The Review | Parasite ชนชั้นปรสิต ภาพยนตร์ที่เสียดสีสังคมมนุษย์ได้สนุกอย่างเหลือเชื่อ
เราอยากให้คุณลบความเชื่อที่ว่าหนังรางวัลปาล์มทองคำต้องดูยากไปเลย สำหรับหนังเรื่อง Parasite (2019) หรือ ชนชั้นปรสิต ผู้ชมสามารถเสพความบันเทิงได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยการตีความ หรือกะเทาะประเด็นปัญหาทางสังคมให้ปวดหัวเพื่อทำความเข้าใจอะไรให้ยุ่งยาก หากพูดกันแบบหยาบๆ อาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สมศักดิ์ศรีที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ เพราะหนังไม่ได้ดูยาก ไม่ต้องปีนบันไดดูเหมือนกับหนังรางวัลอีกเป็นร้อยๆ เรื่องที่เคยมีมา
แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง บองจุนโฮ ผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ ได้เคลือบภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยประเด็นความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นได้อย่างไม่น่าระแคะระคาย ขนาดที่ทำให้คนดูผู้ถูกกระทำจากอิทธิพลของลัทธิทุนนิยมบางคนสามารถแค่นหัวเราะได้อย่างน่าทึ่ง หากใครเคยชมภาพยนตร์ของผู้กำกับคนนี้มาบ้างอย่าง Okja, The Host หรือ Snowpiercer ก็คงพอสัมผัสได้ถึงลายเซ็นความเป็นภาพยนตร์ตลกร้ายและเสียดสีประเด็นทางการเมืองและสังคมยุคปัจจุบันกันได้ ด้วยความเก่งกาจของผู้กำกับผสมกับฝีไม้ลายมือของนักแสดง Parasite จึงเป็นหนังที่จะทำให้ลุ้นจนนั่งไม่ติดเบาะตลอดทั้งเรื่อง
Synopsis เรื่องราวกล่าวถึงครอบครัวชนชั้นล่างฐานะยากจนที่อาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านใจกลางมหานครโซล พ่อและแม่ตกงาน ลูกชายและลูกสาวสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ เรื่องราวอันหฤหรรษ์ได้เริ่มต้นขึ้นทันทีหลังจากเพื่อนมัธยมของ คิมกีวู (ชเวอูชิก) ลูกชายคนโต มาทาบทามให้เขาสวมบทบาทเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้กับลูกสาวครอบครัวมหาเศรษฐีตระกูลปาร์กแทน กระทั่งเขาเห็นช่องทางในการเกาะครอบครัวเศรษฐีนี้ จึงได้พา คิมคิจอง (พัคโซดัม) น้องสาว มาสวมรอยเป็นนักเรียนนอกสอนศิลปะให้ลูกชายคนเล็ก คิมกีแท็ก (ซงคังโฮ) ให้พ่อของเขามาเป็นคนขับรถ และให้ คิมชุงซุค (จัง ฮเยจิน) ผู้เป็นแม่ เข้ามาเป็นแม่บ้าน เมื่อสิ่งแปลกปลอมทั้งหมดได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวของคนชั้นสูงอย่างเต็มตัว เรื่องราวก็ดำเนินไปสู่บทสรุปที่คาดไม่ถึง
เนื่องด้วยปัญหาความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นเป็นประเด็นปัญหาสากลที่คนทั่วทั้งโลกต่างพบเจอในปัจจุบัน ซึ่งนั่นอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ บองจุนโฮ คว้ารางวัลปาล์มทองคำมาครอบครอง หากพูดถึงประเด็นนี้ ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ก็มักจะนำเสนอภาพที่เป็นสูตรสำเร็จ คนจนก็มักจะถูกลิดรอนสิทธิและเสรีภาพจากคนรวยเสมอ กระทั่งผู้ชมรู้สึกสงสารชีวิตอันเส็งเคร็งของผู้ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ
รังแกคนจน คนหาเช้ากินค่ำ ลูกก็ต้องเลี้ยง เห็นใจกันบ้างสิ จริงอยู่ที่ประเด็นหลักของ Parasite คือการแสดงความแตกต่างของบ้านที่มีฐานะกับบ้านที่ยากจน แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ผลิตซ้ำด้วยภาพจำดังกล่าว ภาพยนตร์เร่งเร้าให้คนดูรู้สึกสะใจไปกับการเอาใจช่วยคนจนที่ทำผิด แม้จะขัดต่อหลักศีลธรรมที่ควรค่าแก่การยึดถือเพียงใดก็ตาม จนท้ายที่สุดแล้วก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่าเรากำลังเก็บกดจากแรงกระแทกทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองที่กดขี่ข่มเหงเราอยู่หรือเปล่า และเมื่อเราเห็นภาพผู้คนที่สามารถลุกฮือตอบโต้กับสิ่งเหล่านั้นได้ เราก็เผลอเอาตัวเองลงไปเป็นตัวละครตัวนั้น ปลดปล่อยสำนึกคิดจากจิตใจอันมืดบอดของตนเองออกมา
โลกของคนรวยกับคนจนที่เป็นเหมือนกับจักรวาลคู่ขนาน ไม่มีทางหลอมรวมเข้ากันเป็นหนึ่งได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นบางประการที่ทำให้คนสองโลกมาพบพานมาเจอกัน ในโลกใบเดียวกันของครอบครัวคนจนที่ใช้ชีวิตในห้องเช่ารูหนูชั้นใต้ดินแสนสกปรก เสาะหา Wi-Fi ฟรีจากเพื่อนบ้าน ก็เป็นโลกใบเดียวกับครอบครัวที่ใช้ชีวิตในบ้านที่ใหญ่โต หรูหรา โอ่อ่า ยกตัวสูงขึ้นมาจากพื้นถนน
Global Wealth Report 2018 เผยว่า ในขณะที่ความมั่งคั่งของโลกโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนกลับถ่างขยายไปทุกพื้นที่ทั่วโลก และมีแนวโน้มว่าช่องว่างนี้จะถูกถ่างขยายเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างต่อเนื่องในอนาคต การกระจายรายได้จึงถูกนำเสนอขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ผู้คนจำนวนมากสนับสนุนให้คนรวยช่วยเหลือคนจนด้วยวิธีการง่ายๆ เช่น การบริจาค พวกเราเองในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกที่ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็เป็นเหตุผลที่ควรค่าในการช่วยเหลือกัน
ก็เรานั้นมันคนละชั้น ทว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการกระจายรายได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น การ์เร็ตต์ ฮาร์ดิน แนะนำว่า ให้ลองนึกภาพว่าคนรวยทุกคนมีอภิสิทธิ์ในการอยู่บนเรือลำหรู ส่วนคนจนทั้งหลายก็ถูกลอยแพค้างเติ่งอยู่กลางทะเล ตามหลักศีลธรรมแล้ว คนรวยก็สมควรที่จะช่วยชีวิตให้คนจนได้มีโอกาสหายใจหายคอบนเรือลำหรูบ้าง แต่ด้วยความสามารถในการบรรจุที่จำกัด ไม่สามารถช่วยเหลือคนได้ทั้งหมด เพราะจะทำให้เรือบรรทุกคนเกินน้ำหนักและจมดิ่งลงในท้ายที่สุด ครั้นจะช่วยเหลือเพียงแค่คนเพียงบางกลุ่มก็จะเป็นข้อครหาที่น่าตั้งคำถามถึงความชอบธรรม หรือหลักเกณฑ์การเลือกว่าจะรับใครขึ้นหรือไม่ขึ้นเรือ กลับกลายเป็นว่าเลือกที่จะไม่ช่วยเหลือใครเลยสักคนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
นั่นเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง?
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อชนชั้นล่างไม่อาจพึ่งพาคนร่ำคนรวยให้ยกระดับคุณภาพชีวิตตนได้ เพราะนั่นไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้าย แต่กระแสบริโภคนิยม (consumerism) ก็ทำให้ผู้คนไม่อาจใช้ชีวิตโดยปราศจากเงินได้ แผนการเกาะคนรวยกินก็เป็นหนทางหนึ่งที่ครอบครัวชนชั้นปรสิตนี้เลือกใช้ และพวกเขาก็สามารถใช้มันได้อย่างดีเสียด้วย
https://www.youtube.com/v/SEUXfv87Wpk เราไม่อยากจะเล่าเรื่องราวของหนังไปมากกว่านี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการสปอยล์จนคุณหมดสนุกไปเสียก่อน แต่ขอพูดเลยว่า เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้เข้มข้น ทำให้คนดูลุ้นและต้องติดตามอย่างนั่งไม่ติดเบาะ มีการหักมุมตลอดทั้งเรื่องจนไม่สามารถคาดเดาอะไรได้อีก และยอมแพ้ที่จะคาดเดาสิ่งที่ตัวละครกำลังจะทำ แล้วปล่อยใจรอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในหนังบ้างอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะการเสียดสีประเด็นชนชั้นได้อย่างเฉียบคมของผู้กำกับและคนเขียนบทที่สร้างความตลกร้ายไปกับชีวิตอันหฤหรรษ์ของตัวละครตลอดทั้งเรื่อง จนกระทั่งคุณเองก็ไม่อาจถูกต้านทานด้วยหลักจริยธรรมอันดีงาม จมดิ่งเข้าสู่ดาร์กไซด์ คอยลุ้นเอาใจช่วยไปกับตัวละครไปด้วยจิตใจอันมืดบอด
หลังจากที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบ นอกจากรอยยิ้มแห้งๆ ที่หนังสะท้อนถึงความจริงของชีวิตในวันที่ทุนนิยมกลืนกินจนเกือบหมดโลกแล้ว สิ่งหนึ่งที่ตามมาก็คือเราจะเสียดายมาก ถ้าหากคุณพลาดหนังเรื่องนี้
จาก
https://adaybulletin.com/article-review-movie-parasite/38242