ผู้เขียน หัวข้อ: “สัพพหหุสูตร” ว่าด้วยถ้ากระทำการฆ่าครบองค์ 5  (อ่าน 1229 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด


“ความรู้เรื่องสีล ๕ รักษาสีล ๕ แล้วได้อะไร?”
ศีลข้อที่ ๑ ปาณาติปาตาเวรมณี เว้นจากฆ่าสัตว์ด้วยตนเองหรือใช้ผู้อื่นฆ่า
=>ถ้าไม่เว้นอะไรจะเกิดขึ้น?
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปาณาติบาตอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัยฯ”
ที่มาจากพระสูตรชื่อ “สัพพหหุสูตร” เล่ม ๒๓ ข้อ ๑๙๒

=>อย่างไรเรียกว่าปาณาติบาต?
การฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง หรือ ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ซึ่งประกอบด้วยองค์ 5 ประการคือ
๑.สัตว์นั้นมีชีวิต
๒.รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
๓.มีจิตคิดจะฆ่า
๔.ทำความเพียรเพื่อฆ่า
๕.สัตว์ตายเพราะความเพียรนั้น

ถ้ากระทำการฆ่าครบองค์ 5 ประการนี้ ศีลข้อที่ ๑ ก็ขาด!
ปโยคะ คือ ความเพียรพยายามในการกระทำปาณาติบาต นั้นมี 6 อย่างคือ

๑.สาเหตฺถิกปโยค คือ สังหารด้วยตนเอง
๒.อาณตฺติกปโยค คือ ใช้ผู้อื่นหรือใช้วาจาสังหาร
๓.นิสฺสคฺคียปโยค คือ ใช้อาวุธสังหาร
๔.ถาวรปโยค คือสังหารด้วยหลุมพราง
๕.วิชฺชามยปโยค คือ สังหารด้วยวิชาคุณ
๖.อิทฺธิมยปโยค คือ สังหารด้วยฤทธิ์

=>ถ้ากระทำปาณาติบาตแล้วจะได้อะไร?
การกระทำปาณาติบาต คือการฆ่าสัตว์ หรือมนุษย์ ครบองค์ประกอบดังกล่าวแล้ว จะได้รับผล ๒ ขั้นคือ

๑.ได้รับผลในปฏิสนธิกาล คือ เกิดในนรก, ดิรัจฉาน, หรือเปรต
๒.ได้รับผลใน ปวัตติกาล คือ ได้รับผลหลังจากเกิดแล้วและผลที่จะได้รับในปวัตติกาลนี้ ผู้ทำปาณาติบาตจะครบองค์ปาณาติบาตหรือไม่ครบองค์ก็ตาม ถ้าเกิดเป็นมนุษย์จะได้รับผลอีก ๙ ประการคือ
๑.เป็นคนทุพพลภาพ
๒.เป็นคนรูปไม่งาม
๓.มีกำลังกายอ่อนแอ
๔.เป็นคนเฉื่อยชา
๕.เป็นคนขี้ขลาด

๖.ฆ่าตัวตาย, หรือถูกผู้อื่นฆ่า
๗.โรคภัยเบียดเบียน
๘.ความพินาศของบริวาร
๙.อายุสั้น

ผลทั้ง ๙ ประการนี้ เป็นเศษของกรรมให้ผลหลังจากไปเกิด เป็นสัตว์นรก, ดิรัจฉาน หรือ เปรตมาแล้วเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ก็จะได้รับผลทั้ง ๙ ประการ เรียกว่า ดอกเบี้ยบาป และดอกเบี้ยบาปนี้ให้ผลต่อเนื่องกันหลายชาติ ไม่ใช่ชาติเดียวเท่านั้น

รักษาศีลข้อที่ ๑ แล้วได้อะไร?
การละเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการฆ่ามนุษย์เสียได้ จะได้รับผล ๒ ขั้นคือ

๑.ได้รับผลในปฏิสนธิกาล คือ ได้เกิดเป็นมนุษย์ หรือ เทวดา เรียกว่า กามสุคติภูมิ
๒.ได้รับผลในปวัตติกาล คือ หลังจากเกิดแล้วเช่นถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์จะได้รับผลอีก ๒๓ ประการ
อานิสงส์ของการรักษาศีลข้อที่ ๑ มี ๒๓ ประการได้แก่
๑.สมบรูณ์ด้วยอวัยวะน้อยใหญ่
๒.มีร่างกายสมส่วน
๓.สมบรูณ์ด้วยกำลังกาย
๔.มีเท้างามประดิษฐานลงด้วยดี
๕.เป็นผู้มีผิวพรรณสดใส

๖.มีรูปโฉมงามสะอาด
๗.เป็นผู้อ่อนโยน
๘.เป็นผู้มีความสุข
๙.เป็นผู้แกล้วกล้า
๑๐.เป็นผู้มีกำลังมาก

๑๑.มีถ้อยคำสละสลวยเพราะพริ้ง
๑๒.มีบริษัทรักใคร่ไม่แตกแยกจากตน
๑๓.เป็นคนไม่สะดุ้งตกใจกลัวต่ออภัยเวร
๑๔.ข้าศึกศัตรูทำร้ายไม่ได้
๑๕.ไม่ตายด้วยความเพียรของผู้อื่น

๑๖.มีบริวารหาที่สุดมิได้
๑๗.มีรูปร่างสวยงาม
๑๘.มีทรวดทรงสมส่วน
๑๙.มีความเจ็บไข้น้อย
๒๐.ไม่มีเรื่องเสียใจเศร้าโศก

๒๑.เป็นที่รักของชาวโลก
๒๒.ไม่พลัดพรากจากสิ่งที่รัก และ ชอบใจ
๒๓.มีอายุยืน

คัดลอกส่วนหนึ่งมาจากหนังสือ “ความรู้เรื่องสีล(ศีล) ๕ รักษาสีล(ศีล) ๕ แล้วได้อะไร?”
โดยอาจารย์สรรค์ชัย พรหมฤาษี

fbใบโพธิ สิกขา‎ >>กลุ่มโพธิสัตว์บารมี