอนุญาตให้องค์หญิงออกบวช กุมารายนะให้นางกำนัลยกพระกระยาหารมา แล้วป้อนให้องค์หญิงเสวยทีละคำด้วยตัวท่านเอง
第二天早晨,公主便剃发出家,不久正式受戒做了比丘尼。但是她没有立即住进寺庙,只在家中修行,因为她想把罗什一起带着出家,让他成为一个大智大慧的佛学家。只是这件事她还难以启齿,因为她知道罗什是罗炎唯一的儿子,罗炎是多么的爱他的儿子啊。
วันรุ่งขึ้น องค์หญิงก็ปลงพระเกศาออกบรรพชา เมื่อถึงเวลาตามพุทธบัญญัติก็เข้าพิธีอุปสมบทเป็นภิกษุณีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังพำนักอยู่ในวังไม่ได้พำนักที่วัดทันที เพราะองค์หญิงมีพระประสงค์จะพาพระโอรสกุมารชีพออกบวชด้วย เพื่อจะให้กุมารชีพกลายเป็นนักปราชญ์ทางพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ปราดเปรื่อง แต่นางไม่กล้าที่จะออกปากกับพระสวามี เพราะนางเข้าพระทัยดีว่าพระโอรสกุมารชีพเป็นหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียว ของท่านกุมารยนะ
罗什像是很懂母亲的心事,他告诉父亲,自己要跟着母亲出家。一向深明佛理的罗炎眼看着旗子出了家,现在儿子又要出家,感到这真是世事无常。他抚摩着儿子的头说:“你就随你母亲去吧。”罗什又对母亲说要随母亲出家,母亲笑着答应了。
กุมารชีพดูจะเข้าใจถึงหัวอกของพระมารดาจึงบอกกับบิดาว่า อยากจะออกบวชตามพระมารดา กุมารายนะเป็นคนเข้าใจพุทธธรรมอย่างลึกซึ้งมาตลอด ภรรยาได้ออกบวชแล้วยามนี้ลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวก็จะตามเสด็จออกบวช ด้วย จึงรู้สึกถึงความไม่ยั่งยืนของสรรพสิ่งที่เป็นอนิจจัง กุมารายนะลูบประโลมศีรษะพระโอรสอย่างรักใคร่เอ็นดูแล้วพูดว่า “เจ้าจงตามพระมารดาไปเถิด” กุมารชีพหันมาบอกกับพระมารดาว่าจะตามเสด็จออกบวชด้วย พระมารดาทรงตอบรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
七岁的鸠摩罗什随着母亲开始了很艰难的佛学生涯。他们在一座寺庙里住了下来,罗什拜当时著名的小乘学者佛图舌弥为师,修习《阿毗昙经》。佛图舌弥看罗什 相貌聪明,便先教他十首偈子。想不到师傅刚念完,罗什就一字不差的背了出来。师傅又念了十首,罗什又一口气背了出来。罗什惊人的记忆力使佛图舌弥愣住了。
กุมาร ชีพมีอายุเพียง 7 ปีก็เริ่มตามเสด็จพระมารดาใช้ชีวิตบนเส้นทางการศึกษาพุทธธรรมอย่างยากลำเค็ญ สองแม่ลูกเข้าพำนักในวัดแห่งหนึ่ง กุมารชีพได้คารวะท่านพุทธสิงหะแห่งนิกายหินยานผู้มีชื่อเสียง เริ่มต้นศึกษาอภิธรรมสูตร ท่านอาจารย์พุทธสิงหะเห็นกุมารชีพมีหน้าตาเฉลียวฉลาดก็สอนบทสวดสิบบทก่อน ทันทีที่ท่านอาจารย์สอนจบกุมารชีพก็ท่องออกมารวดเดียวจบ ความทรงจำที่ดีเลิศอัศจรรย์ของกุมารชีพ ทำให้อาจารย์พุทธสิงหะตกตะลึงนิ่งไป
从第二天起罗什每天熟读背诵一千偈。每一首偈三十二个字,一千偈就是三万二千字。他不但记忆力惊人,理解力也强,对师父所讲的义理能透彻地理解;就是最 难理解的经文,也能明白一些。师父很喜欢他,尽可能地传授。据说,在短短的一年中,罗什念过的偈子就有三十万首,经文也有十卷。有人作过统计,他幼年熟 读、背诵的佛经,竟有四百多万字。 นับจากนั้น กุมารชีพก็ท่องอ่านบทสวดทุกวัน วันละพันบท แต่ละบทมีอักษร 32 ตัว พันบทก็เท่ากับ 32,000 ตัวอักษร ท่านไม่เพียงมีความทรงจำดีเลิศอย่างน่าตกใจ ยังมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงเหตุผลที่อาจารย์ได้อธิบายเป็นอย่างดี แม้คัมภีร์บางบทยากจะเข้าใจ ท่านก็ยังพอเข้าใจได้บ้าง อาจารย์ให้ความรักและเอ็นดูแก่กุมารชีพมาก พยายามถ่ายทอดคำสอนให้มากที่สุด กล่าวคือในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 1 ปี บทสวดที่กุมารชีพท่องได้ทั้งหมดมี 3 แสนบท คัมภีร์อีก 10 เล่ม มีผู้เคยคำนวณว่าเฉพาะพุทธธรรมที่กุมารชีพได้ศึกษาครั้งเยาว์วัย ที่มีความเข้าใจอย่างละเอียดและสามารถท่องขึ้นใจได้นั้นมีอยู่ประมาณ 4 ล้านตัวอักษร
公主母子出家的消息传开后,龟兹国的信徒们为了表示对公主母子的尊敬,源源不断地为他们送来供养。公主感到不安。她想作为出家人,不能接受过分尊敬而得到太多的东西;可要阻止人们这样做,又显然是不可能的,怎么办?ข่าว การออกบวชขององค์หญิงแม่ลูกแพร่กระจากออกไป พุทธศาสนิกชนชาวกุฉาต่างแสดงความภักดีต่อองค์หญิงแม่ลูก โดยส่งข้าวปลาอาหารไปให้อย่างไม่ขาดสาย พระนางรู้สึกไม่สบายพระทัยเพราะผู้ออกบวชต้องไม่รับสิ่งของมีค่าหรือรับการ ยกย่องเป็นพิเศษ จะห้ามปรามชาวเมืองก็คงไม่ได้ จะต้องทำอย่างไรดีเล่า
令公主想不到的是,罗什竟引用佛经上的话,把公主的担忧说了出来,公主惊喜交加。她对罗什说:“国人送来供养,是因为我是王妹,你是王甥。看来我们只有离开龟兹国,撇弃这养尊处优的生活。” สิ่งที่คาดไม่ถึงก็มาถีง กุมารชีพสามารถนำเอาความหมายของพระคัมภีร์มาใช้พูดตรงกับความรู้สึกในใจของ องค์หญิง องค์หญิงทั้งตกตะลึงและยินดี จึงตรัสกับกุมารชีพว่า “ผู้คนในเขตแคว้นที่ส่งข้าวของมาให้ เพราะแม่เป็นพระขนิษฐา ลูกเป็นพระราชนัดดา ฉะนั้นพวกเราจำต้องไปจากแคว้นกุฉา ละทิ้งชีวิตที่ตั้งอยู่บนความสมบูรณ์พูนสุข”
公主听说罽宾国(今克什米尔一带)有一位大德名叫盘头达多,为了过真正的出家生活,也为了让罗什经受风雨的锻炼,就带着罗什离开龟兹,远赴罽宾国那年,罗什九岁。องค์ หญิงได้ทราบว่าแคว้นกุภาน (ชื่อเดิมของกรุงคาบูล อัฟกานิสถาน คือแถบเมืองกัษมีระ ในปัจจุบัน) มีพระเถระผู้ทรงคุณธรรมท่านหนึ่งนามว่าพันโธเทวทัต ดังนั้นองค์หญิงผู้ทรงมีพระประสงค์จะใช้ชีวิตนักบวชอย่างแท้จริง และเพื่อให้กุมารชีพได้ฝึกรับมือกับความยากลำบาก จึงไปจากแคว้นกุฉาออกเดินทางไกลไปยังแคว้นกุภาน ในปีนั้นกุมารชีพมีอายุเพียง 9 ปี
母子一行不久就面临了穿越沙漠的艰难。浩瀚的沙漠,一望无际,唯有隐约可见的骆驼粪便和残缺不全的尸骸,表明曾经有人在这里被吞噬。和沙漠相比,人是那么渺小阿!公主默默地祈祷佛陀保佑他们母子一行顺利经过这片大沙漠。 ต่อมาไม่นาน สองแม่ลูกและผู้ติดตามก็ต้องเผชิญกับความทุรกันดารของทะเลทรายอันเวิ้ง ว้างกว้างใหญ่ ได้เห็นเพียงมูลอูฐและซากศพที่กะพร่องกะแพร่งไม่ครบส่วนอย่างเลือนราง เห็นได้ชัดว่าละแวกนี้เคยมีผู้คนถูกกลืนกิน เมื่อเทียบกับผืนทะเลทรายที่กว้างใหญ่แล้ว มนุษย์นี้ช่างเล็กเหมือนผงธุลีจริงหนอ องค์หญิงทรงอธิฐานขอพระพุทธคุณให้ช่วยคุ้มครองแม่ลูกและผู้ติดตามให้เดินทาง ผ่านทะเลทรายไปโดยสวัสดิภาพ
突然,乌云遮日,狂风卷起,黄沙铺天盖地向他们扑来。他们只得停止前进,背靠着骆驼躲避风沙。这时,气温也骤然下降,大家都冻得缩成一团,瑟瑟发抖。
ทันใดนั้น แสงอาทินย์ถูกบดบังด้วยเมฆคลุ้ม ลมพายุม้วนวนเป็นระลอก ฝุ่นทรายสีเหลืองโหมกระหน่ำพัดปกคลุมมาอย่างแรง ทำให้ต้องหยุดการเดินทาง หันหลังพิงกับตัวอูฐเพื่อหลบพายุทรายที่แรงจัด ซ้ำอุณหภูมิก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ ทุกคนหนาวจนตัวแข็งซุกขดตัวอยู่ด้วยกันเพราะความหนาวเหน็บจนสั่นสะท้าน
ออกจาริกแสวงหาอาจารย์风沙过后,他们继续打起精神赶路。公主问罗什苦不苦,罗什说:“只要能求得佛法,再苦我也感到快乐!”公主欣慰的笑了。
หลังลมพายุผ่านพ้น จึงตั้งจิตแน่วแน่ออกเดินทางต่อไป องค์หญิงทรงถามกุมารชีพว่า ทุกข์ทรมานไหม กุมารชีพบอกว่า “ขอเพียงแสวงหาพุทธธรรมได้ จะทุกข์ยากกว่านี้ก็เป็นสุข องค์หญิงทรงแย้มสรวลอย่างปลาบปลื้มพระทัย
走出沙漠之后,由于上了新的考验。眼前的雪山崎岖陡峭,一不小心就会跌下万丈深渊,化作齑粉。一位随行者对公主说:“这里气候寒冷,四季冰封,风狂雪猛,你和公子千万要小心啊。”公主和罗什准备经受新的磨难。
เมื่อการเดินทางบนทะเลทรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็ต้องเผชิญการทดสอบครั้งใหม่เพราะเบื้องหน้าเป็นภูเขาหิมะที่มีเส้นทางสูง ชัยและขรุขระ หากขาดความระมัดระวังก็จะพลัดตกสู่ห้วงเหวลึกกลายเป็นผงธุลีทันที ผู้ติดตามคนหนึ่งกราบทูลองค์หญิงว่า “แถบนี้อากาศหนาวเย็น ตลอดปีปกคลุมด้วยหิมะ ลมพายุกระโชกแรง หิมะก็ตกหนักพระองค์และพระโอรสต้องทรงระมัดระวังเป็นพิเศษ” องค์หญิงแม่ลูกต้องเตรียมเผชิญความลำบากตรากตรำอย่างใหญ่หลวงอีกครั้ง
暴风雪来了,庞大的骆驼已经举步维艰,不能再负载公主母子了。公主和罗什走下骆驼,艰难地行走。狂风漫卷大雪,呼啸声一阵紧一阵,随行者感到非常紧张,一心求法的母子却毫无惧色,他们互相搀扶着,贴身山壁,迎着风雪前进。
ลมพายุแรงกล้าโฆมกระหน่ำมา อูฐซึ่งบรรทุกสัมภาระมากมายไม่สามารถทานรับน้ำหนักของสองแม่ลูกได้ เพราะทางขึ้นเขาสูงชันและคับแคบ ดังนัน สองแม่ลูกจึงต้องลงจากอูฐและเดินอย่างลำบากแสนเข็ญ หิมะปะปนกับพายุ พัดกระโชกคำรามมาเป็นระลอกผู้ติดตามต่างตื่นตระหนกและกังวล ส่วนสองแม่ลูกที่มีจิตใจแน่วแน่จะแสวงหาพระธรรมไม่มีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่ น้อย ช่วยกันประคับประคองแนบกายกันเดินชิดสันเขา ฟันฝ่าหิมะต่อไปเบื้องหน้า
历尽了千心万苦,终于来到了印度河前。渡过这条河,就是罽宾国了,罗什指着印度河,高兴地与母亲说话。公主慈祥地望着儿子,她觉得,经过这次长途跋涉,儿子变得更坚强了。而罗什也感到母亲的爱心给了她最大的勇气和力量。
ผ่านความลำบากยากเย็นไปแล้ว ในที่สุด เบื้องหน้าคือแม่น้ำสินธุ ผ่านแม่น้ำนี้ไปแล้วก็จะถึงแคว้นกุภาน กุมารชีพชี้ไปยังแม่น้ำพูดคุยกับพระมารดาอย่างเป็นสุข องค์หญิงมองดูพระโอรสด้วยความเมตตา นางรู้สึกว่าหลังผ่านการเดินทางอันแสนเข็ญบนเส้นทางไกลนี้ พระโอรสของนางมีความหนักแน่นเข้มแข็งกว่าเดิม ส่วนตัวของกุมารชีพเองรู้อยู่เต็มอกว่าทุกกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านพ้นมาได้ เพราะความรักอันสูงค่าจากพระมารดาที่ทำให้มีความกล้าหาญและมีกำลังใจมากเป็น พิเศษ
罽宾国的盘头达多大师是国王的堂兄弟,他舍弃一切,出家修行,对与佛教的经、律、论三藏和佛理的九部都非常精通。他的渊博学识和高尚品德,不但使国内的人们对他无比敬仰;就连国外的人,也纷纷远道而来,拜他为师。
ท่านพันโธเทวทัต เป็นลูกพี่ลูกน้องกับกษัตริย์กุภาน ท่านละทิ้งทุกอย่างทางโลกออกบวชเพื่อบำเพ็ญธรรม ไม่ว่าจะเกี่ยวกับคัมภีร์ กฎวินัยของศาสนาพุทธรวมไปถึงพระไตรปิฎกและพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เล่ม ท่านก็รู้แจ้งแตกฉาน มีความรู้ลึกซึ้งไพศาล และมีอุปนิสัยดีงามความประพฤติสูงส่ง ไม่เพียงแต่คนในแว่นแคว้นเท่านั้นที่ให้ความเคารพนบนอบ แม้คนต่างแว่นแคว้นที่ได้ยินกิตติศัพท์ต่างก็หลั่งไหลมาคารวะขอเป็นศิษย์ อย่างไม่ขาดสาย
公主母子一到罽宾国就立刻去拜见盘头达多。大师得知母子为求佛法,历尽辛苦,既感动,又惊讶,马上出来接见,向他们母子慰问,诚心诚意地欢迎他们到来。大师见罗什年纪虽小,却仪态端正,彬彬有礼,乌黑的眼睛闪着智慧的光芒,便心生欢喜,答应收罗什为弟子。
ทันทีที่สองแม่ลูกเสด็จถึงแคว้นกุภาน ก็รีบไปนมัสการพันโธเทวทัตเถระ พระเถระได้ทราบถึงความมุ่งมั่นขององค์หญิงแม่ลูกที่มุ่งใฝ่หาพระธรรม และได้ฟันฝ่าอุปสรรคมามากมาย ทั้งซาบซึ้งและอัศจรรยืใจ จึงรีบออกมาต้อนรับพร้อมโอภาปราศรัยเชื้อเชิญด้วยใจจริง พระเถระเห็นกุมารชีพแม้อายุยังน้อย แต่บุคลิกสง่างาม มีสัมมาคารวะ ดวงตาดำขำ เปล่งประกายบ่งบอกถึงอัจฉริยภาพ ในใจเกิดความชื่นชอบ และยินดีตอบรับกุมารชีพเป็นศิษย์
罗什恭恭敬敬地向盘头达多行拜师之礼。盘头达多用罗什学过的《阿毗昙经》考他,罗什的记忆力和理解力都让他暗暗称奇,他感到这位新收的弟子无疑是旷世奇才。
กุมารชีพก้มกราบทำพิธีไหว้ครูด้วยความเคารพ พระเถระทดสอบความรู้กุมารชีพด้วยอภิธรรมสูตรที่กุมารชีพเคยศึกษามา ความทรงจำและความเข้าใจของกุมารชีพทำให้พระเถระรู้สึกพิศวงเป็นอย่างมาก ศิษย์ใหม่คนนี้จะต้องเป็นเลิศในปฐพีแน่
盘头达多向罗什传授《中阿含经》。此经相传为佛租释迦牟尼入灭后最初结集的四部经藏之一。这四部经依文字长短和内容特点,分别称《长阿含经》、《中阿含 经》、《杂阿含经》、《增一阿含经》。这天盘头达多在佛殿讲完经以后,便要大家熟读精思。第二天,罗什就背诵给老师听,又把所悟解的经文讲述了一遍。老师 为他的决定聪明而高兴,又授他《长阿含经》。
พัน โธเทวทัตเถระถ่ายทอดพระสูตรมัธยมาคมให้แก่กุมารชีพ เล่าสืบต่อกันมาว่าพระธรรมบทนี้เป็นหนึ่งในสีบทของพระไตรปิฎก ซึ่งถูกรวบรวมและสังคายนาขึ้นครั้งแรกหลังจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ ปรินิพพาน พระไตรปิฎกทั้งสี่บทนี้แยกตามความสั้นยาว จุดเด่นของเนื้อหาสาระแบ่งออกเป็น 4 บท คือ ทีฆราคม มัธยมาคม สังยุกตาคม เอโกตตราคม อยู่มาวันหนึ่งหลังจากพระเถระแสดงธรรมที่พระวิหารเสร็จแล้ว ก็กำชับให้ศิษย์ทุกคนอ่านดูให้ละเอียด ตรึกตรองให้ดี พอวันรุ่งขึ้นกุมารชีพก็ท่องให้อาจารย์ฟัง และยังอธิบายถึงความเข้าใจในพระธรรมที่เพิ่งเรียนมา พระเถระเปลื้มใจในอัจฉริยภาพของกุมารชีพ พร้อมถ่ายทอดพระสูตรทีฆราคมให้อีกบทหนึ่งด้วย
罗什学习非常刻苦,他在众弟子中年龄最小,去聪明过人,常常提出问题与师兄讨论,直到彻底明白为止。盘头达多非常喜欢罗什,他认为罗什神奇俊秀,是佛教的瑰宝。罗什的名字很快传播开来,连国王也知道了。
กุมาร ชีพศึกษาอย่างมานะบากบั่น ท่านเป็นคนอายุน้อยที่สุดในจำนวนศิษย์ทั้งหมดแต่ฉลาดปราดเปรื่องกว่าคนอื่น มักจะหยิบยกปัญหามาวิเคราะห์แลกเปลี่ยนกันศิษย์พี่เป็นประจำ จนกระทั่งเข้าใจแจ่มแจ้งจึงจะยุติ พระเถระชมชอบกุมารชีพเป็นพิเศษ และถือว่าความอัศจรรย์และสติปัญญาอันดีงามของกุมารชีพ เป็นอัญมณีอันล้ำค่าของพุทธศาสนาชื่อเสียงของกุมารชีพแพร่ออกไปอย่างกว้าง ขวางรวดเร็ว แม้แต่กษัตริย์ของกุภานก็ทรงทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี
一次,国王和盘头达多又谈到罗什。正好有几位外道论师途经?宾国,在与国王的言谈中,颇有对佛教不敬之意。国王正想找人难一难这些外道论师,盘头达多就提议让弟子中辩才最好的罗什与他们辩论。盘头达多对罗什的才华成竹在胸,请国王颁令。 อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่กษัตริย์กุภานทรงสนทนากับพันโธเทวทัตเถระ ก็ได้พูดถึงกุมารชีพ พอดีช่วงนั้นมีนักบวชต่างศาสนาหลายท่านเดินทางผ่านมายังแคว้นกุภาน ระหว่างที่บรรดานักบวชสนทนาธรรมกับพระองค์อยู่นั้น ก็มีท่าทีกิริยาไม่ค่อยเคารพต่อพุทธศาสนา พระองค์กำลังเสาะหาผู้สันทัดมากำราบนักบวชเหล่านี้อยู่ พระเถระจึงเสนอให้กุมารชีพผู้มีฝีปากในการโต้คารมเปิดอภิปรายกับนำบวชเหล่า นั้น พระเถระเชื่อมั่นในอัจฉริยภาพและความสง่างามของกุมารชีพ จึงกราบบังคมทูลขอให้พระองค์ทรงมีรับสั่งนัดเปิดอภิปราย
外道论师们和罗什等几位法师都被请进了宫。国王对外道论师说:“我们有位法师要向你们请教。”几位外道论师笑到:“那好,如能辩赢我们,我们就情愿皈依 佛门。”国王笑了笑,没有回答。外道论师又问:“请问国王,想要跟我们辩论的法师是那位?”国王指了身边的鸠摩罗什道:“就是这位法师。”“原来是位乳臭 未干的孩子呀!”外道论师放肆地笑了起来。
นัก บวชฝีปากกล้าต่างศาสนาเหล่านั้น พร้อมทั้งกุมารชีพและธรรมาจารย์อีกหลายรูปได้รับนิมนต์เข้าไปในพระราชวัง พระองค์ทรงมีปฏิสันถารกับนำบวชเหล่านั้นว่า “ข้าพเจ้ามีพระสงฆ์รูปหนึ่งต้องการคำชี้แนะจากทุกท่าน”นักบวชหัวเราะและบอก ว่า “ก็ดีสิหากสามารถอภิปรายชนะพวกเรา พวกเราก็จะยอมนับถือศาสนาพุทธทั้งกายและใจ” พระองค์ทรงแย้มสรวลไม่ตรัสอะไร นักบวชทูลถามอีกว่า “ผู้ใดที่จะมาอภิปรายกับพวกเรา” พระองค์ทรงชี้มายังกุมารชีพซึ่งยืนยิ้มอยู่ข้างพระวรกาย และว่า “ก็คือสามเณรรูปนี้ เป็นเด็กทารกซึ่งยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่เอง” นักบวชทั้งหลายต่างหัวเราะเย้ยหยันอย่างกำเริบเสิบสาน
辩论会开始了,国王亲自主持。外道中一个较为年长的提了两个问题,罗什不慌不忙,语气清楚,有条有理地加以回答。聪明的罗什也提出几个问题,请对方回 答。刚才还目空一切的外道论师们见罗什讲得字字珠玑,头头是道,竟面面相觑,一时间张口结舌。罗什又指出了他们的肤浅无知。几位外道论师心悦诚服地皈依了 佛门。
การ อภิปรายเริ่มขึ้นโดยกษัตริย์กุภานทรงเป็นผู้เปิดอภิปรายด้วยพระองค์เอง ในหมู่นักบวชเหล่านี้มีท่านหนึ่งอายุค่อนข้ามาก ยกคำถามขึ้นมาถาม 2 เรื่อง กุมารชีพไม่ประหวั่นลนลานแต่อย่างไร กลับค่อยๆตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำและอธิบายอย่างแจ่มแจ้ง กุมารชีพผู้เฉลียวฉลาดถามคำถามกลับอีกหลายข้อเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามตอบบ้าง นักบวชฝีปากกล้าเหล่านั้นเมื่อฟังกุมารชีพตอบโต้ทุกอย่างด้วยเหตุผลและสติ ปัญญา ก็คลายความเย่อหยิ่งอวดดีก่อนหน้านี้ ต่างจ้องมองซึ่งกันและกันอย่างอับจนถ้อยคำ กุมารชีพชี้ถึงความเข้าใจของท่านเหล่านั้นว่ายังตื้นเขิน จนท่านเหล่านั้นต้องยอมเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ น้อมรับพุทธศาสนาด้วยความสมัครใจ
罽宾国王亲眼看到了罗什的精彩辩论,很是佩服,觉得罗什为罽宾国争了光。他不顾罗什母子的反对,给予他们最好的供养,并派五名僧人和五名小沙弥为他们服务。耆婆推辞不了只得暂时接受下来。在罽宾国住了两年,罗什的学业有了很大的进步,他的名字在邻近的各国传扬开去。
กษัตริย์กุภาน ทอดพระเนตรเห็นการอภิปรายที่เปี่ยมสีสันของกุมารชีพแล้วทรงให้ความเคารพ นับถืออย่างมาก พระองค์ทรงปลาบปลื้มที่กุมารชีพนำชื่อเสียงมาสู่แว่นแคว้น จึงไม่คำนึว่าองค์หญิงแม่ลูกจะปฏิเสธหรือไม่ ทรงจัดให้มีการอุปถัมภ์รับรองอย่างดีเลิศพร้อมรับสั่งให้พระสงฆ์ 5 รูป และสามเณรอีก 5 รูปมาคอยปรนนิบัติ องค์หญิงไม่สามารถปฏิเสธได้จึงต้องยอบรับข้อเสนอนี้ สองแม่ลูกได้พักอาศัยอยู่เมืองกุภานเป็นเวลา 2 ปี และการศึกษาของกุมารชีพก็รุดหน้าเป็นอย่างมาก ชื่อเสียงของกุมารชีพเลื่องลือออกไปยังแว่นแคว้นใกล้เคียง
耆婆感到盛名厚禄对罗什没有什么好处,拒绝了不少邻国对罗什的尊贵聘请。罗什对母亲所做的一切,充满信赖与敬意。一天母亲对罗什说:“你在此已经学有所 成,这里供养太好,再住下去已经不合适,不如返回龟兹国吧。”盘头达多也对罗什说:“我所有的知识都传给你了,你要深造,只得另请高人。”
องค์ หญิงฉีผอรู้ลึกว่าการมีชื่อเสียงโด่งดังได้รับการเอื้อเฟื้ออันบริบูรณ์เช่น นี้ ไม่เป็นผลดีต่อกุมารชีพแต่อย่างใด ทรงปฏิเสธการเชื้อเชิญอันทรงเกียรติของแว่นแคว้นข้างเคียงกุมารชีพเข้าใจถึง เหตุผลที่พระมารดาต้องทำเช่นนี้ จึงมีความเชื่อมั่นและเคารพพระมารดามากขึ้น วันหนึ่งองค์หญิงตรัสกับกุมารชีพว่า “เจ้าอยู่ที่นี่ก็ได้วิชาความรู้ระดับหนึ่งแล้ว ที่นี่ให้การปรนนิบัติดีเกินกว่าที่พวกเราควรได้รับ เรากลับแคว้นกุฉากันเถอะ” พันโธเทวทัตเถระ ก็บอกกับกุมารชีพว่า “วิชาความรู้ของอาตมาทั้งหมดก็ถ่ายทอดให้สิ้นแล้ว หากเจ้าจะศึกษาขั้นสูงต่อไปอีก จะต้องหาผู้มีปัญญาความสามารถสูงส่งคนใหม่”
จาก
http://www.gonghoog.com/main/index.php/2012-11-10-06-57-06