ผู้เขียน หัวข้อ: สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 9 อานันทาทิวยากรณปริวรรต การพยากรณ์พระอานนท์  (อ่าน 2024 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด



พระสูตรสัทธรรมปุณฑรีกะ
วัดโพธิ์แมนคุณาราม
นายชะเอม แก้วคล้าย แปลจากต้นฉบับสันสกฤต

  บทที่ 9
อานันทาทิวยากรณปริวรรต
ว่าด้วยการพยากรณ์พระอานนท์เป็นต้น

       
        ได้ยินว่า  ในขณะนั้น พระอานนท์ ผู้มีอายุ คิดว่า เราจะได้รับการพยากรณ์อย่างนี้ด้วยหรือไม่หนอ? ครั้นคิดรำพึง ปรารถนาอย่างนั้นแล้ว จึงลุกจากอาสนะไปถวายอภิวาทพระบาททั้งสอง ของพระผู้มีพระภาค เช่นเดียวกับพระราหุล ผู้มีอายุ ที่คิดรำพึงอย่างเดียวกัน  แล้วถวายอภิวาทพระบาททั้งสองของพระผู้มีพระภาค กราบทูลว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคขอให้พวกข้าพระองค์ จงมีโอกาสอย่างนั้นบ้าเถิด ข้าแต่พระสุคต ขอให้โอกาสอย่างนั้น จงมีแก่พวกข้าพระองค์บ้างเถิด เพราะว่า พระผู้มีพระภาค เป็นพระบิดา เป็นผู้บันดาลที่อาศัย และเครื่องป้องกันแก่พวกข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เพราะพวกข้าพระองค์ทั้งหลาย ได้เปลี่ยนเป็นรูปต่างๆในโลก รวมทั้งเทวดา มนุษย์ และอสูร เช่น คนเหล่านี้ เป็นบุตร เป็นอุปัฏฐาก เป็นผู้รักษาคลังปริยัติ ของพระผู้มีพระภาค ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ของพระผู้มีพระภาค พึงพยากรณ์ รูปเฉพาะชื่อนั้น ในอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ แก่พวกข้าพระองค์โดยเร็วเถิด

        พระภิกษุ ผู้เป็นสาวกอื่นๆ อีก 2000 รูป ทั้งที่เป็นพระเสขะและอเสขะ ได้ลุกจากอาสนะ ครองจีวรเฉวียงบ่า ประคองอัญชลีต่อพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาค เพ่งมองพระผู้มีพระภาค คือถึงพุทธญาณด้วยความสงสัยว่า แม้เราทั้งหลาย จะได้รับการพยากรณ์ ในอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ หรือไม่หนอ?

        ขณะนั้น พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสกับพระอานนท์ ผู้มีอายุว่า ดูก่อนอานนท์ ในอนาคตกาล เธอจักได้ตรัสรู้ เป็นพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระนามว่า สาครวรธรพุทธิวิกรีฑิตาภิชญะ ผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ผู้เสด็จไปดีแล้ว ผู้รู้แจ้งโลก ผู้เป็นนายสารถีฝึกบุรุษ ที่ไม่มีใครเปรียบได้ เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบาน เป็นผู้จำแนกธรรม เมื่อท่านได้ทำสักการะ เคารพ นับถือ และบูชา แก่พระพุทธเจ้า จำนวน 62 โกฏิ ได้จดจำพระสัทธรรมของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น และยึดมั่นในคำสอน ก็จะได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ดุก่อนอานนท์ เมื่อเธอตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จะยังพระโพธิสัตว์จำนวน พันร้อยหมื่นโกฏิ เท่ากับเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคาทั้ง 20 ให้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เมื่อนั้น พุทธเกษตรของเธอ จักสำเร็จเป็นแก้วมณีอันล้ำค่าโลกธาตุนั้น จักได้ชื่อว่า อนวนามิตไวชยันตี กัลป์จักได้ชื่อว่า มโนชญศัพทาภิครรชิตะ พระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สาครวรธรพุทธิวิกรีฑิตาภิชญะ พระองค์นั้นจักมีอายุนับจำนวนไม่ได้ ที่สุดของกัลป์ทั้งหลาย ไม่สามารถคำนวณได้โดยการนับ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค หลายพันร้อยหมื่นโกฏิแห่งกัลป์เหล่านั้น ที่ไม่สามารถจะนับได้ จักเป็นประมาณแห่งอายุของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ดูก่อนอานนท์ ประมาณแห่งอายุของพระผู้มีพระภาค ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สาครวรธรพุทธิวิกรีฑิตาภิชญะ พระองค์นั้นมีอยู่เพียงใด พระสัทธรรมของพระองค์ ผู้ปรินิพพานแล้ว จักดำรงอยู่เป็นทวีคูณตราบนั้น พระสัทธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น จักตั้งอยู่ตราบใด พระสัทธรรมปฏิรูป จักดำรงอยู่เป็นทวีคูณตราบนั้น ดูก่อนอานนท์ ยิ่งกว่านั้น พระพุทธเจ้าจำนวนมาก พันร้อยหมื่นโกฏิพระองค์เท่ากับเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา จะกล่าวถึงเกียรติยศของพระตถาคต สาครวรธรพุทธิวิกรีฑิตาภิชญะ ทั้ง 10 ทิศ

        ขณะนั้น พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

1      โอ เราจะบอกพระภิกษุสงฆ์ว่า อานันทภัทระ จะเป็นผู้รักษาธรรมของเราหลังจากได้บูชาพระตถาคตจำนวน 60 โกฏิแล้ว จักได้เป็นพระชินเจ้า ในอนาคตกาล

2       พระองค์จะปรากฏนามว่า สาครพุทธิธารีอภิชญปราปตะ ในดินแดนที่ สวยงามบริสุทธิ์ ซึ่งมีลักษณะเป็นธงชัยอันประเสริฐ

3      พระองค์อบรมพระโพธิสัตว์ ซึ่งมีจำนวนเท่ากับเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา หรือมากกว่านั้น ให้มีอุปนิสัยแก่กล้า พระองค์จักเป็นพระชินเจ้า ผู้มีฤทธิ์มากกิตติศัพท์ของพระองค์ จะกึกก้องไปทั่วโลกทั้ง 10 ทิศ

4      พระชนมายุของพระองค์ ผู้เกื้อกูลต่อชาวโลก จักดำรงอยู่จนไม่สามารถจะนับได้ และพระสัทธรรมของพระองค์ ผู้ปรินิพพานแล้ว จักดำรงอยู่นานเป็นทวีคูณ

5      สัทธรรมปฏิรูปนั้น ในศาสนาพระชินเจ้า จักตั้งมั่นเพื่อเป็นทวีคูณ สัตว์ทั้งหลาย ซึ่งมีประมาณเท่าเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา จักเข้าใจเหตุผลในพุทธโพธิญาณ

        ได้ยินว่า ในบริษัทนั้น พระโพธิสัตว์จำนวน 8000 รูป ผู้ตั้งอยู่ในยานใหม่ ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า การพยากรณ์อันยิ่งใหญ่ ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เราไม่เคยได้ยินมาก่อน แม้วาทะเก่าๆของพระสาวก เราก็ไม่เคยได้ยิน อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัย พระผู้มีพระภาคทรงทราบความปริวิตกแห่งจิตของพระโพธิสัตว์เหล่านั้น ด้วยจิตของพระองค์ จึงตรัสเรียกพระโพธิสัตว์เหล่านั้นว่า ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย เราทัดเทียมกัน คือพระตถาคตและพระอานนท์ยังจิตให้เกิดในอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในขณะเดียวกัน ในครู่เดียวกัน ต่อพระพักตร์ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมโพธิญาณ ในขณะเดียวกัน ในครู่เดียวกัน ต่อพระพักตร์ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า ธรรมคคนาภยุทคตราช ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย ในขณะนั้น พระอานนท์เป็นผู้ประกอบความเพียร เพื่อเป็นพหูสูต ส่วนเรา เป็นผู้ประกอบความเพียร ฉะนั้น เราจึงได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณก่อน ส่วนอานันทภัทระ ได้เป็นผู้ทรงจำคลังพระสัทธรรมของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าด้วยประการฉะนี้ ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย ประณิธานนี้ของพระอานนท์ เป็นข้อปฏิบัติของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย

        ขณะนั้น พระอานนท์ผู้มีอายุได้ฟังคำพยากรณ์ของตนเองในอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณฟังกระบวนคุณในพุทธเกษตร และการตั้งประณิธานในกาลก่อนของตน ก็เกิดความยินดี ร่าเริงเบิกบาน ปราโมทย์ ปรีติโสมนัส ขณะนั้น พระอานนท์ระลึกถึงพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จำนวนพันร้อยหมื่นโกฏิ และประณิธานในอดีตของตนอยู่

        ได้ยินว่า พระอานนท์ ผู้มีอายุ ได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ในเวลานั้นว่า

6      พระชินเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้น่าอัศจรรย์และไม่ต้องพิสูจน์ ยังเราให้ระลึกถึงการแสดงธรรม (ในอดีต) ข้าพเจ้าระลึกถึง (พระสัทธรรม) ของพระชินพุทธเจ้าอยู่เสมอ แม้(พระองค์) ปรินิพพานไปแล้ว)ราวกับเหตุการณ์ในวันนี้และพรุ่งนี้

7       ข้าพเจ้าพ้นจากความสงสัย ได้ดำรงอยู่เพื่อพระโพธิญาณ กุศโลบายของข้าพเจ้าเป็นอย่างนี้ ข้าพเจ้าเป็นบริวารของพระตถาคต เพราะพระโพธิญาณเป็นเหตุ ข้าพเจ้าจะดำรงไว้ซึ่งพระสัทธรรม

        ขณะนั้นพระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับพระราหุลภัทระ ผู้มีอายุว่า ดูก่อนราหุล ในอนาคตเธอจักเป็นพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระนามว่า สัปตรัตนปัทมวิกรานตคามี ที่ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว รู้แจ้งโลก เป็นสายสารถีฝึกบุรุษที่หาผู้เปรียบมิได้ เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบาน เป็นผู้จำแนกธรรม เมื่อได้สักการะ เคารพ นบนอบ นับถือ บูชา พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ซึ่งประมาณเท่ากับอะตอมของปรมาณูในโลกธาตุทั้งสิบ เธอจักเป็นบุตรคนโตของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น ท่านเดียวกับที่เป็นบุตรของเรา ณ บัดนี้ ดูก่อนราหุลภัทระ พระชนมายุของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สัปตรัตนปัทมวิกรานตคามี และคุณสมบัติแห่งกรรมทั้งปวง จักเป็นเช่นเดียวกับกระบวนการเพิ่มขึ้นของพุทธเกษตร ที่ได้เพิ่มกรรมทั้งปวง ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สาครวรธรพุทธิวิกรีฑิตาภิชญะ พระองค์นั้น ดูก่อนราหุล เธอจักเป็นบุตรคนโตของ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สาครวรธรพุทธิวิกรีฑิตาภิชญะ พระองค์นั้น หลังจากนั้น เธอจักตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ


        ได้ยินว่า ในเวลานั้น พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

8      ดูก่อนราหุล บุตรคนโตของเรานั้น คือพระโอรสในสมัยที่ (เรา) เป็นพระราชกุมารบุตรผู้นี้ เมื่อบรรลุพระโพธิญาณแล้ว จักเป็นนักบวชที่ยิ่งใหญ่ เป็นธรรมทายาท(ของเรา)

9      ในอนาคต เธอจักได้พบพระพุทธเจ้า จำนวนหลายโกฏิพระองค์ ไม่นานนักบุคคลเหล่านี้ทั้งหมด เมื่อแสวงหาพระโพธิญาณ จักได้เป็นโอรสของบพระชินเจ้าเหล่านั้น

10     นี้คือการปฏิบัติที่ราหุลไม่ทราบ แต่เราทราบประณิธานของเธอ เธอตั้งความหวังในโลกธาตุทั้งปวงว่า "ของเราจงได้เป็นบุตรของพระตถาคต"

11     ไม่นานนัก ที่จะพิสูจน์คุณสมบัติหลายหมื่นโกฏิ เพราะพระโพธิญาณเป็นเหตุ ความปรารถนานี้เองของราหุล ผู้เป็นโอรสของเรา จึงยังดำรงอยู่

         พระผู้มีพระภาค ได้ทอดพระเนตรพระสาวกจำนวน 2000 รูปเหล่านั้น ทั้งผู้ที่เป็นพระเสขะและอเสขะ ที่มองดูพระผู้มีพระภาค อยู่เฉพาะพระพักตร์ ด้วยจิตเลื่อมใส อ่อนโยนและสงบ พระผู้มีพระภาค จึงตรัสกับพระอานนท์ ผู้มีอายุว่า ดูก่อนอานนท์ เธอจงดูพระสาวกทั้งที่เป้นพระเสขะและอเสขะ จำนวน 2000 รูปเหล่านี้ พระอานนท์กราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ย่อมเห็น ข้าแต่พระสุคต ข้าพระองค์ ย่อมเห็นพระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ พระภิกษุ 2000 รูปทั้งหมดเหล่านี้ ยังคิดถึงวัตรปฏิบัติของพระโพธิสัตว์อยู่เสมอ พระภิกษุเหล่านั้น เมื่อสักการะ เคารพ นับถือ ยกย่อง บูชา สรรเสริญ พระพุทธเจ้าที่มีประมาณเท่ากับปรมาณูใน 50 โลกธาตุ และทรงจำพระสัทธรรมของพระผู้มีพระภาคไว้ชาติสุดท้าย จักบรรลุ อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในเวลาเดียวกัน ครู่เดียวกัน ขณะเดียวกันในพุทธเกษตร โลกธาตุอื่นๆทั้งสิบทิศ ภิกษุเหล่านั้น จักได้เป็นพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า รัตนเกตุราช หนึ่งกัลป์จักเป็นประมาณอายะบริบูรณ์ของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น กระบวนคุณสมบัติของพระพุทธเกษตรเหล่านั้น ก็ทัดเทียมกัน คณะของพระสาวกกับคณะของพระโพธิสัตว์ มีจำนวนเท่ากัน พระสาวกและพระโพธิสัตว์เหล่านั้น จะนิพพานพร้อมกัน พระสัทธรรมของพระสาวกและพระโพธิสัตว์ จะดำรงอยู่ได้นานเท่ากัน


        ขณะนั้น พระผู้มีพระภาค จึงได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

12     ดูก่อนอานนท์ พระสาวกทั้ง 2000 รูปเหล่านี้ กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าของเรา ณ บัดนี้ เราจะพยากรณ์สาวก ผู้เป็นบัณฑิตเหล่านั้นว่า จักเป็นพระตถาคตในอนาคต

13     หลังจากทำการบูชาต่อพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายแล้ว เมื่อถือกำเนิดในชาติสุดท้าย พระสาวกเหล่านั้นจะสำเร็จอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณของเราด้วยการแสดงอุปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

14     ทั้งสิบทิศ พระสาวกเหล่านั้น จะมีพระนามเดียวกัน เมื่อนั่งอยู่ที่โคนต้นไม้ประเสริฐ (พระศรีมหาโพธิ์) ก็จะได้บรรลุญาณเป็นพระพุทธเจ้า ในขณะและเวลาเดียวกัน

15     พระสาวกเหล่านั้นมีพระนามอย่างเดียวกันคือ รัตนเกตุ ซึ่งเป็นที่ทราบกันทั่วไปในโลก พุทธเกษตรของพระสาวกเหล่านั้น มีความเป็นเลิศเสมอกันคณะพระสาวกและพระโพธิสัตว์ก็มีจำนวนเท่ากัน

16     พระสาวกและพระโพธิสัตว์ทั้งปวง เป็นผู้มีฤทธิ์ ได้แสดงธรรมพร้อมกันในโลกทั้ง 10 ทิศ  เมื่อนิพพานแล้วพระสัทธรรมของพระสาวกและพระโพธิสัตว์เหล่านั้นจักดำรงอยู่นานเท่ากัน

        ได้ยินว่า พระสาวกทั้งหลาย ทั้งที่เป็นพระเสขะและพระอเสขะ ได้ฟังคำพยากรณ์เรื่องของตนๆ ต่อพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาค ต่างยินดีปรีดา ปราโมทย์ ปีติโสมนัสอย่างสุดซึ้ง จึงได้กราบทูลพระผู้มีพระภาค ด้วยคาถาเหล่านี้ว่า


17    ข้าแต่พระผู้เป็นแสงสว่างของชาวโลก เมื่อได้ฟังคำพยากรณ์นี้ ข้าพระองค์รู้สึกยินดียิ่งแล้ว ข้าแต่พระตถาคต ข้าพระองค์มีความสุขราวกับถูกรดด้วนน้ำอมฤต

18     ข้าพระองค์ทั้งหลาย ไม่มีความสงสัย ไม่มีความกังวลต่อความเห็นต่างกันที่ว่า พวกข้าพระองค์จักได้เป็นผู้ประเสริฐกว่างชนทั้งหลาย วันนี้ พวกข้าพระองค์มีความสุขที่สุด เมื่อได้ฟังคำพยากรณ์นี้


บทที่ 9 การพยากรณ์พระอานนท์และพระราหุล รวมทั้งภิกษุอื่นอีก 2000 รูป
ในธรรมบรรยาย สัทธรรมปุณฑรีกสูตร อันประเสริฐ
มีเพียงเท่านี้



http://www.mahayana.in.th/tmayana/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81/สัทธรรมปุณทรีกะบท8-9-10.htm

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 25, 2011, 11:59:02 am โดย ฐิตา »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
 :13: อนุโมทนาครับพี่มด
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด