“วัดร่องเสือเต้น” ที่เที่ยวมาแรงแห่งเชียงราย...งดงามวิจิตร จากฝีมือศิษย์ อ.เฉลิมชัย
วัดร่องเสือเต้น จังหวัดเชียงราย ถือว่าเป็นจังหวัดแห่งหนึ่งที่มีพุทธศาสนสถานสำคัญมากมายหลายแห่ง มีชื่อเสียงและเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่จดจำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวัดพระแก้ว วัดร่องขุน วัดปลาห้วยกั้ง ฯลฯ ทำให้ใครหลายคนนอกจากมาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแล้ว วัดจึงเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจไม่ใช่น้อยที่ทำให้ใครหลายคนอยากมาเยือนเชียงราย
อย่างเมื่อเร็วๆนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งศรัทธามาแรงซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในเรื่องของเอกลักษณ์ความงดงาม ความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งสีสันที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร นั่นก็คือ
“วัดร่องเสือเต้น” ที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยจากฝีมือของศิลปินชาวพื้นบ้าน
นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ผู้ซึ่งเมื่อคราวจบการศึกษาใหม่ๆ ได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาและเป็นลูกมือของอาจารย์เฉลิมชัย ในการสร้างวัดร่องขุน เมื่อมีโอกาสได้มาสร้างวิหารวัดแห่งนี้ จึงได้นำวิชาที่ร่ำเรียนมารังสรรค์ให้เกิดประโยชน์ จนกลายเป็นวัดโดดเด่นในเรื่องสีสันและความสวยงาม
ภายในวิหารวัดร่องเสือเต้นมีความสวยงาม “วัดร่องเสือเต้น” ตั้งอยู่หมู่บ้านร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก ฝั่งด้านซ้ายทางทิศตะวันออกของเทศบาลนครเมืองเชียงราย ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของวัดร้าง ก่อนจะพบเห็นเศษซากอิฐโบราณสถานในวัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เมื่อ 80-100 ปีก่อน จากคำบอกเล่าของคนถ้าคนแก่ เล่าว่าในสมัยนั้นยังไม่มีบ้านเรือนและผู้คนอาศัยอยู่มากนัก สัตว์ป่าจึงมีจำนวนมากโดยเฉพาะเสือ ชาวบ้านที่ผ่านแถวนั้นมักชอบเห็นเสือกระโดดข้ามร่องน้ำไปมาตรงที่แห่งนี้ จึงเรียกบริเวณนี้ต่อๆ กันมาว่า
“ร่องเสือเต้น” รวมทั้งได้เรียกหมู่บ้านใกล้เคียงบริเวณนี้ว่า
“บ้านร่องเสือเต้น” อีกด้วย
วัดร่องเสือเต้นถูกสร้างขึ้นเนื่องจากชาวบ้านร่องเสือเต้น ไม่มีที่ทำบุญในหมู่บ้าน เวลาทำบุญในวันสำคัญต้องไปทำบุญที่วัดอื่นทำให้คนในหมู่บ้านต่างกระจัดกระจายกันไป จึงได้ร่วมกันประชุมศึกษาคิดจะบูรณะวัดร้างตรงบริเวณนี้ เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านร่องเสือเต้น และเป็นที่ประกอบพระพุทธศาสนาในวันสำคัญ จึงบูรณะสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นและให้ชื่อว่า
“วัดร่องเสือเต้น” วิหารวัดร่องเสือเต้น ซึ่งความโดดเด่นของวัด อยู่ที่
“วิหารวัดร่องเสือเต้น” ได้เริ่มการก่อสร้างเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2548 โดยมีขนาดกว้าง 13 เมตร ยาว 48 เมตร สร้างเสร็จเมิ่อ วันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมาปีนี้ ความโดดเด่นอย่างแรกที่เห็นเมื่อมาอย่างวัดแห่งนี้ นั่นคือ วิหารที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ เพราะใช้โทนสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทองเพิ่มความโดดเด่น โดยสีน้ำเงินฟ้าของตัววิหารนั้นแสดงถึงธรรมะของค์สมเด็จพระพุทธเจ้าที่ขจรขจายไปทั่วโลก ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่เป็นความจริงตามหลักเหตุและผลเปรียบเสมือนดังท้องฟ้าที่สดใส เป็นศิลปแนววพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่แฝงด้วยธรรมของพุทธองค์ แสดงถึงการชักนำชาวพุทธให้หันกลับมาเข้าวัด และศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
“พญานาค” ตัวใหญ่ 2 ตัว อยู่คู่กันโดดเด่น ส่วนข้างหน้าพระวิหารนั้น จะมี
“พญานาค” ตัวใหญ่ 2 ตัว อยู่คู่กัน ซึ่งเป็นศิลปะที่ สล่านก ได้นำเอารูปแบบผลงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างบ้านดำ จ.เชียงราย นำมาประยุกต์ อาจารย์ถวัลย์นั้นขึ้นชื่อในเรื่องศิลปะเขา และงา จึงได้นำตรงนี้มาประยุกต์ใช้สร้างขึ้นโดยเฉพาะอวัยวะส่วนที่เป็นฟันพญานาค จะเห็นได้ว่ามีความโค้งงอสวยงามและมีความแหลมคม พญานาคที่นี่จึงดูมีความสวยงาม พลิ้วไหว และน่าเกรงขามไปในตัว
ภายในวิหารที่มีลายเส้นวิจิตงดงาม ส่วนภายในตัววิหารนั้น เมื่อเข้ามาจะพบเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังอลังการที่อยู่รอบทั่วภายใน ซึ่งเป็นภาพวิจิตรที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติต่างๆ ลายเส้นของตัวภาพนั้นจะมีความอ่อนช้อยสวยงาม ตามแบบฉบับของคนวาด และอีกหนึ่งที่งดงามอย่างยิ่งที่ต้องพูดถึง นั่นคือพระประธานที่ชื่อว่า
“พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" พระประธานสิงห์หนึ่งสีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งบริเวณพระเศียรก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก รวมทั้งยังได้รับพระราชทานนามพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ ที่หมายความว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคล เจ้าในความเป็นราชา เป็นที่พึ่งในสามโลก” ซึ่งทำให้ใครหลายคนต่างพาศรัทธาสักการะเพื่อสิริมงคลในชีวิตให้กับตัวเองอีกด้วย
“พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ"พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ประดิษฐานตรงด้านหลังนอกจากนั้นด้านหลังวิหาร ยังมีอีกหนึ่งความงดงามฝีมือช่างสล่านกที่ได้สร้าง พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่โดดเด่น เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติประดิษฐานตรงด้านหลัง สูงเทียบเท่ากับวิหารตัดกับสีน้ำเงินฟ้าสลับทองทำให้ดูสวยงามยิ่ง ถัดไปไม่ไกลจะเห็น "พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์" มีความสูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงฆปรินายก เป็นอีกจุดหนึ่งที่ใครมาเยือนไม่ควรพลาดที่ต้องมาสักการะพระธาตุแห่งนี้
พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์ถือว่าเป็นวัดแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังฮิตในจังหวัดเชียงราย ที่ไม่ควรพลาดในการเยือน ด้วยสีสันของวัดที่โดดเด่นและฝีมือในการสร้างสรรค์ ทำให้วัดแห่งนี้มีความสวยงามไม่แพ้วัดร่องขุนเลยทีเดียว
*****************************************
วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยตั้งอยู่แม่น้ำริมกก ฝั้งซ้ายด้านทิศตะวันออกชองเทศบาลนครเชียงราย ห่างจากสะพานแม่น้ำกก 300 เมตร เดินทางถนนสายแม่จัน-แม่สาย เมื่อข้ามสะพานแม่น้ำกกแล้วถึงทางแยก เลี้ยวซ้านประมาณ 250 เมตร เข้าไปถนนสายแม่ยาวแล้วเลี้ยวซ้ายประมาณ 50 เมตร เข้าสู่วัดร่องเสือเต้น จาก
http://astv.mobi/A1bezDG