ร้อยเรื่องราว ผ่านท่วงทำนอง สาวผู้รักการขีดๆ เขียนๆ และหลงใหลในเสียงเพลงน่าจะเคยฝันถึงอาชีพนักแต่งเพลงกันบ้าง
งานนี้จะว่าใช้พรสวรรค์อย่างเดียวก็ไม่เชิง เพราะพรแสวงก็สำคัญใช่ย่อย อย่างเช่นสาวนักแต่งเพลงเลือดใหม่ไฟแรงคนนี้
ที่ถ้าบอกชื่อว่า เอิ้น-พิยะดา หลายคนอาจจะไม่คุ้น แต่ถ้าบอกชื่อเพลงที่เธอแต่งละก็ แทบทุกคนต้องร้องอ๋อ ตั้งแต่เพลง
เพื่อนรัก ของเอิน-กัลยากร, เจ็บซ้ำซ้ำ ของแอน-ธิติมา, รักเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ ของลูกปัด, คำถาม และ อยากมีสิทธิ์ใช้คำว่ารัก
ของท๊อฟฟี่ ล่าสุดที่ยังฮิตติดชาร์ตไม่เลิก คือ ฤดูรัก เพลงประกอบหนัง Season Change
ใครจะเชื่อว่าสาวผู้แต่งเพลงฮิตเหล่านี้ที่จริงมีงานหลักเป็นหมอ WP จึงควานหาตัวเธอมาเล่าถึงงานแต่งเพลงที่เธอรักเสียหน่อย
เอิ้น-พ.ญ.พิยะดา หาชัยภูมิ นักแต่งเพลงอิสระ, แพทย์สาขาจิตเวช รพ.รามาธิบดี WP : จากแพทย์มาเป็นนักแต่งเพลงได้ยังไงคะ
หมอเอิ้น : เป็นมาคู่กันเลยค่ะ ที่จริงเด็กจาก จ.เลยแบบเอิ้น เป้าหมายส่วนใหญ่คือเข้า
ม.ขอนแก่นให้ได้ แต่ด้วยความที่เราอยากเป็นนักแต่งเพลง และอยากเรียกหมอโดยเอารายได้ทางนี้มาช่วย
ตอนเอนทรานซ์ก็เลยเลือกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ หมดเลย เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
WP : แสดงว่าเริ่มแต่งเพลงมาตั้งแต่เด็กเลยเหรอ หมอเอิ้น : ตั้งแต่สมัยอยู่ชั้นประถมฯ เลยค่ะ
(เราฟังแล้วอ้าปากค้างไปเลย) คือพอฟังเพลงได้เขียนหนังสือได้ก็เริ่มแล้ว คงเพราะเป็นคนที่ชอบฟังเพลง
แล้วก็ชอบร้องเพลงเล่นๆ แต่ความจำไม่ดี (หัวเราะ) ชอบจำทำนองได้โดยที่จำเนื้อเพลงไม่ได้ ก็เลยร้องมั่วเอง
เผอิญว่ามันเกิดฟังรู้เรื่องไง พอถึงวันสำคัญที่บ้าน มีงานก็ขี้เกียจซื้อของขวัญเลยเขียนเพลงให้เขา
การเขียนเพลงก็เลยเหมือนกลายเป็นงานอดิเรกเรา เป็นนิสัยเรา เข้าห้องน้ำก็ร้องเพลง อยากจะเขียนไดอารี่ก็เขียนเพลงแทน
WP : ได้ยินว่าแต่งเพลงโดยไม่ใช้เครื่องดนตรีอะไรเลย หมอเอิ้น : ทีแรกเอิ้นเข้าใจว่าทุกคนเป็นแบบ นี้
ไม่รู้ว่านี่เป็นความสามารถพิเศษ เรื่องอย่างนี้มันอยู่ที่ว่าเราจะสนใจทำหรือเปล่าเท่านั้น
เวลาที่เอิ้นเขียนเพลงมันจะมาพร้อมกันทั้งเนื้อหาและทำนอง เหมือนดังอยู่ในหัวของเรา เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ
แล้ว บางทีมันจะมาตอนไหนก็ไม่รู้หรอก เลยต้องมีสมุดปากกาไว้คอยจดตลอด เอยนลงสมุดไว้เป็นเล่มๆ เลยค่ะ
จะพรีเซ้นต์ก็ถามเขาว่าจะฟังเพลงไหนคะ จะร้องให้ฟัง (หัวเราะ) WP : เพลงไหนแต่งเสร็จเร็วที่สุดคะ
หมอเอิ้น : เพลง คำถาม ใช้เวลาแค่ 10 นาทีเองมั้ง (เรา อ้าปากค้างอีกรอบ)
ตอนนั้นอยากเขียนเพลงที่บอกความหมายของคำว่ารักแต่ไม่ได้เขียนสักที จนวันหนึ่งได้ดูละคร
ตามเรื่องมีเพื่อนมาถามนางเอกว่าความรักของแกคืออะไร แล้วนางเอกเขาก็ตอบ แต่เป็นคำตอบที่ไม่ตรงกับความหมายที่เอิ้นคิดเอาไว้เลย
พอละครจบปุ๊บ ปิดทีวี เขียนได้เลย...คำถาม...ที่ใครต่างค้นหา...คือเอามาจากละครน่ะค่ะ
แล้วมันก็ไหลไปเองโดยธรรมชาติ จนถึงท่อนฮุกที่ว่า...ความรักฉันหน้าตาเหมือนเธอ...ก็ดันมีหน้าของผู้ชายคน
ที่เราคบด้วยในตอนนั้นโผล่ขึ้นมา ก็เลยเฮ้อ! หน้าตาเหมือนมันก็ได้ (หัวเราะ) WP : แล้วเพลงไหนแต่งยากที่สุด
หมอเอิ้น : ชื่อเพลง รักตัวเองมากไป ของลูกปัด อัลบั้มช็อกโกแลตเพลงนี้เขียนยากค่ะ เอิ้นว่าเพลงรักๆ
ประเภทมองโลกสดใส เป็นนางเอกเนี่ยเขียนง่ายเลย คงเป็นเพราะคนเราชอบให้คนชม ชอบให้พูดถึงเรื่องดีๆ
ถ้าใครพูดถึงข้อเสียของเราจะหงุดหงิด ไม่ชอบแล้ว แต่เพลง รักตัวเองมากไป
นี่มาจากการที่เอิ้นคิดว่าคนเราชอบคิดถึงแต่ตัวเอง แต่เราไม่ค่อยยอมรับความจริงกัน ก็เลยคิดว่าอยากเขียนเพลงๆ
นี้ให้คนที่บางทีรักตัวเองมากเกินไปจนคนอื่นไม่อยากอยู่ด้วยแล้ว เพลงนี้อาจจะสะกิดใจคุณได้
แล้วทำให้คุณหันมามองคนที่เขาดีกับคุณมาตลอด มันยากที่เราจะจี้ใจดำคนอื่นและให้ฟังแล้วยอมรับว่า
เออ...เราเป็นคนอย่างนั้นจริงด้วย ไม่ใช่ฟังแล้วต่อต้าน ตามไปตบเลยไอ้คนเขียนเพลงนี้ (ฮาครืน)
WP : รู้สึกอย่างไรที่เพลงที่เราแต่งดังแทบทุกเพลง หมอเอิ้น : รู้สึกว่าดวงดีจริงๆ เลย (หัวเราะ)
ตอนแรกแค่ได้ยินเพลงเรา รู้ว่าเพลงเรามีคนเอาไปใช้ก็ดีใจแล้ว ความดีใจของเอิ้นมันเหมือนหยุดอยู่ตรงนั้นแล้วไง
ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกันที่เราได้ไปเรียนรู้กับกลุ่มเขียนเพลงต่างๆ เพื่อจะได้หัดเขียนหลายๆ
สไตล์ แต่มาคิดแล้วเอิ้นว่าเราคงไม่ใช่แน่ๆ เอิ้นเป็นคนเขียนเพลงตามความรู้สึก เขียนตามที่ตัวเองคิด
เขียนในภาษาที่พี่แอน (ธิติมา ปทุมทิพย์) บอกว่าแกนี่เขียนเพลงภาษาเอิ้นๆ อีกแล้วนะ คือเสี่ยว-เลี่ยน-ลาว (
หัวเราะ) ถ้าครบสามอย่างก็คือภาษาเอิ้นๆ ตอนเขียนเพลงก็ไม่ตั้งใจให้ใครชอบหรอก แค่เรู้สึกแบบนี้
อย่างเพลง ฤดูรัก ก็ดูหนังแล้วมาคิดว่าถ้าฉันเป็นนางเอกนะ (หัวเราะ) จะสังเกตว่า
เขาจะมีโค้ดว่าฤดูหนาวเปลี่ยนเป็นฤดูร้อน เปลี่ยนฤดูไปเรื่อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เอิ้นคิดว่าไม่เปลี่ยนเลยทั้งเรื่องคือมีความรักทุกซีน
ก็เลยตั้งฤดูขึ้นใหม่เป็นฤดูรัก ซึ่งเป็นความรู้สึกหลังจากที่ได้ชม และอยากให้คนฟังแล้วประทับใจเช่นเดียวกับเรา WP : คิดว่าเพลงของเราเป็นการบำบัดในแง่จิตวิทยาไหมคะ หมอเอิ้น : คิดอย่างนี้เลยค่ะถึงมาเรียน ตอนที่เอิ้นไปขอทุนก็บอกอาจารย์เลยว่าอยากทำ Music Therapy เพราะเอิ้นเชื่อว่าดนตรีมันช่วยได้จริงๆ อย่างวันที่เราท้อแท้ ไม่มีกำลังใจ เอิ้นจะฟังเพลงฤดูที่แตกต่างนะ ทุกครั้งที่ฟังเพลงนี้จะรู้สึกได้เลยว่าเดี๋ยวความทุกข์ก็จะผ่านไป ฟังแล้วเราจะมีกำลังใจ เพลงแค่ 3 นาทีเองนะ มันกลับช่วยเราได้มากถึงขนาดนี้ มันก็คงดีถ้าหากว่าเราสามารถเขียนเพลงให้คนฟังแล้วมีกำลังใจได้อย่างนี้บ้าง สำหรับตัวเองการได้ระบายด้วยการเขียนเพลงก็ช่วยให้เราสุขภาพจิตดีขึ้นค่ะ เหมือนเราได้ค้นพบวิธีการบำบัดของตัวเองแล้ว เพราะฉะนั้นการที่เป็นจิตแพทย์ เอิ้นมองว่าเป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกัน การเป็นจิตแพทย์ต้องเข้าใจคนมากๆ และทำให้เขาเข้าใจปัญหาของเขาได้ง่ายๆ ซึ่งตรงนี้ยังได้เรื่องมาเขียนเพลงด้วย
เครดิต:
http://women.sanook.com