แสงธรรมนำใจ > ดอกบัวโพธิสัตว์
มิลินทปัญหา
ฐิตา:
ปัญหาที่ ๘ ถามเรื่องลักษณะการมนสิการ
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามต่อไปว่า
" ข้าแต่พระนาคเสน มนสิการ มีลักษณะอย่างไร ปัญญา มีลักษณะอย่างไร ? "
พระนาคเสนตอบว่า
" มหาราชะ มนสิการ มีความ อุตสาหะ เป็นลักษณะ และมีการ ถือไว้ เป็นลักษณะ ส่วน ปัญญา มีการ ตัด เป็นลักษณะ "
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า มนสิการ มีการถือไว้เป็นลักษณะอย่างไร ปัญญา มีการตัดเป็นลักษณะอย่างไร ขอจงอุปมาให้แจ้งด้วย ? "
ฐิตา:
อุปมาคนเกี่ยวข้าว
" มหาบพิตรทรงรู้จักวิธีเกี่ยวข้าวบ้างไหม ? "
" อ๋อ…รู้จัก พระผู้เป็นเจ้า "
" วิธีเกี่ยวข้าวนั้นคืออย่างไร ? "
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า คือคนจับกอข้าวด้วยมือข้างซ้าย แล้วเอาเคียวตัดให้ขาดด้วยมือข้างขวา "
" มหาราชะ ข้อนี้มีอุปมาฉันใด คือ พระโยคาวจรถือไว้ซึ่ง มนสิการ คือกิเลสอันมีในใจของตนแล้ว ก็ตัดด้วย ปัญญา ฉันนั้น มนสิการ มีลักษณะถือไว้ ปัญญา มีลักษณะตัด อย่างนั้แหละขอถวายพระพร "
" ถูกดีแล้ว พระนาคเสน "
ฐิตา:
ปัญหาที่ ๙ ถามลักษณะศีล
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า
" ข้าแต่พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวไว้ในข้อก่อน (ปัญหาที่ ๗) ว่า บุคคลไม่เกิดอีกด้วยได้กระทำ กุศลธรรมเหล่าอื่น ไว้ โยมยังไม่เข้าใจ จึงขอถามว่า ธรรมเหล่าไหน…เป็นกุศลธรรมเหล่านั้น ? "
พระเถระตอบว่า
" มหาราชะ ศีล ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เหล่านี้แหละ เป็นกุศลธรรมเหล่านั้น "
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ศีล มีลักษณะอย่างไร ? "
" มหาราชะ ศีล มีการ เป็นที่ตั้ง เป็นลักษณะ คือศีลเป็นที่ตั้งแห่งกุศลธรรมทั้งปวงอันได้แก่ อินทรีย์ พละ โพชฌงค์ สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อิทธิบาท ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ กุศลธรรมทั้งปวงของผู้ตั้งอยู่ในศีลแล้วไม่เสื่อม "
" ขอพระผู้เป็นเจ้าโปรดอุปมา "
ฐิตา:
อุปมา ๕ อย่าง
" มหาราชะ อันต้นไม่ใบหญ้าทั้งสิ้น ได้อาศัยแผ่นดิน ตั้งอยู่ในแผ่นดินแล้ว จึงเจริญงอกงามขึ้นฉันใด พระโยคาวจรได้อาศัยศีล ตั้งอยู่ในศีลแล้ว จึงทำให้เกิด อินทรีย์ ๕ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ขึ้นได้ฉันนั้น "
" โปรดอุปมาให้ยิ่งขึ้นไป "
" มหาราชะ การงานทั้งสิ้นที่ทำบนบกต้องอาศัยแผ่นดินตั้งอยู่ในแผ่นดิน จึงทำได้ฉันใด พระโยคาวจรก็อาศัยศีล ตั้งอยู่ในศีล จึงทำให้เกิดอินทรีย์ ๕ ขึ้นได้ฉันนั้น "
" โปรดอุปมาให้ยิ่งขึ้นไปอีก "
" มหาราชะ บุรุษที่เป็นนักกระโดดโลดเต้น ประสงค์จะแสดงศิลปะ ก็ให้คนถากพื้นดิน ให้ปราศจากก้อนหินก้อนกรวด ทำให้สม่ำเสมอดีแล้ว จึงแสดงศิลปะบนพื้นดินนั้นได้ฉันใด พระโยคาวจรก็อาศัยศีลตั้งอยู่ในศีลแล้ว จึงทำให้เกิดอินทรีย์ ๕ ขึ้นได้ฉันนั้น "
" นิมนต์อุปมาให้ยิ่งขึ้นกว่านี้ "
" มหาราชนะ นายช่างประสงค์จะสร้างเมืองให้ปราบพื้นที่จนหมดเสี้ยนหนามหลักตอ ทำพื้นที่ให้สม่ำเสมอดีแล้ว จึงกะถนนต่าง ๆ มีถนน ๔ แพร่ง ๓ แพร่ง เป็นต้น ไว้ภายในกำแพง แล้วจึงสร้างเมืองลงฉันใด พระโยคาวจรก็อาศัยศีล ตั้งอยู่ในศีลแล้ว จึงทำให้เกิดอินทรีย์ ๕ ขึ้นได้ฉันนั้น "
ขอจงอุปมาให้ยิ่งขึ้นกว่านี้อีก "
"มหาราชะ พลรบผู้เข้าสู่สงคราม ตั้งมั่นอยู่ในพื้นที่อันเสมอดี กระทำพื้นที่ให้เสมอดีแล้ว จึงกระทำสงคราม ก็จักได้ชัยชนะใหญ่ในไม่ช้าฉันใด พระโยคาวจรก็อาศัยศีล ตั้งอยู่ในศีลแล้ว จึงทำให้เกิดอินทรีย์ ๕ ให้เกิดได้ฉันนั้น ข้อนี้ สมกับที่สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาตรัสไว้ว่า
" ภิกษุผู้มีความเพียรรู้จักรักษาตัว มีปัญญาตั้งอยู่ในศีลแล้ว ทำจิตและปัญญาให้เกิดขึ้น ย่อมสะสางซึ่งความรุงรังอันนี้ได้ ศีลนี้เป็นที่ตั้งแห่งกุศลธรรมทั้งหลายเหมือนกับพื้นธรณี อันเป็นที่อาศัยแห่งสัตว์ทั้งหลาย ศีลนี้เป็นรากเหง้าในการทำกุศลให้เจริญขึ้น ศีลนี้เป็นหัวหน้าในศาสนาขององค์สมเด็จพระชินสีห์ทั้งปวง "
กองศีลอันดี ได้แก่ พระปาฏิโมกข์ ขอถวายพระพร "
" ชอบแล้ว พระนาคเสน "
ฐิตา:
ปัญหาที่ ๑๐ ถามเรื่องศรัทธา
" ข้าแต่พระนาคเสน ศรัทธา เป็นลักษณะอย่างไร ? "
" มหาราชะ ศรัทธามีความผ่องใส เป็นลักษณะ และ มีการแล่นไป เป็นลักษณะ ขอถวายพระพร "
ศรัทธา มีความผ่องใส
" ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ที่ว่า ศรัทธามีความผ่องใส เป็นลักษณะนั้น เป็นประการใด ? "
" มหาราชะ ศรัทธา เมื่อเกิดขึ้นก็ข่ม นิวรณ์ ไว้ ทำจิตให้ปราศจากนิวรณ์ ทำจิตให้ผ่องใสไม่ขุ่นมัว อย่างนี้แหละ เรียกว่า มีความผ่องใส เป็นลักษณะ ขอถวายพระพร "
" ขอนิมนต์อุปมาด้วย พระผู้เป็นเจ้า "
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version