โปเนียว แอนิเมชั่นจาก Ghibli ไม่ทำให้ผิดหวัง
โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย
หลังจากสตูดิโอ
Ghibli โดย
ฮายาโอะ มิยาซากิ ได้ออกภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นมาสู่สายตาแฟนๆ กันหลากเรื่อง หลายแนว ซึ่งในแต่ละแนวจะมีจุดเด่นของตัวเองด้วยภาพวาดสีน้ำที่ใช้โทนสีในโทนอบอุ่น เป็นภาพวาดแบบสองมิติ ที่ไม่ว่าจะออกเรื่องไหนมาทุกเรื่องต่างก็เป็นที่น่าจับตา และติดตามชม ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
Pricess Mononoke, Spirited Away, สุสานหิ่งห้อย ฯลฯ อีกทั้งในแต่ละเรื่องที่เค้าถ่ายทอดออกมาสู่สายตานั้นยังมีแง่คิดสอนใจคนดูได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่นเท่านั้นที่จะยอมรับชื่อของฮายาโอะ มิยาซากิในฐานะของคนทำหนังอนิเมชั่นชั้นเลิศ แต่คาดว่าคนทำหนังแอนิเมชั่น รวมถึงคนดูหนังแอนิเมชั่นทั่วโลกก็น่าจะยอมรับในความจริงข้อนี้ด้วยเช่นกัน (ไม่งั้นดิสนีย์คงไม่เอาหนังของปู่ฮายาโอะไปรีเมคหรอก)
อาจบอกได้ว่า งานของปู่ฮายาโอะเขาสามารถทำเงินได้ถล่มทลายในบ้านเกิด และทุกๆ ครั้งที่มีผลงานใหม่ๆ ออกมา ก็จะเป็นที่จับตาและเฝ้าคอยของแฟนๆ อยู่เสมอ แม้ว่าด้วยขั้นตอนกระบวนการในการสร้างจะยาวนานหลายปีก็ตามที และผลงานล่าสุด Ponyo on the Cliff by the Sea หรือในชื่อไทยว่า โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย ก็ได้รับการตอบรับและทำรายได้สูงสุดของปี 2008 ในตรารางภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของญี่ปุ่น
โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย จากชื่อเรื่องแล้วก็คงไม่พ้นแนวโพ้นทะเลแน่นอน…เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อปลาทองน้อยหนีออกจากการคุมขังบริเวณของคุณพ่อจอมเวทย์ไปสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่และพบกับ
โซสุเกะ เด็กผู้ชายวัยห้าขวบที่แม่เป็นเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราและคุณพ่อเป็นกัปตันเรือหาปลา
โซสุเกะตั้งชื่อปลาทองน้อยว่า
“โปเนียว” ซึ่งตอนเปิดเรื่องมาทำให้เราได้เห็นความน่ารักสดใสในวัยเด็ก ความร่าเริง การเคลื่อนไหวของเด็กชายอายุ 5 ขวบที่เวลาเดิน วิ่ง มีวิธีการเดินอย่างไร วิ่งอย่างไร (เสมือนจริง) ที่ผู้สร้างพยายามถ่ายทอดออกมาให้เราดูกัน รวมถึงดนตรีประกอบที่เน้นไปในโทนออเคสตร้า ช่วยเพิ่มสีสันให้การ์ตูนแอนิเมชั่นแบบสองมิตินี้ดูมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม
http://www.youtube.com/watch?v=r4OnuyNYlkA&feature=player_embedded#at=28กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ…
ความจริงที่แทรกไว้ของปู่ฮายาโอะ เห็นทีคงจะเป็นเรื่องของ การพยายามเข้าใจและดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต โดยเราจะเห็นได้จากเด็กชายโซสุเกะ ที่นอกจากจะต้องดูแลปลาทองน้อย โปเนียว แล้ว ยังมีอยู่ชั่วแว่บนึงที่เค้าจะต้องทำใจยอมรับคนชราบางคนในบ้านพักคนชรา ที่ชอบเอาแต่ใจ และการเอาใจใส่ “ลิซ่า” แม่ของตนเอง ในตอนที่ต้องตอบโต้กับพ่อที่เป็นกัปตันเรือ โดยใช้ไฟกดเป็นรหัสคุยกัน ถือได้ว่าเป็นความน่ารักใยแบบฉบับเด็ก 5 ขวบที่สามารถถ่ายทอดผ่านตัวการ์ตูนมาให้เราเรียนรู้และสัมผัสได้แบบเข้าใจง่ายขึ้น
ความน่ารักอีกอย่างที่เห็นจากหนังเรื่องนี้คือ ความเข้าใจกันระหว่างแม่กับลูก ระหว่างลิซ่ากับโซสุเกะ ที่พยายามปลอบใจกันและกัน พร้อมให้กำลังใจกันในทุกๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวต
ในตอนที่ไปดูเรื่อง โปเนียว ดูแบบเสียวซาวด์แทร็ก เป็นเสียงภาษาญี่ปุ่นที่ขอบอกว่า เค้าเข้าใจหาคนพากย์เสียงมาได้แบบน่ารัก สดใส จริง ๆ ดูแล้ว
“ใช่” ที่จะเป็น
“โปเนียว” เสียงดนตรีประกอบก็เข้ากับเนื้อเรื่อง แต่ขัดใจนิดหน่อยตรง พ่อของโปเนียว จอมเวทย์แห่งท้องทะเล ที่นึกว่าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่ความจริงแล้วก็เหมือนเป็นแค่ผู้ดูแล และไม่หล่อเลยซักนิด
อีกอย่างในตอนเกือบจบ เนื้อเรื่องดันไปคล้ายกับหนังสือนิทานที่เคยได้ยินสมัยเด็ก เรื่องเจ้าหญิงเงือกน้อย ที่จะต้องเสียสละบางอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งบางสิ่ง (ไปดูเองแล้วจะรู้) แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสแต่อย่างใด เพราะถึงจะมีโครงเรื่องคล้าย ๆ กัน แต่ว่าในส่วนของรายละเอียดนั้นมีอะไรที่ให้ดูมากกว่านั้น
นอกจากนี้ ในเรื่อง
โปเนียว คิดว่าสิ่งที่ปู่ฮายาโอะ พยายามถ่ายทอดออกมาก็คือ การให้ผู้หญิงเป็นใหญ่ในครอบครัว โดยในเรื่อง พ่อจอมเวทย์ของโปเนียว ต้องคอยเฝ้ารอ และรอบทสรุปจากภรรยาซึ่งเป็นธิดาสมุทรผู้มีพละกำลังมหาศาล หรือในบ้านของ โซสุเกะเอง ที่แม่ “ลิซ่า” (ริสะ ในชื่อญี่ปุ่น)เป็นผู้ดูแลบ้าน คาดว่าปู่ฮายาโอะคงเป็นคนให้เกียรติสตรีอย่างแรง
หนังเรื่องนี้ดูแล้วน้ำตารื้นๆ ได้เหมือนกัน ไม่ใช่เพราะเศร้า แต่เพราะความสุข และสนุกที่ได้ดูต่างหาก เหมาะที่พาครอบครัวไปดู
ให้ดาวไป 8 เต็ม 10 คะแนน เพราะชอบจริงๆ ไม่แพ้หนังแอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ของปู่ฮายาโอะ มิยาซากิ ที่เคยผ่านตามาแน่นอน.
บทวิจารณ์โดย??? http://movie.mthai.com/movie-review/45491.html