ผู้เขียน หัวข้อ: มองโลกผ่านจอ : Hugo เราทุกคนล้วนมีชิ้นส่วนที่ผุพัง  (อ่าน 1094 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด




มองโลกผ่านจอ : Hugo เราทุกคนล้วนมีชิ้นส่วนที่ผุพัง

        เมื่อพูดถึง มาร์ติน สกอเซซี่ คนดูหนังส่วนใหญ่คงรู้จักชื่อนี้จากหนังอย่าง Raging Bull, Goodfellas, Casino ฯลฯ ซึ่งผลงานเกินกว่าครึ่งของเขาเป็นหนังคุณภาพมีรางวัลการันตี มีท่าทีเคร่งเครียด สุดแมน ใส่ความรุนแรงสำหรับคนดูรุ่นใหญ่ ดังนั้นเมื่อมีข่าวว่าเขาสนใจทำหนังจากวรรณกรรมเด็ก จึงทำให้หลายคนนึกภาพไม่ออกว่า หนังเด็กในมือของมาร์ติน สกอเซซี่  จะเป็นอย่างไร แถมเขายังเลือกถ่ายทำเป็นระบบสามมิติ พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุ 70 ปี ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการก้าวให้ทันโลกยุคใหม่

          หนังเด็กของปู่มาร์ติน สกอเซซี่ ชื่อ Hugo เรื่องราวชีวิตของ เด็กชายอูโก้ กาเบรต์

          อูโก้ เป็นเด็กที่ชอบซ่อมแซมสิ่งของ อาศัยอยู่กับพ่อที่ปารีส ส่วนแม่เสียชีวิตไปแล้ว พ่อของเขามีอาชีพช่างซ่อมนาฬิกา วันหนึ่งพ่อกลับมาพร้อมหุ่นกล เป็นหุ่นเหล็กที่มีช่องกุญแจรูปหัวใจที่ยังไม่มีกุญแจไข ทำให้ไม่รู้ว่าหุ่นกลตัวนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง เป็นปริศนาที่พ่อลูกวางแผนอย่างสนุก และหาทางปลุกมันให้มีชีวิตอีกครั้ง

           แต่จู่ ๆ อุบัติเหตุไฟไหม้ ก็พรากพ่อเขาจากไปโดยไม่มีโอกาสบอกลา อูโก้ย้ายไปอยู่กับลุงขี้เมา ไม่เอาใจใส่ ไม่ส่งเสียเรียนหนังสือ ทิ้งให้อูโก้กินอยู่หลับนอนที่ห้องคนงานรกร้างในสถานีรถไฟ

           ที่สถานีรถไฟ มีหลายชีวิตที่ถ่ายทอดให้คนดูได้รู้จักผ่านสายตาของอูโก้ไม่ว่าจะเป็น คุณป้าที่ชอบจูงลูกหมามากินอาหารตอนเช้า โดยมีลุงร่างอ้วนที่ตกหลุมรักได้แต่แอบมอง, กุสตาฟ ดัสเต้ นายตรวจประจำสถานี ที่ขาพิการมีส่วนหนึ่งเป็นอุปกรณ์โลหะ มีสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนเป็นคู่หู เขาแอบรักพนักงานสาวร้านขายดอกไม้ในสถานี ติดตรงเขาเองก็ไม่กล้าเข้าไปจีบ เพราะกลัวว่าขาพิการของเขาจะเป็นอุปสรรค เวลาเดินบางครั้งอุปกรณ์ที่ขาเทียมก็สะดุดทำให้ส่งเสียงดังเป็นเป้าสายตาของคนอื่น งานหลักของกุสตาฟ ดัสเต้ คือ การตามจับเด็กเร่ร่อน หรือทำผิดกฎหมายส่งให้บ้านพักเด็กกำพร้า

          นอกจากเฝ้ามองผู้คน ชีวิตประจำวันของอูโก้หลังสูญเสียพ่อ  คือรับผิดชอบการทำงานของนาฬิกาที่สถานีรถไฟ หาอาหารกินโดยการขโมยขนมตามร้านค้า หลบหนีจากสายตาสอดส่องของกุสตาฟ ดัสเต้ ยามว่างก็พลิกสมุดบันทึกเล่มหนึ่งเป็นของดูต่างหน้าพ่อ
สมุดเล่มนั้นมีรายละเอียดของหุ่นกล แต่อูโก้ก็ยังไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร เขาพยายามจะหาทางซ่อมหุ่นกลด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่มีอุปกรณ์ เขาจึงย่องไปขโมยชิ้นส่วนที่สามารถใช้ซ่อมแซมหุ่นกลจากร้านขายของเล่นในสถานีรถไฟ ที่มีเจ้าของชื่อ ปาป้าจอร์จ

         สมุดเล่มนั้นสะดุดตา ปาป้าจอร์จ เข้าอย่างจัง เขาดูตกใจมากเมื่อเห็นสมุดของเด็กคนนี้ และยึดสมุดของอูโก้ไป ถือว่าเป็นการลงโทษฐานขโมย

          บุคคลสำคัญที่เข้ามาในชีวิตอูโก้ และช่วยให้เขาเปลี่ยนไปคือ อิซาเบล ลูกบุญธรรมของปาป้าจอร์จแห่งร้านขายของเล่น อิซาเบล มาพร้อมกับกุญแจดอกสำคัญที่สามารถใช้ไขหุ่นกลที่อูโก้มีอยู่ เมื่อทั้งสองออกเดินทาง ปริศนาก็ถูกคลี่คลาย ทำให้เราได้เห็นถึงความฝันของผู้คนที่ดับสูญ ชีวิตที่ไร้ซึ่งจุดหมาย และลายแทงในการแก้ปัญหา

          Hugo ดัดแปลงจากเหตุการณ์จริงและชีวิตจริงของบุคคลในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ โดย ปาป้าจอร์จ คือ จอร์จ เมลิเยส์ ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสที่มีตัวตนจริง และในชีวิตจริงก็เป็นทั้งนักประดิษฐ์ นักมายากล ฯลฯ เหมือนที่หนังนำเสนอ

          จอร์จ เมลิเยส์ มีชีวิตอยู่ในยุคบุกเบิกของภาพยนตร์ช่วงปี 1861 - 1938 สร้างผลงานสำคัญ ๆ หลายชิ้น โดยหนังที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยมากที่สุด คือ หนังสั้นขาว - ดำเรื่อง A Trip to the Moon หรือ Le voyage dans la lune ที่มีจรวดพุ่งชนตาของดวงจันทร์หน้าตาเหยเก (ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ถูกนำมาใช้เป็นความลับสำคัญในหนัง Hugo)



         ใน Hugo พูดถึงบั้นปลายชีวิตของ จอร์จ เมลิเยส์ ที่ประสบภาวะล้มละลายในช่วงหลังสงครามโลก จากคนทำหนังที่เปี่ยมความฝัน กลายมาเป็นตาเฒ่าสีหน้าบูดบึ้ง ใช้ชีวิตแบบซังกะตาย ขายของเล่นที่สถานีรถไฟในปารีส สถานีเดียวกับที่ อูโก้ กาเบรต์ (ตัวละครนี้ไม่มีอยู่จริง) ใช้ชีวิตอยู่หลังจากพ่อเสียชีวิต

          Hugo เป็นหนังที่แสดงให้เห็นชีวิตของมนุษย์ที่มีคุณลักษณะบางอย่างคล้ายเครื่องจักรกล คือ เราประกอบด้วยชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีความหมายแค่ในเชิงกายภาพ แต่ยังหมายถึง อารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ฯลฯ ที่ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อน

         และชีวิตที่ผ่านการใช้งาน ย่อมเหมือนเครื่องจักรที่ต้องมีบางชิ้นส่วนหรือบางกลไก เสื่อม หรือผุพัง รอการซ่อมแซม ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจทำให้การใช้ชีวิตติด ๆ ขัด ๆ หรือทำให้หมดแรงใจในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ สูญเสียจุดมุ่งหมาย (purpose)

          หุ่นกลเป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องจักร ที่หนังพยายามสื่อว่า พวกมันล้วนมีเป้าหมาย เช่น รถไฟก็มีหน้าที่ส่งคนให้ถึงที่ นาฬิกาก็มีหน้าที่บอกเวลา ถ้าเครื่องกลนั้นไม่สามารถทำงานไปสู่เป้าหมายได้ ก็แปลว่าต้องมีบางอย่างในตัวที่พัง เช่นเดียวกับหุ่นกล ที่ขาดกุญแจสำคัญมาไขให้มันทำงาน
คนที่ไร้เป้าหมายก็คล้ายกับจักรกลที่เสีย ซึ่งอูโก้ก็มองเห็น ปาป้าจอร์จ เป็นเช่นนั้น เด็กน้อยหวังว่า การช่วยเหลือปาป้าจอร์จ จะเหมือนการซ่อมเครื่องจักร คือ ทำให้เขามีจุดมุ่งหมายในชีวิตได้อีกครั้ง

          และหากส่วนที่พังของ ปาป้าจอร์จ คือ การสูญเสียจุดมุ่งหมายในชีวิต เพราะปล่อยให้อดีตที่ล้มเหลวในฐานะคนทำหนัง ทับถมปัจจุบันให้ไม่สามารถมองโลกได้อย่างมีความสุข เราก็จะเห็นส่วนที่พังในตัวอูโก้ ชีวิตหลังที่พ่อจากไป ทิ้งไว้แต่คำถามวนเวียนว่าทำไมพ่อถึงต้องตาย ทำไมเขาต้องอยู่คนเดียว หุ่นกลมีความลับอะไรซ่อนอยู่ และส่วนที่พังของ กุสตาฟ คือ ขาที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย ทำให้เวลาเดินมีเสียงเหล็กเอียดอาดเป็นที่สะดุดตาของคนพบเห็น

          Hugo เป็นหนังที่นำเสนอเรื่องของความฝันที่จบลงของตัวละครกลุ่มหลัก (อูโก้, ปาป้าจอร์จ, กุสตาฟ) พวกเขาใช้ชีวิตอยู่กับความจริงในปัจจุบันที่แสนเศร้า ก่อนจะเรียนรู้ความจริงของชีวิตว่า ความฝันที่จบลงอาจจะเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนชีวิตที่ผุพัง แต่ไม่ได้แปลว่า ชีวิตจะต้องสิ้นสุด หรืออยู่อย่างแสนเศร้า เราแค่ขาดกุญแจสำคัญที่จะมาช่วยไข หรือ ขาดคนที่จะมาช่วยซ่อมแซมให้ชีวิตเดินหน้าต่อ

          ความรัก กับ การยอมรับ คือกุญแจสำคัญดอกนั้น เมื่ออูโก้พบว่า ในโลกใบนี้ยังมีคนที่ห่วงใยเขาอย่างแท้จริงนอกจากพ่อมีครอบครัวใหม่พร้อมให้เขาไปเป็นส่วนหนึ่งในนั้น เมื่อปาป้าจอร์จพบว่า ตัวตนและผลงานของเขาไม่ได้ถูกลืม ยังมีคนที่เห็นคุณค่าในตัวเขามาก และเขาสร้างแรงบันดาลใจมหาศาลให้แก่คนรุ่นหลัง และกุสตาฟพบว่า แม้ขาพิการจะไม่สามารถคืนสภาพได้ดั่งเดิม แต่คนรักของเขาไม่เคยมองว่ามันคืออุปสรรคหรือปมด้อยแต่อย่างใด 

          หนังเรื่องนี้ยังเป็นหนังที่ทำเพื่อคนรักหนัง ไม่ว่าจะเป็นคนชอบดูหนัง คนทำหนัง ฯลฯ เพราะมันคือการนำเสนอ ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในช่วงเวลาหนึ่ง แสดงถึงความมหัศจรรย์ที่ภาพยนตร์มอบแก่คนทำหนัง เช่น จุดประกายความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ ฯลฯ และความมหัศจรรย์ที่มอบแก่ผู้ชม เช่น ความตื่นเต้นของคนกลุ่มแรกที่ได้ดูหนังเรื่องแรก ๆ ในโลกภาพยนตร์ที่รถไฟพุ่งเข้าสถานีพวกเขาตกใจนึกว่าจะโดนรถไฟทับ ก็ไม่ต่างจากความตื่นเต้นของคนที่ดูหนังสามมิติครั้งแรก การได้เห็นวิวัฒนาการของภาพยนตร์ ที่ส่งอิทธิพลต่อชีวิตจริง รวมถึงได้ความรู้ ได้ความสุข  ฯลฯ

          ซึ่งตรงกับประโยคสำคัญที่ปาป้าจอร์จกล่าวไว้ ‘ภาพยนตร์นั้นทรงพลัง มันสามารถบันทึกความฝันของผู้คน’

          Hugo เราทุกคนล้วนมีชิ้นส่วนที่ผุพัง


จาก http://www.all-magazine.com/ColumnDetail/allColumDetail/tabid/106/articleType/ArticleView/articleId/3128/-Hugo-.aspx

http://www.all-magazine.com/ColumnDetail/allColumDetail/tabid/106/currentpage/66/Default.aspx

<a href="https://www.youtube.com/v/hR-kP-olcpM" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/hR-kP-olcpM</a>

" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...