อีสานนับได้ว่าเป็นผืนแผ่นดินธรรมที่พระพุทธศาสนาได้ฝังรากลึกมาอย่างยาวนาน ดังปรากฏหลักฐานในตำนานจารีตประเพณี และหนึ่งในประเพณีที่ถือปฏิบัติอย่างยาวนานคือ การกราบไหว้พระธาตุเพื่อระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต เฉกเช่นการไหว้พระธาตุ 4 เมืองที่ชาวอีสานเชื่อว่าหากมีโอกาสกราบไหว้บูชาครบทั้ง 5 แห่ง อานิสงส์จะส่งให้ชีวิตรุ่งเรืองตลอดไป พระมหาเจดีย์ชัยมงคลพระมหาเจดีย์ชัยมงคล แห่งวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด คือสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนต้องจดจำในฐานะพระธาตุที่มีความงดงามในแบบรัตนโกสินทร์ พระมหาเจดีย์ชัยมงคลนี้สร้างขึ้นโดยหลวงปู่ศรี มหาวีโร (ผู้สร้างบุโรพุทโธเมืองไทย) เพื่อให้เป็นศูนย์รวมของพระสงฆ์ในแดนดินอีสาน
สถาปัตยกรรมที่เห็นเป็นการผสมผสานระหว่างความงามของพระธาตุพนมและความยิ่งใหญ่ขององค์พระปฐมเจดีย์ ยอดฉัตรเป็นทองคำแท้ ส่วนองค์เจดีย์มีความกว้างและความสูงด้านละ101 เมตร สร้างบนเนื้อที่ 101 ไร่ ตามชื่อเมืองร้อยเอ็ด องค์มหาเจดีย์สีขาวประดับทองสุกปลั่งรายรอบด้วยเจดีย์รายทั้ง 8 ทิศ ภายในแบ่งออกเป็น 6 ชั้น สำหรับชั้นที่น่าสนใจ ได้แก่ ชั้น 3 ซึ่งเป็นพระอุโบสถและสถานที่จัดแสดงรูปเหมือนของบุรพาจารย์ของไทย ชั้น 4 เมื่อเปิดออกสามารถมองเห็นวิวเมืองร้อยเอ็ดได้ 360 องศา และชั้นที่ 6 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งอัฐิธาตุของพระอรหันต์องค์ต่างๆ
อานิสงส์ที่ได้รับ : เสริมมงคลชีวิต ท่วมท้นชัยชนะด้วยพุทธานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระมหาธาตุแก่นนครพระมหาธาตุแก่นนคร แห่งวัดหนองแวง ตั้งอยู่ที่ถนนกลางเมืองริมบึงแก่นนคร อำเภอเมืองฯ จังหวัดขอนแก่น สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ50 ปี เพื่อเป็นมหามังคลานุสรณ์ 200 ปีเมืองขอนแก่น องค์พระธาตุโดดเด่นด้วยการผสมผสานศิลปะทวารวดีและอินโดจีนเข้าด้วยกันมีพระจุลธาตุ 4 องค์ตั้งอยู่รอบนอก 4 มุม ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียร ส่วนองค์พระธาตุสูง 80 เมตร นับรวมได้ 9 ชั้น ซึ่งทำให้ชาวขอนแก่นนิยมเรียกติดปากว่า “พระธาตุ 9 ชั้น”
นอกจากความโดดเด่นภายนอกแล้ว ภายในพระธาตุยังเป็นที่เก็บรวบรวมพระธรรมคัมภีร์สำคัญของแดนอีสาน และหากมีโอกาสได้เดินไปถึงชั้นที่ 9 ก็จะได้พบกับภาพชาดกและภาพพุทธประวัติที่วาดไว้ตามประตูและหน้าต่างอย่างสวยงาม ความสูงของพระธาตุนี่เองที่ทำให้จิตใจของผู้ที่ขึ้นไปค่อยๆ สงบลง พร้อมที่จะสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุไว้กลางบุษบกบนชั้นที่ 9 ซึ่งจากชั้นนี้สามารถชมวิวเมืองขอนแก่นได้ครบทุกทิศเลยทีเดียว
อานิสงส์ที่ได้รับ : ก้าวหน้ารุ่งเรือง เปรียบดั่งได้สักการะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
พระธาตุยาคูพระธาตุยาคู หรือ พระธาตุใหญ่ เป็นพระธาตุสำคัญที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้หากมาเยือนถิ่นอีสาน เพราะพระธาตุแห่งนี้นอกจากจะเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองฟ้า แดดสงยาง ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ถูกขุดพบในอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์แล้ว เจดีย์แห่งนี้ยังมีการก่อสร้างต่อเติมถึง 3 สมัย โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมถึง 3 รูปแบบด้วยกัน ส่วนฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม พร้อมบันได 4 ทิศ รูปแบบนี้นิยมสร้างในสมัยทวารวดี ถัดขึ้นไปเป็นฐานรูปแปดเหลี่ยมสร้างซ้อนทับฐานเดิม ส่วนรูปแบบเจดีย์นั้นชี้ชัดว่าสร้างในสมัยอยุธยา สุดท้ายคือองค์ระฆังและส่วนยอดเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับการบูรณะขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พระธาตุแห่งนี้แม้จะไม่ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ ทว่าภายในเจดีย์ได้บรรจุอัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองเคารพ และเนื่องจากพระธาตุยาคูเป็นสถานที่เดียวในเมืองฟ้าแดดสงยางที่รอดพ้นจากการถูกทำลายมาทุกยุคทุกสมัยและอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ชาวกาฬสินธุ์จึงเชื่อกันว่า หากได้สักการะพระธาตุยาคูจะทำให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข เบิกบาน และสมบูรณ์พูนสุข
อานิสงส์ที่ได้รับ : ร่มเย็นเป็นสุข ชีวิตเบิกบานสมบูรณ์
พระธาตุนาดูนพระธาตุนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม เปรียบได้กับพุทธมณฑลแดนอีสาน หรือศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประวัติของพระธาตุนาดูนนั้น เริ่มต้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 13 – 15 หรือประมาณ 1,300 ปีที่ผ่านมาซึ่งตรงกับสมัยทวารวดี สันนิษฐานกันว่า บ้านนาดูนแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของนครจำปาศรี ซึ่งเป็นนครที่มีความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาอย่างถึงที่สุดในครั้งอดีต
ในปี พ.ศ. 2522 ประวัติศาสตร์ของนครจำปาศรีได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อมีการขุดค้นพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในตลับทองคำ เงินและสำริด รวมถึงพระพิมพ์จำนวนมาก ถึงขั้นที่เรียกว่า “กรุแตก”เพราะชาวบ้านนับร้อยแห่กันมาขุดพระเครื่องเพื่อนำไปบูชากันถึงปากหลุมเลยทีเดียว ว่ากันว่า หากใครได้กราบไหว้บูชาพระพิมพ์นาดูนซึ่งถูกขุดพบบริเวณเดียวกับพระบรมสารีริกธาตุแล้วไซร้ จะช่วยเพิ่มพูนบารมี เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมความดีแดนอีสานนั่นเอง
อานิสงส์ที่ได้รับ : เพิ่มพูนบารมี เป็นศูนย์ธรรมแห่งความดี
พระธาตุขามแก่นพระธาตุขามแก่น ตั้งอยู่ที่วัดเจติยภูมิ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ถือได้ว่าเป็นพระธาตุเก่าแก่แห่งหนึ่งในแดนอีสาน ลักษณะพระธาตุเป็นเจดีย์ทองคำ สูง 19 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า บริเวณองค์พระธาตุเคยมีต้นมะขามที่ตายแล้วต้นหนึ่ง ครั้นอยู่มาวันหนึ่งมีคณะอัญเชิญพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้าจากเมืองโมรีย์ของกัมพูชาเพื่อไปประดิษฐานยังพระธาตุพนม เดินทางผ่านมาแวะพักและได้อัญเชิญพระธาตุขึ้นประดิษฐานบนตอมะขามนี้ จากนั้นจึงเดินทางต่อไป
เมื่อคณะเดินทางถึงพระธาตุพนม ปรากฏว่าพระธาตุพนมสร้างเสร็จแล้วและไม่สามารถนำพระอังคารธาตุบรรจุลงได้ จึงเดินทางกลับกัมพูชา เมื่อมาถึงตอมะขามที่เคยพัก พบว่าตอมะขามกลับฟื้นยืนต้นมีชีวิตอีกครั้ง ทั้งหมดจึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์ครอบต้นมะขามนั้นไว้พร้อมกับนำพระอังคารธาตุและพระพุทธรูปบรรจุไว้ภายใน และให้นามว่า “พระธาตุขามแก่น” มาถึงปัจจุบัน
ด้วยเหตุที่พระธาตุสร้างบริเวณต้นมะขามที่ตายแล้วฟื้น ชาวขอนแก่นจึงเชื่อว่า หากผู้ที่มีปัญหาสุขภาพได้มากราบไหว้จะช่วยให้อาการดีขึ้น ชาวบ้านที่นี่นิยมมากราบไหว้พระธาตุในวันพุธ เพราะจะมีเฒ่าจ้ำ หรือ กระจ้ำ ซึ่งเป็นคนเฒ่าคนแก่คอยแนะนำวิธีการกราบไหว้ที่ถูกต้อง และจะเป็นผู้นำกล่าวคำนมัสการองค์พระธาตุให้อีกด้วย
อานิสงส์ที่ได้รับ : เปลี่ยนเรื่องร้ายกลายเป็นดี อีกทั้งโรคภัยที่มีหลีกลี้หนีหายดุจดังต้นมะขามที่ตายแล้วฟื้น
จาก
http://www.secret-thai.com/dhamma-practice/place-peace/9262/e-sarn-phratard/