เจนนิเฟอร์ โลเปซ หรือที่มักเรียกกันสั้นๆว่า
J. Lo (เจโล) เป็นศิลปินสาวชาวอเมริกันเชื้อสายเปอร์โตริโก ผู้มากความสามารถทั้งในด้านการแสดง ร้องเพลง เต้นรำ ออกแบบแฟชั่น ผลิตรายการโทรทัศน์ จนถูกบันทึกชื่อลงในนิตยสาร People (ฉบับภาษาเสปน) ฉบับกุมภาพันธ์ 2007 ให้เป็นบุคคลเชื้อสายฮิสแปนิคที่ทรงอิทธิพลอันดับ 1 จาก 100 คนทั่วโลก
ดาราสาวเป็นหนึ่งในนักแสดงฮอลลีวูดที่มีค่าตัวสูงสุด และเป็นนักแสดงเชื้อสายละตินที่มีค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์โลกมายาฮอลลีวูด แม้ว่าภาพยนตร์ที่เธอแสดงจะไม่เคยทำรายได้รวมในอเมริกาเกิน 100 ล้านดอลลาร์ก็ตาม นอกจากนี้ เธอยังติด 1 ใน 10 รายชื่อนักแสดงของ The Hollywood Reporter ที่มีรายได้สูงสุด ในปี 2002, 2003 และ 2004
เว็ปไซต์ msnbc.comได้กล่าวถึงการที่ เจนนิเฟอร์ โลเปซ หันมานับถือพุทธศาสนาว่า ในปี 2004
เจโลเริ่มหันมาสนใจศึกษาพุทธศาสนา เมื่อครั้งมีโอกาสแสดงภาพยนตร์เรื่อง “Shall We Dance” ร่วมกับ “ริชาร์ด เกียร์” พระเอกฮอลลีวูดชื่อดัง ซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
เจโลซึ่งเติบโตมาอย่างชาวแคทอลิกที่เคร่งครัด ยอมรับว่า เธอรู้สึกประทับใจกับแนวความคิดด้านจิตวิญญาณ ของพระเอกหนุ่ม
ความเป็นดารานักร้องชื่อก้องโลก ทำให้เจโลเกิดความรู้สึกกดดันในเรื่องหน้าที่การงาน เธอบอกว่า “ฉันเคยพูดกับริชาร์ดว่า ฉันรู้สึกเป็นกังวลเสมอว่า จะต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า บางทีมันอาจถึงเวลาแล้ว ที่คุณต้องหันมาทำให้ดีที่สุดในอีกเรื่องหนึ่ง
นั่นเป็นคำพูดที่ฉันจดจำได้ และครุ่นคิดถึงมันอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่นั้นเป็นตันมา แต่ริชาร์ดไม่ได้พูดว่า คุณต้องเปลี่ยนศาสนานะ แต่เขาได้ให้คำแนะนำที่ดีหลายอย่างแก่ ฉันในครั้งนั้น”
และด้วยแรงบันดาลใจที่ได้รับจากพระเอกชื่อดัง ทำให้เธอวางแผนศึกษาพุทธศาสนา เช่นเดียวกับที่ “ริชาร์ด เกียร์” “ทีน่า เทอร์เนอร์” รวมทั้งคนอื่นๆ ได้ศึกษาและน้อมนำมาปฏิบัติในชีวิต
เจโลชอบอ่านหนังสือปรัชญาด้านจิตวิญญาณ เช่น
“The Power of Now : A Guide to Spiritual Enlightenment” (พลังแห่งปัจจุบันขณะ : หนทางสู่ความ รู้ตื่นและเบิกบานแห่งจิตวิญญาณ) เขียนโดย Ekhart Tolle หนังสือขายดีที่ได้แรงบันดาลใจจากพุทธศาสนา ที่มีเนื้อหา ให้ผู้อ่านตระหนักรู้ว่า ตัวเราเองเป็นผู้ก่อให้เกิดความทุกข์ และสอนให้รู้วิธีปลดปล่อยตัวเองจากความขัดแย้ง ความต้องการที่ไร้เหตุผลของใจเรา เพื่อให้พ้นจากทุกข์นั้นๆ
ดารานักร้องสาว ยังกล่าวด้วยว่า
“ฉันได้ศึกษาค้นคว้า หลักปรัชญาของหลายๆ ศาสนาด้วยตัวเอง และเลือกนำสิ่งที่ดีมาใช้ในชีวิต ฉันสวดมนต์ภาวนาอยู่บ่อยครั้ง และในระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Shall We Dance” ฉันชอบพูดคุยสนทนาเรื่องจิตวิญญาณกับริชาร์ดหลายต่อหลายครั้ง และรู้สึกทึ่งในแนวคิดของเขา มันทำให้ฉันรู้ว่า มีพลังงานบนโลกใบนี้ ซึ่งถ้าคุณปลดปล่อยพลังความดีและความรักออกไป พลังด้านดีก็จะย้อนกลับเข้า หาตัวคุณ (หรือพูดง่ายๆก็คือ “ทำดีได้ดี”) ฉันคิดว่า นั่นเป็นหลักพื้นฐานง่ายๆที่ฉันได้นำไปปฏิบัติ และเกิดผลดีกับตัวเอง” ในเรื่องของการบุญทำกุศลนั้น เจโลได้เป็นผู้สนับสนุน โรงพยาบาลเด็ก ลอส แองเจลิส (Children’s Hospital Los Angeles) ในสหรัฐอเมริกา อย่างต่อเนื่อง จนได้รับรางวัลมนุษยธรรมด้านเด็ก ในปี 2004 ต่อมาในปี 2009 เธอก็ได้ก่อตั้งมูลนิธิมาริเบล (Maribel Foundation) เพื่อหาทุนมาร่วมสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลเด็ก ลอสแองเจลิส รวมทั้งพัฒนาการดูแลรักษาสุขภาพระดับนานาชาติให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ศิลปินสาวยังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอกรนในผู้ใหญ่ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังทารก และสนับสนุนการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้อย่างแพร่หลาย
• ประวัติย่อ
เจนนิเฟอร์ โลเปซ เจนนิเฟอร์ โลเปซ มีชื่อเต็มว่า เจนนิเฟอร์ ลินน์ โลเปซ (Jennifer Lynn Lopez) หรือ เจโล (J.Lo) เกิดในครอบครัวชาวเปอร์โตริโก เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 1969 ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
เจโลรักการแสดง ร้องเพลงและเต้นรำมาตั้งแต่เด็ก เมื่ออายุ 16 ปี เธอได้เข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ My Little Girl และก้าวเข้าเป็นนักแสดงจอแก้วครั้งแรก ในซีรียส์เรื่อง South Central และมีผลงานทางจอแก้วและจอเงินรวมกว่า 30 เรื่อง
ในปี 1997 เจโล สวมบทเป็น “เซลีน่า” นักร้องสาวสไตล์ละตินที่โด่งดังในยุคปี 90 ในภาพยนตร์ชีวประวัติของเธอ เรื่อง “Selena” ด้วยค่าตัว 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เจโลจึงกลายเป็นนักแสดงเชื้อสายละติน ที่มีค่าตัวแพงสุดในโลกมายาฮอลลีวูด และในภาพยนตร์เรื่องเดียวกันนี้ก็ส่งให้เธอได้รับรางวัลอัลม่า ในฐานะนักแสดงหญิงดีเด่น
ด้านผลงานเพลง 7 อัลบั้มนั้น เจโลมีเพลงฮิตติดอันดับบิลบอร์ดชาร์ตหลายเพลง อาทิ If You Had My Love, Jenny From The Block และ I’m Real เป็นต้น ซึ่งผลงานอัลบั้มที่ผ่านมาของเธอ ทำยอดขายได้กว่า 35 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก
เจโลถูกเสนอชื่อเข้าชิงและได้รับรางวัลในหลายเวที อาทิ American Music Awards, Grammy Awards, MTV Video Music Awards, MTV Europe Music Awards และ Latin Grammy Awards ระหว่างปี 1995-2010
นอกเหนือจากงานในวงการบันเทิง ในปี 2007 เธอได้ทำธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นและน้ำหอมด้วย
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 124 มีนาคม 2554 โดย บุญสิตา)
http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9540000028255