ผู้เขียน หัวข้อ: โกรธยาก..หายเร็ว ^^  (อ่าน 1380 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ดอกไม้ในที่ลับตา ~ ღ

  • ทอฝัน~..ปันรัก & น้ำใจ ..ห่วงใย~ ให้ และ แบ่งปัน..เกื้อกูลกัน ด้วยความจริงใจ แบบไร้เงื่อนไข ดุจดั่ง ครอบครัวเดียวกัน นะคะ ^^ ..
  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 759
  • พลังกัลยาณมิตร 365
  • ๏ นิ่ง .. ดับ ~ .. ขยับ .. เกิด ๏
    • ดูรายละเอียด
โกรธยาก..หายเร็ว ^^
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 04:21:40 pm »
โกรธยาก..หายเร็ว :43: :19:



โดย นพ.จักรพงศ์ ไพบูลย์ 

ความโกรธ เป็นสิ่งที่เราทุกคนรู้จักดี  จัดเป็นหนึ่งใน อุปกิเลส  คือเป็นสิ่งที่ทำให้ใจเราเศร้าหมองและขุ่นมัวที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด  ความโกรธเกิดได้ตลอดเวลา เกิดเป็นส่วนตัวก็ได้และเหนี่ยวนำให้เกิดเป็นกลุ่มก็ได้  ทำอันตรายได้ ทั้งส่วนตัว คนรอบข้าง จนถึงบ้านเมืองเลยทีเดียว  ความโกรธของผู้นำของประเทศ เป็นสาเหตุให้เกิดสงคราม และเกิดการบาดเจ็บล้มตายไปมาก 

จากคำสอนทางพระพุทธศาสนา เราควรจะจัดการกับความโกรธนี้ได้อย่างไร ประการแรก  พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า  ความโกรธนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายนัก อย่าพึงให้เกิดขึ้น เพราะจะทำให้เกิดผลกรรมต่างๆ  ได้มากมายดังนี้

" ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ก็บุคคลผู้โกรธ  ถูกความโกรธครอบงำ มีจิตอันความโกรธกลุ้มรุมนี้ ย่อมฆ่าสัตว์ก็ได้ ลักทรัพย์ก็ได้  คบชู้ก็ได้ พูดเท็จก็ได้ สิ่งใดเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน  บุคคลผู้โกรธย่อมชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้นก็ได้ฯ" เกสปุตตสูตร ๒๐/๕๐๕ 

ประการต่อมา ท่านสอนว่าพึงละความโกรธให้ได้  ทำลายความโกรธให้ได้ เมื่อเทวดาได้ทูลถามว่า ฆ่าอะไรจึงจะเป็นสุข  ฆ่าอะไรจึงจะไม่เศร้าโศก พระพุทธองค์ได้ทรงตอบว่า ฆ่าความโกรธแล้วย่อมอยู่เป็นสุข  ฆ่าความโกรธแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก

พระพุทธองค์ทรงสอนภิกษุเรื่องความโกรธกับเลื่อยไว้ว่า 

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย หากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้า  เอาเลื่อยที่มีที่จับทั้งสองข้าง เลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ แม้ในเหตุนั้น  ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดมีใจคิดร้ายต่อโจรเหล่านั้น ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้น  ไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสั่งสอนของเรา เพราะเหตุที่อดกลั้นไม่ได้นั้น  ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้นเธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า  จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาที่ลามก  เราจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์ เราจักมีเมตตา จิตไม่มีโทสะในภายใน  เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึงบุคคลนั้น และเราจักแผ่เมตตาอันไพบูลย์ใหญ่ยิ่งหาประมาณมิได้  ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท ไปตลอดโลกทุกทิศทุกทาง ซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้น " กกจูปมสูตร  ๑๒/๒๗๒

พระพุทธองค์ทรงสอนพระภิกษุว่า  ผู้โกรธตอบให้ถือว่าลามกหรือเลวร้ายกว่าผู้โกรธก่อน ดังนั้น  เมื่อใครมาโกรธเราไม่ควรโกรธตอบ ทรงสอนพระสงฆ์ว่า  เมื่อไรโกรธให้คิดถึงโอวาทเรื่องเลื่อยนี้ไว้เสมอ  และมีคำสอนมากมายที่สรรเสริญการไม่โกรธ

ทีนี้ความโกรธจะแก้ไขด้วยวิธีใด  จากคำสอนในพระพุทธศาสนาพบว่า ความโกรธไม่ใช่ของง่ายที่จะกำจัด ต้องมีการฝึกฝน  ฝึกสติ ฝึกจิตอยู่พอสมควรจึงจะแก้ได้เร็ว และหายได้เด็ดขาด  มีคำสอนของพระสารีบุตรสอนว่า ต้องพิจารณาทำลายแห่งความโกรธก่อน 
แหล่งความโกรธเรียกว่า รากแห่งความโกรธ นั้นเกิดจากสาเหตุ ๖  ประการคือ

ความไม่รู้
ความไม่คิดอย่างแยบคาย
การมีมานะ  ถือตัวตนตัวเรา
ของเราความไม่เกรงกลัวต่อบาป
ความไม่ละอายต่อบาป 
และความฟุ้งซ่าน (สารีปุตตนิทเทสที่ ๑๖/๙๔๙)

โดยรวมแล้วหลักการทำลายความโกรธง่ายๆ มีดังนี้ 

  • เมื่อโกรธ ให้ตั้งสติ  คือให้รู้ว่าโกรธ ที่โบราณว่าไว้ว่าให้นับหนึ่งถึงสิบก่อน ก็เพื่อตั้งสติ  หรือที่ครูบาอาจารย์บางท่านให้กำหนดในใจว่า โกรธหนอ โกรธหนอ อย่างนี้ก็ได้  การทำแบบนี้อาจทำให้ความโกรธหายได้ ในบางคนที่จิตฝึกมาดีแล้ว ด้วยการเจริญสติมาก่อน  การรู้ทันความโกรธอย่างนี้ ทำให้ตัดความโกรธได้เลย
  • ถ้ายังตัดความโกรธไม่ได้ ให้ข่มใจ  อดทนไว้ก่อน และหาทางเปลี่ยนอารมณ์ ให้คิดว่าแม้จะโกรธ  เราจะไม่ประทุษร้ายตอบ ด้วยกายวาจาใจ ไม่พูดหยาบคายและบันดาลโทสะ  ให้เปลี่ยนไปทำสิ่งอื่นที่มีความสุขไปก่อน เปลี่ยนบรรยากาศไปก่อน  และออกจากสถานการณ์นั้นไปก่อน ถ้าเขาถามหรือขอสัมภาษณ์ ก็ยังไม่ตอบ  ถ้าเขาต่อว่าก็สงบไว้ถ้าทะเลาะกันก็หยุดก่อน  ไม่ต้องคุยด้วยเหตุผลกันในตอนนี้เมื่อยังมีความโกรธอยู่ การใช้เหตุผลจะทำไม่ได้  ต้องพักรอให้ผ่านไปก่อน อาจจะไปสวดมนต์ อาจจะไปฟังเพลง อ่านหนังสือ หาของอร่อยกิน  อย่างไรก็ได้ เปลี่ยนอารมณ์ ไป ก่อนเมื่อไม่มีอารมณ์หล่อเลี้ยง  ความโกรธจะหายไปชั่วคราว แต่เมื่อคิดขึ้นมาก็จะคุกรุ่นมาได้อีก ก็อย่าคิด  อย่าวนเวียนคดซ้ำซากเรื่องที่ทำให้โกรธ ให้ผ่านไป  คิดไปทำเรื่องอื่นที่เราชอบก่อนพอให้ใจสบายขึ้น จากนั้นพิจารณาต่อตามข้อ ๓ 
  • เมื่อค่อยผ่อนคลายลง ให้ใช้ความคิดอย่างแยบคายในการพิจารณาเรื่องที่โกรธ ซึ่งทำได้หลายประการดังนี้คือ 
  • ให้คิดว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ทุกข์เกิดจากความยึดมั่นในตัวเราของเรา  ว่าเป็นตัวเราของเราจริง ซึ่งความจริงนั้นไม่ใช่  แม้ตัวเราและจิตใจเราก็ไม่ใช่ของเรา ทั้งนี้เพราะมันไม่คงที่ มีการเปลี่ยนแปลง  ไปไม่ได้ดั่งใจ ไม่สามารถที่จะบังคับควบคุมได้ ไม่เป็นไปได้ดั่งใจปรารถนานึก  จะไม่ให้ป่วยก็ป่วย นึกจะไม่ให้แก่ก็แก่ นึกจะไม่ให้โกรธก็ยังโกรธ ดังนั้น  แม้แต่ตัวเรายังไม่ใช่ของเรา ทรัพย์สินบริวารญาติมิตร ก็ยิ่งไม่ใช่ของเรา  เป็นของสมมุติทั้งนั้น วันหนึ่งก็ต้องจากกันไป ดังนั้นไม่มีอะไรเป็นของเราจะโกรธไปทำไม
  • ให้คิดว่าทุกคนต่างก็ต้องตายกันทั้งสิ้น  ตัวเราก็ต้องตายตัวเขาก็ต้องตาย และไม่รู้วันตาย เหมือนเป็ดไก่ถูกจับไว้ในรถ  ส่งไปโรงฆ่าสัตว์ ต่างก็ไม่รู้ว่าตัวจะตายยังจะมาจิกตีทะเลาะกันในรถนั่นแหละ  จะทะเลาะกันไปทำไม โกรธกันไปทำไม  อีกหน่อยก็ต้องตายกันหมดอยู่ดี
  • ให้คิดว่าทุกคนน่าสงสาร  ตัวเราก็น่าสงสาร เขาก็น่าสงสารคือ ทุกคนต่างก็อยากได้ความสุข  ปรารถนาสุขเกลียดทุกข์กันทั้งนั้น แต่ก็ต้องเจอทุกข์ ต้องเจ็บป่วย ต้องแก่ ต้องตาย  จะตายทรมานแค่ไหนก็ไม่รู้ ต้องเจอของไม่ชอบใจกันทั้งสิ้น น่าสงสารเรื่องแค่นี้จะโกรธกันไปทำไม
  • ให้พิจารณาโทษของความโกรธ  ว่าทำให้ใจเร่าร้อนก่อให้เกิดขุ่นมัวทุกข์ใจ และยิ่งคิดยิ่งทวีคูณ  คนโกรธจะนอนไม่หลับ พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ตายไปก็ไปสู่ทุคติ ขนาดพระสงฆ์  แม้โจรเอาเลื่อยมาเลื่อยเป็นสองท่อน พระพุทธเจ้ายังทรงสั่งไม่ให้โกรธ  เพราะถ้าโกรธจะต้องรับทุกข์ในนรกมากกว่านี้ ดังนั้นจะโกรธไปทำไม 
  • ให้พิจารณาและมั่นใจในกฎแห่งกรรม  ที่ไม่เคยละเว้นผู้ใด รอแต่กรรมส่งผลเท่านั้น และเวลาส่งผลมักจะส่งผลทวีคูณเสมอ  ดังนั้นถ้าเขาทำผิด ทำไม่ดี ยิ่งรับกรรมหนักมากกว่าเดิมหลายร้อยหลายพันเท่า  เป็นเรื่องน่าสงสารคนที่ทำผิดทำชั่ว เขาทำเพราะไม่เชื่อในกฎแห่งกรรมมากพอ  ไม่กลัวบาปกรรม จึงทำผิด แต่เราเชื่อเราเชื่อที่พระพุทธเจ้าสอน  เรามีศรัทธาในพระธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน เมื่อกฎแห่งกรรมนี้มีจริง  คนทำผิดจึงน่าสงสารต้องรับโทษหนัก ควรแก่การสงสาร ไม่จำเป็นต้องไปโกรธเขา 
ให้อยู่ในความดี คิดว่าเราโชคดี  ได้รู้จักพระธรรม ได้รู้จักพระพุทธศาสนา จึงได้ทำดี คิดดี พูดดี  และคิดสิ่งที่เป็นกุศลนี้ได้ ทำให้ละความโกรธได้  ส่วนคนอื่นที่ยังโกรธเราอยู่นั้นก็เป็นเพราะเขาไม่ได้โชคดีอย่างเรา  ดังนั้นควรสงสารให้มากและรักษาตัวเราให้อยู่ในความดี เมื่อเราใจดี  ความดีนั้นย่อมไปกระทบใจคนอื่นเช่นกัน ทุกคนจะสงบลงกว่าเดิม  โอกาสที่จะแก้ปัญหาโดยไม่โกรธก็ทำได้ง่ายขึ้น 

เมื่อคิดว่าเราเข้มแข็งพอที่จะไม่โกรธแล้ว  ให้ทบทวนสิ่งที่ทำให้เราโกรธอีกครั้งหนึ่งดูว่า ปัญหาอยู่ที่ใด เราเป็นคนผิด  เราก็ยอมรับก็แก้ไขเสีย ถ้าเขาผิดก็ค่อยชี้แจ้ง ถ้าเขายังไม่เข้าใจก็รอก่อน  เมื่อเขาสงบคิดได้ค่อยชี้แจ้ง การให้ความรู้และธรรมะที่ถูกต้องจะทำให้ทุกอย่างสงบ  และแก้ปัญหาได้ สาเหตุหลักของการโกรธมาจากอวิชชา คือความไม่รู้  ไม่รู้ตามความเป็นจริงของเรื่องทางโลก ทำให้เข้าใจผิด หลงไปอยู่ข้างผิด  และไม่รู้ตามเป็นจริงของธรรมะ ที่ไม่ให้ยึดถือในตัวเราของเรา ดังนั้น  เมื่อรู้ความเป็นจริงในเรื่องทางโลกและเรื่องทางธรรม ก็จะแก้ปัญหาได้  ความโกรธก็จะหมดไป



ขอให้ตัวเราเป็นคนไม่โกรธง่าย ถ้าโกรธก็ขอให้หายไวๆ  ขอให้สังคมไทยเป็นอย่างนี้เช่นกัน



:07:  :13: .. ขอขอบพระคุณที่มาจาก : บอร์ดพลังจิต  :19: และ ที่นี่ดอทคอม มา ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ ..


.. จงมอง "ปัญหา" ให้เป็น "กล้องถ่ายรูป".. เวลาเจอต้อง "ยิ้มสู้" ^^ .. แล้ว "ชูสองนิ้ว".. 


:13:. .. .:19:
จิตอ่อนน้อมเป็นกุศล จิตถ่อมตนเป็นบารมี..
รักษาสุขภาพนะคะ คุณพระคุ้มครอง ความดีรักษาค่ะ..

. . รั ก ษ า ธ ร ร ม ๏ อ ยู่ คู่ ก า ย . .

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: โกรธยาก..หายเร็ว ^^
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 10:04:47 pm »
:13: อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับพี่น้ำฝน
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~