ยิ่งกว่ามหัศจรรย์วันนี้ (5 มี.ค.) สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นาถจะเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพพระ ธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
หลวงตาท่านละสังขารเมื่อวันที่ 30 มกราคม หลังครองเพศสมณะถึง 77 พรรษา รวมสิริอายุ 97 ปี
คาดว่าจะมีคณะสงฆ์และพี่น้องประชาชน ที่เคารพศรัทธาจากทั่วสารทิศเดินทางไปกราบสรีรสังขารเป็นวาระสุดท้าย และร่วมถวายเพลิง ศพหลายแสนคน
เป็นงานพระราชทานเพลิงศพพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีญาติโยมไปร่วมงานมากเป็นประวัติการณ์
"แม่ลูกจันทร์" คงไม่ต้องสาธยายให้ ยืดยาว เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหลวงตา มหาบัวท่านเป็นเสาหลักของพระสายวัดป่า ซึ่งมุ่งเน้นเคร่งครัดแนวทางปฏิบัติธรรมวิปัสสนา สืบทอดจากหลวงปู่ชา แห่งวัดหนองป่าพง
หลวงตาท่านเทศน์สั่งสอนญาติโยมว่าเกิดเป็นคนอย่าหายใจทิ้งเปล่าๆ ต้องมีสติ ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท และยึดมั่นการ บำเพ็ญความดี
แนวทางการสั่งสอนของหลวงตาใช้ภาษาง่ายๆ อธิบายหลักธรรมง่ายๆ ทำให้ฟังเข้าใจง่าย และเกิดผลทางปฏิบัติได้อย่างแท้จริง
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่านอกจาก "หลวงตามหาบัว" จะเป็นปูชนียสงฆ์ที่ชาวพุทธเชื่อถือศรัทธาเลื่อมใสทั่วประเทศไทย
ในแง่ของความเป็น "บุคคล" หลวงตา มหาบัว คือผู้สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ที่ต้องจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ประเทศไทย และประวัติศาสตร์โลกอีกยาวนาน
เพราะหลวงตามหาบัวได้ใช้พลังศรัทธาบารมีของท่าน รวมกับพลังศรัทธาของญาติ โยมจัดทอดผ้าป่าช่วยชาติเพื่อระดมเงินและทองคำสมทบเข้าคลังหลวง เพื่อเป็นทุนสำรองของประเทศไทย
คิดเป็นยอดเงินบริจาคทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านเหรียญดอลลาร์
และเป็นทองคำหนักกว่า 12,000 กิโล หรือหนักกว่า 12 ตัน
วันนี้ ทองคำน้ำหนักกว่า 12 ตัน ซึ่งเป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ได้หลอมเป็นทองคำแท่งก้อนละ 12.5 กก. รวมจำนวน 960 ก้อน เก็บรักษาไว้ในห้องมั่นคงของธนาคารแห่งประเทศไทย
เป็นทองคำสำรองที่ใช้ค้ำประกันค่าเงินบาทของไทยให้แข็งแกร่งตามความประสงค์ของหลวงตา
ยิ่งราคาทองคำตลาดโลกสูงขึ้นมากเท่าไหร่ มูลค่าทองคำแท่ง 12 ตัน ที่หลวงตาบริจาคให้เป็นสมบัติของชาติก็ยิ่งทวีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
ส่วนเงินดอลลาร์กว่าสิบล้านเหรียญที่หลวงตามหาบัวรับบริจาคด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ธนาคารชาติได้แยกเป็นกองทุนหลวงตามหาบัว เพื่อเป็นทุนสำรองรักษาเสถียรภาพเงินคงคลัง
"แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ อย่างยิ่งที่พระสงฆ์องค์เดียวสามารถระดมเงินดอลลาร์ถึง 10 ล้านเหรียญ และทองคำแท่งหนักถึง 12 ตัน
สมควรอย่างยิ่งที่กินเนสส์บุ๊กจะบันทึกเป็นสถิติโลกไปอีกยาวนาน
ข้อสำคัญ นี่คือสิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าพระสงฆ์ ชาวพุทธผู้ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติดี ไม่ได้ติดยึดกับทรัพย์สินมากมายก่ายกอง
ก่อนที่ "หลวงตามหาบัว" จะละสังขาร ท่านได้ระบุไว้ในพินัยกรรมว่า เงินและทองคำที่ญาติโยมมีศรัทธาร่วมบริจาคในงานศพให้ นำเข้าคลังหลวงทุกบาททุกสตางค์
ล่าสุด มียอดเงินที่มีประชาชนร่วมบริจาคทะลุ 250 ล้านบาท และทองคำหนัก 55 กก.
คาดว่าหลังจากงานพระราชทานเพลิงศพยอดเงินทำบุญจะถึง 300 ล้านบาท และปริมาณทองคำน่าจะเกิน 60 กก.
เหนือสิ่งอื่นใด ญาติโยมอุ่นใจที่กองทุนผ้าป่าช่วยชาติของหลวงตาได้มอบให้แบงก์ ชาติรักษาดูแล
เพราะถ้ามอบให้กระทรวงการคลัง ก็กลัวจะหวานคอแร้งนักการเมือง.
"แม่ลูกจันทร์"