ทึ่ง!! รร.ในสหรัฐ ให้เด็กนั่งสมาธิ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การเรียนให้มากยิ่งขึ่้น

[มดเอ๊กซ]

ทึ่ง!! รร.ในประเทศสหรัฐ ให้เด็กนั่งสมาธิ ก่อนเข้าชั้นเรียน ! เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนให้มากยิ่งขึ่้น!

  เป็นที่ทราบกันดีว่า การนั่งสมาธิ เป็นวิธีการที่ดีที่จะช่วยให้เราอยู่ในความสงบ จิตปลอดโปร่งได้ ที่เราทราบกันดีเพราะว่าในประเทศทางตะวันออก นั้นให้ความสำคัญกับการนั่งสมาธิ เพราะการนั่งสมาธิมีความเกี่ยวโยงเข้าทางศาสนา ไม่ว่าจะเป็นฮินดู – พุทธ หรือ เซน ที่ล้วนแต่มองว่าการนั่งสมาธิทำให้เราเข้าเป็นหนึ่งเดียวของพระเจ้า หรือ สามารถบรรลุสัจธรรมใดๆ ได้อันเป็นแก่นหลักของศาสนาตะวันออก

               แต่ทว่าแท้จริงแล้ว “การนั่งสมาธิ” ไม่ได้ยึดโยงกับศาสนาใดศาสนาหนึ่ง เพราะสมาธิเป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถปฏิบัติได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านพิธีกรรมทางศาสนา อีกทั้งผลจากการนั่งสมาธิ อย่างความรู้สึกสงบ โล่งสบาย ผ่อนคลายนั้น ทุกคนสามารถเข้าถึงด้วยตัวของเราเอง และเมื่อจิตใจเราผ่อนคลายแล้ว ย่อมนำไปสู่การแก้ปัญหาในชีวิตได้

                ปัจจุบันนี้ เรื่องราวของการนั่งสมาธิ ไม่ได้จำกัดแค่ในวงของโลกตะวันออกแล้ว เพราะคนจากอีกซีกโลกหนึ่ง ก็ให้ความสนใจเช่นเดียวกัน เราจะได้เห็นชาวตะวันออกมาเข้าคอร์สอบรมสมาธิกันมาก โดยวันนี้เราจะยกเรื่องราวของการนำ การนั่งสมาธิ ไปปรับใช้ในโรงเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนี้ ...



โรงเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เมืองบอลทิมอร์ใช้การนั่งสมาธิทดแทนการกักบริเวณ



เมื่อเด็ก ๆ มีปัญหา พวกเขาจะส่งเข้าไปในห้องสมาธิ โดยให้เด็กๆได้ออกกำลังกาย อย่างเช่นการเล่นโยคะ และพูดคุยถึงผลลัพธ์หลังจากการนั่งสมาธิกับผู้ดูแล



เมื่อเด็กๆกลับเข้าชั้นเรียน หลังจากการนั่งสมาธิแล้ว ผลคือเด็กๆมีความเอาใจใส่และพร้อมที่จะเรียนต่อ





โดยโครงการ “นั่งสมาธิ” เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในมูลนิธิ “The Holistic Life” (องค์รวมชีวิต) เรียกย่อว่าๆที่มักจัดการกิจกรรมหลังเลิกเรียน และห้องนั่งสมาธิ ในโรงเรียนประเทศบอลทิมอร์ ซึ่งมูลนิธิ HLF จะช่วยพวกเขาได้เรียนรู้วิธีการรับมือความเครียด และความขุ่นข้องหมองใจลงได้.

รับชมคลิป https://www.facebook.com/MicMedia/videos/1240485765974211/

<a href="https://www.youtube.com/v/kcID4kFKb0Q" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/kcID4kFKb0Q</a>



จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/206332/