ทะเบียนสมรสเจ้าปัญหา
คุณทิชากร (นามสมมติ) แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับนายสุรสีห์ (นามสมมติ) ซึ่งมีอาชีพรับราชการ ปัจจุบันนายสุรสีห์เป็นข้าราชการระดับ 8 ทั้งสองใช้ชีวิตคู่ร่วมกันด้วยความรัก ระหว่างนั้นนายสุรสีห์จะเป็นผู้ดูแลให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับคุณทิชากร โดยที่คุณทิชากรทำหน้าที่เป็นแม่บ้านคอยดูแลเขา แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งนายสุรสีห์ก็ไม่ส่งเงินให้คุณทิชากรอีก ในวัยที่ล่วงเลยมาถึง 55 ปี ตลอดเวลา 16 ปี ที่คุณทิชากรคอยดูแลปรนนิบัตินายสุรสีห์โดยไม่เคยออกไปทำงานนอกบ้านกับความ รู้ที่มีเพียง ป.4 จึงเป็นการยากที่จะหางานทำขณะนี้ เธอจึงมาปรึกษาที่มูลนิธิเพื่อนหญิง
มูลนิธิฯ ได้ทำหนังสือถึงนายสุรสีห์เพื่อให้เข้ามาเจรจา แต่ได้รับการติดต่อกลับมาว่าเขาไม่เคยจดทะเบียนสมรสกับคุณทิชากร ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู และที่สำคัญเขามีลูกมีเมียอยู่แล้ว
เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงบอกกับนายสุรสีห์ว่าคุณทิชากรมีหลักฐานใบทะเบียนสมรสมายืนยันว่าเธอได้ สมรสกับเขาถูกต้องตามกฎหมายแน่นอน นายสุรสีห์ได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ พร้อมกับนำทะเบียนสมรสระหว่างเขาและนางชลลดา (นามสมมติ) ภรรยาของเขา มาแสดงเพื่อยืนยันว่าตนเองมีครอบครัวแล้วและไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับคุณ ทิชากร
นายสุรสีห์อ้างว่าคุณทิชากรอาจขโมยบัตร ประชาชนของตนไป แล้วให้คนอื่นไปจดทะเบียนสมรสแทน มูลนิธิฯ ได้สอบถามไปยังสำนักงานเขตถึงระเบียบปฏิบัติของการจดทะเบียนสมรส ซึ่งได้รับการยืนยันว่าการจดทะเบียนสมรสไม่สามารถทำแทนกันได้ ผู้ที่ต้องการจดต้องไปด้วยตนเองเท่านั้น
เมื่อจำนนต่อข้อมูล นายสุรสีห์จึงยอมรับว่า ตนได้จดทะเบียนสมรสกับภรรยาคนแรกก่อนที่จะมาจดกับคุณทิชากร และได้เสนอให้ค่าเลี้ยงชีพแก่คุณทิชากรเดือนละ 2,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเธอไปยุ่งเกี่ยวกับเขาและครอบครัว แต่เธอไม่ตกลงเพราะเห็นว่าเขาเอาเปรียบเธอทุกกรณี
เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้ชี้แจงว่า ตามกฎหมายการจดทะเบียนระหว่างคุณทิชากรและนายสุรสีห์เป็นการจดทะเบียนสมรสซ้อน กฎหมายถือว่าเป็นโมฆะ
เมื่อคุณทิชากรทราบว่าเป็นสมรสซ้อนก็ไม่ต้องการที่จะใช้ชีวิตร่วมกับนายสุ รสีห์อีกต่อไป ทั้งสองตกลงหย่ากันโดยสมัครใจ โดยนายสุรสีห์จ่ายค่าเลี้ยงชีพจำนวนหนึ่งเป็นการทดแทนให้แก่คุณทิชากร เพื่อนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองต่อไป
เรื่องข้างต้นนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ว่าการพบรักกัน จะใช้ชีวิตร่วมกัน จดทะเบียนสมรสด้วยกันนั้น ต้องมีการศึกษานิสัยใจคอ ศึกษาดูภูมิหลังของแต่ละฝ่ายให้ถ่องแท้เสียก่อน มิฉะนั้น อาจเป็นช่องทางให้ถูกหลอกได้
เกร็ดเล็ก ๆ เพื่อป้องกันการจดทะเบียนสมรสซ้อน
1. ตรวจสอบสถานภาพการสมรสของอีกฝ่ายที่จะสมรสด้วยที่สำนักงานทะเบียนราษฎร์ หรือ ที่ว่าการอำเภอ โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบว่าคุณกำลังจะใช้ชีวิตร่วมคนชื่อนี้ นามสกุลนี้ จึงต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าหากจดทะเบียนสมรสไปแล้ว จะไม่เกิดปัญหาสมรสซ้อนขึ้นภายหลัง
2. ทำความรู้จักคุ้นเคยกับครอบครัวของว่าที่คู่สมรสของคุณ เพื่อคุณจะได้ทราบว่าแท้จริงแล้วเขาหรือเธอมีครอบครัว หรือมีลูกอยู่หรือไม่
3. การคบหาดูใจกันนั้นควรอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ฝ่ายคุณด้วย อย่างน้อยผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน จะได้ช่วยกันตัดสินใจให้คุณได้
หากป้องกันไม่ทันและเกิดเหตุการณ์สมรสซ้อนขึ้นมา คุณสามารถดำเนินการได้ดังนี้
1. ดำเนินการหย่าได้ทันที หากคุณสามารถตกลงกันได้
2. ร้องศาลเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาให้การสมรสนั้นเป็นโมฆะ กรณีที่ไม่สามารถตกลงกันได้ จากนั้นจึงไปดำเนินการหย่า โดยทรัพย์สินที่เคยร่วมสร้างกันมา คุณจะต้องพิสูจน์ต่อศาลและแบ่งทรัพย์สิน
http://www.friendsofwomen.or.th/index.php?key=Y29udGVudD1jb250ZW50JmlkPTE3