ถ้าสตีฟ จ็อบส์ คือแอปเปิ้ล เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5qQXpNemswTUE9PQ==§ionid=-
เว็บไซต์ข่าวเดลี่เมล์ของอังกฤษ รายงานเรื่องฮือฮาของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โค้ชใหญ่สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดคอร์สสอนนักศึกษาและนักวิชาการ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บิสิเนส สคูล ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ถึงเคล็ดลับที่ทำให้เป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ จากการทำทีมปีศาจแดงมา 26 ปี
เดวิด กิลล์ ซีอีโอของแมนยู ให้คำจำกัดความย่อๆ ว่า "ถ้าสตีฟ จ็อบส์คือแอปเปิ้ล เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"
เซอร์อเล็กซ์จะมีอายุครบ 71 ปีในวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค.นี้ ให้เคล็ดด้านบริหารการจัดการกับนักวิชาการของสถาบันชั้นนำสหรัฐ ในงานศึกษาของแอนนิต้า เอลเบิร์ส และทอม ดาย เรื่อง Sir Alex Ferguson: Managing Manchester United เป็นพิมพ์เขียวแผนการทำงานขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเตรียมตัวในแต่ละฤดูกาล พิธีการที่ใช้ในแต่ละเกมการแข่งขัน นักเตะที่เล็งไว้ การควบคุมในห้องแต่งตัว และข้อผิดพลาดต่างๆ ของตนเอง
การศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ท่านเซอร์เตรียมทีมอย่างไร วิธีการกำกับให้ลูกทีมพูดคุยกันเป็นอย่างไร และวิธีการปรับทิศทางการเล่นในช่วงครึ่งหลังทำอย่างไร
"ผมจำได้ว่า ตอนไปดูการแสดงของแอนเดรีย โบเชลลี นักร้องโอเปร่า ก่อนหน้านั้น ผมไม่เคยไปดูการแสดงคอนเสิร์ตคลาสสิคเลยในชีวิต แต่พอได้ดู ผมเห็นถึงการประสานงานของทีมเวิร์ก มีจังหวะคนเริ่ม อีกคนหยุด มันสุดยอดมาก
สำหรับวิธีการกำกับดูแลนักเตะที่ขึ้นชื่อว่าสุดเฮี้ยบนั้น เซอร์อเล็กซ์กล่าวว่า เราจะลงโทษปรับนะ เวลาทำผิด แต่จะเก็บเป็นเรื่องภายใน คุณจะเสียการควบคุมไม่ได้ ถ้าคุณต้องทำงานกับมืออาชีพระดับสุดยอดกว่า 30 คนที่ล้วนเป็นเศรษฐี ถ้าใครหลุดจากการควบคุมของผม นั่นคือจบนะ
อย่างไรก็ตาม เซอร์อเล็กซ์กล่าวว่า ตัวเองก็ต้องปรับเข้าหานักเตะรุ่นใหม่เหมือนกัน เพราะนักเตะทุกวันนี้ถูกประคบประหงมมากกว่าแต่ก่อน ดังนั้นจึงเปราะบางกว่าแต่ก่อน ซึ่งนั่นมันก็เกิน 25 ปีมาแล้ว
"เมื่อก่อนผมกร้าวมากๆ ผมกระเหี้ยนกระหือรือจะชนะให้หมด แต่ตอนนี้ ผมสุขุมมากขึ้น ผมรับมือนักเตะที่เปราะบางได้มากขึ้น คุณจะตะโกนโหวกเหวกตลอดไม่ได้หรอก มันไม่เวิร์ก แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็ช่วยผมได้ในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้คน และช่วยพัฒนาทีมมาตลอดช่วงหลายปี"
เซอร์กล่าวกับทีมงานหนังสือพิมพ์ฮาร์วาร์ด กาแซ็ต ด้วยว่า มาถึงช่วงชีวิตตอนนี้ รู้สึกว่า การช่วยเด็กรุ่นใหม่เดินสู่เส้นทางของตัวเองให้จัดการชีวิตให้เป็น กลายเป็นหน้าที่ที่ต้องทำและสำคัญสำหรับผมไปแล้ว