ส่วนผสม
ฟักทองเนื้อดี หั่นชิ้นพอคำ จำนวน 10-12 ชิ้น
บวบเหลี่ยม (หักชิมดูเสียก่อนว่าไม่ขม) ประมาณ 1 ลูก ขนาดพอดี ปอกเปลือกออก แต่ไม่ควรปอกจนเกลี้ยงเกลา ให้เหลือเปลือกไว้บ้าง เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหาร หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ ประมาณ 12-15 ชิ้น
ข้าวโพดอ่อนหั่นแฉลบ 4 ฝัก
กระชาย 2 หัว ทุบเบา ๆ แล้วหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว
ตำลึงยอดงาม ๆ สัก 10 ยอด เด็ดเอาแต่ใบอ่อน ๆ
แมงลัก 3-4 กิ่ง เด็ดเอาแต่ใบหรือยอดดอกอ่อน ๆ
กุ้งแม่น้ำ หรือกุ้งชีแฮ้ 6-7 ตัว ปอกเปลือก เอาเส้นดำออก
น้ำซุป (จากการต้มซี่โครงหมูหรือโครงไก่) 4 ถ้วยตวง
น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
หากชอบเผ็ดเพิ่มพริกขี้หนูสดอีก 5-6 เม็ด บุบพอแตก
เครื่องปรุงพริกแกง
พริกชี้ฟ้าแดงผ่าเอาเมล็ดออก 2 เม็ด
กระชาย 4 หัว
หอมแดงหัวขนาดกลาง 5 หัว
พริกไทยขาว 12 เม็ด
กะปิเผาไฟพอสุก 2 ขีดครึ่ง
กุ้งแห้ง 2 ขีดครึ่ง
วิธีทำ
- นำเครื่องปรุงพริกแกงเหล่านี้โขลกให้ละเอียด ถ้าชอบให้น้ำแกงข้นอีกนิดก็ใช้เนื้อปลา จะย่างหรือต้มให้สุกก่อนก็ได้ แล้วนำมาโขลกรวมกันกับพริกแกง
- นำน้ำซุปตั้งไฟพอเดือด ใส่เครื่องแกงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมให้ได้รสเค็มและเผ็ดนิดๆ
- พอน้ำแกงเดือดอีกที ใส่ผักชนิดสุกยากลงก่อน เช่น ฟักทอง ข้าวโพด ตามด้วยกุ้ง
- รอจนแน่ใจว่าผักสุกดีแล้ว ใส่ใบตำลึง และใบแมงลักเป็นรายการสุดท้าย คนให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟในขณะร้อนๆ
หมายเหตุ : แกงเลียงมีสรรพคุณ ช่วยขับเหงื่อ ลดไข้ ช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี และเป็นความฉลาดล้ำ ของคนไทยในสมัยโบราณ ที่ใช้อาหารเป็นยารักษาโรค ได้อย่างน่าอัศจรรย์
แหล่งข้อมูล :
www.ku.ac.th/e-magazine - นิตยสารเกษตรศาสตร์ ฉบับที่ 59 พฤษภาคม 2548
เมนูสุขภาพที่น่าสนใจ