ผู้เขียน หัวข้อ: Along with the Gods ฝ่า 7 นรก ไปกับพระเจ้า: โลกแฟนตาซีของชีวิตหลังความตาย  (อ่าน 82 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


ฝ่า 7 นรก ไปกับพระเจ้า: โลกแฟนตาซีของชีวิตหลังความตาย

ผู้เขียน: ปองกมล สุรัตน์ หมวด: รีวิวสุนทรียะในความตาย

กลุ่มควันมหึมาปกคลุมทั่วที่เกิดเหตุ เสียงหวอ เสียงตะโกนดังระส่ำ ผู้คนแตกตื่น
ในเวลานั้น ‘เขา’ กลับปราศจากความรู้สึกอันใด
คล้ายกาลเวลาหยุดค้าง ทุกอย่างหมุนคว้าง เมื่อเห็นร่างของตัวเองแน่นิ่ง


ฉากเปิดของภาพยนตร์แฟนตาซี แอคชั่น ดราม่า สัญชาติเกาหลี เรื่อง Along with the Gods: The two Worlds หรือ ‘ฝ่า 7 นรก ไปกับพระเจ้า’ บอกเล่าเรื่องราวของ ‘คิมจาฮง’ พนักงานดับเพลิงหนุ่มผู้กล้าหาญ ขยันขันแข็ง เสียสละ ที่ต้องมาตายอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวระหว่างปฏิบัติหน้าที่

จาฮง ชายหนุ่มอายุประมาณ 30 ปี มีชีวิตแร้นแค้น เขาต้องรับผิดชอบปากท้องของอีกสองชีวิต นอกจากเป็นพนักงานดับเพลิงแล้ว จึงเป็นทั้งคนเข็นผัก พนักงานขับรถ และคนถูพื้น ทำงานกะกลางวันและกลางคืนเวียนเป็นวงจร เพื่อหาเงินรักษาแม่ผู้เป็นใบ้ที่ป่วยหนัก และส่งน้องเรียน ชีวิตของเขาแทบไม่เคยหยุดพัก

วันหนึ่งเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่ การดับไฟครั้งสุดท้ายดับชีวิตของเขาไปด้วย เขาวิงวอนขอเวลาจากยมทูตเพื่อไปพบแม่ที่ไม่ได้เห็นหน้ากันนาน 15 ปี และกล่าวความในใจกับเธอ แต่โอกาสนั้นหมดลงแล้ว ปรโลกคือทางเดียวที่เขาต้องเดินต่อ




เรื่องราวในหนังเล่าถึงการเดินทางของจาฮงไปยังนรกขุมต่างๆ เพื่อรับคำพิพากษา โดยมียมทูตทั้งสาม ได้แก่ ยมทูตผู้พิทักษ์ ยมทูตนักต่อสู้ และยมทูตผู้ล่วงรู้ คอยคุ้มภัยและช่วยแก้ต่างคดีให้ เพราะเห็นว่าจาฮงเป็นวิญญาณคนดี และการส่งวิญญาณคนดีไปเกิดใหม่ครบ 49 คน จะทำให้ยมทูตได้ไปเกิดใหม่เช่นกัน

ปรโลกประกอบด้วยนรก 7 ขุม แบ่งตามความผิดบาปต่างๆ ได้แก่ นรกแห่งบาปฆาตกรรม นรกแห่งบาปเกียจคร้าน นรกแห่งบาปหลอกลวง นรกแห่งบาปอยุติธรรม นรกแห่งบาปทรยศ นรกแห่งบาปความรุนแรง และนรกแห่งบาปอกตัญญู มีบรรยากาศเวิ้งว้าง คล้ายสถานที่ในโลกจริงแต่ถูกฉาบแต่งให้ฉูดฉาดและอลังการ แต่ละขุมจะมีเทพเจ้าตัดสินบาปกรรมที่คนคนนั้นทำเมื่อยังมีชีวิตอยู่ หากเห็นว่าผิดจริงจะลงโทษอย่างชวนขนลุก แต่หากพิจารณาว่าผู้ตายไม่ได้ทำผิดหรือไม่ได้เจตนา เมื่อหักลบกับผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วควรยกฟ้อง ผู้นั้นก็จะรอดพ้นจากนรกขุมนั้น หากผู้ใดรอดไปได้ครบ 7 ขุมภายในเวลา 49 วัน ก็จะได้ไปเกิดใหม่ แม้เป็นโลกสมมุติ แต่การฉายภาพนรกและกระบวนการพิจารณาคดีอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้คนดูเกิดจินตภาพชัดและขบคิดถึงด้านเทาๆ ของความเป็นมนุษย์

หนังเรื่องนี้มีความแฟนตาซีสูง บางช่วงคล้ายหนังจีนกำลังภายในที่เล่นใหญ่เกินจริง ใส่บทดราม่าเยอะ แต่ก็ดูสนุก แปลกใหม่ และมีอรรถรสหลากหลาย ทั้งตลก ต่อสู้ ผจญภัย สืบสวน ดราม่าสะเทือนใจ หนังเล่าถึงความผูกพันในครอบครัว การใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท และการเตรียมตัวตาย โดยมีขุมนรกเป็นสื่อเชื่อมโยงประเด็นและคลายปริศนาทีละเปราะ ดำเนินเรื่องผ่านสองโลก คือโลกคนเป็นและโลกคนตาย

ในหนังจะมีฉากความเป็นความตายของผู้คนมาเกี่ยวข้องหลายเหตุการณ์ ทั้งฉากเปิดเรื่องที่จาฮงกำลังช่วยเด็กน้อยคนหนึ่งในอ้อมแขน แต่เชือกสลิงที่รั้งตัวบนตึกสูงถูกไฟไหม้และขาดผึง ร่างของเขาร่วงลงมากระแทกพื้นรองรับเด็กคนนั้นไว้ ฉากนี้ทำให้นึกถึงวลีที่ว่า “ชีวิตคนเราแขวนอยู่บนเส้นด้าย” อย่างแจ่มชัด หรือฉากอุบัติเหตุปืนลั่น แม้ไม่ได้เกี่ยวกับจาฮงโดยตรง แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวละครสำคัญตายแบบไม่คาดฝัน ต่างเป็นเสี้ยววินาทีชีวิตที่สะท้อนว่าความตายมาเยือนเราได้ทุกเมื่อ ไม่ควรประมาท



ย้อนกลับไป 15 ปีก่อน จาฮงหนีออกจากบ้านเพราะทำผิดเกินกว่าจะสู้หน้าคนในครอบครัว เขาพยายามชดเชยด้วยการทำงานหนัก หาเงินส่งให้ทางบ้าน เจียดเงินส่วนหนึ่งซื้อของขวัญแสนพิเศษ เตรียมมอบให้แม่พร้อมจดหมายบอกเรื่องค้างใจอย่างหมดเปลือก ของขวัญกล่องนั้นถูกเก็บไว้รอเวลาเหมาะเจาะ แต่ไม่กล้าให้เสียทีจนมาตายก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเวลามากมาย สะท้อนว่าในขณะที่ยังมีโอกาสควรให้เวลากับคนที่เรารักและพูดความในใจไม่ให้คั่งค้างต่อกัน เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าความตายจะมาถึงเมื่อไหร่ เช่นที่จาฮงอยากจะแก้ตัว กลับไปคุยกับแม่ก็สายไปเสียแล้ว

หนึ่งในฉากสำคัญคือฉากย้อนความทรงจำในวัยเด็ก เครื่องมือส่องกรรมฉายภาพความผิดที่เขาก่อขึ้นโดยขาดสติและถูกรุมเร้าจากปัญหาชีวิต ชิ้นส่วนความทรงจำถูกประกอบขึ้นอีกครั้ง ใหม่เอี่ยมและหมดจด จาฮงมองดูอดีตของตัวเองอย่างร้าวราน ความจริงบางอย่างที่เพิ่งเปิดเผยทำให้เขาใจสลาย ฉากนี้เตือนให้เรามีสติกับทุกการกระทำ เมื่อทำหรือพูดไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ และอาจทำให้เกิดบาดแผลในใจต่อคนรอบข้างและตัวเราเอง

นอกจากนี้หนังยังสื่อสารว่าการให้อภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ตายจากไปอย่างสงบ และผู้ที่มีชีวิตอยู่ก็ได้ปลดเปลื้องความรู้สึกติดค้างในใจ การให้อภัยอาศัยความกรุณา เห็นอกเห็นใจ ปล่อยวางความแค้น และก้าวต่อไป ซึ่งจะเห็นได้จากฉากการปลดเปลื้องความแค้นของตัวละครที่ถูกยิงตาย และฉากการเปิดใจอย่างลึกซึ้งของครอบครัวจาฮง

การที่จาฮงได้โอกาสแก้ตัวเป็นเรื่องในบทภาพยนตร์ แต่ในบทชีวิตของเราทุกคน ขณะมีชีวิตอยู่ยังมีโอกาสที่จะไม่ทำพลาดเพราะขาดสติ และยังมีเวลาบอกความในใจกับคนที่เรารัก...จงอย่ารอให้สายเกินไป

 จาก https://peacefuldeath.co/along-with-the-gods-the-two-worlds/

<a href="https://www.youtube.com/v//9T0wa7LimfA" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">https://www.youtube.com/v//9T0wa7LimfA</a> 

https://youtu.be/9T0wa7LimfA?si=YGBtnBZ5i71LUh46
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...