เพลงของเหอซุ่นเถียนได้แฝงปรัชญาทางพุทธที่ค่อนข้างลึกซึ้ง เนื่องจากผลงานเป็นเป็นลักษณะเพลงบรรเลงล้วนๆ ไม่มีเนื้อร้องให้เราได้อ่าน สิ่งที่สื่อความหมายได้ดีที่สุดคือคือเสียงและจังหวะของดนตรีแล้วผสมผสานกับจิตนาการของเราเป็นหลัก หากใครต้องการเพียงเสพความสุขจากเสียงดนตรีนั้น ก็ถือว่าคุณได้สิ่งนั้นไปเต็มๆ ด้วยความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์และการบันทึกเสียงที่แม้คุณฟังแล้วอาจไม่รู้ถึงปรัชญาที่แฝงเร้นก็ตาม แต่ผมเชื่อว่า คุณได้ความสงบทางจิตใจจากเสียงเพลงไปเต็มๆอย่างแน่นอน สำหรับรายละเอียดของเพลงนั้น ผมขอยกเอาบางแทรคที่น่าสนใจมากล่าว ณ ตรงนี้ เพื่อให้การฟังเพลงได้ความลึกซึ้ง และเต็มคุณค่าของมันอย่างแท้จริง
แทรคที่ 1 The Heaven Outside of Heaven
เริ่มต้นด้วยเสียงกลองทุ้มดังแผ่วมาแต่ไกลท่ามกลางความเงียบสงัด ตามด้วยเสียงระฆัง (เหมือนกับเสียงระฆังและกลองในวัดบ้านเรา) จากนั้นตามด้วยเสียงสวดมนต์ของหมู่นักบวชที่ดังมาแต่ไกลจากหลายทิศทางแล้วค่อนๆใกล้เข้ามา เสมือนหนึ่งชีวิตได้จุติขึ้นในห่วงจักรวาลแล้ว เมื่อเหล่านักบวชสวดประสานเสียงกันทั้งหมดพร้อมกับเสียงกลางเป็นระยะๆ เสมือนหนึ่งการดำเนินก้าวไปของชีวิต การกระเพื่อมของเสียงทุ่มจากกลอง และระฆังให้มิติทางเวทีเสียงที่ดีมาก
แทรคที่ 2 tathagata
เริ่มต้นด้วยเสียงร้องเด็กกับจังหวะดนตรีสไตล์อินเดีย แทรคนี้จะให้อารมณ์แตกต่างจากแทรคแรกอย่างสิ้นเชิง จากแทรคแรกที่เงียบเหงามาสู่ความกระฉับกระเฉงของแทรคที่สอง พร้อมกันนั้น ในแบคกราวด์ยังได้ยินเสียงดนตรีประเภทอื่นๆที่ไม่ใช่ของอินเดีย จึงสร้างสีสันได้พอสมควร เพลงนี้เป็นเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม แต่ดูเหมือนเหอซุ่นเถียนตั้งใจจะนำมาเพื่อเปิดโหมโรงเท่านั้น เพราะในแทรคที่ 8 อันเป็นแทรคสุดท้าย เขาได้นำเพลงในชื่อเดียวกันนี้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ใช้เขียนด้วยภาษาจีนเท่านั้น และแนวเพลงกับบรรยากาศต่างๆต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยในแทรคที่ 8 จะเป็นเสียงร้องของ จูเจ๋อฉิน
แทรคที่ 3 Meditation
เพลงนี้ถ้าแปลกันตรงๆก็คือ การสั่งสมาธิ หรือการนั่งวิปัสสนา เริ่มจากเสียงระฆังขนาดต่างๆที่ให้ความรู้สึกถึงความสงบ แล้วตามด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป้าเคล้าคลอกับเครื่องดนตรีเครื่องสายเป็นแบคกราวด์ เสียงนักบวชสวดมนต์ในเสียงที่ทุ้มต่ำฟังแล้วให้ความรู้สึกถึงึความเยือกเย็นในจิตใจอย่างบอกไม่ถูก สักพักมีเสียงฟ้าร้อง และสายฝนเทลงมา ในท่อนนี้ให้บรรยากาศของสายฝนที่สมจริงดีมาก จนเหมือนกับว่าตัวเองยืนอยู่กลางลานวัดที่เงียบสงบท่ามกลางสายฝน ในท้ายสุดของเพลง เป็นเสียงนกร้องทำให้มีชีวิตชีวา เหมือนอรุณรุ่งในมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
แทรคที่ 4 The Heart of the Void
ในด้านหลักภาษาควรจะเขียนเป็น The Void Heart จึงจะถูกต้อง แต่กันความสับสนจึงนำเอาชื่อเพลงตามที่พิมพ์บนปกซีดี) เพลงนี้คือจิตใจที่ว่างเปล่า ไม่แน่ใจว่าผู้เต่งตั้งใจจะให้เป็นภาคต่อของแทรคที่ 3 หรือเปล่า เพราะการเริ่มต้นด้วยเสียงฟ้าร้องแบบกระหน่ำ เสียงในช่วงนี้ให้บรรยากาศที่สมจริงมาก จากนั้นตามด้วยเสียงซอที่เนิบนาบให้ความรู้สึกถึงความอ้างว้างว่างเปล่า จากนั้นก็จะเป็นเสียงสวดมนต์ที่เราอาจคุ้นเคยระหว่างเสียงผู้ชาย(ผู้ใหญ่) กับเสียงประสานของเด็กในแนวบทสวนของศาสนาพุทธสายจีน แทรคนี้ เหอซุ่นเถียนอาจต้องการสนับสนุนคำพูดของเขาที่ว่า “ใดๆในโลกล้วนมาจากรากเดียวกัน” แทรคนี้ลงท้ายได้ดีมาก ด้วยเสียงประสานของเด็ก ในขณะที่เราได้ยินเสียงระฆังที่ดังอยู่ข้างหลังไกลออกไป ซึ่งจะต้องมีการจัดเตรียมด้านการบันทึกเสียงที่ดีถึงได้ผลออกมาเช่นนี้
แทรคที่ 6 The Wind in the Tree
เหมือนเด็กน้อยเดินอย่างเดี่ยวดายทางกลางความเวิ้งว้าง และท้องฟ้าที่มืดมน แล้วจู่ๆก็มีลำแสงแห่งธรรมสาดส่องลอดกลุ่มเมฆดำทะมึนลงมา การไล่จังหวะจากเสียงต่ำของเครื่องเป่าและเสียงคลอจนถึงเสียงลมพัดจนระฆังใหญ่น้อยที่แขวนอยู่ดังระงมไปหมด
แทรคที่ 7 The Dance of the Four Dharmmadhatus
เป็นแทรคที่ผมถือว่าทำได้ยิ่งใหญ่ที่สุด และสมจริงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นมิติของเสียง ที่สามารถรู้สึกถึงความสูง ความกว้าง และความลึกได้ดีมากๆ และผมคิดว่าน่าจะเป็นแทรคที่เขาบอกว่าจะต้องรื้อระบบเสียงใหม่ทั้งหมด คงไม่อาจบรรยายให้เห็นภาพได้มากกว่านี้ครับ นอกจากต้องฟังเอง
ถ้าคุณคิดว่า คุณคือนักฟังเพลงตัวจริง ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงจีนหรือไม่ก็ตาม ก็คือว่า ผลงานชุดนี้ก็ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง อยากให้ฟังว่า คนทำดนตรีที่เป็นนักประพันธ์เพลงที่ได้รับการยอมรับระดับสากล และรู้ถึงแก่นทุกจังหวะและทุกตัวโน้ตนั้น เขาทำเพลงกันอย่างไร ยิ่งเป็นคนที่ไม่อิงกระแสตลาด ไม่เน้นปริมาณ นอกจากคุณภาพ นับจากปีที่ออกอัลบั้มชุด Paramita ในปี 2002 ถึงวันนี้ก็ 7 ปีแล้ว ถึงเข็นเอาชุดที่สองออกมา มันคงไม่แตกต่างจอมยุทธในยุทธภพ ที่แทบจะไม่เคยชักกระปี่ออกมานอกจากจะถึงเวลาจริงๆ คงไม่ผิดนักถ้าจะกล่าวว่า เหอซุ่นเถียนก็คือ “จอมยุทธแห่งสังคีตภาพ”
ตัวอย่างหนึ่งในผลงานเพลงในชุด tattagata
CHILDS BUDDHI HEART DADAWA NEW SONGDadawa Sister Drum London Live http://www.thaichinese.net/thaichineseblog/he-xuntian/