ขอเพิ่มคำเดียว “ภิกษุณีสงฆ์”
ทำไมต้องเพิ่ม “ภิกษุณีสงฆ์” หลายๆ คนอาจจะมีคำถามว่าจะเป็นได้อย่างไร
เมื่อปลายเดือน ตุลาคมที่ผ่าน ได้มีการจัดโครงการเสวนาเวทีภาคประชาชน เรื่อง “ภิกษุณี” กับการเติมเต็มพุทธบริษัทสี่ จัดโดย คณะกรรมการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมภิบาล วุฒิสภา ร่วมกับมูลนิธิปริญญาโทบริหารรัฐกิจ ธรรมศาสตร์ ซึ่งอาจจะเป็นโจทย์สำคัญที่คนไทยน่าจะร่วมกันคิดและมีส่วนร่วมในการเติมเต็ม พุทธบริษัทสี่ให้กับสังคม
ท่าน สว. ไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นหนึ่งในวิทยากรในเวทีในครั้งนั้น และถือเป็นครั้งแรกที่ สว. ได้รับทราบอุปสรรคของภิกษุณีในแง่กฎหมาย ท่านรับปากในที่ประชุมว่าจะต้องหาทางทำสิ่งที่ดีงามและถูกต้องให้ปรากฏ มีความคิดเห็นว่าในรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้ผู้หญิง ผู้ชาย หรือใครๆ ปฏิบัติความเชื่อในศาสนาของตนได้ๆ ไม่ผิดกฎหมาย แต่เพราะประเทศไทยยังไม่มีภิกษุณี ในเมื่อภิกษุณีไม่ผิดกฏหมายก็ต้องช่วยให้ผู้หญิงที่บวชเป็นภิกษุณีมีสถานภาพ ได้ตามกฏหมายเช่นกัน หากกฏหมายเป็นอุปสรรค ก็ต้องแก้ที่กฏหมาย เพราะ กฏหมายมีไว้เพื่อสนับสนุนให้คนดีทำดี และห้ามคนชั่ว มิให้ทำชั่ว
ท่านพิจารณาในบริบทของพุทธศาสนา ได้รับการยืนยันว่า เจตนารมณ์ของพระพุทธเจ้าเป็นเช่นนั้น คือให้ผู้หญิงบวชเป็นภิกษุณีได้ ได้บวชมาแล้ว มีประวัติศาสตร์ทั้งยืนยัน และสนับสนุน
โสำหรับบางคนที่ยังไปติดใจประเด็นว่า พระพุทธองค์ทรงลังเล ไม่ได้ให้บวชในตอนแรก ท่านสรุปให้เราเข้าใจชัดเจนว่า ท้ายที่สุด พระพุทธองค์ตัดสินพระทัยว่า อย่างไร เราจะยึดเอาตามนั้น พระพุทธองค์ตัดสินพระทัยแล้วให้ผู้หญิงบวชได้ เป็นอันยุติข้อถกเถียง
มหาเถรสมาคมเอง ไม่รับภิกษุณีสงฆ์ เพราะมีคำสั่งของสมเด็จพระสังฆราช ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๑ ห้ามมิให้พระภิกษุบวชผู้หญิงเป็นภิกษุณี สิกขมานา สามเณรี นั้น ก็เป็นสิทธิของมหาเถรสมาคมที่เราพึงเคารพ
แต่ก็เป็นสิทธิของผู้หญิงที่จะออกบวชตามพุทธานุญาตเช่นกัน และเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญให้ไว้
เมื่อคิดตามนักกฏหมาย เราจะตัดประเด็นปลีกย่อยออกไปมาก และประเด็นของเราจะชัดคมมากขึ้น
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่าน ในฐานะนักกฏหมายจึงเสนอช่องทางที่ เรียกว่า บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น เข้าไปเปิดดู พรบ.คณะสงฆ์ บันทัดแรก ที่นิยามว่า “คณะสงฆ์หมายถึงภิกษุสงฆ์ และคณะสงฆ์อื่น”
ในคำว่า “คณะสงฆ์อื่น”นั้น อธิบายขยายความไว้ใน มาตรา ๕ ทวิ ว่าหมายถึง จีนนิกาย และอนัมนิกาย
ท่านเสนอให้มีการเพิ่มเติมในมาตรา ๕ ทวิ นี้ เพียงคำว่า ภิกษุณีสงฆ์
เท่านี้เอง ภิกษุณีสงฆ์ก็จะได้รับความคุ้มครองโดยกฏหมาย
เป็นการเคารพเจตนารมณ์ของกฏหมาย ตามรัฐธรรมนูญที่ว่า ชาย หญิงมีเสรีภาพสามารถปฏิบัติตามความเชื่อในศาสนาของตนได้
เป็นการเคารพพระพุทธานุญาต ที่ทรงอนุญาตให้ผู้หญิงบวชได้
ไม่ก้าวล่วงสิทธิและหน้าที่ของมหาเถรสมาคม เพราะภิกษุณีสงฆ์ ที่จะเกิดขึ้นนี้จะอยู่ในฐานะเช่นเดียวกับคณะสงฆ์จีนนิกาย และอนัมนิกาย ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมหาเถรสมาคม แต่จะอยู่ภายใต้กฏกระทรวง และขึ้นตรงกับสมเด็จพระสังฆราชพระองค์เดียว
ในการที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม เพียงต้องการลายเซ็นของผู้สนับสนุนความคิดเห็นนี้ ๑๐,๐๐๐ ชื่อ เพื่อเสนอเปลี่ยนแปลง พรบ. ดังกล่าวข้างต้น
เป็นการเคารพพระพุทธานุญาต ที่ทรงอนุญาตให้ผู้หญิงบวชได้
ท่านที่ต้องการลงชื่อสนับสนุนการขอแก้ไข พรบ.สงฆ์ ในครั้งนี้สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ ที่นี่ เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วกรุณาส่ง แบบ ฟอร์มพร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านที่เซ็นรับรองแล้วมาที่ มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง 12/22 ถ.เทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
เราอยากรวบรวมรายชื่อให้ได้มากที่สุดภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้ มาร่วมสนับสนุนพระพุทธศาสนาให้มีพุทธบริษัทสี่ครบถ้วนด้วยกันนะคะ
http://www.whaf.or.th/content/397.
http://www.whaf.or.th/sites/default/...orm%282%29.pdf.