ผู้เขียน หัวข้อ: จากแคนาดา สู่ใต้ร่มพุทธศาสนา พระจูเลียน ทิ้งความสบาย ใช้ชีวิตในป่าเขาอย่างสมถะ  (อ่าน 1810 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


กราบได้สนิทใจ! พระจูเลียน ภิกษุชาวต่างชาติ ใช้ชีวิตในป่าเขาอย่างสมถะ ยาวนาน17 ปี ตั้งใจบวชเพื่อสานต่อปณิธานเมื่อชาติที่แล้ว

17 มกราคม ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพของ “พระจูเลียน” ภิกษุชาวต่างชาติ  ที่ใช้ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์อย่างเรียบง่าย สมถะ น่ากราบไหว้ ตามแนวทางของพระป่า



ท่ามกลางบรรยากาศอันหนาวเหน็บ ณ ผืนป่าสบเมย แม่ฮ่องสอน โดยท่านใช้วิธีหาผัก ผลไม้ในป่าฉันเป็นอาหาร และจะบิณฑบาตเพียงสัปดาห์ละไม่กี่ครั้ง ด้วยเหตุว่าไม่อยากรบกวนชาวบ้าน กุฏิของท่านเป็นเหมือนเพิงไม้เล็กๆ  ไม่มีผนัง มีเพียงหลังคาพอบังแดดฝน

โดยเรื่องราวดีๆดังกล่าว ถูกโพสไว้ที่ เฟซบุ๊คของ "จิมมี่ ป้อมสุวรรณ" โดยมีข้อความว่า

 "ท่านออกบิณฑบาตรอาทิตย์ละประมาณสามสี่ครั้ง เนื่องด้วยเห็นว่าชาวบ้านก็อยู่อย่างลำบากจึงไม่อยากรบกวนมากเกินไป"

   "ท่านใช้ชีวิตในป่าเขามาอย่างยาวนาน 17 ปีด้วยความสมถะ โดยกินแต่ผักผลไม้ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย พระจูเลียน หมู่บ้านปูทา หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กราบสาธุ ครับ"

ทั้งนี้ ความคิดเห็นในโลกโซเชียล ต่างเข้ามาชื่นชมและอนุโมทนากับความประพฤติของภิกษุจูเลียน อย่างล้นหลาม และไม่วายจะกล่าวเปรียบเทียบกับภิกษุรูปอื่นๆ ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม และใช้ชีวิตอย่างวัตถุนิยมจนชาวโลกติเตียน



ทั้งนี้ ก่อนที่จะบวชเป็นพระภิกษุ ท่านได้มีความสนใจเรื่องการปฏิบัติสมาธิมาตั้งแต่ครั้งเป็นวัยรุ่น ตั้งแต่อายุราว 16-17 ปีก็ศึกษาวิธีการนั่งสมาธิแบบเซน เมื่อท่านเดินทางมาเมืองไทย ก็ได้ถือศีล 8 อยู่ถึง 1 ปี ตามที่ต่างๆในประเทศไทย  เช่น วัดสวนโมกข์ วัดอัมพวัน(จ.สิงห์บุรี) และ วัดจอมทอง โดยท่านเคยเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการปฏิบัติธรรมว่า





“เมื่อครั้งนั้นอาตมาไม่ได้สนใจเรื่องของการบวชเรียนมากสักเท่าไหร่ สนใจแต่เพียงการนั่งวิปัสสนาสมาธิ ต่อมาอาตมามีความคิดที่จะกลับแคนนาดาเพื่อเรียนวิชาฝังเข็ม แต่เนื่องจากอาตมาได้ฝึกปฏิบัติมาตลอดเวลาและทราบดีว่าอาตมากำลังทำสิ่งที่ควรทำอยู่ และสมควรที่จะบวชเป็นพระเสียที หลายๆคนถามอาตมาว่า จะบวชเพื่ออะไร อาตมาตอบไม่ได้ในชาตินี้ แต่อาตมาคิดว่า อาตมาอยู่ในระหว่างการเดินทาง ต่อจากชาติที่แล้วๆ”

CR.ศนย์รวมความรู้การเกษตร



อ่านเรื่องราวของพระจูเลียน เพิ่มเติมได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/contents/220654/

ขอบคุณภาพ/เนื้อหาจากเฟซบุ๊ค “จิมมี่ ป้อมสุวรรณ”

เรียบเรียงโดย : ไญยิกา เมืองจำนงค์ (ทีมข่าวปัญญาญาณ ทีนิวส์)

จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/220657/



"อาตมารู้สึกอยู่ลึกๆว่า อาตมาเคยอยู่ที่นี่มาก่อนและอาตมาจะอยู่ที่นี่ตลอดไป" เปิดคำสัมภาษณ์ "พระจูเลียน" จากแคนาดาสู่ใต้ร่มพุทธศาสนา ในไทย



"อาตมาออกบิณฑบาตสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพราะอาตมาฉันข้าว 2 วันต่อครั้ง อาตมาฉันอาหารแบบมังสะวิรัติ ฉันกล้วยหลายวันติดกันหลังจากนั้นก็อดอาหารฉันแต่น้ำร้อนตลอดวัน ทำอย่างนี้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ "....

พระจูเลียน ดีซิเลต



  พระจูเลียน ดีซิเลต ชาวแคนนาดานักเรียนแลกเปลี่ยนวิชาเกษตรกรรม อาตมาฝึกสมาธิมาเป็นเวลามากกว่า20ปี การฝึกสมาธิทำให้พบความสุขที่แท้จริงที่เกิดอยู่ภายใน การฝึกสมาธินั้น ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อหาความสุขนั่นแล

             อาตมาสนับสนุนให้ทุกท่านใช้การปฏิบัติสมาธิในการดำเนินชีวิต การนั่งสมาธิคือหนทางเดียวที่จะไปสู่ความอิสระที่แท้จริง เดิมอาตมามีพื้นเพอยู่ที่ประเทศแคนนาดา ซึ่งจัดได้ว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยพอสมควรประเทศหนึ่ง สมัยที่อาตมาเรียนหนังสือนั้น อาตมานับว่าเป็นนักเรียนที่ฉลาดเฉลียว เมื่อทำงานหาเงิน ก็หาเงินได้มาก แต่ในประเทศแคนนาดานั้นก็เหมือนกับประเทศอื่นทั่วๆไปตามแบบฝรั่ง อาตมาไม่มีความสุข มีแต่ความเคร่งเครียด หลังจากนั้นจึงได้ทิ้งทุกอย่าง และได้เข้าสู่การเป็นผ้าขาวและเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่อ17ปีที่แล้ว

            จากนั้นเป็นต้นมา ใจของอาตมาก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ อาตมาจนมาก แต่กลับมีความสุขมาก อาตมาคิดว่าสิ่งนี้คือหนทางที่แท้จริง อาตมามั่นใจเกินร้อยว่า อาตมากำลังเดินอยู่บนทางที่ถูกต้องเพื่อมุ่งไปสู่หนทางการดับทุกข์ อาตมาเริ่มสนใจการทำสมาธิมาตั้งแต่เมื่อยังเป็นวัยรุ่น เริ่มศึกษาด้วยตนเองตั้งแต่สมัยที่อยู่แคนนาดา เมื่ออายุ16-17ปี ศึกษาการนั่งสมาธิจากการอ่านหนังสือ ทั้งแบบเซนของพระญี่ปุ่น (Zen) และการฝึกโยคะ การนั่งสมาธินั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอาตมา เมื่อตอนเริ่มต้นอาตมาก็ได้เข้าถึงสมาธิได้โดยง่าย อาจจะเป็นเพราะว่าคงจะติดมาจากชาติที่แล้วกระมัง



            แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่อาจจะทราบได้ อาตมามีความปรารถนาที่จะมาเมืองไทย ดันนั้นอาตมาจึงมาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อตอนอายุ18ปี ในโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ในด้านการทำเกษตรกรรม เมื่อมาถึงได้ไม่นาน อาตมารู้สึกอยู่ลึกๆว่า อาตมาเคยอยู่ที่นี่มาก่อนและอาตมาจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ระหว่างที่อยู่ในโปรแกรมของนักเรียนแลกเปลี่ยน อาตมาก็ได้ไปนั่งสมาธิตอนเย็นทุกๆวัน ที่วัดใกล้ๆหมู่บ้านที่อาตมาอาศัยอยู่ ในจังหวัดสระบุรี

             อาตมากลับไปยังแคนนาดาและได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2541 ตอนแรกนั้นอาตมาได้อาศัยอยู่กับเพื่อนชาวไทยที่ได้พบกันในโครงการแลกเปลี่ยน ที่นอกเมืองทางภาคใต้ ทำงานบ้าง นิดๆหน่อยๆที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ จากนั้นจะได้เข้าสู่การเป็นผ้าขาว ถือศีล 8 อยู่1ปีในที่ต่างๆในประเทศไทย เช่น วัดสวนโมกข์ วัดอัมพวัน(จ.สิงห์บุรี) และ วัดจอมทอง เมื่อครั้งนั้นอาตมาไม่ได้สนใจเรื่องของการบวชเรียนมากสักเท่าไหร่ สนใจแต่เพียงการนั่งวิปัสสนาสมาธิ ต่อมาอาตมามีความคิดที่จะกลับแคนนาดาเพื่อเรียนวิชาฝังเข็ม แต่เนื่องจากอาตมาได้ฝึกปฏิบัติมาตลอดเวลาและทราบดีว่าอาตมากำลังทำสิ่งที่ควรทำอยู่ และสมควรที่จะบวชเป็นพระเสียที

            หลายๆคนถามอาตมาว่า จะบวชเพื่ออะไร อาตมาตอบไม่ได้ในชาตินี้ แต่อาตมาคิดว่า อาตมาอยู่ในระหว่างการเดินทาง ต่อจากชาติที่แล้วๆโยมพ่อโยมแม่ของอาตมาไม่สามารถที่จะเข้าใจในเรื่องนี้ พวกท่านได้ปรึกษานักจิตวิทยาและสงสัยว่าพวกท่านทำอะไรผิด อาตมาถึงอยากบวชเป็นพระในพุทธศาสนา คนฝรั่งคิดไม่เหมือนคนไทย



       สำหรับฝรั่งแล้ว หากท่านต้องการที่จะทำประโยชน์ให้แก่โลกนี้ ท่านต้องไปเรียนหนังสือ ทำงานและหาอาหาร/ขนมปังมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร มันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากในการทำความเข้าใจสำหรับโยมพ่อ อาตมารู้สึกไม่ประสบความสำเร็จในการสื่อสารกับโยมพ่อนิดหน่อย โยมพ่อเกิดในครอบครัวที่ยากจน และมีพี่น้อง11คน โยมพ่อบวชในศาสนาคริสต์เพื่อที่จะได้เรียนหนังสือ ท่านออกจากการเป็นนักบวชเมื่อพบกับโยมแม่ของอาตมา แต่ปัจจุบันท่านก็ค่อยๆทำความเข้าใจในการเดินทาง ในแบบของอาตมา โยมแม่มาเมืองไทยทุกๆ 2 ปี โยมพ่อไม่ได้มาเมืองไทยสัก 6 ปี แล้ว ท่านควรจะมาเมืองไทยในหน้าหนาวที่จะถึงนี้ อาตมาออกจากประเทศไทย เพียง 1 ครั้งใน 18 ปีนี้ หากโยมพ่อโยมแม่จากไป อาตมาคงไม่ไปจากเมืองไทยอีกเลย ประเทศไทยได้กลายเป็นบ้านของอาตมาไปเสียแล้ว

           I now practice meditation for over 20 years. Because of my practice, I now found true sincere peace and happiness from within. This is what meditation is all about. I encourage everyone to go forward with meditation life style. Whatever your religion or no religion ; Buddhism is not about any mental believes or blind faith, Buddhism is about purity of mind! Buddhism is about HERE and NOW! Meditation is the only path of true FREEDOM! I am originally from Canada which is one of the richest country in the world. I was a very smart student and could have done what I wanted and earned a lot of money. But in Canada like most of western people, I was quite stressful and not really a happy man. My mind was weak. So I gave up everything and choose ascetic/monk life 17 years ago. Since than, my state of mind totally changed. I am very poor now, but I am truly a HAPPY man! I definitely choose the right pa Earth!

พระฝรั่งบ้านปูทา(พระจูเลียน) ฐานปฏิบัติการบ้านแม่สามแลบ ร้อย ทพ. 3602 ม. 1 ต. แม่สามแลบ อ. สมเมย จ. แม่ฮ่องสอน 58110

จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/220654/






ณ ที่นี้...หมู่บ้านเลโค๊ะ อาตมามีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่นี้ จะสร้างกุฏิและสิ่งปลูกสร้างสำหรับพักอาศัย รวมทั้งจะปลูกพืชผักและผลไม้สำหรับชาวบ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ห่างไกลและยากจนมากมาเป็นเวลากว่า 17 ปี ชาวบ้านได้รับอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย อาตมาก็เลยอยากจะช่วยให้พวกเขาได้รับอาหารที่ดีและปลอดภัย อาตมาต้องการที่จะช่วยเหลือชาวบ้านเหล่านี้อย่างมาก

ที่จริงแล้วอาตมารักและมีความสุขที่ได้อยู่ที่หมู่บ้านปู่ทาในปัจจุบันนี้... ถึงแม้ว่าที่นี่จะอัตคัดขัดสนและห่างไกลจากความสะดวกสบายอย่างสิ้นเชิง ก่อนที่อาตมาจะย้ายมาพักอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้

อาตมาเคยอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านซึ่งอยู่บนภูเขาสูง อากาศเย็นสบาย ไม่มีแมลงรบกวน สามารถนอนหลับบนระเบียงได้ตลอดคืนในฤดูฝน โดยไม่ต้องกางมุ้งเลย แต่หมู่บ้านปู่ทานี้ ตั้งอยู่บนเนินเล็กๆ มีแมลงจำนวนมากซึ่งสร้างปัญหาให้กับอาตมาและชาวบ้านมาตลอด

หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า มีโรคมาลาเรียชุกชุม ชาวบ้านบางคนเป็นไข้มาลาเรียมากกว่า 20 ครั้ง และปีที่แล้วอาตมาก็เป็นไข้มาลาเรียด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่ายุงก็คือพวกแมลงตัวเล็กๆ ตัวริ้น ไรต่างๆ ซึ่งในหน้าฝนจะมีจำนวนมหาศาลและมันสามารถเล็ดลอดเข้ามาในมุ้งได้ ทำให้ไม่สามารถนอนหลับได้เลยตลอดช่วงหน้าฝน



การเดินทางก็เป็นปัญหาใหญ่ของที่นี่...การเดินทางเข้ามาในหมู่บ้านนี้ต้องใช้เวลากว่าชั่วโมงเพื่อนั่งเรือข้ามแม่น้ำสาละวิน หลังจากนั้นต้องเดินเท้าอีกประมาณ 5 กิโลเมตรและในหน้าฝนการเดินทางจะยิ่งลำบากมากขึ้นเพราะอาตมาต้องแบกข้าวของทุกอย่างไว้บนหลังอีกด้วย อาตมาคิดถึงอนาคตเมื่ออายุ 95 ปี อาตมาจะสามารถเดินในสภาพแบบนี้ได้อย่างไร

อาตมาอยากจะปลูกพืชผักที่ใช้เป็นอาหารด้วยตัวเอง เพราะชาวบ้านก็ทำไร่ไถนาโดยแรงควายและผลผลิตก็ไม่เพียงพอสำหรับการบริโภคในครัวเรือนด้วย พวกเขายากจนและอาตมาก็เกรงใจที่จะไปรบกวนอาหารของพวกเขาด้วย อาตมาออกบิณฑบาตสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพราะอาตมาฉันข้าว 2 วันต่อครั้ง อาตมาฉันอาหารแบบมังสะวิรัติ ฉันกล้วยหลายวันติดกันหลังจากนั้นก็อดอาหารฉันแต่น้ำร้อนตลอดวัน ทำอย่างนี้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์

อาตมาต้องเดินทางไป 4 หมู่บ้านบนภูเขาเพื่อหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างกุฏิและปลูกพืชผักและผลไม้ อาตมาเลือกที่หมู่บ้านเลโค๊ะนี้ ช่างเป็นพื้นที่ในฝันอย่างสมบูรณ์แบบ...ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อากาศเย็นสบาย มีแมลงน้อย อยู่ห่างชายแดนพม่า ไม่มีเชื้อไข้มาลาเรีย ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีไฟฟ้าแต่กำลังมีแผนที่จะติดตั้งไฟฟ้าเร็วๆนี้ การเดินทางก็สะดวก ไม่ต้องนั่งเรือเพราะสามารถขับเข้ามาถึงหมู่บ้านได้เลย



ที่นี่มีสำนักสงฆ์อยู่ในหมู่บ้านด้วย แต่อาตมาชอบความสงบวิเวก ชอบฟังเสียงสายน้ำไหลและในฤดูหนาวก็จะมองเห็นทะเลหมอกในยามเช้า จึงได้แยกออกมาสร้างกุฏิที่นอกหมู่บ้าน ซึ่งในหมู่บ้านเดิมนั้นมีหมอกปกคลุมจนถึงยามสายสิบโมงกว่าเพราะอยู่ติดแม่น้ำสาละวินนั่นเอง

อาตมารู้สึกใจหายที่ต้องจากหมู่บ้านปู่ทานี้ไป อาตมารู้จักชาวบ้านทุกคนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะรู้สึกเศร้ามากที่ต้องทิ้งต้นไม้ที่ปลูกไว้ อาตมาลงทุนสร้างที่นี่ไปมากพอสมควรแต่ก็ไม่มีอะไรเสียเปล่า อาตมาจะไม่ยังไม่ย้ายไปจนกว่าจะถึงฤดูฝนและต้นไม้ยังต้องการการดูแลอีกอย่างน้อย 2 ปี ก่อนที่จะออกดอกออกผลให้แก่ชาวบ้านทุกคนได้มีผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหาร ไม่มีสารพิษตกค้างได้กินตลอดปี ซึ่งชาวบ้านคงจะจดจำอาตมาได้ตราบนานเท่านาน

"อาตมาไม่สามารถจำวัดช่วงหน้าฝนที่หมู่บ้านปู่ทาได้อีกต่อไปถ้าไม่มีการซ่อมแซมกุฏิ เนื่องจากเสาของกุฏิไม่มีความแข็งแรงพอ และทุกอย่างสามารถพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ"

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่จะบริจาคเงินในการสร้างกุฏิหลังใหม่และสนับสนุนการปลูกพืชผักและผลไม้ในที่แห่งใหม่นี้ ก็สามารถบริจาคได้ สำหรับท่านที่อยู่ในพื้นที่แม่สะเรียงก็สามารถบริจาคต้นกล้าพันธุ์ไม้ผลหรือพันธุ์สมุนไพรเพื่อปลูกหน้ากุฏิหลังใหม่ได้

ขอเจริญพร



เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูล-ภาพเพจ : ศูนย์รวมความรู้การเกษตร

------------
ที่มา http://deeps.tnews.co.th/contents/220644/

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1426359587409042.1073742091.1174989195879417&type=3

เพิ่มเติม

<a href="https://www.youtube.com/v/K6G1AfVAKck" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/K6G1AfVAKck</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/tzWue63HUWc" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v/tzWue63HUWc</a>


" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...