บล็อก > บทความ (Blog)
ไดอารี่...จิตดวงหนึ่ง
lek:
เมื่อ...มาร...มันโผล่
เราจะจัดการกับ...มารยังไง
เมื่อเราไม่รู้ตัวว่า...เรากำลังเป็นมาร
แล้วเราจะจัดการกับตัวเราได้ยังไง
เพราะเรามัวแต่หลงว่าเราเป็นพระเอก
เราจึงเป็นมารในคราบพระเอก...
ในส่วนสว่างของเรามันก็มี...
ในส่วนมืดของเรามันก็มี...
สว่างมากกว่าก็แวววับหน่อย
มืดมากกว่าก็ดำคล้ำหน่อย
เราเลือกที่จะสว่างหรือมืด
สว่างก็ผ่องใส มืดก็ขุ่นมัว
lek:
สิ่งที่เรากำลังคิดอยู่ เป็นเพราะเราตั้งค่าให้มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เดี๋ยวก็ชอบเดี๋ยวก็ไม่ชอบเดี๋ยวก็เฉยๆทั้งๆที่อาจเป็นสิ่งเดียวกัน
อีกเดี๋ยวก็อยากได้ในสิ่งๆนี้ อีกเดี๋ยวก็ไม่อยากได้เสียแล้ว
อีกเดี๋ยวก็เฉยๆไปซะงั้น มันอยู่ที่ความคิดเราที่ประกอบไปด้วยปัญญา
ปัญญามันทำให้เรามองอะไรได้ลึกซึ้งมากขึ้น ละเอียดมากขึ้น
และรู้จัีกปล่อยวางได้รวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งมีปัญญามากขึ้น ทุกข์ก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ
lek:
สุดท้ายก็วนกลับมามีตัวตน
เพื่อคิดอะไรต่อมิอะไรกับชีวิต
ความอยากทำอะไรต่อมิอะไร
ไม่ได้ทำก็รู้สึกไม่พอใจ
ได้ทำแล้วก็พอใจจนเฉยๆไป
ชีวิตที่ลอยเท้งเต้ง...
มันวนเวียนอยู่กับความเป็นไป
ที่เราบรรจงสร้างตัวตนตัวเอง
เป็นเหมือนบทละครที่เราเอาตัวเรา
ไปเป็นตัวละครทำการแสดง...
มันแสดงในบทบาทที่มีบทบาทหน้าที่
จนบางครั้งเราอยากจะแหกบทออกไป
แต่แล้ว...เราก็ยังเป็นตัวละครตัวเดิม
สวมบทละครเดิมๆในโรงละครชี่วิตเดิมๆ
lek:
สิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ไม่อยากทำ แต่เลิกทำไม่ได้
มันคือการเลือกการตัดสินใจที่ประกอบด้วยสติปัญญาของเรา
เมื่อสติปัญญาของเรายังไม่แกร่งพอที่จะตัดสิ่งไม่ดีไป
สิ่งไม่ดีทั้งหลาย มันก็ยังคงวนเวียนกลับมาให้เราได้ประสบพบเจอ
เมื่อเราเลือกทำสิ่งไม่ดีเอง เราก็ต้องทนรับกับสิ่งไม่ดีที่จะต้องส่งผลย้อนกลับมา
เพราะฉะนั้น...เราจึงเป็นผู้เลือกที่จะทำสิ่งใดๆที่มันมีเหตุปัจจััยให้เราต้องพบ
และต้องตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้องตามความเป็นจริงเป็นกลางอย่างมีสติปัญญา
โดยให้มีผลกระทบกับทุกฝ่ายน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ที่สำคัญ...
เกิดผลกระทบกับใจเราเองให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้...
lek:
เดินไปกับเด็ก7ขวบ
รองเท้าแตะมันขาด
ก็เลยก้มซ่อมรองเท้า
ถามเด็กว่าซื้อใหม่ดีมั๊ย
เด็กตอบว่ายังใส่ได้
ดีกว่าเดินเท้าเปล่า
อืม...ใช่ ใช่เลย
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version