ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดใจสนทนาเรื่อง สุขแบบพอดีกับ ศุ บุญเลี้ยง  (อ่าน 1896 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด






ศุ บุญเลี้ยง
สุขแบบพอดี


          ... แม้ระยะหลัง ๆ จะไม่ได้เห็นเขาตามสื่อต่าง ๆ บ่อยนัก แต่ศุ บุญเลี้ยง ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบจากการร้องเพลงหน้าจอทีวี พูดคุยในรายการวิทยุ ไปร้องเพลงสร้างสุขสัญจรตามต่างจังหวัด เป็นวิทยากร วิทยากวน บรรยายให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ฟัง สอนกระบวนการคิด กระบวนการเขียน

          ว่ากันว่า ศุ บุญเลี้ยง เป็นวิทยากรที่พูดสนุกและสร้างแรงบันดาลใจให้คนฟังได้มากมาย

          สบ โอกาสเจอกันก่อนหน้าที่เขาจะมีคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ ‘เสมอคำยืนยัน’ เราได้นั่งคุยกับเขาหลายชั่วโมง ในหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องคิดนอกกรอบ เรื่องการเป็นโค้ช เรื่องทหารแตงโม จนถึงเรื่องความตาย ฯลฯ ที่ล้วนแล้วแต่ฟังเพลินในแบบพอดี ๆ

งานหลัก ๆ ที่ทำอยู่ช่วงนี้คืออะไรคะ

         มีไปพูด ไปบรรยาย ไปสอน กับไปร้องเพลง บางที่ก็ทั้งร้องทั้งพูด งานแต่งงานไม่ค่อยได้ไป แต่งานแต่งเพลงมีเรื่อย ๆ ไปน่านแต่งเพลงน่านน่ะสิ ไปภูเก็ต กระบี่แต่งเพลง หอยชักตีน สงขลา สมุย เกาะลันตา เกาะห้อง ไปแต่งไปร้องให้เขาเรื่อย ๆ ที่จริงอยากมีส่วนร่วมในงานมากกว่า เขาชวนไปบรรยาย แต่เราเสนอว่าอยากช่วย ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ไม่อยากมาแก้ปัญหาตอนท้าย เพราะเรารู้ว่างานมันเป็นกระบวนการ แต่คนจัดงานส่วนมากจะแยกส่วน เหมือนโต๊ะจีน ควรเสิร์ฟอะไรก่อนหลัง ยิ่งเรื่องถ่ายทอดความรู้ไม่ได้ถ่ายทอดผ่านการพูดแค่นั้น แต่ผ่านกระบวนการเรียนรู้ ฟังแล้วอาจต้องฝึก หรือเริ่มตั้งแต่ตอนคัดคนมาเลย เราชอบเรื่องกระบวนการ ไม่ใช่เป็นเรื่องการมาฟังบรรยาย ชอบเรื่องการนำเสนอ...

มีอะไรบ้างที่แม้จะราคาแพง แต่จ่ายไปแล้วไม่เสียดายเงิน

         หนังสือกับเพลง แทบไม่เสียดายเวลาใช้จ่าย พูดถึงกำไรที่คืนกลับมาหา สำหรับเรามหาศาลแล้ว กับการที่เคยฟัง เคยอ่าน เคยเขียน แล้วนำมาใช้กับชีวิต แค่คำสองสามประโยค ไม่กี่บรรทัด มันพลิกชีวิตเรามาขนาดนี้ ใครซื้อไม่ได้ เราซื้อได้ ถ้าเล่มไหนที่รู้สึกว่าอยากอ่าน จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องราคา ใช้หนังสือเป็นเครื่องมืออ่านโลก อ่านความคิดตัวเอง บางทีก็ไปอ่านหนังสือเก่า ๆ ที่เคยชอบ ไปซื้อนิยายเรื่องแก้วขนเหล็กมาอ่าน เมื่อก่อนอ่านแล้วกลัวมาก

ในการวัดว่าตัวเอง ‘แก่’ หรือ ‘ไม่แก่’ สำหรับคุณใช้อะไรเป็นตัววัด

         ใช้ความเชื่อ เหมือนเชื่อว่าเราหัวดี เราก็ทำอย่างที่คนหัวดีควรจะทำ เมื่อเชื่อว่าไม่แก่ เราก็จะทำอย่างที่คนไม่แก่ทำ ลึกลงไปคือรู้สึกว่าตัวเองอายุมากขึ้น แรงน้อยลง เหนื่อยง่าย แต่ไม่เคยบอกตัวเองว่าแก่ เพิ่งสมัครเป็นครูอาสาให้โรงเรียนภัทราวดี ที่หัวหิน ถ้ามองในมุมคนอื่นไอ้เนี่ยมันคงแก่แล้ว อยากเป็นครูไปอยู่หัวหินสบาย แต่ไม่ใช่ มันท้าทายดี เขาเปิดโรงเรียนขึ้นมา และเป็นโรงเรียนที่มีเวทีให้แสดงออก ...นี่ไม่ใช่ความรู้สึกว่าแก่แล้วอยากเกษียณตัวเองไป สอนหนังสือวันละ 2-3 ชั่วโมง แต่รู้สึกว่าใครได้เรียนกับฉันต้องมันส์แน่นอน แกต้องรักภาษาไทยก่อน ต้องอยากใช้ภาษา ต้องสนุก ต้องไม่ง่วงตอนบ่าย พอแกชอบภาษา รักภาษา แกจะไปหาหนังสืออ่าน แล้วแกจะไปเขียนหนังสือเขียนบทละคร เขียนบทหนัง กระทั่งเขียนบทบาทชีวิตให้ตัวเองเดิน ยังไม่รู้สึกอยากกลับไปตายที่บ้าน

ถ้าได้รับเชิญให้ไปกล่าวสุนทรพจน์แก่บัณฑิตจบใหม่ เหมือนอย่างมหาวิทยาลัยในเมืองนอก คุณอยากบรรยายเรื่องอะไรคะ

         คงขึ้นอยู่กับเวลา และขึ้นอยู่กับว่าเขาเรียนจบอะไร แต่เรื่องที่คิดว่าเป็นประโยชน์มากชื่อทฤษฎีสัมพันธภาพ คือสิ่งมีค่าบนโลกนี้ ส่วนมากแล้วต้องใช้สัมพันธภาพแลกมา ไม่ใช่เอาเงินไปแลก สัมพันธภาพอันนี้บังเอิญไปคล้ายกับคำว่าสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ คนส่วนมากจะเรียกทฤษฎีสัมพัทธภาพผิดเป็นสัมพันธภาพอยู่แล้ว คือเรารู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญกับคน ถ้าเขารู้จะเป็นประโยชน์ เหมือนที่เรารู้ และค้นพบว่าหลายอย่างที่ได้มา ไม่ใช่เพราะเราเก่ง แต่เราไปสัมพันธ์กับเขาดี เขาเลยสอนเรา เขาเลยให้โอกาสเรา ค่อยมาเก่งทีหลัง ในขณะที่คนเก่งแล้วสัมพันธ์ไม่ดีเขาไม่เอา มันเสียโอกาส

ความรู้สึกที่มีต่อตัวเองในวันและวัยนี้เป็นยังไง

         รู้สึกว่าอยู่ในภาวะที่กำลังดี คือมีความพร้อม เบื้องต้นเคยคิดว่าตัวเองไม่อยากจน ไม่ได้เป็นคนอยากรวย แต่กลัวว่าจนแล้วจะทำอะไรไม่ได้ อยากถ่ายรูปขึ้นมาแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อกล้อง อยากเล่นดนตรีแล้วจะซื้อกีตาร์ได้ยังไง อยากอัดเสียงแล้วจะยืมสตังค์ใครมาอัดเพลง ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาเรื่องเงิน งานก็มีเรื่อย ๆ คือไม่ได้มากหรือน้อยเกินไป เรื่องที่ต้องระวังดูแลคือเรื่องสุขภาพเท่านั้น อย่าป่วย เสียเวลา เสียงาน เสียแรง เพราะงานเราส่วนหนึ่งก็เป็นงานที่ต้องเอาตัวเองไปปรากฏ บริษัทกะทิกะลา ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างที่ชัด มีคนช่วยทำงานในหลาย ๆ ด้าน รับทำรายการทีวีให้ชุมชนเข้มแข็งได้ชื่อรายการ สุข-ศึกษา คนทำก็ควรมีความสุขด้วย...


ขอขอบคุณ : http://www.kwanruen.com



มันไม่ใช่ - เสมอคำยืนยัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 05:01:53 pm โดย มดเอ๊กซ »
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...