สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
เรื่องเกิดขึ้นที่อินเดีย สมัยโบราณที่เมืองพาราณสี ในยุคที่พาราณสีรุ่งเรืองนั้นถือว่าเมืองพาราณสีเป็นเรือนเพาะชำศาสนาของโลก มีปราสาทอยู่ 2 หลังหันหน้าเข้าหากัน
เรื่อง ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย
เรื่องเกิดขึ้นที่อินเดีย สมัยโบราณที่เมืองพาราณสี ในยุคที่พาราณสีรุ่งเรืองนั้นถือว่าเมืองพาราณสีเป็นเรือนเพาะชำศาสนาของโลก มีปราสาทอยู่ 2 หลังหันหน้าเข้าหากัน ทางเดินตรงกลางนั้นมุ่งไปสู่แม่น้ำคงคา นักบุญก็อยู่แถวนั้น คนบาปก็อยู่แถวนั้น เทวาก็อยู่ย่านนั้น ซาตานก็อยู่ย่านนั้น
มีตึกหลังหนึ่งทั้งเทวาและซาตานอยู่ใกล้กันมาก ก็เกิดกิจการประชันกันซึ่งๆ หน้า นั่นก็คือปราสาทหลังหนึ่งเป็นสำนักนางโลม สมัยนั้นเขาเรียกว่านครโสเภณี แปลว่าหญิงงามเมือง หญิงงามเมืองในสมัยก่อนมีศักดิ์ศรีมากเท่ากับเป็นนางสาวไทย คือเป็นนางงามของประเทศนั้นๆ ใครได้รับการสถาปนาเป็นหญิงงามเมืองต้องถือว่าเป็นเกียรติคุณสูงสุด
ปราสาทอีกหลังหนึ่งเป็นของหลวงปู่ฤๅษีเปิดกิจการเรียกลูกค้าแข่งกัน ฝ่ายหนึ่งเรียกลูกค้าที่เป็นฝ่ายโลก ฝ่ายหนึ่งก็เรียกลูกค้าที่เป็นฝ่ายธรรม ธุรกิจดีด้วยกันทั้งคู่ คือคนที่ไปเที่ยวซ่องนางโลมแล้วถูกแมงดาไล่ซ้อม ก็มาหาหลวงปู่ฤๅษีให้ช่วยสะเดาะเคราะห์ เรียกว่าธุรกิจก็เติบโตมาด้วยกัน ทุกวันจะมีคนมาใช้บริการสองสำนักนี้อย่างคับคั่ง ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองเรียกว่าไม่ต้องทำการตลาด ไม่ต้องประชาสัมพันธ์
เจ้า สำนักทั้งสองมีปฏิกิริยาต่อกันอย่างไรนั้น ไม่มีใครรู้ นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาแถวนั้นมักจะถามเสมอว่าทำไมซ่องนางโลมกับสำนักฤๅษี ถึงมาอยู่ใกล้กัน
เจ้าสำนักนางโลมนั้น ทุกๆ คืนหลังจากปิดกิจการแล้วเธอขึ้นไปบนชั้นบนสุดมองมายังปราสาทของหลวงปู่ฤๅษี ส่วนหลวงปู่ฤๅษีก็เช่นกัน ทุกๆ คืนหลังจากญาติโยมกลับไปแล้วท่านก็เข้าห้องสงฆ์ อาบน้ำผ่อนคลายแช่น้ำร้อน น้ำเย็นเสร็จแล้วก็ยืนมองไปทางฝั่งซ่องนางโลมคลี่มู่ลี่ดู ฝั่งนางโลมปิดกิจการแล้วก็อาบน้ำร้อน อาบน้ำเย็นใส่ชุดนอนหันหน้ามาทางหลวงปู่ฤๅษีคลี่มู่ลี่ดู ต่างคนต่างมองมาทางกันและกัน
หลวงปู่ฤๅษีพอคลี่มู่ลี่ดูก็คิดในใจว่า แม่เจ้าโว้ย ฉันนี้ไม่ได้คิดหรอกว่าจะมาเป็นฤๅษี คิดแค่ว่าจะหาอยู่หากินธรรมดา แต่จู่ๆ มันก็ดังขึ้นมาเอง ก่อนนอนท่านก็พนมมือสาธุ ถ้าได้ร่วมอภิรมย์กับเธอสักครั้งก็ไม่เลว แล้วก็หลับไปทั้งความเพ้อฝัน
ฝ่ายนางโลมก็หันมาทางหลวงปู่ฤๅษีคลี่มู่ลี่ลงมอง สาธุหลวงปู่เจ้าขาลูกขายแต่ตัวหัวใจไม่ขาย ในชีวิตนี้ก็ไม่เคยคิดหรอกว่าจะมาเป็นคนบาปหยาบช้าถึงปานนี้ แต่เพราะลูกเกิดมาจนไม่มีทางเลือก ลูกศรัทธาหลวงปู่เหลือเกิน แต่ครั้นจะไปกราบลูกก็รู้ว่าบาปเต็มตัวลูกขอกราบจากตรงหน้าต่างนะเจ้าคะ
ต่อมาทั้งสองฝ่ายก็ล่วงลับดับขันธ์ไป ปรากฏว่านางโลมขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ชั้น 7 แต่หลวงปู่ฤๅษีไปอยู่นรก หลวงปู่ฤๅษีก็ออกอาการโวยวาย ก่อนเดินไปหาเจ้าหน้าที่ในนรก เป็นไปได้อย่างไรคนอย่างฉันจะตกนรกได้อย่างไร ฉันช่วยคนไปตั้งเยอะ แล้วดูสิเอามาไว้ในกระทะทองแดง พวกคุณนี่ทำข้อมูลผิดไปหรือเปล่า ถ้าผิดขอให้รีบแก้ใหม่ อภัยให้ได้ตอนนี้ยังทัน เจ้าหน้าที่ก็ขอเวลาไปตรวจเช็กก็พบชื่อหลวงปู่อยู่ในรายการคนที่จะต้องลงนรก เปิดให้หลวงปู่ดู ว่าหลวงปู่จะยอมจำนนหรือไม่ เมื่อหลวงปู่ได้เห็นหลักฐานชัดเจนจึงยอมตกนรก
ในสวรรค์นางโลมที่ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ชั้น 7 ก็สมบูรณ์พูนสุขไปด้วยทรัพย์สินสมบัติ ทุกอย่างเพียบพร้อม เธอเอะใจว่า ฉันคือคนบาปเป็นนางโลมตั้งแต่อายุ 15-16 ปี ทำไมตายแล้วกลับได้มาอยู่บนสวรรค์ต้องมีความผิดปกติเกิดขึ้น ก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ของสวรรค์ ท่านเทพบุตรเจ้าขามีความผิดพลาดบางประการเกิดขึ้นหรือเปล่าเจ้าคะ เพราะตามปกติคนบาปอย่างดิฉันต้องลงไปอยู่ในนรกแล้วทำไมดิฉันต้องมาอยู่บน สวรรค์ด้วย
เจ้าหน้าที่สวรรค์ก็บอกว่า ถูกแล้ว คุณอย่างไรก็ต้องขึ้นสวรรค์ เพราะว่าฐานข้อมูลของเราแสดงชัดตั้งแต่คุณยังไม่ตาย นางโลมก็ถามต่อว่า เอ๊ะทำไมดิฉันต้องขึ้นสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตอบว่า งั้นคุณย้อนระลึกดูสิว่าก่อนนอนทุกคืนคุณภาวนาอย่างไร
นางโลมก็นึกถึงภาพตัวเองว่าก่อนนอนทุกคืนเรามีความศรัทธาหลวงปู่ฤๅษี อย่างท่วมท้น ทุกคืนเรากราบท่าน ก่อนล้มตัวลงนอนด้วยจิตที่ผ่องใส เพราะว่าเราศรัทธาในนักบุญ แต่พอมานึกดูแล้วก็ประหลาดนะเราศรัทธาท่านอยู่ห่างๆ เรายังได้มาอยู่ในสวรรค์ อานิสงส์มหาศาลจริงๆ
ถ้าเช่นนั้นหลวงปู่ฤๅษีที่ช่วยคนมาทั้งชีวิต ป่านนี้จะไม่อยู่บนสวรรค์ชั้นสูงสุดแล้วหรือ นึกถึงแล้วเธอก็ชื่นอกชื่นใจแทนหลวงปู่ฤๅษี นึกเสร็จเธอก็น้ำตาไหล
หลวงปู่เจ้าขาลูกกราบหลวงปู่อย่างห่างๆ ยังได้อยู่สวรรค์ชั้น 7 หลวงปู่ป่านนี้คงได้อยู่สวรรค์ชั้นพรหมชั้น 16 ชั้นสูงสุด ลูกขอโมทนากับหลวงปู่ด้วยนะคะ
สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
.
http://www.posttoday.com/lifestyle/h...B9%83%E0%B8%88.
.