เครื่องปรุง
- ปลาช่อนแห้ง 1/2 กิโลกรัม
- น้ำปลา 1/4 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
-สับปะรด 1 ผล (เล็ก)
(สับปะรดที่ใช้แกงต้องเป็นสับปะรดผลแก่ ๆ แต่ไม่สุก จะให้รสเปรี้ยวอมหวาน หั่นเป็นชิ้นพอคำ )
เครื่องปรุงพริกแกง
- พริกขี้หนูแห้ง 30 เม็ด
- พริกเหลืองหรือพริกชี้ฟ้า 10 เม็ด
- หัวหอม 1/4 ถ้วย
- กระเทียมหั่นหยาบ 1/4 ถ้วย
- ขมิ้นสดยาวประมาณ 1 นิ้ว
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 3 ถ้วย
** โขลกพริกขี้หนู พริกเหลือง หัวหอม กระเทียม ขมิ้น และเกลือให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกต่อไปจนเข้ากันดี
วิธีทำ
1.หั่นปลาช่อนแห้งเป็นชิ้นโตพอสมควรประมาณ 1 1/2 นิ้ว
2.หั่นสับปะรดเป็นชิ้นประมาณ 1 นิ้ว
3. ละลายน้ำพริกกับน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่สับปะรดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาล ชิมรสดู เมื่อรสดีแล้วและน้ำเดือดใส่ปลาช่อนแห้งลงไป พอเดือดอีกครั้งหรือปลาสุกจึงยกลง ใส่น้ำมะนาวเพื่อช่วยให้มีรสแหลมขึ้น
หมายเหตุ หากไม่มีปลาช่อนแห้งสามารถใช้ปลาสดหรือกุ้งสด ไข่ปลาริวกิวแทนได้ตามใจชอบ
สิ่งที่รับประทานประกอบกับแกงส้ม
แกงของคนไทยนั้นที่นิยมรับประทานกับข้าวสวย โดยเฉพาะแท้ ๆ ไม่มีกับข้าวอื่นประกอบ ก็มีพวกแกง ต้มยำ ต้มโคล้ง และแกงจืด ส่วนแกงเผ็ดประเภทแกงคั่วหรือแกงส้มนั้น นิยมมีเครื่องเคียงมารับประทานประกอบกัน จะมีรสวิเศษยิ่งขึ้น เช่น แกงคั่วนิยมรับประทานกับปลาเค็ม หรือกับผักสด หรืออาจาด ซึ่งเข้าใจว่าเอาแบบมาจากแขก
แกงส้มก็เหมือนกัน รับประทานกับปลาเค็มทุกประเภท เช่น ปลาเค็มปิ้งหรือทอด คือ ปลากุเลา ปลาอินทรี ปลาสละ กับปลาเค็มทุกชนิด จะถูกเรื่องกันอย่างมาก ยังมีสิ่งอื่น ๆ คือ หอยเค็มทอด เนื้อเค็มทอด ไข่เจียว ไข่เค็มต้ม
ส่วนใหญ่มักจะเป็นของเค็ม ๆ ด้วยแกงส้มมีรสเปรี้ยวจัดนำหน้า จะถูกกับรสเปรี้ยวอย่างยิ่ง
แกงส้มที่มีรสจัดและเผ็ดจัด มักมีผักสดประกอบ เช่น รับประทานกับถั่วฝักยาว แตงกวา และผักอื่น ๆ โดยมีปลาเค็มร่วมผสมด้วย
การรับประทานกับข้าว ให้ผสมผสานกันนั้น เป็นศิลปะสำคัญอย่างหนึ่งในการกัน ถ้ารู้จักปรุงรสก็จักทำให้เจริญอาหารเป็นเอก การรับประทานสิ่งใดโดด ๆ ก็ไม่มีอะไรผิดแปลกอย่างไร
แต่ผู้มีรสนิยมในการรับประทาน เราจะแนะนำให้รู้จักการรับประทานประกอบกัน ซึ่งถ้ารู้จักรับประทานแล้ว จะมีรสวิเศษเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
ขอบคุณที่มา
http://www.good4eat.com/?p=819