ผู้เขียน หัวข้อ: สุขหรือทุกข์ ติดต่อกันได้  (อ่าน 1299 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด
สุขหรือทุกข์ ติดต่อกันได้
« เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 10:02:14 pm »



...

เป็นที่ทราบกันดีว่า ทั้งความทุกข์และความสุขมีแนวโน้มจะ "ติดต่อกันได้คล้ายโรคระบาด (infectious)" สำนักข่าว BBC กล่าวว่า 'Happiness is infectious...' ซึ่งตรงกับภาษาไทยว่า ความสุขนั้นระบาดได้คล้ายโรคติดต่อ

การศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง 5,000 คนพบว่า การมีเพื่อนที่มีความสุขอยู่ในระยะทางไม่เกิน 1 ไมล์ เพิ่มโอกาสที่จะทำให้กลุ่มตัวอย่างมีความสุขเพิ่มขึ้น (เฉลี่ย) 25%

...

 

ภาพประกอบจาก [ BBC ]

...

ศาสตราจารย์นิโคลัส คริสทาคิส และคณะ แห่งแพทย์ฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ ทำการศึกษาข้อมูลจากชาวเมืองฟรามิงแฮม สหรัฐฯ (Framingham heart study) ผลการศึกษาพบว่า

ประเภท ผลกระทบต่อการเพิ่มควมสุข (ร้อยละ)
คู่ครอง (สามี ภรรยา) 8%
ลูกพี่ลูกน้อง (siblings) 14%
เพื่อนบ้าน 34%


...

เรื่องที่น่าสนใจมากๆ คือ การอยู่ใกล้คนที่มีความสุขนี้สามารถ "ถ่ายทอด" ความสุขคล้ายๆ กับการ "ออกอากาศ (broadcast)" ความสุขจากเพื่อนไปสู่เพื่อนของเพื่อน และไปสู่เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนได้ รวมแล้วเป็นการถ่ายทอด 3 ลำดับด้วยกัน

ปัจจัยที่สำคัญมากในการ "ถ่ายทอด" ความสุขขึ้นอยู่กับความใกล้ชิดทางกายภาพ นั่นคือ ระยะทางยิ่งใกล้ยิ่งมีผลมาก

...

 

[ Wikipedia ]

...

เมื่อเพื่อนที่มีความสุขในระยะ 1 ไมล์ หรือ 1.6 กิโลเมตรมีความสุข คนเราจะมีโอกาสมีความสุขเพิ่มขึ้น 46%

อาจารย์คริสทาคิสกล่าวว่า ผลการศึกษานี้สนับสนุนว่า ความสุขนั้น "แผ่" ออกไปจากคนๆ หนึ่งไปยังคนรอบข้างได้ โดยไม่ได้ผ่านการสื่อสารทั่วๆ ไป

...

เรื่องนี้ฟังดูเหมือนกับเป็นเรื่อง "ใหม่" ในสายตาฝรั่ง (ชาวตะวันตก) ทว่า... เรื่องเมตตา การแผ่เมตตา การได้รับผลกระทบจากการเจริญเมตตา และอานิสงส์ของเมตตานั้นเป็นที่ทราบกันดีในคำสอนทางพระพุทธศาสนามานานแล้ว

ทว่า... เมื่อมีผลการศึกษาวิจัยยืนยันขึ้นมาก็มีส่วนสนับสนุนให้พวกเราควรหาทางอบรม เจริญเมตตากันให้มาก กระทำความปรารถนาดีซึ่งกันและกันให้มาก ซึ่งคนแรกที่จะได้รับผลจากเมตตาก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหนนอกจาก "ตัวเรา" และ "คนรอบข้าง"

...

 

[ Wikipedia ]

ภาพเมืองแมนฮัททัน สหรัฐอเมริกาจากวิกิพีเดีย
...

ถ้าคนในชุมชนใดอบรมเจริญเมตตามาก... สังคมนั้นจะร่มเย็นเป็นสุข ตรงกันข้ามถ้าคนในชุมชนใดอบรมเจริญพยาบาท วิหิงสา (ความคิดที่จะเบียดเบียน ทำร้าย) คนอื่นมากๆ ยุยงส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกร้าวรานมาก สังคมก็จะเป็นสังคมแห่งความทุกข์และบีบคั้น

หันมาทำให้เมืองไทยเราเป็นสังคมที่มากไปด้วยเมตตา มากด้วยความปรารถนาดีให้ได้ แบบนี้น่าจะดีกับบ้านกับเมืองมากทีเดียว

...

วิธีฝึกเมตตาง่ายๆ เริ่มได้ด้วยการหัดมองความดีของตัวเราและคนรอบข้างให้ได้ โดยเริ่มจากการระลึกถึงการทำดีของตัวเองในใจให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

เรื่องความดีของตัวเรานั้น... ดีที่สุดคือ ระลึกในใจ ไม่จำเป็นต้องท่องหรือสาธยายการทำดีของเราออกมาดังๆ เพื่อป้องกันคนรอบข้างไม่ให้หมั่นไส้ หรือตั้งตัวเป็นศัตรู

...

 

[ Wikipedia ]

ส่วนความดีของคนรอบข้างนั้น... ถ้าจะให้ดีจริงๆ ควรกล่าวเป็นคำพูดหรือเขียนออกมา เพื่อขัดเกลาความตระหนี่คำชม (วัณณมัจฉริยะ / วัณณะ = ผิวพรรณ ในที่นี้หมายถึงคำชม; มัจฉริยะ = ตระหนี่ ขี้เหนียว) และแสดงความจริงใจออกมาอย่างหนักแน่น

ตัวอย่างการชมคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนใกล้ตัวที่พวกเราควรทำให้ได้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และค่อยๆ เพิ่มเป็นอย่างน้อยวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร เช่น อาหารจานนี้อร่อยให้ชมคนทำ บ้านสะอาดให้ชมคนทำงานบ้าน ฯลฯ

...

เมื่อฝึกมองโลกในแง่ดีแล้ว... ควรอบรมเจริญเมตตา หรือความปรารถนาดีต่อตัวเรา แล้วค่อยๆ แผ่ไปยังคนรอบข้าง คนที่เราเคารพ คนที่เรารัก คนกลางๆ จนถึงคนที่เราชิงชัง (ศัตรู) ให้ได้

คนที่จะได้รับผลหรืออานิสงส์ (อานิสงส์ = กำไร) ของเมตตาคนแรกก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน หากเป็นตัวเรา ทำให้สุขภาพของตัวเราและคนรอบข้างดีขึ้นได้มาก สังคมที่มากไปด้วยเมตตาและการให้อภัยจะเป็นสังคมที่สงบร่มเย็น และทำให้คนในสังคมมีสุขภาพดีอย่างกว้างขวางต่อไป

...

 

[ Wikipedia ]

...

ใครว่าความเลวแผ่ไป กระจายไปได้อย่างเดียวเห็นจะไม่จริง เพราะการทำความดีก็กระจายได้ แผ่ออกไปได้เช่นกัน

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ


http://www.semsikkha.org/sem/2010-02-20-06-31-28/430-2010-09-28-02-01-10.html
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...